EP 6 : เริ่มเกมรัก

1913 คำ
เกมรัก : ตอนที่ 6 “มึงจะเอาไงต่อ เผ่นไหม?” มีอากระซิบกระซาบกับข้าวหอม “ฉันไม่ได้ผิดอะไรสักหน่อยจะกลัวทำไม อีกอย่างคนที่สมควรอายควรเป็นไอ้หมอนั่นมากกว่าไม่ใช่ฉันปะ" "หิวแล้วอะ ไปหาข้าวกินดีกว่า” ข้าวหอมพูดตัดบทพร้อมกับลุกขึ้นทันทีสร้างความงุนงงให้มีอาไม่น้อย แต่ทุกการกระทำของเธอตกอยู่ในสายตาของเขา “อะไรของมันวะ เมื่อกี้เหมือนกลัวอยู่เลย อยู่ดีๆไม่กลัวซะงั้น” มีอาพึมพำกับตัวเองและเดินตามข้าวหอมไปหาอะไรกิน "ป้าคะ เอาเกาเหลาต้มยำไม่ใส่ถั่วป่นค่ะ แล้วแกเอาอะไร" "เอาเหมือนแกก็ได้ง่ายดี" "เอาเหมือนกันอีกชามด้วยค่ะ ไม่ใส่ถั่วป่นนะคะ" "จ้า ป้าจำได้แม่นอยู่แล้ว สาวสวยขาประจำแพ้ถั่วลิสง" ป้าเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวตอบกลับมาอย่างเป็นมิตร เพราะข้าวหอมเป็นลูกค้าประจำของที่ร้านเขาจึงรู้ว่าเธอแพ้ถั่วลิสง ข้าวหอมมีโรคที่ติดตัวมาตั้งแต่เด็กคือการแพ้ถั่วลิสงขั้นรุนแรง ตอนเด็กเธอเคยถูกหามส่งโรงพยาบาลเพราะเผลอกินถั่วลิสงเข้าไป ถั่วลิสงแค่เม็ดเดียวทำให้เธอต้องนอนโรงพยาบาลไปหลายวัน ข้าวหอมเข็ดหลาบกับเหตุการณ์นั้น ทำให้เธอเลือกกินอย่างมากและจะกินอยู่แต่ร้านเดิมๆร้านที่เธอมั่นใจเท่านั้น "แต่ไม่ใส่ถั่วป่นแกเคยบอกว่าไม่อร่อยไม่ใช่เหรอ" ข้าวหอมทำคิ้วขมวดเข้าหากัน เพราะปกติเวลากินก๋วยเตี๋ยวมีอาจจะสั่งให้ใส่ถั่วเยอะๆ "ก็ฉันมีเพื่อนแพ้ถั่วก็อยากลองแพ้ถั่วเป็นเพื่อนแกบ้าง" คำตอบของมีอาทำให้ข้าวหอมยิ้มไม่หุบ มีอาเคยอยู่ในเหตุการณ์ที่ข้าวหอมกินถั่วเข้าไปโดยไม่ได้ตั้งใจ ในตอนนั้นเธอพาข้าวหอมไปกินร้านอาหาร เธอไม่รู้ว่าข้าวหอมแพ้ถั่วลิสง และตัวข้าวหอมเองก็ไม่รู้ว่าถั่วลิสงผสมอยู่ในอาหารเหมือนกัน พอข้าวหอมกินไปได้คำเดียวก็เกิดอาการหายใจไม่ออก แน่นหน้าอก ต้องรีบส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน มันเลยทำให้มีอาโทษตัวเองมาตลอดว่าทำเพื่อนเกือบตาย ต่อให้ข้าวหอมไม่โกรธเธอแต่เธอก็ยังโทษตัวเองอยู่ดี ทั้งเควินและข้าวหอมต่างกินข้าวกันปกติ ไม่ได้มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น แต่มันสร้างความอึดอัดให้เธอเหมือนกับว่ายังมีสายตาของใครบางคนคอยจ้องมองเธออยู่ตลอดเวลา ต่อให้เธอหันหลังให้เขาก็ตามแต่ความรู้สึกมันสัมผัสได้ ข้าวหอมทำท่าทีไม่สนใจและพูดคุยกับมีอาปกติ “ไปๆ จะบ่ายแล้วเดี๋ยวสายพอดี อาจารย์ยิ่งเข้าตรงเวลาอยู่ด้วย” ข้าวหอมพูดกับมีอาที่ก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์ ทั้งคู่ลุกออกจากโต๊ะอาหารพร้อมกันและรีบขึ้นไปเรียนทันที “เฮ้! มึงสนใจเด็กคนนั้นเหรอ” โจเซฟถามขึ้นเมื่อพวกเขากำลังเดินกลับไปที่คณะตัวเอง เขาสังเกตเห็นเควินเอาแต่จ้องไปที่แผ่นหลังของสาวสวยโต๊ะข้างๆ “........” เควินใช้ความเงียบเป็นคำตอบ “ข้าวหอม ปี3 อดีตดาวคณะบริหาร หนุ่มๆตามจีบให้เพียบแต่ก็ยังไม่เห็นใครได้ไปนะ” โจเซฟพูดประวัติคร่าวๆตามที่เขารู้มา แต่ไม่ใช่แค่เขาที่รู้เพราะคนสวยๆของมหาลัยย่อมเป็นที่สนใจของหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่อยู่แล้ว “กูไม่ได้สนใจ แต่ยัยนี่มาขัดจังหวะกูเมื่อวาน ยื่นเงินให้กูเปิดโรงแรม เป็นแค่เด็กทุนยังทำตัวอวดรวย” พอเควินนึกถึงเหตุการณ์เมื่อวานยิ่งทำให้เขาอารมณ์เสีย ซึ่งหลังจากนั้นเขาจะไปต่อที่โรงแรมกับเด็กคนนั้นก็เถอะ แต่ไม่มีใครหน้าไหนกล้าทำกับเขาแบบนี้มาก่อน ไม่มีใครกล้ามาดูถูกคนอย่างเขา ฮ่า ฮ่า ฮ่า ทั้งไทม์และโจเซฟหัวเราะออกมาพร้อมกันหลังจากที่เควินพูดจบ “แม่งเด็ดวะ” โจเซฟที่ยังหัวเราะไม่หยุดพูดขึ้น ตั้งแต่เขารู้จักเควินมายังไม่มีใครกล้าดูถูกคนอย่างเควินเลยสักครั้ง “มึงตลกมากไงไอ้เซฟ” เควินที่กำลังหัวเสียพูดขึ้น “สงสัยเรื่องราวที่กูรู้มาจะเป็นความจริง ไม่สนใจใครหน้าไหน หน้าตาสวยหวานแต่นิสัยไม่หวานของจริงว่ะ” “จะมีจริงเหรอวะผู้หญิงไม่สนใจควxผู้ชาย ถ้าไม่ใช่พวกนิยมนิ้วเพศเดียวกันหรือไม่ก็ช่วยตัวเองแหละกูว่า แต่สำหรับยัยนี่ลองกูกระดิกนิ้วก็นอนอยู่ใต้ร่างกูแล้วมั้ง” เควินกระตุกยิ้ม “มึงแน่ใจ? แต่เท่าที่กูรู้มาเล่นตัวชิบห_ย คนนี้ไม่น่าง่าย” ไทม์ที่ฟังโจเซฟกับเควินพูดคุยกันก็พูดแทรกขึ้นมา “ดูมึงสองตัวจะรู้เรื่องยัยนี่ดีจริงๆนะ หรืออยู่ในกลุ่มจีบไม่ติดเหมือนกันวะ” เควินเยาะเย้ยทั้งคู่ “กูไม่มีทางทับลายกันเว้ย ไม่ใช่สเปค กูชอบเอ็กซ์ๆ นมใหญ่ๆ ดูทรงแล้วไม่เอก็บีต้นๆแหละกูว่า ไม่เต็มมือกูขอบาย” “ถูกของไอ้ไทม์ ไม่ใช่สเปคกูเหมือนกัน" ทั้งสามคนกลับมาเงียบอีกครั้งเพราะมัวแต่สนใจเล่นโทรศัพท์เครื่องหรูของตัวเอง หลังจากที่โจเซฟพูดจบเควินก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ เขานั่งนิ่งเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง “ถ้าไม่ถึงเดือนกูเอายัยนี่มานอนใต้ร่างกูได้มึงให้กูเท่าไหร่” เควินท้าทายเพื่อนของเขาทั้งสองคน “มึงก็ขยันสร้างเกมท้าทายพวกกูจัง งั้นเอางี้…กูกับไอ้ไทม์ให้มึงคนละแสน แต่ถ้ามึงทำไม่ได้มึงต้องให้พวกกูคนละแสนเหมือนกัน” “อ้าว ไอ้สัสนี่ ถามความคิดเห็นกูหรือยัง อยู่ๆลากกูไปเสียเงินแสนซะงั้น” ไทม์ที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่อะไรด้วยพูดขึ้น “Deal (ดิล) ไม่เกินเดือนพวกมึงได้เห็นภาพยัยนี่นอนใต้ร่างกูแน่ ไม่แน่อาจมาเป็นคลิปเลยก็ได้ เตรียมเงินแสนไว้ให้กูได้เลย เกมนี้กูสะกดคำว่าแพ้ไม่เป็น” เควินยอมรับข้อเสนอของโจเซฟทันที ไม่มีท่าทีลังเลแต่อย่างใด เขามั่นใจในเสน่ห์ของตัวเองอยู่ไม่น้อย "มอมยา มอมเหล้า โปะยาสลบไม่นับนะครับผม" โจเซฟบอกเควินไม่ให้ใช้วิธีสกปรก "คนอย่างกูไม่มีทางทำแบบนั้น ถ้าไม่อ้าขาอ่อย กูก็ไม่เสียบ" “มึงก็เหี้ยให้มันน้อยๆหน่อย สงสารเด็กมัน” ไทม์พูดกับเควิน —//—//—//—//— “เฮ้อออ เลิกเรียนสักที” มีอาบ่นเมื่อเรียนจบคาบบ่ายเรียบร้อยแล้ว “แกก็บ่นทุกคาบจริงๆ” ข้าวหอมส่ายหัวให้กับอาการของเพื่อนสาว “อีกสองวันก็จะรับน้องรวมคณะแล้ว แต่ทำไมเหมือนเรายังไม่พร้อมอะไรเลยละ” “เดี๋ยวก็พร้อมทุกอย่าง เพราะวันนี้แกต้องอยู่ทำงานกับฉันจนเสร็จไงละ” ข้าวหอมพูดกึ่งหัวเราะ “ห๊ะ!!!.....อย่าบอกนะว่าแกรับหน้าที่เช็คความเรียบร้อยทั้งหมด ยัยข้าวหอมฉันอยากจะฆ่าแกตรงนี้เลยจริงๆ” “ฉันแค่กลัวงานมันออกมาไม่ดี อีกอย่างพี่ปีสี่ก็ส่งหน้าที่นี้ให้ฉันเป็นตัวหลัก แล้วจะปล่อยให้คณะเราเสียหน้าได้ยังไง” ข้าวหอมพยายามอธิบายให้มีอาฟัง “แกช่วยเอาตัวเองออกจากความรับผิดชอบสักทีได้ไหม ฉันเห็นแกรับผิดชอบแทบจะทุกอย่างตั้งแต่ปีหนึ่งแล้ว แกไม่เหนื่อยบ้างเหรอวะ บางทีเราก็ควรปฏิเสธในสิ่งที่คนอื่นโยนขี้มาให้บ้างนะ แกไม่ใช่ชักโครกนะยัยข้าว” มีอาบ่นมาเป็นชุด ตั้งแต่ที่เธอรู้จักข้าวหอมมา ก็เห็นแต่ข้าวหอมรับผิดชอบแทบจะทุกอย่าง บางคนก็อ้างว่าข้าวหอมเป็นถึงดาวคณะก็ต้องช่วยเหลือสังคม ไม่ใช่ว่าเพื่อนเธอโง่ยอมทำตามแต่เป็นเพราะข้าวหอมไม่อยากมีปัญหา การเป็นเด็กทุนค่อนข้างจะโดนแบ่งชนชั้นกับพวกคนรวยอยู่แล้ว มีไม่กี่คนที่จะมาคบเพื่อนต่างชนชั้นอย่างเธอ แต่เธอไม่เคยคิดจะแบ่งชนชั้นกับใครอยู่แล้ว เธอขอแค่มีเพื่อนที่ดีและพาเธอไปในทางที่ดีก็พอซึ่งสิ่งพวกนี้ข้าวหอมมีทุกอย่าง “ฉันว่าแกรู้คำตอบดีนะมีอา ทนๆไปเดี๋ยวก็จบแล้ว เรื่องแค่นี้ไม่ทำให้คนอย่างฉันตายได้หรอกหน่า แค่ทำให้เป็นเรื่องสนุกเราก็จะมีความสุขกับสิ่งที่ทำเองแหละ” ไม่ใช่เธอไม่รู้ เธอรู้และเข้าใจทุกอย่างตามที่มีอาบ่น “โดนคนเอาเปรียบแกก็ยังยิ้มได้อีกนะ” มีอาเข้าไปตบไหล่ข้าวหอมเบาๆเหมือนเป็นการให้กำลังใจ ลานใต้ตึกคณะบริหาร "สวัสดีครับ สวัสดีค่ะพี่ข้าวหอม พี่มีอา" รุ่นน้องนักศึกษาหลายคนต่างพากันยกมือไหว้ทำความเคารพรุ่นพี่ "มาทำอะไรกันเยอะแยะเลยเนี่ยพวกเรา" ข้าวหอมถามด้วยความสงสัย ไม่ได้มีนัดประชุมคณะสักหน่อยแต่ทำไมรุ่นน้องของเธอถึงมารอกันเต็มไปหมด "พี่มีอาบอกให้พวกเรามาช่วยพี่ข้าวหอมเตรียมงานรับน้องคณะค่ะ" หนึ่งในกลุ่มรุ่นน้องพูดขึ้น ข้าวหอมหันไปที่มีอาทันที เพื่อนสนิทของเธอได้แต่ยิ้มหน้าเจื่อนกลับมา "ไหนๆก็มากันแล้ว งั้นเดี๋ยวพี่แบ่งกลุ่มให้ทำละกัน จะได้เสร็จเร็ว ส่วนแกค่อยเคลียร์" ข้าวหอมหันหน้าไปทางเพื่อนสาวคนสนิทและเน้นหนักประโยคหลัง -1 ชั่วโมงผ่านไป- ข้าวหอมและมีอาแบ่งงานให้น้องๆช่วยทำกันคนละไม้ละมือ ส่วนพวกเธอก็ทำกันอย่างขมักเขม่น มีเพื่อนรุ่นเดีียวกันมาช่วยด้วยหลายคน เอาจริงๆความดีนี้ก็ต้องยกให้มีอาที่แอบชวนคนอื่นมาช่วยงาน "แอบไปเรียกเด็กๆมาไม่บอกฉันงั้นเหรอ" ข้าวหอมพูดแซวเพื่อนตัวเอง "ฉันเห็นแกเหนื่อย และอีกอย่างพวกรุ่นเดียวกันก็มาช่วยน้อย ฉันเลยต้องขอกำลังเสริม" "ขอบใจแกมากนะที่คอยเป็นห่วงฉัน" ข้าวหอมยิ้มตาหยีส่งไป มันเป็นรอยยิ้มที่ชวนหลงใหล น้อยครั้งที่จะเห็นข้าวหอมยิ้มแบบนี้ "มีใครเคยบอกแกไหมว่าเวลาแกยิ้มแบบนี้มันตกผู้ชายได้เลย" "ฮ่า ฮ่า ฮ่า แกนี่ก็เวอร์ตลอด" ข้าวหอมหัวเราะกับคำพูดของมีอา "ฉันพูดเรื่องจริง ไม่ลองหาผู้ชายสักคนมาแก้เหงาบ้างละ อย่างน้อยเอามาเป็นเพื่อนคู่คิดก็ได้" "..........." ข้าวหอมได้แต่ยิ้มให้กับคำพูดของเพื่อน มันมีช่วงเวลาที่เธอเคยคิดอยากมีคนเคียงข้าง แต่สุดท้ายเธอก็สลัดความคิดนั้นออกและมุ่งมั่นกับการเรียนและหาเงินแค่นั้นพอ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม