บทที่ 11 ข้ามหน้าข้ามตา

1687 คำ
บทที่ 11 ข้ามหน้าข้ามตา วันต่อมา.... การตื่นนอนในตอนเช้าจะทำให้สดใส จิตใจเบ่งบานจริงเหรอ? นี่ก็วันที่สองของการตื่นเช้าแล้ว ชีวิตยังรู้สึกนอนไม่เต็มอิ่มอะ ก็กลางดึกยังนอนดูซีรีส์อยู่เลย หนังสือหนังหามีไว้ประดับบารมีจริงๆ ไม่ได้แตะต้องอะไรเลย จะสอบเก็บคะแนนอีกไม่กี่วันแล้วด้วย บนโต๊ะข้าว... ทุกคนมานั่งกันพร้อมเหมือนเมื่อวาน และข้าวก็พร้อมเสิร์ฟ แต่ครั้งนี้จะมีบทสนทนาระหว่างทานข้าวด้วย “ พรุ่งนี้เช้าแม่จะบินไปหายายกลับวันเสาร์ กิ่งเป็นลูกสาวคนโต เป็นพี่สาวของน้องๆ แม่ฝากดูแลน้องๆด้วยนะ ” แม่เป็นคนพูดขึ้น นี่ถ้าเป็นเมื่อก่อนนะ ฉันคงขอติดตามไปด้วยแน่ เพราะไม่ค่อยรักเรียนรักเที่ยวมากกว่า “ แล้วป๊าล่ะคะ ” พี่กิ่งถามต่อ ฉันหันไปมองหน้าป๊า มองได้เพียงเสี้ยววินาทีเพราะป๊าหันมาทางฉันพอดี “ ป๊าติดงาน ไม่ได้ไปกับแม่เขา ป๊าจะไปสองวัน จะไปวันนี้เลยเพราะป๊าต้องไปต่างประเทศไปหาปู่ของลูกๆก่อนนะ ทางนี้ลูกสาวป๊าก็ทำหน้าที่พี่สาวไปเลยนะ ดูแลน้องๆให้ดีนะ ขาดเหลืออะไรก็โทรหาป๊าได้ ส่วนหนังสือที่กิ่งอยากได้ป๊าสั่งให้แล้วนะ พรุ่งนี้คงมาส่ง ” เมื่อก่อนคิดเข้าข้างว่าตัวเองมีพ่อที่รักที่เอ็นดูสุดๆในพี่น้องสามคน แต่พอมาตอนนี้ก็เพิ่งคิดได้ว่าทุกคนคือลูกของพ่อ ถ้าพ่อจะรักก็ไม่เห็นจะแปลกเนอะ เมื่อก่อนฉันอาจจะเป็นลูกรักก็จริง แต่ตอนนี้คงกลายเป็นลูกชังไปแล้ว คิดแล้วมันเศร้าเหล้าก็ไม่ได้กิน เฮ้อ~ “ ส่วนแรฟไม่มีเรียนในวันพรุ่งนี้ อย่าลืมไปฟิตร่างกายที่ฟิตเนสด้วยนะ ป๊าจองให้แล้ว แวะไปสนามยิงปืนด้วยนะ ” “ ครับ ” พ่อลูกเขาคุยข้ามหน้าข้ามตากันไป แต่ก็ดี อย่าหันมาสนใจกันเลย ทำตัวไม่ถูก ทำได้เพียงตักข้าวเข้าปากแล้วเคี้ยวตุยๆ ไม่สนว่าใครจะแอบมองไหม เขาให้เป็นลูกในไส้ไม่ไล่ออกจากบ้านก็ดีแค่ไหนแล้ว จะมาเรียกร้องอะไรอีก อีกิ๊ก....ใครเรียกร้อง ไม่มี๊..... ไม่ไหวๆ รีบส่ายหัวไล่ความคิดบ้าๆออกไป “ ส่วนกิ๊กกลับจากโรงเรียนห้ามออกจากบ้านไปไหน โดยเฉพาะร้านเหล้าห้ามไป อยู่บ้านเป็นเด็กดีของพี่ๆนะ อยากได้ของฝากอะไรจากป๊าไหม ” คิดว่าจะไม่ถามอะไรแล้ว “ ไม่...ค่ะ ” ไม่รู้สึกนึกคึกอยากได้อะไรเหมือนเมื่อก่อนเลย ตอนนี้สมองคงไม่โฟกัสอะไรแบบนั้น “ กิ๊กคิดก่อนสิ ป๊าไปต่างประเทศเลยนะ แกมีอะไรที่อยากได้ก็บอกป๊าไปสิ หรือจะเป็นของเล่นที่แกสะสมอยู่ ” พี่กิ่งหันมาพูด ทุกคนเลยหันมาสนใจฉันหมด “ กิ๊กไม่ได้ต้องการมันแล้วค่ะ นี่ว่าจะฝากเพื่อนไปบริจาคให้น้องๆสถานบันยากไร้อยู่เหมือนกัน ” เมื่อก่อนชอบมาก ไม่มีใครได้จับได้ต้องหรอก แต่ในเมื่อโตขึ้นทุกวันเริ่มเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาบ้างแล้ว ก็คิดว่าบริจาคให้คนอื่นที่อยากได้แต่ไม่มีปัจจัยซื้อดีกว่า “ จริงเหรอ ปกติรักของพวกนั้นมากหนิ นึกอะไรถึงอยากบริจาค ” เป็นแม่ที่ถาม “ ไม่ได้นึกอะไรพิเศษค่ะ นึกอยากบริจาคก็จะบริจาคค่ะ ” ตอบแค่นั้นก็ก้มกินข้าวต่อ หลังจากนั้นทุกคนก็พากันกินจนอิ่ม แต่ก่อนที่จะแยกย้ายกันไป “ อะนี่เงินไปโรงเรียนของแรฟหนึ่งพันบาทสองวัน ” “ ขอบคุณครับแม่ ” “ อะนี่ของกิ่งหนึ่งพันบาทเหมือนกัน ” “ ขอบคุณค่ะแม่ ” พอพี่กิ่งเดินไปขึ้นรถ แล้วฉันจะยืนอยู่เพื่อ ก็ทำท่ารีบร้อนเดินตามพี่ๆไปแต่... “ กิ๊กมาเอาเงิน " มีด้วยเหรอ! จำใจต้องเดินกลับไปหาแม่ “ ที่จริงแม่ก็ไม่อยากให้หรอกนะ ยังอยากให้ดัดนิสัยเสียของแกอีก แต่ป๊าแกอยากให้ ” แม่ยื่นใบสีม่วงหนึ่งใบ ใบสีแดงห้าใบ เท่ากับหนึ่งพัน งั้นก็เท่าพี่ๆสินะ แต่ทำไมพ่อไม่ให้เอง แต่ถึงยังไงช่วงนี้ฉันก็ไม่กล้าสู้หน้าพ่อเหมือนกัน แบบนี้ก็ดีแล้วแหละ “ ขอบคุณค่ะ กิ๊กขอสองร้อยค่ะสองวัน เอาตามที่ลงโทษเถอะ สวัสดีค่ะแม่ สวัสดีค่ะป๊า ” พูดจบก็เดินสวยๆออกมาเพื่อจะใส่รองเท้าและไปขึ้นรถ แต่ภายในใจว้าวุ่นเลย เสียดายอะ สองจิตสองใจนะเมื่อกี้ แต่ในเมื่อแม่ไม่เต็มใจให้ ก็ไม่อยากเอาหรอก เมื่อวานก็ผ่านไปได้ ทำไมวันนี้จะผ่านไปไม่ได้เนอะ เมื่อวานได้เงินมาหนึ่งร้อย ก็เหลืออยู่ โรงเรียนTT “ กิ๊กกินข้าวเช้ามายัง ” มิ้มมาถึงก็ถามขึ้น “ กินแล้วๆ ” “ งั้นไปหาขนมกินกัน ” “ พวกแกไปเถอะ ฉันขอลอกการบ้านก่อน มันเป็นการบ้านชิ้นเก่าที่ฉันยังไม่ส่งอะ ขอเคลียร์แป๊บ ” “ ไม่ชินเลย ไม่ชินกับอีกิ๊กที่เป็นแบบนี้อะ มึงใช่กิ๊กเพื่อนพวกเราจริงไหมวะ ” ต้นถาม “ อยากเคลียร์งาน แปลกอะไร เคลียร์ตอนนี้มันดีกว่าตอนใกล้ปิดเทอมนะ ไม่งั้นต้องวุ่นวายแน่ๆ งั้นฝากซื้อนมกับขนมปังสอดไส้ให้ด้วยแล้วกันนะ ” ยื่นเงินไปทางยัยมิ้ม เพื่อนทุกคนพากันไปโรงอาหาร พอทุกคนออกไป ฉันก็ถอนหายใจ... ทางด้านเพื่อนๆ “ กูว่าอีกิ๊กแปลกอะๆ ” วันพูดขึ้น “ เออ ใช่ กูว่ามันแปลกมาก นี่ถ้าบอกว่ามันมีแฝดแล้วส่งแฝดมาเรียน กูเชื่อนะ ” ต้นพูด “ ถ้าพวกเราถาม เชื่อว่าอีกิ๊กไม่บอกหรอก เพราะถ้ามันอยากบอกมันคงบอกไปนานแล้ว น่าจะเป็นเรื่องในครอบครัว งั้นโทรถามพี่แรฟดีกว่า ” มิ้มพูด “ มึงมีเบอร์โทรพี่แรฟด้วยเหรอ? ” พัฒถามอย่างสงสัย “ ไม่ กูมีเบอร์พี่กิ่ง ” “ อ้าว 5555+ อีนี่ ” (“ ฮัลโหล ”) (“ พี่กิ่งคะ นี่มิ้มเพื่อนยัยกิ๊กนะคะ ”) (“ อ๋อจ้ะ มีอะไรเหรอ หรือว่ากิ๊กเป็นอะไรไป ”) (“ ก็น่าจะเป็นนะคะ สองวันมานี้ ยัยนั่นแทบจะไม่พูดเลย ทำแต่งานค้างอย่างเดียว ข้าวปลาอาหาร ขนมนมเนยก็ไม่มากินด้วย มิ้มเลยอยากรู้ว่ามีปัญหาอะไรที่บ้านหรือเปล่าคะ ”) (“ มันเป็นเรื่องภายในครอบครัว พี่ไม่สามารถพูดออกไปได้ แต่พี่จะบอกว่ากิ๊กโดนป๊าลงโทษโดยการลดค่าขนม ”) (“ อ๋อ ค่ะ ”) (“ พี่ขอบัญชีธนาคารมิ้มหน่อยสิ จะโอนเงินให้มิ้มไปซื้อข้าวซื้อขนมให้กิ๊กหน่อย ยัยนั่นไม่ยอมรับจากพี่เลย ”) (“ ไม่ๆ ไม่ต้องเดือดร้อนพี่กิ่งหรอกค่ะ พวกเรารู้ปัญหาแล้ว จะไม่ให้เพื่อนอดแน่นอนค่ะ ยัยนั่นสายเปย์สุดๆกับเพื่อนๆ ในเมื่อเธอลำบากพวกเราจะช่วยเธอเองค่ะ ”) (“ พี่ดีใจแทนกิ๊กที่มีเพื่อนดีๆ ฝากดูแลด้วยนะ ถ้ามีอะไรที่ผิดปกติก็โทรมาบอกพี่ได้ทันทีนะ ”) (“ ค่ะ สวัสดีค่ะพี่กิ่ง ”) พอสายตัดไป พวกเราทั้งสี่คนจ้องหน้ากัน และปรึกษากัน ( Part กิ๊ก ) ข้อสิบตอบอะไรนะ ทำไมยัยวันถึงเขียนแบบนี้อ่านยากจัง ว่าแต่ทำไมพวกมันไปนานจัง ตึก ตึก เสียงฝีเท้าของใครไม่รู้วิ่งมาด้วยความเร็ว แล้วไม่รู้เหรอชั้นบนเขาไม่ให้วิ่งอะ ถ้าครูคนใดคนหนึ่งมาเห็นมีหวังโดนลงโทษแน่ๆ “ กิ๊กแย่แล้ว!!! ” “ มีอะไรวะไอ้ต้น ” “ ยัยวันกับยัยมิ้มแย่แล้ว ” “ มีอะไร ใครทำอะไรพวกมัน ที่ไหนบอกมา ” ปากกาตกจากมือสู่พื้นกระจัดกระจาย แต่ไม่ได้สนใจ รีบวิ่งไปหาเพื่อนชายแล้วถามขึ้นทันที “ ที่ใต้ต้นจามจุรีใกล้เสาธง ” สิ้นเสียงเพื่อนชาย ฉันก็รีบวิ่งในทันที เพื่อไปหาเพื่อนสาว น่าจะมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันประสาผู้หญิง มึงเหยียบเท้ากู กูเหยียบเท้ามึง ประมาณนี้แหละ พอไปถึงที่เกิดเหตุยืนดูครู่เดียว มองเห็นอีกฝ่ายคนเยอะกว่า ส่วนไอ้พัฒก็ทำได้แค่ห้ามปรามแต่ก็ห้ามไม่ได้มาก “ กูมาแล้วเพื่อน ” ฉันพูดขึ้นแล้วก็แทรกเข้าไปตบตีอีฝ่ายตรงข้ามทันที ทั้งเตะทั้งต่อย เสยคาง ต่อยเบ้าตา ต่อยจมูก เอาให้ครบ ฝีมือการต่อสู้ของฉันมันไม่ได้ด้อยไปกว่าพี่แรฟเช่นกัน เป็นพ่อที่แอบสอนลับหลังแม่ให้ตั้งแต่เด็กๆเพื่อเอาไว้ป้องกันตัว “ รุมเพื่อนกูเหรออีหน้าวอก! ” ‘ เพี๊ยะ เพี๊ยะ ’ แต่ละคนใช่ย่อยใส่กันไม่ยั้งมือ กระชากผมกันไม่ปล่อย “ หยุด! นี่คือคำสั่ง!! ” แค่ได้ยินเสียงก็พากันชะงักแล้ว เป็นน้ำเสียงที่หนักแน่นสมกับเป็นครูฝ่ายปกครอง ต่างฝ่ายต่างผละจากกัน สภาพของแต่ละคนยับเยินมาก ขนาดฉันที่เข้ามาหลัง ผมเผ้าชี้ฟู มีรอยแดงที่แขนเป็นรอยถลอก แต่ฝ่ายตรงข้ามโดนฉันต่อยหน้าทุกคนเลยนะ มีเลือดกบปากกันระนาว “ มีอะไรกันหรือเปล่าครับ ครูรณกรณ์ ” เสียงคนที่มาใหม่ดังขึ้น เหมือนเคยได้ยิน แต่พอเห็นหน้ากลับอึ้งยกใหญ่ “ พี่! พี่มาได้ไง ”ยัยวันดูจะตกใจเช่นกัน แต่กลับแปลกใจมากกว่าที่เพื่อนรู้จักผู้ชายคนนี้ด้วย ☢️_________☢️ นามปากกาByMinne
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม