ตอนที่ 2 เรื่องราว

1214 คำ
ตอนที่ 2 เรื่องราว ลี่ถิงที่เป็นราวกับอากาศธาตุไร้ตัวตนยืนกำหมัดแน่น และอดที่จะคิดถึงเรื่องราวของพ่อตัวเองไม่ได้ ทำไมช่างคล้ายคลึงกันนักนะ “ท่านพ่อ ...ท่านทำแบบนี้ได้อย่างไร หากท่านแม่รู้เข้า มีหวังเป็นลมแน่ ๆ” น้ำเสียงที่สั่นเล็กน้อยเอ่ยขึ้นพูดลอย ๆ ไป นางก้าวเท้าอย่างรวดเร็ว เดินออกจากห้องนอนของตนเอง เพื่อที่จะไปพบบิดาของตน ระหว่างทางสาวใช้เดินตามหลังก็ได้เอ่ยกล่าวขึ้น “ไม่ได้เป็นลมเพียงอย่างเดียวเจ้าค่ะ ยังขอหย่ากับนายท่านด้วย ตอนนี้กำลังวุ่นวายทีเดียว” สาวใช้รีบเดินตามนายสาว คนสวยอย่างลี่ถิงสาวยุคสองพันเดินตามหลังไปติด ๆ อยากรู้นักว่าเกิดอะไรต่อจากนี้ “พี่ใหญ่เล่า กลับมาหรือยัง” เพ่ยอิงต้องการคนช่วย พี่ใหญ่ของนางเป็นกุนซือข้างกายของท่านแม่ทัพพิทักษ์แดนเหนือ ที่จะถึงกำหนดกลับ ในอีกไม่กี่วันข้างหน้าจะถึงเมืองหลวง พี่ใหญ่กลับมาคราวนี้จะประจำการที่เมืองหลวงเลยพร้อมกับท่านแม่ทัพ ที่นางถามนั้นเพราะในจดหมายแจ้งว่าจะกลับมาถึงจวนในวันนี้ “ยังเจ้าค่ะ จะทำอย่างไรดีเจ้าคะ ดูท่าว่านายท่านไม่ยอมแน่เจ้าค่ะ” สาวใช้รีบตอบและเดินจ้ำตามเจ้านายไปเรือนใหญ่ ในห้องโถงนั่น ก็พบกับสตรีคนนั้นและบุตรีที่อายุน่าจะห่างกับนาง ‘โห! นี่นังงูพิษนี่นา ร้ายนักนะ จะกี่ชาติก็ร่านไม่เลิก!’ ลี่ถิงที่เป็นแค่อากาศไร้ตัวตนถึงกลับหน้าขึ้นสีเดือดดาลไม่น้อย อยากเข้าไปกระชากแล้วตบ ตบสั่งสองสักฉาดสองฉาดจริง ๆ‘แหม ๆ อยากย้อนอดีตได้จัง หากย้อนได้ล่ะก็นะ พวกแก! สองแม่ลูก ได้เจอฉันแน่! แม่จะเอาให้หยอดน้ำข้าวต้มเลย!’ เพ่ยอิงรูปร่างบอบบาง แถมการเดินก็ดูจะอ้อนแอ้นไม่น้อย สาวใช้ที่ติดตามก็เร่งฝีเท้าให้รวดเร็วตามเจ้านายไปที่ห้องโถงใหญ่ ยามนี้บรรดาสาวใช้ในจวนต่างพากันไปนั่งรอเจ้านายแจ้งเรื่องสำคัญ เพ่ยอิงมีสีหน้ากระวนกระวายใจอย่างบอกไม่ถูก รีบเร่งเดินอย่างรวดเร็ว ไม่เนิบนาบชักช้าเหมือนเมื่อก่อน ขณะเดียวกัน ลี่ถิงร่างไร้ตัวตนในสายตาใครต่อใคร ไปโผล่อยู่ที่ห้องโถงใหญ่แล้ว เห็นนังแม่ลูกนั่งหน้าสลดกำลังบีบน้ำตาให้ล่วงหยดราวกับไข่มุกลงที่พื้น ช่างดูเหมือนน่าสงสารเสียจริง ลี่ถิงยืนตัวสั่นเทิ้มหน้าแดงหน้าดำเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว ‘แหม ๆ อยากจะกระชากหน้าสวย ๆ ลงมานอนกองกับพื้นแล้วกระทืบให้คาบาทาจริง ๆ’ ลี่ถิงสบถด่าอย่างแค้นเคืองอยู่ในใจ นั่นเพราะสองแม่ลูกคู่นี้ หน้าตาเหมือนกับกับแม่เลี้ยงใจร้ายกับน้องสาวจอมตอแหลและเสแสร้ง คนโง่เท่านั้นแหละที่จะดูไม่ออก ลี่ถิงพยายามจะคว้าผมของนังแม่เลี้ยงแล้วดึงทึ้ง ก็เพียงได้แค่คว้าลมเท่านั้น ทำให้เธอถอดใจ รอคอยเพียง แค่เพ่ยอิงคนงามใจบอบบางและแสนดีศรีสังคมโผล่หัวเข้ามาสักที และแล้วความหวังก็โผล่หน้าเข้ามาจนได้ แค่อึดใจเดียวคนงามของลี่ถิงมาพร้อมกับสาวใช้ สีหน้าของลี่ถิงตอนนี้ยิ้มแป้นอวดฟันขาว คาดว่ายังไงเพ่ยอิงไม่มีทางยอมแน่ ๆ “อิงเอ๋อร์ มานี่สิ นี่แม่รองและน้องสาวของเจ้า” ขุนนางเถียน บิดาของเพ่ยอิงกวักมือเรียกลูกสาวคนโตให้ไปนั่งข้าง ๆ กับตนเอง จะได้ทำความรู้จักกับแม่รองและน้องสาวหรือน้องสามของนาง “อิงเอ๋อร์ ขอเสียมารยาทสักครั้งเจ้าค่ะ ท่านพ่อคิดดีแล้วหรือเจ้าคะ ที่ให้สตรีสองคนนี้เข้ามาอยู่ด้วยกันในจวน มิเห็นใจท่านแม่บ้างหรือเจ้าคะ” เป็นครั้งแรกที่สตรีอ่อนหวานเรียบร้อยอย่างเถียนเพ่ยอิงเอ่ยจะโต้แย้งบิดา ในความเห็นต่างของนางคิดว่าจะนำเรื่องวุ่นวายมาให้เป็นแน่ นางถูกอบรมสั่งสอนมาอย่างดีให้เชื่อฟังบิดา มารดา ยามนี้นางขอขัดคำสั่งสักครั้ง เพื่อรักษาหน้าตาของมารดาที่รักและเถิดทูลยิ่งเหนือสิ่งอื่นใด นางทนไม่ได้ที่จะเห็นมารดาของหย่าร้างกับบิดา และทนเห็นมารดาร้องไห้ฟูมฟายกระทั่งเจ็บป่วยนางก็ไม่อาจยินยอมได้ นั่นคือหน้าที่ของนางที่ต้องปกป้องมารดา “เจ้ามีสิทธิ์อันใดมาสอดเรื่องของข้าเช่นนี้ พ่อให้เจ้ามารับรู้ว่ามีแม่รองและน้องสามเท่านั้น เรื่องอื่นไม่ต้องมาสู่รู้” ผู้เป็นบิดาหน้าขึ้นสีแดงดูน่ากลัวยิ่งนัก บ่าวไพร่แต่ละคนล้วนหนีหายไปหมด เกรงว่าพายุลูกใหญ่ยักษ์กำลังจะถล่มลงมาที่จวนนี้ไม่ช้าไม่เร็วแน่ ลี่ถิงสาวยุคใหม่ไฟแรง ก็ร้องตะโกนด่าอย่างสุดเสียง แต่ทว่าเสียงของนางดูไร้ค่านักเพราะอีกฝ่ายไม่ได้ยินสักครึ่งคำที่นางตะโกนด่าออกไปอย่างไม่มีชิ้นดี ถ้อยคำหยาบคายถูกลี่ถิงด่ายันบุพการี ด้วยความแค้นชิงชังสองแม่ลูกเข้ากระดูกดำนัก ตัวเองยังหลงคิดว่า อยากจะเข้ามาอยู่ในร่างของเพ่ยอิงสตรีอ่อนแอคนนี้เหลือเกิน จะได้ถลกหนังหัวของสองแม่ลูกนี้เสียให้เข็ด นางจะประเคนส้นเท้างาม ๆ กระแทกเข้าอีกฝ่าย ‘ช่างมั่นหน้าเหลือเกิน’ แม้ว่าจะพยายามคว้าเส้นผมที่เป็นกลุ่มก้อนนั้น แต่ทว่าก็ หวืด ทุกรอบไป คว้าได้เพียงแค่ความว่างเปล่าเท่านั้น “ท่านพ่อ อย่าต่อว่าพี่สาวเลยเจ้าค่ะ พี่สาวยังไม่ได้ตั้งตัวจึงตกใจก็ไม่แปลก จริงหรือไม่เจ้าคะท่านแม่” น้องสาวต่างมารดา พูดเอาความดีใส่ตัว เอาชั่วฟาดเข้าใส่พี่สาวเข้าให้แล้ว มีหรือที่ว่าคนอย่างนางจะยอมอยู่นอกจวนตระกูล เถียน อีกครั้ง พวกนางสองแม่ลูกไม่อยากจะถูกนินทาว่าร้ายอีกแล้ว ญาติพี่น้องก็ตราหน้าเป็นสตรีไร้ยางอาย แถมยังอับอายขายหน้ายิ่งนัก ยามเมื่อคนอื่นดูแคลน เหยียดหยาม ไป๋จูได้แต่เฝ้ามองบรรดาเพื่อน ๆ ทั้งหลายที่มีบิดาโอบอุ้มดูแล แต่นางกับท่านแม่ไร้คนเหลียวแล มีแต่คนคอยซ้ำเติม เกิดมาต่ำต้อยมักจะมีแต่คนดูแคลน ยามนี้ในเมื่อโอกาสมาถึง ไยนางจะไม่รีบคว้าเอาไว้เล่า “จริงอย่างที่จูเอ๋อร์ พูด” หญิงสาวอายุไม่มากสักเท่าไหร่ ใบหน้าของนางก็มิได้งดงามมากนัก หากเทียบกับมารดาของเพ่ยอิงแล้ว ท่านแม่ของนางสวยกว่าเยอะ สตรีนางนี้ช่างมีจริตเจ้ามารยาไม่เบา จีบปากจีบคอดวงตาแดงก่ำแสร้งทำเสียงสั่นเครือ สะอื้นยังไม่พอยังยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับน้ำตาอีกต่างหาก พูดเสียงสั่นเบา ๆ ต่อสามีที่รักและเอ็นดูนางสองคนแม่ลูก
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม