คันฉ่องส่องนาง 3

1402 คำ
การได้เห็นรูปร่าง ลักษณะ พร้อมทั้งท่าทางของนางผ่านคันฉ่องที่ทำให้ชายร่างอัปลักษณ์ ที่มิเป็นที่หมายปองของผู้ใด อารมณ์ดีได้ทุกวัน เขามองนางทุกวันหลังจากเสร็จงานในวัง เขาก็ต้องมานั่งจ้องมองคันฉ่องว่าเมื่อไหร่จะปรากฎภาพนางอีก และสั่งห้ามให้ใครทำความสะอาดหรือแตะต้องคันฉ่องนี้ ยกเว้นเขา และนับตั้งแต่วันแรกที่มองเห็นนาง ก็ทำให้เขาเหมือนคนเสพติดนางไปโดยปริยาย และจะหงุดหงิดที่ไม่ได้กลับมาตำหนัก เพราะเชาอยากรู้ว่าวันนี้นางจะทำอะไร แต่งกายแบบไหน เพราะเชาได้เฝ้ามองตลอดเวลาและเอนตัวลงนอนไปพร้อมกับนาง ร่วมอาทิตย์ที่เขามองนางผ่านคันฉ่อง และวันนี้เขาตื่นเช้าเพื่อมองที่คันฉ่อง ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นนางสวมชุดแนบลำตัว ผูกผมรวบไปด้านหลัง เผยรูปร่างของตน ดีที่ผ้าปิดส่วนบนและส่วนล่างมิดชิด แต่กลับเผยหน้าท้องแบนราบต่อหน้าเขาผ่านคันฉ่องเรือนงาม " อ๊ะนั่น! นางทำท่าอะไร เอ๊ะ! นางฝึกวรยุทธหรือ เป็นท่าที่แปลกมาก เหตุใดต้องค้างท่านั้นนานจัง โห!! นางงอหลังได้ด้วย ช่างน่าอัศจรรย์นัก นางตัวอ่อนเพียงนี้เลยหรือ ท่าทางเพียงน้อยนิดเหตุใดเหงื่อนางถึงเยอะเพียงนั้นเล่า ช่างประเสริฐแท้ " วันต่อมา " ใครกันอยู่ในห้องนาง มีบุรุษด้วยหรือ แล้วนั่นพวกนางทำอะไร อ๊ะ! แล้วเหตุใดนางต้องกอดบุรุษผู้นั้น เขารังเกียจนางหรือ เอ๊า! แล้วนั่นเกิดอะไรขึ้นถึงปาข้าวของใส่กัน ทะเลาะกันหรือ เอ๊ะ! ไม่น่าใช่ พวกนางหัวเราะกัน " วันต่อมา... " นั่นนางดูอะไร แล้วนั้่นคือสิ่งใดที่เสียบไว้ที่หูของนาง แล้วเหตุใดต้องยิ้มเขินด้วย ข้าอยากเห็น อ๊ะ! มันคือสิ่งใด สีดำเล็กๆ ดูนางชื่นชอบมัน แล้วนางจะไปไหน อ๋อ! นางหิว นางดูสบายเหลือเกิน นอนกินด้วยหรือนั่น ไม่มีใครอบรมหรือว่ามันไม่งาม " วันต่อมา... นางจะไปไหน เหตุใด ต้องนำชุดใส่กล่องรูปร่างแปลกๆ ดูนางตื่นเต้นจัง นางจะเปลื้องผ้าอีกแล้วหรือ นางนี่ยังไงนะ ข้ามองเจ้าอยู่นะ หัดอายเสียบ้าง แต่เอ๊ะ นางไม่ได้ยินข้านี่ แต่ขอนะเจ้าอย่าเปลื้องให้ใครเห็น ข้ากลัวแทนเจ้า บุรุษเหล่านั้นต้องห้ามใจไม่ได้แน่ ขนาด..ขนาดข้า.. เฮ้อ!! " ผ่านมา 1 สัปดาห์ที่เขารู้สึกกระวนกระวายใจอย่างมาก ที่คันฉ่องมิปรากฎร่างของนางให้เห็น แต่อาการนี้ของเขาจะหงุดหงิดรุนแรงมากกว่าวันที่เขาเห็นชายแปลกหน้าเข้ามาในห้องของนาง โดยชายผู้นั้นถือของ หอบหิ้วดอกไม้หลายต่อหลายดอก ที่มัดรวมกันเอาไว้ หลายต่อหลายชนิด นางส่งยิ้มให้ชายที่ดูมีอายุมากกว่านางเสียด้วยซ้ำ และพูดอะไรบางสิ่งกับผู้นั้นจนชายผู้นั้นลูบศีรษะของนางดั่งเจ้าข้าวเจ้าของ แต่เขาก็ต้องประหลาดใจพร้อมกับดีใจ ที่เขามองไปยังคันฉ่องก็พบว่าสตรีอีกนางได้เดินมาใกล้ชายผู้นั้น ส่วนชายผู้นั้นก็เข้าไปสวมกอดนางและหอมแก้มต่อหน้านาง นางมิมีปฏิกิริยาหึงหวงใดๆ แสดงว่าชายผู้นั้นมิใช่คนรักนางเป็นแน่ เขาถึงกับโล่งอกอย่างบอกไม่ถูก แต่นี่เกิดอะไรขึ้น นางไปอยู่ที่ไหนกัน เขาเอ่ยขึ้นมาเพียงลำพังในยามค่ำคืน " เจ็ดราตรีแล้วนะ นางหายไปไหน ข้าเห็นว่านางนำผ้าใส่กล่องใบใหญ่ไป หรือว่านางจะรู้ตัวแล้วหนีไป ข้า.. ข้าจะทำอย่างไรดี " ความกระวนกระวายเข้าเกาะกินหัวใจ เขาโทษตัวเองที่เป็นสาเหตุให้นางหนีไป เขาอยากจะนำบางสิ่งเขวี้ยงไปที่คันฉ่อง แต่ก็ต้องยั้งมือ เพราะหากคันฉ่องแตกเขาจะเจอนางอีกหรือ เวลานี้เขาทำได้แค่เพียงนั่งเศร้า จวบจนยามจื่อ ภาพเขาสะท้อนของคันฉ่องปรากฎขึ้นอย่างเลือนลางในสายตาของเขา และเริ่มกระจ่างชัดขึ้นเรื่อยๆ " นางมาแล้ว หอบหิ้วของมาเยอะ แสดงว่าเจ้ามิได้หายไปไหน ขอบคุณสวรรค์ ไม่สิ ขอบคุณนะคันฉ่อง ที่ส่งนางมาให้ข้าได้เห็นอีก ดูนางคงจะเหนื่อย นอนพักผ่อนเถิด วันพรุ่งนี้หวังว่าข้าจะพบเจ้าอีกครั้งนะ แม่นาง" ยามบ่ายวันรุ่งขึ้น หลังจากที่หวงเจียวหลุนกลับจากราชกิจด้วยอารมณ์ที่ดีกว่า 7 วันที่ผ่านมา เขานั่งที่เก้าอี้หยิบงานขึ้นมาจัดการ ส่วนหวังเฟิงก็คอยฝนน้ำหมึกให้ " ดูองค์ชายอารมณ์ดีนะพะยะค่ะ " " อืม นำชามาให้ข้าสิ " หวงเจียวหลุนสั่งโดยสายตายังจับจ้องที่งานตรงหน้า " พะยะค่ะ " หวังเฟิงเดินอ้อมไปรินน้ำชาให้ แล้วก็หันกลับมาวางไว้ที่โต๊ะ สักพักราว 2 เค่อ หวังเฟิงก็ถูกหวงเจียวหลุนไล่ออกจากตำหนัก ทั้งๆ ที่เขาอยากอยู่รับใช้ แต่เขาก็มิยอม ทำให้หวังเฟิงต้องเดินคอตกออกจากตำหนัก เมื่อหวังเฟิงออกไปแล้ว สายตาเขาก็จับจ้องกับหญิงตรงหน้า เผ้าผมกระเซอะกระเซิง บ่งบอกว่านางเพิ่งตื่นจากการหลับใหล เขายิ้มแก้มแทบปริกับความเป็นนางที่ไม่เคยได้เห็นจากสตรีนางใดเลย เขามองนางที่บัดนี้นางหายไปสักพักแล้วก็กลับมาพร้อมกับหยิบบางสิ่งแนบที่หู นางใช้ผ้าผืนเล็กเช็ดผมให้แห้ง พร้อมส่องคันฉ่องพูดอะไรบางอย่างกับแท่งสี่เหลี่ยม ซึ่งสิ่งนั้นทำให้เขาสงสัย แต่ไม่นานนางก็วางมันลง และไปลากหีบกล่องใบใหญ่ที่ครั้งนั้นนางนำชุดใส่ไว้ด้านในออกมา และเปิดออก นางรื้อทุกสิ่งออกและนำมาคัดแยก ไม่นานนางก็ลุกจากบริเวณนั้น และกลับมาพร้อมสหายของนาง 3 คน บุรุษเพศคนเดิมที่นางเคยกอดก็มาด้วย ดูพวกเขามีความสุขกับข้าวของของนางเหลือเกิน พวกนางเลือกบางสิ่งที่ต้องการแล้ว ก็มีคนอีกคนที่เขาไม่เห็น เดินถือบางสิ่งที่มีอาหารใส่จานและเรียกคนที่เหลือ มานั่งรวมกลุ่มกินกัน ดูท่าทางพวกนางเอร็ดอร่อยเหลือเกิน " ข้าอยากร่วมกินอาหารและสนุกกับเจ้าบ้าง " หวงเจียวหลุนเอ่ยขึ้นอย่างไม่ทันรู้ตัว และเขาก็ลุกจากโต๊ะเพื่อไปทานมื้อเย็นบ้างแล้ว เขารู้ตัวว่าเขาทานได้น้อยเพราะใจนึกถึงภาพของนาง นางที่คันฉ่องส่องมาให้เขาได้พบ และคิดไปต่างๆ นานาว่านางจะรังเกียจเขาหรือไม่ แต่ก็อดคิดเข้าข้างตัวเองไม่ได้ว่านางคงมิเป็นเฉกเช่นสตรีที่นี่ เพราะสหายของนางก็มิได้งดงาม บางคนอวบอั้น บางคนใบหน้ามิได้เกลี้ยงเกลา นางก็ยังทำปกติ เขากินไม่ลง ภาพจากคันฉ่องหายไปแสดงว่านางไม่อยู่คงไปกับกลุ่มเพื่อนเป็นแน่ เขาจึงสะสางงานสักพักก็รู้สึกเหนื่อยจึงได้ชำระล้างร่างกายและเข้าสู่ห้วงนิทราในเวลาไม่นาน ดึกสงัดคืนนั้นเป็นคืนที่จันทร์ลอยเด่นส่องแสงยามราตรีได้อย่างงดงาม ร่างชายอ้วนท้วมสมบูรณ์ลุกจากตั่งเตียง ด้วยเหตุใดไม่รู้ หรือเพราะท้องของเขากำลังโหยหาอาการ ก็มิใช่ หรือเพราะอากาศร้อน? ไม่สิ ช่วงนี้อากาศก็เย็นสบาย แต่เพราะเหตุใดก็ช่างเถิด ในเมื่อลุกมาแล้วเขาขอดื่มน้ำแก้กระหายเสียหน่อยเถิด เมื่อคิดได้เขาจึงเอื้อมมือไปรอนน้ำชาและกระดกดื่ม และลุกจากเตียงเหม่อมองไปที่หน้าต่างบานโต มองภาพพระจันทร์เต็มดวงที่สุกสกาวบนห้วงนภา อยากรู้นักว่าบนจันทรามีอะไร แต่เขาก็ต้องหยุดชะงักเมื่อภาพสะท้อนของคันฉ่องมันเปล่งแสงออกมากระทบผนัง ทำให้เขาต้องหมุนตัวกับมามองภาพนั้นว่าเกิดสิ่งใดขึ้นกันแน่ *******************
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม