ตอนที่ 3

3682 คำ
3 ในที่สุดวันปฏิบัติภารกิจก็มาถึง เหล่าผู้ชายพันธุ์เถื่อนทั้งห้ามาถึงโรงเรียนกวดวิชาก่อนเริ่มคลาสเรียนเกือบครึ่งชั่วโมง โดยที่ทั้งห้าสาวพากันไปทำกิจวัตรประจำวันตามปกติ พวกเขายืนเก้ๆกังๆอยู่ที่ทางเข้าพลางมองสำรวจตึกของโรงเรียนนี้ที่ดูจากภายนอกแล้วก็หรูและดูดีไม่เบา “บรรยากาศไม่ค่อยให้ความเป็นผู้ร้ายเลยนะ ไอ้โรงเรียนนี้น่ะ” บีเอ็มพูดขึ้น “ใช่ เมื่อวานตอนฉันกับบีโอมาลงสมัครเรียน ทุกคนก็ให้การต้อนรับดีนะ ดูแลดีมากๆเลยด้วย ให้บรรยากาศเหมือนครอบครัวมากกว่าจะเป็นสถานที่ลักพาตัวันกเรียนหญิงซะอีก” บีไอบอก เมื่อวานเขากับบีโอมาทำการสมัครเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้เพื่อดูเชิงของติวเตอร์และพนักงานคนอื่นที่อยู่ที่นี่ก่อนว่ามีลักษณะเป็นยังไง แต่ทุกอย่างก็เป็นปกติเหมือนโณงเรียนสอนกวดวิชาที่อื่นๆทั่วไป ซ้ำโรงเรียนนี้ยังจะดูเทคแคร์ดีกว่าเสียอีก “สวัสดีค่าาา คุณชายทั้งหลาย เป็นนักเรียนใหม่ใช่มั้ยค้า พี่เชอรี่ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนเลย” กระเทยร่างยักษ์ที่อยู่ในชุดยูนิฟอร์มของพนักงานที่นี่เดินเข้ามาหาพวกเขาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ทั้งห้าคนต้องแสร้งยิ้มรับไปเพื่อไม่ให้น่าสงสัย “ว่าแต่เรียนวิชาอะไรกันเหรอคะ มีอะไรอยากจะให้พี่เชอรี่ช่วยมั้ย” “เอ่อ…คือพวกผมกำลังจะไปห้องเรียนน่ะครับ แต่ไม่แน่ใจว่าห้องเรียนอยู่ตรงไหน” บีไอทำหน้าที่เป็นคนตอบแทนเพื่อนๆของเขาที่พากันหันหน้าหนี “ถ้าเรื่องนี้ล่ะก็เดี๋ยวพี่เชอรี่ช่วยเองค่ะ นี่ก็ยังไม่ถึงเวลาเริ่มคลาสเลย งั้นเราไปนั่งคุยกันตรงนู้นก่อนดีมั้ยคะ พี่เชอรี่จะได้บอกกติกาการเรียนที่นี่ให้ทุกคนฟังด้วย อ๊ะ…หรือว่าวันมาสมัครเขาบอกกันหมดแล้วคะ?” “ยังครับๆ กติกาอะไรเหรอครับ?” บีไอรีบถาม “งั้นเชิญนั่งที๋โซฟาดีกว่าค่ะ เดี๋ยวพี่เชอรี่จะอธิบายเอง” ทั้งห้าคนพยักหน้ารับเดินไปนั่งที่โซฟาอย่างว่าง่าย ระหว่างที่จะไปนั่งที่โซฟา พวกเขาก็สังเกตเห็นชายชุดดำยืนกระจัดกระจายอยู่หลายจุด แต่ละคนมีใบหน้าถมึงทึงดูน่ากลัว “เอ่อ…ผู้ชายพวกนั้นนี่ใครกันเหรอครับ” บีเอ็มเอ่ยถามเพราะทนเก็บความสงสัยต่อไปไม่ไหว “อ๋อ! คนพวกนั้นเป็นรปภ.ค่า ยามน่ะค่ะยาม” “หน้าอย่างกะโจร =O=;” บีเอ็มเผลอพูดออกมาเสียงดัง “เอ๊ะ? เมื่อแต่กี้คุณชายว่าอะไรนะคะ? พี่เชอรี่ได้ยินอะไรโจนๆ” “เอ่อ..ผม…ผม…อ้อ! ผมบอกว่าพี่เชอรี่หน้าเหมือนแมรี่ โจนส์ เลยน่ะครับ เหมือนม้ากมาก >_////____ด้านบีเอ็ม ในคลาสเรียนภาษาเกาหลีของเขาเต็มไปด้วยผู้หญิงกับสาวประเภทสอง บีเอ็มได้แต่นั่งตัวลีบอยู่ที่กลางห้องเพราะเขิน เนื่องจากว่าตอนนี้ไม่มีใครสนใจเรียนเลยสักคนเดียว ทุกคนพากันพุ่งเป้าความสนใจมาที่เขา บางคนก็หยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปเขาเอาไว้จนบีเอ็มต้องแกล้งหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านเพื่อปิดหน้า “มาใหม่ใช่มั้ยคะ ฉันชื่อแวววาวนะ ยินดีที่ได้รู้จัก” หญิงสาวแสนสวยหน้าอกอวบอิ่มตรงสเป็กของบเอ็มพูดขึ้นพร้อมกับเดินเข้ามาคล้องแขนเขาเอาไว้ทำตัวเป็นเจ้าของ ขนาดบีเอ็มลงทุนแปลงโฉมให้กลายเป็นหนุ่มติ๋ม แต่เสน่ห์เหลือร้ายของเขาก็ไม่ได้ลดลงไปเลยสักนิด มันยังคงฮอตจนแทบจะลุกเป็นไฟเหมือนเดิม “ส่วนฉันชื่ออินดี้นะคะ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน” ผู้หญิงอีกคนหนึ่งเดินเข้ามาบ้าง บีเอ็มนั่งอ้าปากหวอเมื่อแขนทั้งสองข้างถูกหญิงสาวทั้งสองคนดึงเข้าหาตัวเอง “ส่วนฉันชื่อยาหยีค่ะ” “ฉันชื่ออะตอม”และอีกมากมายที่เรียงคิวมาแนะนำตัวกับบีเอ็ม ร่างของบีเอ็มเอนไปทั้งนั้น เอนมาทางนี้ทีเพราถูกกระชาก เขานั่งตาเยิ้มอย่างอารมณ์ดีที่ถูกผู้หญิงพากันรุงแย่งพลางนึกใจว่า… นี่ถ้าไม่ติดว่าสัญญากับสุดที่รักไว้แล้วล่ะก็นะ...ฮึ่ย! พ่อจะไม่ปล่อยให้รอดไปเลยสักคน พับผ่าสิ T^T ด้านบีเอ เขามาถึงห้องเรียนภาษาญี่ปุ่นได้ทันเวลาพอดี ซึ่งในห้องส่วนมากคนที่เรียนภาษาญี่ปุ่นจะเป็นนักเรียนหญิง เขาก็เลยค่อนข้างที่จะเป็นจุดสนใจอยู่มากทีเดียว นักเรียนหญิงบางคนถึงกับเอาโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูปเขาเก็บเอาไว้แต่ก็ไม่มีใครกลฃ้าที่จะเดินเข้าไปคุยด้วย บีเอพยายามทำเป็นไม่สนใจและตั้งหน้าตั้งตาฟังอาจารย์สอน โดยที่ยังคงลอบสังเกตพฤติกรรมของทุกคนในห้อง ไม่เว้นแม้แต่อาจารย์ผู้สอนที่ดูใจดีคนนั้น... ด้านบีวาย คลาสเรียนในวันนี้ของเขาคือการจำลองงานปาร์ตี้สไตล์ฝรั่งเศส ทำให้เขาต้องเข้าจับกลุ่มรวมกับนักเรียนคนอื่นๆ แต่นักเรียนชายในคลาสเดียวกันไม่มีใครต้อนรับเขาสักคน เพราะทุกคนหมั่นไส้ที่นักเรียนหญิงในคลาสเอาแต่มองเขา “อยู่กลุ่มฉันก็ได้นะคะ” นักเรียนหญิงคนหนึ่งพูด บีวายหันไปมองต้นเสียง แล้วก็ต้องผงะ เพราะนักเรียนหญิงที่มาชวนเขาเข้ากลุ่มนั้นมีลักษณะเหมือนมู่หลานมาก ถึงหน้าตาจะไม่เหมือนกันแม้แต่น้อยก็ตาม “เอ่อ...ขอบคุณมากครับ” เขาตอบ “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันยินดี” หญิงสาวตอบพลางหลบตาอย่างเขินอาย แต่ยังไม่ทันที่บีวายจะได้เดินตามไปนั่งที่กลุ่มของหญิงคนดังกล่าว ผู้หญิงอีกกลุ่มหนึ่งก็วิ่งมาดึงเขาไว้เสียก่อน “อยู่กับฉันดีกว่านะคะ กลุ่มฉันชาดคนอยู่พอดีเลยค่ะ” “เอ่อ…” “แต่เขาตกลงจะอยู่กลุ่มฉันแล้วนะ” หญิงสาวคนแรกท้วงขึ้น “ก็ฉันจะให้อยู่กลุ่มฉันนี่ เธอมีปัญหาอะไรหรือไง” “ปะ…เปล่าจ้ะ” “งั้นไปอยู่กลุ่มฉันดีกว่านะคะ มาค่ะ” แล้วบีวายก็ถูกลากไปได้สำเร็จ เขาได้แต่เก็บอารมณ์มาคุไว้ในใจ ถ้าไม่ติดว่ากลัวแผนจะแตก เขาคงอาละวาดและด่าผู้หญิงคนนี้จนเธอเผ่นแน่บกลับบ้านไปแล้ว ด้านบีไอกับบีโอ ในคลาสของพวกเขานอกจากติวเตอร์ที่อยู่หน้ากระดานแล้ว ก็มีแค่เขากับเด็กผู้หญิงที่ใบหน้าเต็มไปด้วยสิว มัดผมแกละสองข้าง และข้าวของเครื่องใช้ก็เป็นสีชมพูไปหมดทั้งโต๊ะเท่านั้น บีโอเลือกที่นั่งติดริมประตูห้อง เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินอะไรเขาจะได้วิ่งหนีได้ทัน “คะ...คลาสเรียนนี้คนน้อยจังนะครับ” บีไอเอ่ยถามติวเตอร์ที่เอาแต่นั่งก้มหน้ามาตั้งแต่ก่อนที่พวกเขาจะเข้ามาถึง และเมื่อสิ้นคำถามของบีไอ ติวเตอร์คนนั้นก็เงยหน้าขึ้น ซึ่งนั่นทำเอาพวกเขาแทบจะลุกพรวดวิ่งออกจากห้องไปทันที เพราะหน้าตาของติวเตอร์กับนักเรียนหญิงอีกคนที่นั่งอยู่ริมหน้าต่างนั้นเหมือนกันอย่างกับแกะ บีโอกับบีไอลูบแขนตัวเองที่ตอนนี้ขนแขนพากันตั้งชันทั้งแถบด้วยความขนลุก “เพราะสมัยนี้ทุกโรงเรียนเขาก็เน้นภาษาอังกฤษและเรียนหลักสูตรอินเตอร์กันเกือบหมดน่ะสิ นักเรียนส่วนมากก็เลยไม่ค่อยมาเรียนกวดวิชาภาษาอังกฤษกัน แต่ครูก็ดีใจนะที่เธอเลือกมาเรียนคลาสนี้ ก่อนหน้าที่ครูจะเข้ามาสอนที่นี่ ก็ได้ข่าวมาว่าคลาสของเราเป็นคลาสที่ฮอตที่สุด แต่ไม่รู้ทำไม พอติวเตอร์คนอื่นๆ ลาออกจนเหลือแค่ครู นักเรียนที่เคยเรียนก็หายไปจนหมด เหลือแต่ซาร่าจังคนนี้เท่านั้นแหละที่ยังเรียนกับครู” ติวเตอร์ผายมือไปที่นักเรียนหญิงคนดังกล่าว ซาร่าจังที่ถูกพูดถึงค่อยๆ หันมาส่งยิ้มให้กับพวกเขา แต่ยิ้มของเธอทำเอาเขาหลอนไปเลยทีเดียว “ผมคิดว่าผมรู้นะครับว่านักเรียนพวกนั้นหายไปไหนกันหมด” บีไอเอ่ยขึ้น “จริงเหรอ! ทำไมล่ะ?” ติวเตอร์รีบถามอย่างร้อนรน บีไอได้แต่ส่งยิ้มแห้งๆ ไปให้แต่ไม่ยอมตอบ ก็จะให้ตอบไปได้ไงล่ะว่าเขาคิดว่าสาเหตุที่นักเรียนและติวเตอร์คนอื่นๆ พากันลาออกจากคลาสจนหมดน่าจะมาจากอาการหลอนที่เกิดขึ้นจากความกลัวติวเตอร์และเพื่อนร่วมคลาสอย่างซาร่าจังน่ะ ตัดคลาสนี้ออกไปได้เลย เฮ้อ! รังของผู้ชายพันธุ์เถื่อน “พวกเราลงมติกันแล้ว ว่าคลาสที่น่าสงสัยที่สุดคือคลาสภาษาญี่ปุ่น” บีไอบอก หลังจากเรียนกวดวิชาเสร็จ พวกผู้ชายพันธุ์เถื่อนก็โทรตามพวกเราทั้งห้าคนให้มารวมตัวกันที่บ้านของพวกเขา เห็นบอกว่าได้เบาะแสชิ้นสำคัญมากๆมาแล้ว “ทำไมล่ะ พวกฉันขอเหตุผลประกอบด้วยได้มั้ย” รุ่นพี่ออโรร่าถามขึ้น “งั้นข้อแรกนะ คลาสภาษาอังกฤษที่ฉันกับไอ้บีไอไปเรียนตัดทิ้งไปแทบจะในทันทีได้เลย เพราะในคลาสนอกจากพวกฉันสองคนแล้ว ก็มีแค่นักเรียนหญิงที่หน้าตาหลอนมากๆ อีกคนหนึ่ง กับติวเตอร์ที่หลอนไม่แพ้กัน ทั้งคลาสก็มีแค่นี้แหละ ฉันคิดว่า…ไม่สิ ฉันโคตรมั่นใจว่าไม่น่าจะมีอะไรเกี่ยวข้องกันได้เลย แต่ถ้าจะให้พุ่งเป้าไปที่มีมนุษย์กินคนแทนการค้ามนุษย์ล่ะก็...โอเค สองคนนี้น่าสงสัยที่สุดในโลกเลย” บีโอเอ่ยปากเล่าเป็นคนแรก ท่าทางของเขาเวลาเล่าถึงสองคนนั้นดูจริงจังมาก สงสัยจะหน้าตาน่ากลัวจริงๆแฮะ-*- “มะ...มนุษย์กินคนเหรอคะ?” มู่หลานทวนคำด้วยน้ำเสียงหวั่นกลัว “เธอคงไม่ได้คิดจริงจังหรอกใช่มั้ย =_=” บีวายถามอย่างรู้ทัน มู่หลานรีบส่ายหน้าปฏิเสธ เธอคงกลัวเขาจะหาว่าเธอติงต๊องนั่นแหละ “แต่ว่าพวกเราสองคนก็ได้เบาะแสจากติวเตอร์ของคลาสภาษาอังกฤษที่บอกมาว่าคลาสภาษาญี่ปุ่นของที่โรงเรียนกวดวิชานั่นดังมาก มีนักเรียนอยากจะเรียนเต็มไปหมดเลยล่ะ” บีไอเสริมต่อ อย่างน้อยติวเตอร์หน้าหลอนของพวกเขาสองคนก็มีประโยชน์ล่ะนะ >_< “ใช่ และส่วนมาก ไม่สิ ทั้งหมดเป็นนักเรียนหญิงหน้าตาดีทั้งนั้น วันนี้นอกจากฉันแล้วก็ไม่มีผู้ชายเลยสักคนเดียว ถ้าสาเหตุที่นักเรียนหญิงทั้งหมดหายตัวไปมาจากขบวนการค้ามนุษย์จริงๆ ฉันคิดว่าเป้าหมายก็น่าจะเป็นนักเรียนในคลาสนี้ แต่ใครจะเป็นคนทำนั้น ฉันยังหาเบาะแสไม่ได้ -_-“ บีเอบอก “ส่วนคลาสภาษาเกาหลีของฉัน จริงอยู่ว่าส่วนมากเป็นนักเรียนหญิง แต่พอฉันลองถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และลองแอบๆ ถามว่าที่คลาสภาษาเกาหลีมีนักเรียนหายตัวไปบ้างมั้ย ทุกคนในห้องก็ยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่มีใครในคลาสหายไป และก็ไม่เคยมีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นในคลาสด้วยครับ แต่ก็มีนักเรียนหญิงคนหนึ่งที่แอบมาคุยกับฉันตอนเลิกคลาสว่าเพื่อนร่วมชั้นที่โรงเรียนของเธอเรียนคลาสภาษาญี่ปุ่นและก็เป็นหนึ่งในนักเรียนหญิงที่หายตัวไปด้วย” บีเอ็มบอกสีหน้าจริงจัง แต่คำพูดของเขามันสะกิดใจฉันขึ้นอย่างหนึ่ง ก่อนจะนึกเอะใจมองสำรวจทั่วร่างกายของเขา แล้วก็ไปจ๊ะเอ๋เข้ากับบางสิ่งบางอย่างตรงอกเสื้อ หน็อยแน่…อุตส่าห์บอกไปแล้วเชียวว่าอย่าไปทำตัวใจง่ายกับใคร…ไอ้ตุ๊ดหื่น วันนี้นายชะตาขาดแน่! “แสดงว่าคลาสของนายเองก็มีแต่ผู้หญิงงั้นสินะ ถ้าอย่างนั้นไอ้รอยลิปสติกที่หน้าอกเสื้อของนายนี่ก็...” ฉันถลึงตามองเขาพร้อมกับขึ้นเสียงสูงใส่ พลางชี้ไปที่อกข้างซ้ายซึ่งมีรอยลิปสติกสีแดงเป็นรูปริมฝีปากอวบอิ่มติดอยู่ บีเอ็มสะดุ้งสุดตัว เขารีบก้มลงมองไปยังหน้าอกซ้ายของตัวเอง ก่อนจะค่อยๆเงยหน้ามองฉันด้วยสีหน้าหวาดหวั่น “คือว่าเค้า…T_T” บีเอ็มชะงักไปพลางมองไล่ตามสายตาของฉันที่กำลังจ้องไปที่เป้ากางเกงของเขา ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของน้องชายสุดที่รักของเขานั่นเอง “เละแน่!” ฉันขึ้นเสียงดังลั่นพร้อมกับทำท่าเชือดเฉือนอะไรสักอย่างกลางอากาศ บีเอ็มผวารีบกุมเป้าของตัวเองไว้ทันที “เรื่องของสามีภรรยาไว้ไปเคลียร์กันในห้องดีกว่านะ ^^” บีไอรีบเข้ามาห้ามทัพ ฉันพยายามสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆเพื่อระงับอารมณ์ที่ใกล้จะทะลุปรอทเต็มที “ขึ้นห้องไปเมื่อไหร่นายตายสถานเดียวแน่ ไอ้ตุ๊ด!” ฉันคาดโทษ บีเอ็มได้แต่ก้มหน้าจ๋อยรอรับชะตากรรม “แล้วคลาสเรียนของรุ่นพี่ล่ะคะ เป็นยังไง” มู่หลานหันไปถามบีวายที่เอาแต่นั่งปิดปากเงียบมาตั้งแต่พวกเรามาถึง “ของฉันไม่มีอะไรน่าสงสัยหรอก ที่คลาสถึงจะมีทั้งหญิงและชายปะปนกัน แต่ทุกคนก็มักจะมากันเป็นกลุ่มๆ และจากที่ดูๆ ก็ไม่มีใครในคลาสหายตัวไปสักคน แถมเท่าที่ลองไปสอบถามมา นักเรียนที่หายไปทั้งหมดจะเรียนอยู่ในคลาสภาษาญี่ปุ่น” “ถ้าอย่างนั้นคลาสเรียนภาษาญี่ปุ่นก็น่าสงสัยที่สุดสินะ” ฉันพูดขึ้น ตอนนี้ขอพักเรื่องเจื๋อนน้องชายของอีตาบีเอ็มทิ้งไปก่อน “จุดเชื่อมโยงอีกหนึ่งจุดคือคลาสเรียนนี้สินะ ไม่สิ ยังไงก็ยังวางใจคลาสเรียนอื่นๆไม่ได้ เพราะจากหลักฐานที่หามา ก็ยังไม่ได้ระบุอย่างชี้ชัดว่าคนที่หายไปจะเป็นนักเรียนในคลาสญี่ปุ่นทั้งหมด” ราพันเซลพูดขึ้นบ้าง “ยังไงพวกผมจะลองสืบจากนักเรียนที่ยังเหลืออยู่ในคลาสแล้วกันครับ -_-“ บีเอหันไปตอบเธอ “งั้นก็ตามนี้ตอนนี้คงทำได้แค่ภาวนาขอให้พวกนายหาเบาะแสอะไรที่มันจะชี้ชัดได้มากกว่านี้เท่านั้นแหละนะ” รุ่นพี่ออโรร่าถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย “แล้วในคลาสภาษาญี่ปุ่น ใครดูน่าสงสัยที่สุดวะ -*-“ บีโอเอ่ยถามขึ้นมาอีก บีเอนิ่งไป สีหน้าเหมือนกำลังครุ่นคิด “ฉันไม่รู้ แต่ฉันรู้สึกไม่สบายใจเวลามองหน้าอาจารย์ผู้สอนที่ชื่อมิโกะคนนั้น บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าเพราะอะไร” “ยังไงวะ อาจารย์คนนั้นดูน่าสงสัยเหรอ?” บีโอถาม “จะว่าน่าสงสัยก็ไม่ใช่ แต่มันเหมือนมีอะไรบางอย่างที่ทำให้ฉันคาใจในตัวอาจารย์คนนี้ อะไรบางอย่างที่ฉันภาวนาขอให้ไม่เกี่ยวกับคดีนี้” คำพูดของบีเอทำให้ฉันหนักใจขึ้นไปอีก ถ้าหากว่า…ถ้าหากว่าครูมิโกะที่บีเอบอกมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้จริงๆ นักเรียนที่อยู่ในคลาสตอนนี้ทั้งหมด…จะไม่ตกอยู่ในอันตรายเหรอ? “เอาจริงๆ ทั้งๆ ที่นักเรียนร่วมคลาสหายตัวไปหลายคนแท้ๆ แต่ทุกคนในห้องก็ไม่ได้ดูมีท่าทีจะหวาดกลัวอะไรเลย แถมยังไม่มีใครเอ่ยถึงเหตุการณ์นั้นเลยสักคนเดียว -_-“ “น่าแปลกนะ ทั้งที่เรื่องนี้เป็นข่าวออกใหญ่โต เป็นไปไม่ได้ที่นักเรียนในคลาสจะไม่พูดถึงเลย =_=” ฉันเห็นด้วยกับความคิดของบีวาย ขนาดในห้องเรียนฉันยังพูดถึงแต่ข่าวนี้กันเลย แล้วนี่เป็นนักเรียนในคลาสที่เกิดเหตุแท้ๆแต่กลับไม่พูดถถึงคดีแบบนี้มันน่าสงสัยจริงๆ “ยิ่งไปกว่านั้นคือ ไม่มีใครคิดที่จะลาออกจากคลาสเรียนที่เกิดเรื่องเลยสักคนเนี่ยสิ ถ้าเป็นพวกฉันนะ คงลาออกตั้งแต่มีนักเรียนคนแรกหายไปแล้วล่ะ” ราพันเซลพูด ซึ่งทุกคนเห็นด้วยในความคิดของเธอ “แล้วมันจะเป็นไปได้มั้ยว่านักเรียนทุกคนในห้องนั้นรู้ว่าใครเป็นคนร้าย” คำพูดของรุ่นออโรร่าทำให้ทุกคนหันไปมองที่เธอไปจุดเดียว “ถ้าเป็นอย่างที่รุ่นพี่ออโรร่าบอก ก็หมายความว่านักเรียนที่เหลืออยู่ทั้งหมดตอนนี้คือผู้สมรู้ร่วมคิดงั้นเหรอ! จะเป็นไปได้ยังไง” ฉันถามอย่างแปลกใจ “ไม่หรอก เป็นไปได้แน่นอน ถึงนักเรียนพวกนั้นจะไม่ใช่ผู้สมรู้ร่วมคิด แต่ต้องมีอะไรบางอย่างที่ทำให้พวกเธอไม่ยอมลาออก ทั้งที่คลาสเรียนนั้นมันออกจะอันตราย” บีไอเสนอความคิดบ้าง “นั่นสิ แต่เราจะรู้ได้ยังไงว่าเกิดอะไรขึ้นกับเด็กนักเรียนที่เหลือ เพราะเท่าที่บีเอบอกมา พวกนั้นไม่มีใครพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเลยสักคนเดียว” “บีเอ็มพูดถูก งานนี้สงสัยจะไม่ได้กินหมูแล้วล่ะ” บีโอพูดปิดท้าย เบาะแสต่อไปของพวกเขาก็คือ...นักเรียนหญิงอีกนับสามสิบชีวิตในคลาสเรียนภาษาญี่ปุ่น!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม