ตอนที่ 4

3373 คำ
4 สามวันผ่านไป ทุกคนพากันมารวมอยู่ที่รังของผู้ชายพันธุ์เถื่อนอีกครั้งเพื่อรายงานความคืบหน้า แต่ทว่าก็ไม่มีอะไรคืบหน้าเลยสักนิด พวกผู้ชายพันธุ์เถื่อนอีกสี่คนยอมลงทุนย้ายคลาสเรียนไปเรียนภาษาญี่ปุ่นเหมือนบีเอ เพื่อจะช่วยสืบหาความจริง และตะล่อมถามเบาะแสอื่นๆ จากพวกนักเรียนหญิง แต่ก็ไม่ได้เรื่องอะไรเลยสักอย่าง เป็นการลงทุนที่เสียเปล่าเลยก็ว่าได้ “สามวันที่ผ่านมา จากที่พวกฉันพยายามไปคลุกคลีกับนักเรียนหญิงพวกนั้น ฉันจับจุดได้อย่างหนึ่งคือ พวกเธอไม่อยากพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น =_=” บีวายบอก “ใช่แล้ว ทั้งที่ฉันทั้งอ่อย ทั้งยั่ว สารพัดที่จะทำ ก็ยังง้างปากพวกเธอไม่ได้เลยสักคน” “ถนัดเหลือเกินนะยะไอ้ยั่วผู้หญิงเนี่ย!” ฉันพูดแทรกพร้อมกับดึงหูบีเอ็มขึ้นลงอย่างหมั่นไส้ จนเขาร้องโอดครวญดังลั่น “เจ็บนะคะที่รัก เจ็บๆๆ โอ๊ยๆ TOT” “ฉันว่างานนี้เราคงไม่ได้กินหมูอย่างที่บีโอพูดจริงๆ นั่นแหละ”รุ่นพี่สโนว์ไวท์พูดพลางถอนหายใจเสียงดัง “ไม่หรอก เรายังมีหนทางที่จะกินหมูอยู่นะ” รุ่นพี่ออโรร่าเอ่ย เธอเหยียดยิ้มมุมปากคล้ายกับว่ามีแผนบางอย่างอยู่ในใจ “เธอมีแผนงั้นเหรอ -*-“ บีโอถาม “ใช่แล้ว” “แผนอะไรของเธอ =_=” บีวายถามต่อ “ก็ฟังจากที่พวกนายเล่ามา ฉันคิดว่ามันน่าจะเป็นเพราะความต่างเรื่องเพศยังไงล่ะ” “ความต่างเรื่องเพศ? ยังไงเหรอ” บีไอรีบถาม “อ๊ะ! เข้าใจแล้ว แสดงว่างานนี้มีแค่พวกเราห้าคนสินะที่ทำได้น่ะ” ราพันเซลชี้นิ้วไปที่พวกเราห้าคน แต่ผู้ชายพันธุ์เถื่อนทั้งห้าต่างก็เบิกตากว้างอย่างตกใจ ฉันองก็ตกใจนะ ยังไม่เข้าใจเลยว่าที่รุ่นพี่ออโรร่าพูดมันหมายความว่ายังไง -*- “เฮ้ๆ อะไรของเธอยัยคุณหนู หมายความว่ายังไงที่ว่ามีแต่พวกเธอห้าคนที่ทำได้น่ะ!” “บอกมาเดี๋ยวนี้นะว่าคิดอะไรกันอยู่ =_=” บีวายถามเสียงเขียว “พวกนายยังไม่เข้าใจอีกเหรอ ถึงแม้ว่าพวกผู้หญิงในคลาสจะคลั่งไคล้พวกนายมากแค่ไหนก็ตาม แต่มันก็ยังมีช่องว่างอยู่ ช่องว่างที่ทำให้พวกเธอเปิดใจคุยกับพวกนายไม่ได้ยังไงล่ะ” รุ่นพี่ออโรร่าอธิบาย “ฉันรู้แล้วค่ะ ช่องว่างเรื่องเพศใช่มั้ยคะ” มู่หลานหันไปถามรุ่นพี่ออโรร่า เธอพยักหน้ารับก่อนจะเอ่ยต่อ แม้แต่มู่หลานยังเข้าใจแล้ว แล้วฉันล่ะ…ทำไมถึงยังไม่เข้าสักที T^T “ผู้หญิงน่ะนะเป็นเพศที่ชอบปรึกษากัน เวลามีเรื่องอะไรไม่สบายใจก็จะเล่าให้เพื่อนสนิทหรือว่าคนเพศเดียวกันฟังเท่านั้น พวกต่างเพศน่ะหมดสิทธิ์” “เดี๋ยวนะ เธอคงไม่ได้กำลังจะบอกว่า...พวกเธอห้าคนจะขอเข้าไปทำภารกิจนี้เองหรอกใช่มั้ย” บีไอถาม รุ่นพี่สโนว์ไวท์เป็นคนพยักหน้ารับ เข้าใจละ! ที่รุ่นพี่ออโรร่าพูดมาทั้งหมดมันหมายถึงหญิงถึก ไม่สิ หญิงแกร่งอย่างพวกเราเท่านั้นที่จะทำภารกิจนี้ได้สำเร็จ >___ด้านสโนว์ไวท์ เธอได้รับมอบหมายให้มาสืบหาเบาะแสที่วิชาภาษาฝรั่งเศส ในคลาสเรียนทุกอย่างปกติดีอย่างที่บีวายบอกทุกอย่าง สโนว์ไวท์เลือกนั่งที่นั่งติดริมหน้าต่าง ซึ่งอยู่ด้านหลังเด็กนักเรียนหญิงคนหนึ่งที่ปลีกวิเวกมานั่งอยู่คนเดียวเช่นเดียวกับเธอ “สวัสดี ฉันชื่อสโนว์ไวท์นะ เรียกสโนว์ก็ได้ เธอล่ะ ชื่ออะไรเหรอ?” สโนว์ไวท์พยายามชวนคุย แต่นักเรียนหญิงคนนั้นกลับนิ่งเฉยและทำเหมือนเธอไม่มีตัวตน “ยัยนั่นก็เป็นแบบนี้แหละ ตั้งแต่เข้ามาเรียนคลาสนี้ เอาตรงๆนะ ฉันยังไม่เคยได้ยินเสียงยัยนี่เลยสักครั้งเดียว ไม่รู้ว่าอมอะไรไว้ในปาก” นักเรียนหญิงที่นั่งถัดไปจากสโนว์ไวท์กระซิบบอก “งั้นเหรอ…แล้วเธอรู้มั้ยว่าเขาชื่ออะไร” “รู้สึกจะชื่อวีนานะ เธอสนใจเหรอ นี่แสดงว่าเธอเป็นทอมอย่างที่ฉันคิดจริงๆใช่มั้ยเนี่ย” “เฮ้ย! เปล่านะๆ ฉันไม่ใช่ทอม” สโนว์ไวท์รีบออกตัวปฏิเสธและหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านแทนเพื่อหลบเลี่ยงคำถามที่อาจจะเกิดขึ้น โดยที่เธอยังคงลอบมองวีนาที่เอาแต่ก้มหน้าเงียบไม่ยอมพูดยอมจากับใคร ด้านมู่หลาน มู่หลานได้รับหน้าที่ให้มาสืบหาเบาะแสในคลาสเรียนภาษาญี่ปุ่น เพราะเธอชอบฟังประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นที่บีเอชอบเล่าแต่ไม่เคยมีใครสนใจฟังนอกจากเธอ มู่หลานก็เลยเลือกที่จะมาสืบหาเบาะแสในคลาสเรียนนี้ เพราะเธอจะได้ฝึกภาษาญี่ปุ่นที่เธอชอบไปด้วยในตัว “นักเรียนใหม่เหรอคะ?” ติวเตอร์ที่สอนอยู่หน้าชั้นเอ่ยถาม มู่หลานที่เลือกที่นั่งด้านหน้าสุดต่างจากคนอื่นๆที่กระจายกันนั่งอยู่ตรงกลางห้องพยักหน้ารับ “ค่ะ หนูชื่อมู่หลานค่ะ ^^” มู่หลานยิ้มกว้างอย่างโล่งใจ เพราะเธอรู้สึกได้ว่าติวเตอร์คนนี้น่าจะใจดี ไม่ดุเหมือนครูสอนภาษาไทยที่โรงเรียนแน่ๆ “ชื่อน่ารักมากเลยค่ะ ครูชื่อมิโกะนะคะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ” ครูมิโกะส่งยิ้มหวานให้อย่างจริงใจ มู่หลานรู้สึกถูกชะตากับครูคนนี้เข้าเสียแล้ว เธอถามนู่นถามนี่เกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นอย่างสนอกสนใจ และครูมิโกะเองก็ยินดีตอบพร้อมกับมีเรื่องราวมากมายของญี่ปุ่นมาเล่าให้เธอฟัง ทั้งสองเริ่มสนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว ฉันนั่งเคาะพวงมาลัยรอพวกสาวๆที่ใกล้จะได้เวลาเลิกเรียนของพวกเธออยู่หน้าร้านกาแฟไม่ไกลกับโรงเรียนกวดวิชา ไม่นานนักราพันเซลกับรุ่นพี่ออโรร่าก็เดินออกมา พวกเธอรีบกระโจนขึ้นรถทันทีที่คิดว่าปลอดภัย แล้วรุ่นพี่สโนว์ไวท์กับมู่หลานล่ะ? “เฮ้อ! ให้ตายสิ อากาศร้อนเป็นบ้าเลย ฉันรู้สึกอยากจะใส่บิกินี่นอนในห้องแช่เย็นมากๆ” ราพันเซลบ่นทันทีที่ก้าวขึ้นมาบนรถ เหงื่อเม็ดเท่าหัวแม่โป้งไหลย้อยเต็มใบหน้าของเธอ ฟังดูน่าสงสารมากๆเลยแฮะ เร่งแอร์ให้หน่อยดีกว่า เดี๋ยวคุณหนูของฉันจะร้อนจนสติแตกใส่บิกีนี่เดินเข้าไปนอนในห้องแช่จริงๆ =__=;; “เป็นยังไงบ้าง มีอะไรน่าสงสัยบ้างมั้ย” ฉันรีบถามต่อทันที ก็หน้าที่คนรวลรวมข้อมูลมันคือหน้าที่ของฉันนี่นา ถ้าไม่มีอะไรใส่ไว้ในสมองเลยเกิดอีตาห้าคนนั้นถามความคืบหน้าแล้วฉันไม่รู้อะไรเลยมีหวังโดนรุมตื๊บแหงๆ “ไม่มีอ่ะ ไม่ได้อะไรเลยสักอย่างเดียว” ราพันเซลตอบ “ของฉันก็ด้วย ทุกอย่างก็ดูปกติดีนะ คงต้องสืบต่อไปเรื่อยๆนั่นแหละ พวกนั้นคงจะระวังตัวกันมาก เราไม่น่าจะได้เบาะแสอะไรมาง่ายๆหรอก” ฉันเห็นด้วยกับรุ่นพี่ออโรร่านะ งานนี้มันคืองานใหญ่และเสียงต่อการถูกล้างบางเป็นอย่างมาก พวกมันคงไม่ทำอะไรชุ่ยๆหรือทำอะไรให้เป็นที่สะดุดตาผู้คนแน่ๆ “มู่หลานมานั่นแล้ว!” ราพันเซลชี้ไปที่อีกฟากของถนน มู่หลานกำลังมองซ้ายมองขวาเพื่อรอจังหวะรถว่าง ใบหน้าเธอดูอิ่มเอมมีความสุขจังเลยนะเนี่ย ต้องไปเจออะไรดีๆมาแน่ๆเลย ครืด! มู่หลานเปิดประตูขึ้นรถมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ฉัน ราพันเซลและรุ่นพี่ออโรร่ามองหน้ากันอย่างแปลกใจในท่าทางของมู่หลาน “มีอะไรดีๆหรือเปล่ามู่หลาน ยิ้มไม่หุบเลยนะ” ฉันเอ่ยถามอย่างสงสัย มู่หลานยิ้มหนักยิ่งกว่าเดิม เอาเข้าไป ฉันว่าขืนยิ้มแบบนี้บ่อยๆมู่หลานได้กลายเป็นบ้าแน่ๆ -*- “ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ฉันแค่รู้สึกว่าการเรียนวันนี้มัน…สนุกมากกกกก มากจริงๆค่ะ ^O^” ฉันเชื่อแล้วล่ะว่ามาก ดูจากปากที่เธอใช้ยิ้มมันกว้างจนแทบจะอมหัวราพันเซลที่อยู่ตรงหน้าไปรอมร่อซะขนาดนั้น “แล้วได้เจอครูมิโกะที่บีเอพูดถึงมั้ย” ราพันเซลถาม มู่หลานพยักหน้ารับทันที “เจอค่ะ ครูมิโกะเป็นคนใจดีมากๆเลยนะคะ ฉันว่ารุ่นพี่บีเอคงระแวงมากไป ไม่มีอะไรหรอกค่ะ” มู่หลานตอบพลางยิ้มอย่างอารมณ์ดี พวกเราสามคนมองหน้ากันก่อนที่รุ่นพี่ออโรร่าจะพยักหน้าให้เป็นเชิงให้เลยตามเลย มู่หลานว่ายังไงก็ว่าตามนั้นไปก่อน “ว่าแต่…ทำไมสโนว์ถึงยังไม่มาอีกนะ” ราพันเซลเปลี่ยนเรื่อง เธอชะเง้อมองหารุ่นพี่สโนว์ไวท์จนคอจะยืดออกมาเป็นยีราฟอยู่แล้ว “นั่นสิ เกิดอะไรขึ้นกับรุ่นพี่สโนว์หรือเปล่า” ฉันตั้งคำถามขึ้น รุ่นพี่ออโรร่าลูบคางอย่างใช้ความคิด “ใจเย็นๆน่า นี่เพิ่งเลยเวลาเลิกคลาสมาแค่ไม่กี่นาทีเอง สโนว์อาจจะกำลังหาเบาะแสอะไรอยู่ก็ได้ อย่าเพิ่งคิดมากสิ” ราพันเซลพูด เธอจับมือฉันเอาไว้แน่นเพื่อให้กำลังใจ “อ๊ะ! อายุยืนซะจริง พูดถึงก็มาเลย” รุ่นพี่ออโรร่าชี้ไปทางรุ่นพี่สโนว์ไวท์ที่กำลังจะเดินมาที่รถ สงสัยฉันคงคิดมากไปเองล่ะมั้ง ช่วงนี้มีแต่ปัญหาทำให้จิตใจฉันไม่ค่อยเป็นสุขเหมือนเมื่อก่อน และกังวลไปกับทุกๆเรื่อง “เป็นยังไงบ้างสโนว์ ได้เบาะแสอะไรมั้ย” ราพันเซลรีบถาม “ไม่เลย บางทีพวกเราอาจจะต้องใช้เวลาอีกสักพัก -_-“ รุ่นพี่สโนว์ไวท์ตอบ แต่ทำไมหน้าตาถึงได้ดูเหมือนมีเรื่องอะไรในใจแบบนั้นนะ คล้ายกับว่ารุ่นพี่สโนว์ไวท์กำลังสงสัยอะไรอยู่ “ฉันว่าเธอกำลังมีบางอย่างในใจนะสโนว์ ใช่มั้ย” รุ่นพี่ออโรร่าที่คงจะสังเกตเห็นเหมือนกับฉันเอ่ยถามพลางหรี่ตาลงอย่างจับผิด แต่สายตานิ่งๆของรุ่นพี่สโนว์ไวท์ที่ส่งกลับมามันทำให้ไม่มีใครกล้าเอ่ยคามอะไรต่อไป “ไว้พร้อมจะเล่าเมื่อไหร่ ก็ค่อยเล่าละกัน ฉันจะรอฟัง” รุ่นพี่ออโรร่าพูดถูก ถึงแม้ว่ารุ่นพี่จะสโนว์ไวท์จะไม่ได้เล่าสิ่งที่เธอคิดให้พวกเราฟัง แต่ฉันก็เชื่อมั่นในความคิดและการตัดสินใจของรุ่นพี่สโนว์ไวท์ เธอจะต้องคิดหาทางออกที่ดีที่สุดให้กับเรื่องนี้ไว้อย่างแน่นอน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม