หลงรักพ่อเลี้ยง :: ตอนที่ 6
พ่อเลี้ยงถอดเสื้อเชิ้ตสีดำออกและถอดกางเกงยีนส์โดยฉันหันหน้าหนีไปอีกทาง ถึงจะรู้ว่าเขาสวมกางเกงบ็อกเซอร์ทับในก็เถอะนะ ถึงยังไงก็เขินอยู่ดีที่จะต้องมาเห็นช่วงล่างของเขา ดังนั้นพอได้ยินเสียงแหวกว่ายน้ำมาใกล้ๆ ฉันจึงหันไปสบตากับพ่อเลี้ยงที่ว่ายมาถึงตัวฉันพลางมองไปรอบๆ ราวกับธรรมชาติบำบัดของจริง
“ดีนะที่น้ำไม่ค่อยลึก”
“ถึงลึกบัวก็ว่ายน้ำเป็นค่ะ” เพราะตอนนี้น้ำตกมิดคอฉันแล้ว จึงว่ายไปยังโขดหินที่น้ำตกกำลังไหลแบบต่ำๆ ไม่สูงมาก แถมมีที่ให้นั่งฉันก็เลยเลือกที่จะนั่งเอนศีรษะพิงกับหินโดยมีพ่อเลี้ยงขยับมานั่งพิงด้วย “ขอบคุณนะคะที่พาบัวมาที่นี่”
“ทีนี้ก็เลิกคิดมากเรื่องนั้นได้แล้วสินะ”
“ค่ะ ขอบคุณนะคะที่ปกป้องบัว”
“มันเป็นหน้าที่ของฉันที่จะต้องปกป้องศักดิ์ศรีของเธอ” พ่อเลี้ยงพูดพลางหันมาสบตากับฉันที่ลอบมองใบหน้าหล่อเหลาอยู่แบบไม่ละสายตา ยิ่งมองเขาก็ยิ่ง... “สมมุติว่าเบญมารับเธอไปอยู่ด้วย เธอจะทำยังไง?”
“บัวไม่ไป”
“...” ปฏิเสธทันทีโดยไม่นึกคิดไตร่ตรองให้รอบคอบ
“บัวอยากอยู่กับพ่อเลี้ยง บัวไม่ไปนะคะ” ฉันรีบส่ายหน้าไปมาพลางจับมือหนามากอบกุมไว้
“ฉันก็ไม่ให้เธอไปเหมือนกัน”
“พ่อเลี้ยง”
“ฉันไม่เคยเห็นผู้ชายคนนั้น และฉันไม่รู้นิสัยใจคอของผู้ชายคนนั้น ถ้าเป็นคนดีก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าไม่ฉันไม่ปล่อยเธอไปแน่ เพราะฉันกลัว” ไม่ใช่แค่พ่อเลี้ยงที่กลัว ฉันเองก็กลัวจะเจอกับสามีใหม่ของแม่ที่ไม่ได้ดีแบบพ่อเลี้ยง “กลัวว่าเขาจะทำไม่ดีไม่ร้ายกับเธอ ในแบบที่เธอไม่ได้เต็มใจ”
“อย่าพูดว่าแม่จะมารับบัวได้ไหมคะ?” จับมือหนาขึ้นแนบแก้มตัวเอง “บัวอยากอยู่กับพ่อเลี้ยงไปนานๆ จนกว่าพ่อเลี้ยงจะมีรักใหม่”
“เอาอีกแล้วนะ เลิกพูดเรื่องรักใหม่ของฉันได้แล้ว ตอนนี้ฉันยังไม่มีใคร” พ่อเลี้ยงลุกขึ้นนั่งพลางเอื้อมมือมาประคองแก้มฉันและเกี่ยวเส้นผมที่ปลิวไสวเหน็บข้างใบหู ปลายนิ้วโป้งลากไล้ตรงพวงแก้มใสและเลื่อนมาถึงหางคิ้ว สุดท้ายก็มาจบตรงมุมปากขณะที่สายตาคมเอาแต่มองกลีบปากของฉัน
“พ่อเลี้ยงคะ”
“หืม?”
“วะ วันนั้นที่ชาญเข้ามาทำร้ายบัว แล้วพ่อเลี้ยงจูบบัว มันหมายถึงยังไงเหรอคะ?”
“...”
“บัวแค่อยากรู้ว่าพ่อเลี้ยงจูบบัวทำไมเหรอคะ” เป็นคำตอบที่อยากฟังมานานมากๆ ว่าวันนั้นพ่อเลี้ยงจูบฉันทำไม มีเหตุผลอะไรหรือเปล่า คำถามของฉันทำให้พ่อเลี้ยงนิ่งไปทันทีก่อนจะเลื่อนสายตามามองฉัน
“ไม่รู้เหมือนกัน ตอนนั้นฉันแค่อยากทำให้เธอหายกลัว”
“ก็เลยจูบ”
“อืม”
“แบบนั้นถ้าบัวกลัวอะไร พ่อเลี้ยงก็จะจูบบัวอีกเหรอคะ?”
“คงไม่แล้ว” ฉันถึงกับเม้มริมฝีปากตัวเอง ในหัวก็คิดแต่ว่าทำไมถึงไม่จูบฉันอีกล่ะ ความรู้สึกของฉันคืออยากจูบกับเขาอีกนี่นา “มันไม่เหมาะสม”
“แบบไหนถึงเหมาะคะ?”
“เราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกัน”
“...”
“ไม่มีวันนั้นแน่” ฉันลอบกลืนน้ำลายลงคอรวมไปถึงความรู้สึกที่เกิดขึ้นในจิตใจก็ค่อยๆ จางหายไปเช่นกัน “เป็นแบบนี้มันดีที่สุดแล้ว ฉันไม่อยากให้มันเกินเลย”
ราวกับตอกย้ำให้ฉันตระหนักว่าต่อให้อายุเท่ากัน รู้จักกันมานาน พ่อเลี้ยงก็ไม่มีวันเปลี่ยนความรู้สึกที่มีต่อฉันได้ มีแค่ฉันคนเดียวหรือเปล่าที่กำลังเปลี่ยนไปในรูปแบบที่มันไม่ควรจะเป็น พ่อเลี้ยงกำลังบอกเป็นนัยๆ ว่าฉันคิดอะไรอยู่ให้หยุดไว้แค่นั้นสินะ ฉันจึงทำได้เพียงกัดผนังในปากจนเจ็บหนึบ ใช่สิบัว เด็กแบบเธอพ่อเลี้ยงไม่มีวันหันมาสนใจหรอก ผู้หญิงที่เหมาะสมกับเขามีอีกเยอะแยะเต็มไปหมด เธอเป็นเพียงแค่ลูกเมียเก่าที่ทิ้งเขาไว้ เขาอยากดูแลเธอก็เพราะสงสารที่เธอไม่มีที่พึ่งก็เท่านั้นเอง
เก็บมันเอาไว้นะบัว... เก็บความรู้สึกที่มีต่อเขาเอาไว้และทำหน้าที่ที่ตัวเองได้รับมอบหมายก็พอ เรื่อง ‘รัก’ อย่าได้เอามาเกี่ยวข้อง แม้ว่าจะมีแค่ฉันที่เปลี่ยนไปแต่ถ้าพ่อเลี้ยงไม่เปลี่ยนทุกอย่างก็จบ แอบรักเขาข้างเดียวมันเจ็บแบบนี้เองสินะ ฉันไม่รู้หรอกนะว่ามันเกิดขึ้นตั้งแต่ตอนไหน รู้แค่ว่ามันเปลี่ยนไปตั้งแต่เราสองคนอยู่ด้วยกันและทำอะไรด้วยกันมากมายก็เท่านั้น
ฉันคนนี้ ‘หลงรักพ่อเลี้ยง’ เข้าเต็มๆ เลย หลงรักเขาในแบบฉบับที่ต้องซ่อนความรู้สึกของตัวเองเอาไว้ แค่หวังว่าคำตอบที่พ่อเลี้ยงจูบฉันมันจะทำให้ฉันกล้าพอที่จะบอกเขา สุดท้ายก็ต้องเลือกกักเก็บมันเอาไว้ในก้นบึ้งของหัวใจ
“จริงด้วยค่ะ” สุดท้ายก็ฉีกยิ้มกว้างให้กับเขาและจับมือหนาออกจากพวงแก้มใสและบีบไว้เบาๆ “บัวเองก็อยากให้มันเป็นแบบนี้เหมือนกัน”
“ดีแล้วที่เธอเข้าใจ”
“บัวไปเล่นน้ำต่อนะคะ”
พูดจบฉันก็ลงไปแหวกว่ายน้ำตกโดยแสร้งทำเป็นว่าสนุกมากๆ ใช่ สนุกจนเจ็บเลยล่ะ ทั้งที่เขาอุตส่าห์พามาเที่ยวในที่ที่สวยขนาดนี้ ดันตอกย้ำเรื่องความสัมพันธ์ของเราที่ไม่มีแปรเปลี่ยนเป็นเชิงชู้สาวได้ แบบนี้ควรเว้นระยะห่างกับเขาให้ได้มากที่สุดเพื่อที่จะไม่มีใครมากล่าวหาว่าฉันจะเป็นนายหญิงของไร่สิงหาได้อีก แค่ทำงานที่พ่อเลี้ยงมอบหมายให้ก็เกินพอแล้ว
พอได้ฟังคำตอบจากปากพ่อเลี้ยงก็ทำให้ฉันคิดได้อีกอย่างคือที่ทุกคนมองเราสองคนแปรเปลี่ยนไป มันคงเป็นเพราะฉันทำอะไรออกหน้าออกตาไปหรือเปล่า? คำพูดของพนักงานที่บอกฉันคุยกับพ่อเลี้ยงระริกระรี้แบบไม่รู้ตัว ดูแลเขาดีจนเหมือนทำตัวเป็นนายหญิงของไร่ ทำอะไรเกินหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย เฮ้อ แบบนี้คงต้องจำกัดตัวเองให้มากกว่านี้นะบัว
“ป้าศรีทำกับข้าวอร่อยมากเลยค่ะ” เล่นน้ำจนตัวเปื่อยฉันก็เอาผ้าขนหนูคลุมเรือนร่างและนั่งกินข้าวกับพ่อเลี้ยงในช่วงบ่ายนิดๆ แช่น้ำเกือบสี่ชั่วโมงเนื้อไม่เปลือยหลุดไปกับน้ำตกก็ดีแค่ไหนแล้ว “บัวใกล้เปิดเทอมแล้ว บัวอาจจะช่วยงานพ่อเลี้ยงไม่ได้เยอะนะคะ”
“ไม่เป็นไร เธอตั้งใจเรียนก็พอ”
“ค่ะ” ถึงจะเสียใจและเจ็บลึกๆ ที่มองหน้าพ่อเลี้ยงเสมองธรรมาชาติ ฉันก็หุบยิ้มลงหรือ... บางทีฉันอาจจะต้องไปจริงๆ นะ เพื่อไม่ให้หัวใจของตัวเองเจ็บไปมากกว่านี้ แต่จะไปที่ไหน ไปยังไงแล้วเงินล่ะ? นี่คือสิ่งที่ต้องมีติดตัวถ้าจะไปจากเขา เพราถ้าไม่มีฉันก็ต้องอยู่ต่อไปจนกว่าจะมีที่ไปนั่นแหละ หรือไม่ก็รอให้พ่อเลี้ยงพบรักใหม่ฉันจะได้มีข้ออ้างไปได้ เพราะเคยบอกแล้วว่าจะอยู่กับพ่อเลี้ยงจนกว่าจนถึงวันที่เขามีรักใหม่ ถึงจะไม่ใช่ฉันก็ไม่เป็นไรหรอก แค่พ่อเลี้ยงมีความสุขไม่เจอผู้หญิงที่ทำเหมือนกับที่แม่ทำกับเขาก็พอใจแล้ว
“อยากเล่นน้ำต่อหรือเปล่า เดี๋ยวฉันยุ่งไม่มีเวลาพามา”
“ไม่เอาแล้วค่ะ บัวแช่ตัวจนเนื้อเปื่อยแล้ว ขอนอนเล่นชมธรรมชาติดีกว่า” เพราะหนังท้องตึงหนังตาก็เริ่มหย่อนลงเรื่อยๆ ฉันเก็บอาหารลงตะกร้าและเอาผ้าขนหนูม้วนนอนใต้ต้นไม้อย่างสบายใจโดยมีพ่อเลี้ยงนอนเคียงข้างด้วย นอนมองใบไม้ที่มีแสงแดดสาดส่องลงมาทำให้ดูสวยงาม ในหัวก็คิดเรื่องของเราวนซ้ำไปมาก็ดีนะที่เขาบอกชัดว่าไม่มีวันนั้นสำหรับเรา อย่างน้อยก็ให้ฉันทำใจได้ไม่ต้องคิดหวังลมๆ แร้งๆ ว่าพ่อเลี้ยงจะคิดเหมือนกัน
“คิดได้ยังว่าเรียนจบอยากทำงานที่ไร่ รีสอร์ทหรือไร่ดอกไม้เมืองหนาวของฉัน”
“ไม่รู้เลยค่ะ กว่าบัวจะเรียนจบอีกสองปี ตอนนั้นพ่อเลี้ยงอาจจะมีรักใหม่แล้วก็ได้นะคะ” หันไประบายยิ้มให้กับพ่อเลี้ยงพลางหันกลับมามองท้องฟ้าสดใสตามเดิม “บัวคงโตพอที่จะเดินไปเองได้แล้วมั้งคะ”
“คิดแบบนั้นเหรอ?”
“ค่ะ แต่ถ้าบัวประสบความสำเร็จส่วนหนึ่งก็มาจากพ่อเลี้ยงนะคะที่เลี้ยงดูบัวได้ดีขนาดนี้”
“แล้วถ้าฉันไม่มีล่ะ เธอจะอยู่กับฉันหรือเปล่า”
“บัวเชื่อว่าพ่อเลี้ยงต้องพบรักใหม่แน่นอนค่ะ พ่อเลี้ยงเป็นคนดีและมีสาวๆ มาให้เลือกเพียบ ยังไงก็ต้องหาคู่ชีวิตใหม่เจอแน่นอน แต่ก็อย่าให้เจอแบบแม่บัวก็แล้วกัน” เพราะถ้าเจอแบบแม่มีกี่คนพ่อเลี้ยงก็คงเสียใจอีกแน่ ฉันไม่อยากเห็นเขาเสียใจแล้ว พอทีสำหรับเขาน่ะผู้ชายดีๆ อย่างเขาควรได้เจอกับผู้หญิงที่จะดูแลเขาได้ดีกว่าเด็กอย่างฉันแน่นอน
Rrr
มือถือของพ่อเลี้ยงดังขึ้นเขาหยิบมาดูปลายสายก็กดรับทันที “ครับคุณดา ผมเหรอครับ ตอนนี้อยู่น้ำตกน่ะครับพาบัวมาเที่ยว...”
ฉันลอบมองใบหน้าหล่อเหลาด้านข้างที่กำลังคุยสายกับคุณดาเจ้าของร้านดอกไม้เมืองหนาวที่สวยและงดงามเหมือนดอกไม้ที่เธอทำ คนที่เหมาะสมกับพ่อเลี้ยงงั้นเหรอ? ที่ผ่านมามีผู้หญิงมายั่วเขาก็เยอะ แต่ละคนไม่มีใครเหมาะสมกับเขาเลยนอกจากคุณดาคนนี้ที่อ่อนหวาน แถมยังสวยมากๆ อีกต่างหาก บางทีถ้าเป็นคุณดา... พ่อเลี้ยงคงจะมีความสุขมากกว่านี้แน่
“ได้ครับ เจอกันที่บ้านผมตอนเย็นนะครับ สวัสดีครับ”
“คุณดาโทรมาเรื่องงานเหรอคะ?”
“ใช่ เดี๋ยวคุณดาจะเอาดอกไม้เมืองหนาวมาให้เลือกน่ะว่าจะลงอะไรดี” ฉันพยักหน้ารับก่อนจะมีคำถามในใจอีกครั้ง
“พ่อเลี้ยงให้คนงานขุดดินทำแปลงดอกไม้เหรอคะ ลุงโตบอกว่าพ่อเลี้ยงจะปลูกทิวลิปกับกุหลาบ”
“เธอชอบไม่ใช่เหรอ”
“บัวชอบเหรอคะ?” ฉันไปชอบดอกทิวลิปกับกุหลาบตอนไหนอะ “ชอบก็ได้ค่ะ”
“เผื่อเธอจะตัดเอาไปใส่แจกันในห้องนอนฉัน ไม่ต้องเสียเวลาไปซื้อในเมืองด้วย”
“กลับเลยไหมคะ?”
“เธอมาเย็น มีเวลาสองชั่วโมงนอนเล่นกันเถอะ”
พ่อเลี้ยงพูดจบก็ทิ้งตัวลงนอนส่วนฉันก็นอนมองท้องฟ้าโดยที่ดวงตาค่อยๆ หลับลงอย่างเชื่องช้า อาจจะเพราะความเพลียจากการเล่นน้ำและเจ็บแปลบที่หัวใจเรื่องระหว่างเราสองคนด้วย ได้แต่บอกตัวเองว่ารักเขาได้ แต่ครอบครองเขาไม่ได้ สิ่งเดียวที่พอจะทำได้คือเห็นเขามีความสุขก็เพียงพอแล้วสำหรับคนที่แอบรักเขาอย่างฉัน
[50%]
*---------------------------------------------------*