บทที่ 6 รังแกคนถึงบ้าน

1561 คำ
บทที่ 6 รังแกคนถึงบ้าน “ท่านแม่?” เฉิงเอ๋อร์กับเป่าเอ๋อร์เข้ามากุมมือท่านแม่ทั้งซ้ายและขวา สีหน้าเป็นกังวล จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ทุกครั้งที่แม่ของตงตงมาหาเรื่องท่านแม่ถึงบ้าน คนที่ถูกทำร้ายมักจะท่านแม่ของพวกเขา ร่างกายและจิตใจของท่านแม่บอบบางมาก ทางนั้นด่ามานิดหน่อยก็ทำให้ท่านแม่ร้องไห้และซึมไปหลายวัน พอตงตงตะโกนว่าจะไปฟ้องแม่ เด็กทั้งสองก็เลยกลัวว่าแม่ของตงตงจะมาหาเรื่องแม่ของพวกเขาถึงบ้านเหมือนทุกครั้ง ถ้าท่านแม่ล้มป่วยไปอีกจะทำอย่างไร “พวกเจ้าไม่ต้องกังวลไป แม่ไม่ได้ขี้ขลาดเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เชื่อแม่สิ” ได้ยินแบบนั้น เฉิงเอ๋อร์เม้มปากมองท่านแม่ ตอนแรกสายตาของเด็กน้อยไม่ค่อยวางใจเท่าไร แต่สักพักถึงยอมพยักหน้า “ข้าเชื่อท่านแม่” ไม่รู้ทำไม ถึงได้รู้สึกว่าท่านแม่ในตอนนี้เข้มแข็งกว่าเมื่อก่อน และไม่ว่าท่านแม่จะพูดอะไร น่าเชื่อถือไปหมด “ท่านแม่…” เป่าเอ๋อร์เขย่าแขนลู่ซินฟาง “มีอะไรจ๊ะ เป่าเอ๋อร์ของแม่” “ท่านแม่ไม่ได้ขโมยของคนอื่น เป่าเอ๋อร์เชื่อท่าน” ลู่ซินฟางมองลูกทั้งสองด้วยความเอ็นดู ก่อนจะลูบศีรษะเล็กๆ แล้วสอนบางอย่าง “เฉิงเอ๋อร์ เป่าเอ๋อร์ ฟังแม่ให้ดีนะ การลักเล็กขโมยน้อย การโป้ปด การใส่ร้ายผู้อื่น ล้วนเป็นนิสัยของคนไม่ดี พวกเจ้าห้ามทำเด็ดขาด” “เหมือนอย่างตงตง?” เป่าเอ๋อร์ถาม ดวงตากลมโตมองท่านแม่แป๋วแว๋ว “ใช่ เหมือนอย่างตงตงที่พูดจาใส่ร้ายผู้อื่น แล้วก็นะ หากคราวหน้าคราวหลัง ตงตงมารังแกพวกเจ้าอีกก็สู้กลับไป เขาผลักพวกเจ้า พวกเจ้าก็ผลักเขาคืนบ้าง” “สู้ได้หรือ” เฉิงเอ๋อร์ถาม “ทำไมจะไม่ได้เล่า” พูดอย่างนั้นก็นึกได้ว่าตงตงอายุมากกว่า ตัวใหญ่กว่า ย่อมแรงเยอะกว่า ถ้าว่าด้วยเรื่องกำลัง ลูกของนางเสียเปรียบแน่นอน ดังนั้นนางจึงเสริมว่า “ถ้าสู้ด้วยกำลังไม่ได้ก็ใช้สมอง อีกฝ่ายกลัวอะไร พวกเจ้าก็ใช้สิ่งนั้นมาสู้ เหมือนอย่างที่แม่ทำเมื่อกี้ พวกนั้นไม่อยากเห็นพวกเจ้ากินของดีๆ มีชีวิตดีๆ แต่ต่อจากนี้ไปแม่จะทำให้พวกเจ้าได้มีชีวิตที่ดี กินของอร่อยๆ ทุกวัน” “พวกเราจะได้กินเนื้อทุกวันเลยหรือ” พอนึกถึงเนื้อ ดวงตาของเป่าเอ๋อร์ก็เป็นประกาย “เจ้านี่นะ ชอบกินเนื้อขนาดนั้นเลยหรือ” “อื้อ ชอบมาก” ลู่ซินฟางหัวเราะเบาๆ ให้กับความไร้เดียงสาของเป่าเอ๋อร์ “ท่านแม่” เฉิงเอ๋อร์ร้องเรียก “หือ?” “บ้านของตงตงรวยกว่าพวกเรา ถ้าพวกเราสู้กลับไปแล้วทำให้ท่านแม่เดือดร้อน ท่านจะทำยังไง” เฉิงเอ๋อร์ไม่วายถามต่อ “ถึงตอนนี้พวกเราจะไม่มีเงิน แต่ใช่ว่าอนาคตจะเป็นแบบนี้ไปตลอด ยังมีบางเรื่องที่พวกเจ้าคิดผิด คนไม่มีเงินใช่ว่าจะลุกขึ้นสู้ไม่ได้” เด็กทั้งสองพยักหน้าแรงๆ “พวกเราเข้าใจแล้ว” “ต่อไปพวกเราจะมีเงินด้วย” ถ้าการมีเรื่องกับแม่ของตงตงกลายเป็นเรื่องใหญ่ อย่างมากก็แค่ซ่อนลูกๆ ในโลกต่างมิติ เรื่องซาลงค่อยพาพวกเขาออกมา แต่นางคิดว่าคงไม่มีวันนั้น “เข้าบ้านกันเถอะ” พอพูดจบ ลู่ซินฟางจูงมือเฉิงเอ๋อร์กับเป่าเอ๋อร์เดินเข้าบ้าน ก่อนหน้านี้ลู่ซินฟางผ่าฟืนค้างไว้ พอจูงมือลูกๆ กลับเข้าบ้าน นางก็ไปเก็บขวานไว้ในที่ที่ปลอดภัย ล้างไม้ล้างมือเตรียมนวดแป้งทำของว่าง ผ่านไปไม่นาน เสียงโวยวายของเจียงลิ่วก็ดังขึ้นที่หน้าประตู “ซินฟาง นังคนอวดดี เจ้าออกมานะ!” เฉิงเอ๋อร์กับเป่าเอ๋อร์ที่กำลังนั่งเล่นสะดุ้งโหยง วิ่งเข้ามาเกาะแขนท่านแม่ด้วยสีหน้ากังวล นางยิ้มบางๆ พลางลูบศีรษะเล็กๆ ของลูกทั้งสอง “ไม่ต้องกลัว เดี๋ยวแม่จัดการเอง” เฉิงเอ๋อร์เป็นเด็กฉลาด เขาสัมผัสได้ถึงความเด็ดเดี่ยวของท่านแม่ หลังจากพยักหน้าอย่างเข้าใจก็จูงมือเป่าเอ๋อร์เดินตามหลังท่านแม่ออกมา “มีอะไร” ลู่ซินฟางขมวดคิ้วถาม ก่อนหลุบตามองเจ้าตัวแสบตงตงที่หลบข้างหลังแม่ของเขา ทันทีที่เห็นท่าทีไม่หวั่นเกรงของลู่ซินฟาง เจียงลิ่วก็จี๊ดในอกด้วยความไม่พอใจ ปกติผู้หญิงใจเสาะคนนี้ แค่เห็นนางก็ตัวสั่นแล้ว แต่นี่อะไร ไม่เพียงไม่หลบสายตา สีหน้าของลู่ซินฟางยังสงบเยือกเย็น “อวดดีจริงๆ เจ้าไม่กลัวข้าแล้ว?” เจียงลิ่วกัดฟันพูด “ทำไมข้าต้องกลัวเจ้า” ลู่ซินฟางถามกลับ ต่างก็เป็นคนเหมือนกัน ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมลู่ซินฟางคนเก่าต้องกลัวผู้หญิงคนนี้ด้วย ด้านเจียงลิ่ว ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกว่าลู่ซินฟางตรงหน้าไม่เหมือนเดิม พอคิดแบบนี้ เจียงลิ่วก็เกิดความไม่พอใจ พูดเสียงรอดไรฟัน “ข้าก็มาถามเจ้าว่า พวกเจ้าแม่ลูกเอารองเท้าฟางมาจากไหน” จู่ๆ แม่ลูกบ้านลู่ก็ได้สวมรองเท้าคู่ใหม่ ซ้ำยังเป็นเชือกฟางอย่างดี รองเท้าของพวกเขายังถูกถักขึ้นมาอย่างประณีต บวกกับที่ตงตงวิ่งร้องไห้กลับไปฟ้องแม่ ปกติแล้ว คนที่ร้องไห้จะเป็นทางนี้มากกว่า เรื่องนี้เลยทำให้เจียงลิ่วทั้งไม่พอใจทั้งสงสัยอย่างยิ่งยวด “ที่แท้เจ้าก็มีปัญหากับรองเท้าผู้อื่น เอ้า ดูให้ดี นี่เป็นรองเท้าที่ข้าถักเอง” พูดแล้วลู่ซินฟางก็ยกเท้าขึ้น อีกแค่คืบเดียว เท้าของลู่ซินฟางก็จะเตะถูกเจียงลิ่วแล้ว เจียงลิ่วรีบถอยหลังหลบ ท่าทางที่เดาไม่ออกว่าตั้งใจหรือไม่ตั้งใจกันแน่ ทำให้เจียงลิ่วเลือดขึ้นหน้า แผดเสียงตะโกนใส่ “เจ้าคนอวดดี ยังไม่สำนึกอีก!” ลู่ซินฟางทำท่าแคะหู “คนก็ยืนอยู่ใกล้ๆ แค่นี้ เจ้าจะพูดเสียงดังทำไม อีกอย่าง ข้าต้องสำนึกอะไรด้วยหรือ ก็แค่รองเท้าฟางเอง” “ก็แค่รองเท้าฟางอะไร เจ้าขโมยของผู้อื่นมาก็ยอมรับเถอะ แล้วก็รีบๆ เอาไปคืนเจ้าของ ข้าจะได้ไม่ไปฟ้องหัวหน้าหมู่บ้าน” “ถ้ามั่นใจนักว่าข้าขโมยมาก็ไปฟ้องเสียเลยสิ เสียเวลามาขู่ข้าทำไม” “ข้า...” แน่นอน เจียงลิ่วไม่กล้าฟ้องหัวหน้าหมู่บ้าน นอกจากไม่มีหลักฐานเอาผิดลู่ซินฟาง การที่นางมาหาเรื่องผู้อื่นถึงหน้าบ้านยังทำให้จางต้วนผู้เป็นสามีอับอายขายขี้หน้า จางต้วนนิสัยไม่เหมือนภรรยา จิตใจกว้างขวางและมีเหตุผล ต่อให้เจียงลิ่วปากร้ายสักแค่ไหน ก็ยังต้องเกรงใจจางต้วนที่เป็นหัวหน้าครอบครัว อย่างไรก็ตาม หากเจียงลิ่วยอมลามือง่ายๆ ก็คงจะดี แต่ว่า คนที่มีนิสัยขี้อิจฉา ชอบทำตัวยิ่งใหญ่ ครั้นเห็นลู่ซินฟางที่อ่อนแอกว่าไม่ยอมจำนนให้ง่ายๆ ก็ยิ่งโมโหมากขึ้นไปอีก ชี้หน้าโวยวายใส่ลู่ซินฟาง “ถึงข้าจะเอาผิดเรื่องรองเท้าไม่ได้ แต่เจ้าก็กระไร สอนลูกให้โกหก ก่อนหน้านี้ลูกเจ้าบอกว่าอะไรนะ กินซาลาเปาไส้เนื้อหรือ อย่าทำให้ขำไปหน่อยเลย คนสำออยอย่างเจ้าจะเอาปัญญาที่ไหนไปล่าไก่ป่า” ลู่ซินฟางมองอีกฝ่ายนิ่งๆ เห็นนางไม่พูด เจียงลิ่วยิ่งได้ที “หากบ้านเถี่ยไม่เอาของมาให้พวกเจ้าแม่ลูกกิน ป่านนี้พวกเจ้าไม่อดตายไปแล้วหรือ เอ๋...ว่าไปแล้ว คนอย่างเจ้าก็น่ากลัวอยู่นะ ไม่ใช่ว่าวางแผนจะจับสามีของชิงเหลียนหรอกหรือ” ลู่ซินฟางถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วส่ายหน้า ก้มมองลูกแฝดทั้งสอง “จำที่แม่สอนพวกเจ้าก่อนหน้านี้ได้หรือไม่ การลักเล็กขโมยน้อย การโกหก การใส่ร้ายผู้อื่น ล้วนเป็นนิสัยของคนไม่ดี คนที่ยืนอยู่หน้าบ้านพวกเราเป็นตัวอย่างที่พวกเจ้าไม่ควรทำตาม” เด็กทั้งสองพยักหน้าด้วยเข้าใจ แต่สำหรับเจียงลิ่ว คำพูดนั้นเหมือนมือที่ตบลงมาบนหน้าแรงๆ คำพูดนั้นหมายความว่านางเป็นคนไม่ดี อย่าเอาเยี่ยงอย่าง “นังตัวดี กล้าพูดจาหยามข้ารึ!” เจียงลิ่วทำท่าจะพุ่งเข้ามาจิกหัวลู่ซินฟาง พลันนั้น นางรีบถลกแขนเสื้อขึ้น เท้าเอว เชิดหน้า “ก็เข้ามาสิ คิดว่าตัวเองมีมือมีเท้าคนเดียวรึไง นังโง่!” จริงๆ ก็อยากจะระบายความอัดอั้นอยู่พอดี มาอยู่ในโลกยุคโบราณ แถมต้องมาใช้ร่างที่ผอมแห้งแรงน้อย เจอแต่คนเอาเปรียบและดูถูก หากใช้กำลังระบายออกมา อาจช่วยบรรเทาความอึดอัดในอกได้บ้าง!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม