ผ่านมาจนกระทั่งถึงวันที่ทั้งสามคนต้องล่ำลากันจริงๆ แล้วน้ำตาที่พยายามกลั้นเอาไว้ก็ไม่มาสามารถห้ามมันได้อีกต่อไป
“ไม่มีพ่อกับแม่อยู่ ลูกต้องดูแลตัวเองดีๆ นะ อยู่ที่นั่นลูกต้องทำตัวดีๆ อย่าทำตัวมีปัญหากับพี่เขานะ” เพราะเลโอนาร์ดคือที่พึ่งเดียวที่จะสามารถฝากลูกสาวไว้ได้อย่างปลอดภัย คุณสุทินีจึงไม่อยากให้ต้องบาดหมางใจกันไปซะก่อน
“พ่อกับแม่ก็เหมือนกัน อยู่ทางนี้ต้องดูแลกันและกันให้ดีๆ นะคะ อย่าหักโหมมากจนเกินไป รักษาสุขภาพอย่าปล่อยให้ตัวเองต้องป่วย รับปากหยีนะคะ” เป็นเพราะช่วงหลังเธอเห็นพ่อกับแม่รับออร์เดอร์ขนมเพิ่มขึ้น จากที่รับทำเยอะอยู่แล้ว กลายเป็นว่าตอนนี้รับเพิ่มอีกเป็นเท่าตัว อาจเป็นเพราะรายได้ในส่วนของพ่อที่หายไป จึงต้องหารายได้จากทางอื่นเพิ่มขึ้นมา
“เอาล่ะได้เวลาแล้วล่ะสาวน้อย ไปเถอะไม่ต้องห่วงอะไรทั้งนั้น ตั้งใจเรียนและทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดก็พอ พ่อรักลูกนะ” คุณสุชาติเข้าไปกอดลูกสาวไว้พร้อมกับน้ำตาซึม เพราะไม่แน่ว่าหลังจากนี้ท่านอาจจะได้ทำแบบนี้อีกรึเปล่า
“หยีก็รักพ่อกับแม่ค่ะ” สุดที่รักเข้าไปกอดทั้งสองเอาไว้แน่น
“แม่ก็รักหยีนะลูก จำไว้นะ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น สิ่งที่ลูกต้องมีก็คือสติ แล้วลูกจะเข้มแข็งได้ด้วยตัวของลูกเอง แม่เชื่อว่าลูกของแม่ต้องทำได้” คุณสุทินีบอกทั้งน้ำตา การต้องจากลากันแบบนี้ ซึ่งไม่แน่ว่ามันอาจจะเป็นการจากลากันตลอดไปหรือไม่ มันทำให้คนเป็นพ่อเป็นแม่รู้สึกราวกับจะขาดใจซะให้ได้ ซึ่งตอนนี้ทั้งสองกำลังรู้สึกอย่างนั้น
“หยีไปก่อนนะคะ ไว้ถึงที่โน่นแล้วหยีจะโทรหานะคะ” เธอบอกพร้อมกับเดินออกไป แต่ก็ยังไม่วายหันกลับมามองบุพการีทั้งคู่อย่างอาลัยอาวรณ์ ซึ่งทั้งสองก็คงรู้สึกไม่ต่างกัน ตอนนี้จึงได้แต่กอดกันร้องไห้ เพื่อเป็นเป็นการปลอบซึ่งกันและกันขณะยืนส่งลูกสาวจนลับสายตา
ท่าอากาศยานนานาชาติมาดริดบาราคัส
“ฮันนี่ คิดถึงจังเลย ไม่เจอกันหลายเดือน ลูกสาวหม่ามี้สวยขึ้นมากเลยนะเนี่ย” มาดามเดียน่าที่อุตส่าห์เคลียร์งานเพื่อมารับว่าที่ลูกสะใภ้ด้วยตัวเองเข้าไปสวมกอดอีกฝ่ายเอาไว้อย่างดีใจ
“ขอบคุณนะคะหม่ามี้ที่อุตส่าห์มารับหยีด้วยตัวเอง” เธอตอบเสียงเนือยๆ เนื่องจากใช้เวลาเดินทางมาหลายชั่วโมง อีกทั้งช่วงเวลาของที่นี่กับที่ที่เธอมามันก็ต่างกันด้วย
“ขอบคงขอบคุณอะไรกัน หม่ามี้อยากมาเองต่างหาก โถๆๆ ดูหน้าอิดโรยคงเหนื่อยมากใช่ไหมลูก ไปๆ รีบกลับไปพักผ่อนที่บ้านเราดีกว่านะจ๊ะ” ทันทีที่ได้รับความอาทรจากอีกฝ่าย ก็ทำเอาสุดที่รักถึงกับปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อาย
“ฮือๆๆ” เป็นเพราะเธอกำลังคิดถึงแม่ของตัวเองที่ห่วงหาอาทรเธอเหมือนอย่างที่มาดามเดียน่ากำลังทำอยู่ตอนนี้ จึงอดที่จะร้องไห้ออกมาไม่ได้ ด้วยตั้งแต่เล็กจนโตเธอกับแม่แทบจะไม่เคยห่างกายกันเลย ซึ่งดูเหมือนมาดามเดียน่าจะเข้าใจความรู้สึกนี้ของเธอดีเช่นกัน
“โอ๋ๆๆ ไม่เอาไม่ร้องนะ อยู่ที่นี่ให้หม่ามี้เป็นแม่ของหนู หม่ามี้จะคอยดูแลหนูให้เหมือนกับที่แม่หนูดูแลเลยลูก” มาดามเดียน่ากอดปลอบเธอไว้อีกครั้งอย่างเข้าใจ
“ขอบคุณมากค่ะหม่ามี้ ต่อไปหยีจะเข้มแข็งให้มากกว่านี้ หม่ามี้ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ” ด้วยคิดถึงคำที่มารดาสั่งเอาไว้ก่อนมา ทำให้สุดที่รักพยายามอย่างเต็มที่ที่จะไม่ร้องออกมา
“กลับบ้านเรากันนะ หม่ามี้ว่าป่านนี้อาจมีใครบางคนกำลังชะเง้อคอยเราจนคอยาวแล้วก็ได้นะ” คนที่มาดามเดียน่าพูดถึงคงเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากคู่หมั้นท่าเยอะของเธอนั่นเอง
“บางทีเขาอาจจะไม่ได้รอหยีอย่างที่หม่ามี้ว่าก็ได้ค่ะ ไม่อย่างนั้นเขาคงมารับหยีด้วยตัวเองแล้วล่ะค่ะ” เธออดน้อยใจด้วยไม่ได้ ก็พ่อคนท่ามากน่ะ นอกจากจะไม่เคยติดต่อเธอมาเลยหลังจากที่หมั้นกันแล้ว วันนี้ยังไม่ยอมมารับเธออีก อย่างนี้จะให้เธอคิดเป็นอะไรได้อีก นอกจากว่าไม่สนใจใยดีเธอเลยแม้แต่น้อย
“ไม่หรอกจ๊ะ พ่อคนนั้นเขาท่ามากไปอย่างนั้นเองแหละ จริงๆ แล้วเขาอยากเจอหนูจะตายไป เรื่องนี้หม่ามี้รู้ดี” คนเป็นแม่ย่อมต้องรู้นิสัยของลูกดีอยู่แล้ว ก็เลี้ยงเองมากับมือนี่นา
“เชื่อยากค่ะหม่ามี้ คนเราถ้าคิดถึงกันบ้างสักนิดก็ต้องมีการติดต่อไปบ้างสิคะ นี่อะไรตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา เขาไม่เคยติดต่อหยีมาเลยสักครั้งนะคะ จะให้หยีเป็นฝ่ายติดต่อมาก็ใช่ที่ หยีเป็นผู้หญิงนะคะ” แล้วประโยคนี้ของเธอก็กลับมาอีกครั้ง
“งั้นต้องกลับไปพิสูจน์ให้เห็นกับตาตัวเองแล้วล่ะจ๊ะ” มาดามเดียน่ารู้สึกเอ็นดูเธอไม่น้อย เมื่อเห็นท่าทางงอนๆ ของเธอ
“ไม่เอาหรอกค่ะ หม่ามี้ช่วยหาที่อยู่ใกล้มหาวิทยาลัยให้หยีหน่อยได้ไหมคะ ตอนนี้หยียังไม่อยากเห็นหน้าใครบางคนค่ะ” เธอบอกด้วยใบหน้างอง้ำ ในเมื่อไม่อยากเจอ เธอก็จะไม่ไปเจอ
“ไม่เอา ทำแบบนั้นไม่ได้นะฮันนี่ หม่ามี้ไม่ยอมเด็ดขาด หม่ามี้รับปากกับพ่อแม่หนูแล้วว่าจะดูแลหนูให้ดี ถ้าฮันนี่ไปอยู่ข้างนอกแบบนั้น แล้วหม่ามี้จะดูแลหนูได้ยังไง ไม่ได้ยังไงๆ ก็ไม่ได้เด็ดขาด” มาดามเดียน่าส่ายหน้าไม่ยอมท่าเดียว
“แต่นี่มันคือแผนนะคะหม่ามี้” สุดที่รักแอบกระซิบเสียงเบาด้วยกลัวว่าคนขับรถจะได้ยินแผนการของตัวเอง
“แผนอะไร” มาดามเดียน่าถามด้วยความอยากรู้
“ก็แผนทดสอบหัวใจค่ะ” เธอเหยียดยิ้มอย่างหมายมั่น พร้อมกับกระซิบแผนการทั้งหมดให้อีกฝ่ายฟัง
“อืม! มันก็น่าสนใจดีนะ แต่หนูจะอยู่ข้างนอกคนเดียวได้จริงๆ เหรอฮันนี่” ถึงแม้จะเห็นด้วย แต่ก็อดห่วงเป็นห่วงผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ต้องมาอยู่ต่างที่ต่างถิ่นคนเดียวแบบนี้ไม่ได้ด้วย
“ได้สิคะหม่ามี้ หยีเอาตัวรอดได้สบายอยู่แล้ว อีกอย่างหยีจะได้เซอร์เวย์ที่ทางในหมาวิทยาลัยด้วยยังไงล่ะคะ เวลาเรียนจริงๆ จะได้ไม่มีปัญหาอะไร” สุดที่รักออดอ้อนเสียงอ่อนเสียงหวานเพื่อให้อีกฝ่ายเห็นด้วยกับความคิดของตัวเอง
“อืม! ตามนั้นก็ได้ เอาไงเอากัน หม่ามี้ตามใจหนูอยู่แล้วจ๊ะ” มาดามเดียน่าบอกอย่างจนใจ เพราะไม่อยากขัดใจอีกฝ่าย
“ขอบคุณมากค่ะ หม่ามี้น่ารักที่สุดเลยค่ะ” เธอกอดออดอ้อนอีกฝ่ายอีกครั้ง ทำเอาคนแก่ถึงกับหลงหัวปักหัวปำไปเลยงานนี้ นี่คงเป็นข้อดีของการมีลูกสาวกระมัง เพราะลูกชายท่านไม่เคยทำแบบนี้เลยสักที
“คริส ไปส่งคุณยาหยีที่คอนโด...คุณหยีเธอจะพักที่นั่น” มาดามเดียน่าหันไปสั่งคนขับรถประจำตัวให้ขับตรงไปยังคอนโดใกล้กับหมาวิทยาลัยที่เธอสมัครเอาไว้ ซึ่งดีอย่างว่าที่นี่เป็นคอนโดของท่านเอง