@ คฤหาสน์หลังใหญ่สไตล์ยุโรปใจกลางเมืองกรุง
"ฮัดเช้ย ฮัดเช้ย เป็นอะไรวะ จามตั้งแต่เมื่อคืนยันเช้า"
มาเฟียหนุ่มเดินลงบันไดจากชั้นสองของบ้าน สวมสูท ผูกเน็กไท เตรียมตัวเดินทางเข้าบริษัทแต่เช้า เนื่องจากมีประชุมสำคัญเกี่ยวกับการผลิตเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ชิ้นใหม่ทันสมัยและมูลค่าสูง ทรงผมเปิดข้างและเซตผมเสยไปด้านหลัง ดูหล่อเหลา ก้าวขาขึ้นนั่งบนรถสปอร์ตหรูสีดำ ลูกน้องคนสนิทเป็นคนขับ
@ บริษัท Sranon Medical Equipment
ท่านประธาน พรรษา ใบหน้าหล่อเหลาก้าวขาลงจากรถสปอร์ตหรู มุ่งหน้าไปยังห้องทำงาน ท่ามกลาง สายตาวาววับ หวานเยิ้ม ส่งเสียงฮือฮาตื่นเต้นที่ได้เห็นท่านประธานหนุ่มหล่อเดินผ่าน
"สวัสดีค่ะ ท่านประธาน วันนี้ท่านประธานมีประชุมเวลา10โมงเช้า ฉันเตรียมเอกสารไว้ที่โต๊ะทำงานท่านประธานเรียบร้อยแล้วค่ะ"
พลอยพรรณ เลขาสาววัยกลางคน ทำความเคารพเจ้านายหนุ่มและแจ้งเรื่องงานให้เจ้านายหนุ่มทราบ
"สวัสดีครับคุณพลอย "
พยักหน้าให้กับเลขาแทนการบอกกล่าว ว่ารับทราบถึงเรื่องที่ต้องเข้าประชุม
ระหว่างที่กำลังรอเวลาเข้าประชุม ก็นั่งกดสมาร์ทโฟนเครื่องหรูเข้าส่องเฟสบุ๊ค หนึ่งธิดา ชาญชล นิ้วสัมผัสจอเลื่อนขึ้นเลื่อนลง
กดเข้าดูสตอรี่ ปรากฏคลิปหญิงสาวกำลังพูดคุยหยอกล้อกับแมวตัวอ้วน อย่างเพลิดเพลิน
" สวยเป็นบ้าเลย เสียงพูดก็หวาน เสียงตอนครางจะหวานขนาดไหนวะ "
บ่นพึมพำ จินตนาการถึงตอนหญิงสาวมานอนใต้ร่างตนเอง
(ก๊อก ก๊อก ก๊อก)
" ประธานคะ ถึงเวลาเข้าประชุมแล้วค่ะ "
เลขาสาวส่งเสียงเตือนประธานหนุ่มที่ยังไม่ยอมออกจากห้องทำงาน
" ครับผมกำลังจะออกไป "
@ บ้านสมบูรณ์สุข
"พ่อ...พ่อ น้าพร "
"มีอะไรฝ้าย เรียกพ่อกับน้าทำไม"
นางพรส่งเสียงร้องถามลูกเลี้ยงจากชั้นบนของบ้าน
" คือ...วันนี้ฝ้ายจะไปรับจ้างป้าอุ่นเก็บสับปะรดน่ะ" หญิงสาวตอบกลับแม่เลี้ยงที่กำลังเดินลงมาจากชั้นบนของบ้าน มีนายสมบูรณ์เดินตามลงมาติดๆ
" จะไปทำทำไมล่ะฝ้าย แดดร้อนขนาดนี้จะทำไหวเหรอลูก "
นายสมบูรณ์เอ่ยถามลูกสาวด้วยคำพูดที้ไม่ได้เห็นด้วย กับการที่ลูกสาวคนสวยจะต้องไปทำงานตากแดดจนตัวดำ
" ฝ้ายอยากทำงานน่ะพ่อ ทำรอไปก่อนดีกว่านอนอยู่บ้านเฉยๆ เบื่อจะแย้แล้ว "
หญิงสาวทำหน้างอแงเหมือนเด็กอ้อนขอผู้เป็นพ่อไปทำงาน พรางอมยิ้มเมื่อนึกถึงแผนการที่ตนเองเตรียมไว้
" พี่สมบูรณ์ปล่อยให้ลูกสาวพี่ทำตามใจตัวเองบ้างเถอะ แค่ไปเก็บสับปะรด พี่ทำหน้าอย่างกับยัยฝ้ายไม่เคยทำงานกรรมกรแบกหาม"
" จะไปก็ไป ถ้าทำไม่ไหวก็หยุดนะลูก "
บอกลูกสาวด้วยความเป็นห่วง
" ไม่ต้องห่วง สบายมากเลยพ่อ ฝ้ายทำได้อยู่แล้ว" พูดจบก็ขึ้นขี่มอไซค์คันโปรด มุ่งหน้าไปสวนสับปะรดของนางอุ่น
" ป้าอุ่นคะ"
"อ้าวฝ้าย มีอะไรมาหาป้าแต่เช้าเลย"
"ฝ้ายได้ยินลุงสมร้านขายของชำคุยกับลูกค้าว่าป้าอุ่นกำลังหาคนงานมาช่วยตัดสับปะรด ฝ้ายอยากจะมาช่วยป้าอุ่นตัดสับปะรดน่ะ ให้ฝ้ายทำนะคะ ป้าไม่ต้องจ้างก็ได้ ฝ้ายอยู่บ้านไม่ได้ทำอะไร อยากทำงานน่ะค่ะ "
" เอ็งจะทำไหวเหรอฝ้าย แดดมันร้อนมากเลยนะฝ้าย เอ็งไม่กลัวดำหรือไง "
"ก็เพราะอยากดำไงถึงได้มาขอทำงานตากแดด" หญิงสาวคิดในใจ
"ไม่กลัวดำหรอกป้า นอนอยู่บ้านเฉยๆกลัวเป็นง่อยมากกว่า"
พูดไปอมยิ้มไป เพราะในใจของเธอมีแผนร้ายที่เตรียมไว้ต้อนรับเจ้าหนี้
"แล้วไม่ได้เตรียมเสื้อแขนยาว เตรียมหมวกมาเหรอฝ้าย งั้นรอก่อนนะ ป้าจะไปหาหมวกหาเสื้อมาให้"
"ไม่ต้องหรอกป้าอุ่น ฝ้ายอยากใส่ชุดนี้น่ะ ดำก็ช่างมัน ค่อยไปทาครีมบำรุงผิว ฝ้ายชอบดำคล้ำๆ เผื่อจะมีหนุ่มฝรั่งหลงทางมาจีบบ้าง"
แสร้งพูดให้นางอุ่นไม่คิดอะไรมาก
"นี่มันชุดใส่ไปแข่งกีฬานะฝ้าย"
"เถอะน่าป้าอุ่น ฝ้ายชอบแบบนี้ ไปกันเถอะค่ะ"
พูดจบก็กอดแขนนางอุ่นกึ่งเดินกึ่งวิ่งลงไปที่สวนสับปะรด
สองสัปดาห์ต่อมา
"ฝ้าย....หยุดไปตัดสับปะรดได้แล้ว นี่เอ็งดำเมี่ยมอย่างกับถ่านแล้วนะ"
นางพร พูดกับลูกเลี้ยง สั่งห้ามด้วยสีหน้าท่าทางตกใจที่ผิวขาวดั่งหยวกกล้วย กลายมาเป็นผิวดำคล้ำที่เกิดจากการตากแดดนานๆ ผิวของหญิงสาวตอนนี้ไหม้เกรียมมีจุดด่างดำทั่วใบหน้า ใครๆได้พบเห็นต่างก็ตกใจในความเปลี่ยนแปลงของหนึ่งธิดา
" งั้นวันนี้ฝ้ายคงต้องไปร้านเสริมสวยแล้วล่ะ น้าพร ฝ้ายว่าจะไปทำสวยสักหน่อย"
" ดีแล้วฝ้าย เป็นสาวเป็นนางจะมาปล่อยเนื้อปล่อยตัวให้ตัวเองเป็นยายเพิ้งไม่ได้นะ หนุ่มๆเห็นเขาตกใจวิ่งหนีกันพอดี "
" จ้ะ...น้าพร"
ขับรถมอเตอร์ไซค์คู่ใจตากแดดครึ่งชั่วโมงก็ถึงร้านเสริมสวยที่ตั้งใจจะเข้าไปให้บริการทำผม ร้านเสริมสวยอยู่ห่างจากบ้านของหญิงสาวพอสมควร
" สวัสดีค่ะคุณลูกค้า"
ช่างประจำร้านเสริมสวยกล่าวสวัสดีลูกค้า ในตอนที่หนึ่งธิดาเดินเข้าไปในร้าน
"คุณลูกค้าต้องการทำอะไรคะ สระไดร์ อบไอน้ำ ทำสี ยืด หรือดัดดีคะ"
ช่างทำผมสาวสองเอ่ยถาม
" ตัดค่ะ เหลือความยาวเลยบ่าลงไปสัก5เซ็น แล้วก็ดัด พร้อมกับทำสีไวน์แดงค่ะ "
ช่างมองดูหญิงสาวหัวจรดเท้าเพียงเสี้ยววินาที หากเธอดูแลผิวให้ดี ทรงผมที่ทำวันนี้มันก็คงจะออกมาสวยรับกับใบหน้า แต่หญิงสาวตรงหน้า ผิวดำไหม้เกรียม แลดูสกปรกเหมือนคนไม่อาบน้ำมาหลายวัน ช่างเสริมสวยได้แต่คิดในใจและบอกให้ลูกค้าสาวไปสระผม
" ได้เลยค่ะคุณลูกค้า ขึ้นเตียงสระผมได้เลย"
หลายชั่วโมงผ่านไปก็ได้ทรงผมที่หนึ่งธิดาต้องการ
"เสร็จแล้วค่ะ ให้ใช้หวีซี่ห่างใช้ในการหวีผมนะคะ ลูกค้าอย่าใช้หวีซี่เล็ก เพราะจะทำให้ลอนผมแตกออกจากกัน ผมจะฟูดูไม่สวยค่ะ "
" โอเคค่ะ ค่าทำผมหนูขอสแกนจ่ายนะคะ"
หยิบมือมือขึ้นมากดเข้าแอพธนาคาร สแกนจ่ายเรียบร้อย เดินออกจากร้านเสริมสวย เดินตรงไปยังร้านสะดวกซื้อที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับร้านเสริมสวย
มือเรียวคว้าเอาลิปสติกสีแดงสด และดินสอเขียนคิ้วสีดำเข้ม
เดินไปยังเคาน์เตอร์แคชเชียร์เพื่อชำระเงิน
"ทั้งหมด 118 บาทค่ะ ลูกค้ารับอะไรเพิ่มไหมคะ"
"ไม่ค่ะ"
จ่ายเงินเรียบร้อยก็เดินออกจากร้านสะดวกซื้อ ขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์ กดปุ่มสตาร์ทแล้วขับกลับบ้าน
" กลับมาแล้วเหรอฝ้าย มาทันอาหารเย็นพอดีเลย พ่อเอ็งกำลังบ่นถึง นึกว่าจะกลับมามืดค่ำ เอ๊ะนั่นเอ็งทำผมมาใหม่เหรอฝ้าย สีผมสวยดีนะ แต่สีผิวที่หมองคล้ำจุดด่างดำ และฝ้าบนใบหน้าเอ็งมันไม่เข้ากับทรงผมของเอ็งเลยฝ้าย เอ็งเปลี่ยนไปเยอะเลยนะ เหมือนคนมีอายุ น้าว่าเอ็งควรหาเวลาไปขัดผิวให้มันผุดผ่อง ให้ดูดีมีสง่าราศีมันจะดีกว่านะ"
" ค่ะ เดี๋ยววันไหนว่างๆฝ้ายจะขัดๆถูๆให้ขี้ไคลมันหลุดก็แล้วกันนะ "
ตอบแม่เลี้ยงไป แต่ในใจกลับคิดว่า ฝันไปเถอะว่าคนอย่างนังฝ้ายจะยอมขัดผิว เป้าหมายของเธอคือต้องตากแดดให้ตัวดำ ยิ่งผิวคล้ำดำแดดเท่าไหร่ยิ่งดี
หลังจากกินข้าวอาบน้ำเสร็จเรียบร้อย หญิงสาวก็เดินไปนั่งเก้าอี้หน้ากระจกที่อยู่ในห้องนอน
ส่องกระจกพร้อมกับใช้หวีซี่เล็กหวีผม ลอนผมสวยที่ทำมาแตกออกจากกัน กลายเป็นผมฟูดูไร้น้ำหนักขึ้นมาทันที
หยิบลิปสติกสีแดงสดขึ้นมาทา ตามด้วยดินสอเขียนคิ้วสีดำเข้ม
"เป็นไงล่ะ ปากแดงอย่างกับไปกินเลือดใครมา คิ้วก็ดำหนาอย่างกับปลิง ฮ่าฮ่า"
หัวเราะชอบใจกับฝีมือการเขียนคิ้วทาปาก
"ตัวดำ หัวฟู ปากแดง คิ้วหนาอย่างกับปลิง รับรองไอ้เ*******ูเห็นแล้วต้องตกใจจนสมรรถภาพทางเพศเสื่อมแน่ๆ"
หัวเราะลั่น เมื่อนึกถึงแผนการที่จะทำให้เจ้าหนี้รังเกียจกับสภาพร่างกายของเธอ
หลังจากที่ได้เห็นสภาพตัวเองถึงความขี้ริ้วขี้เหร่แล้ว ก็ไม่ลืมที่จะเช็ดล้างทำความสะอาดใบหน้าให้กลับมาปกติ
จากนั้นก็ปิดไฟเดินขึ้นเตียงนอนดึงผ้ามาห่มนอนอย่างสบายใจ
ตื่นเช้ามาก็รีบบิดคันเร่งรถคู่ใจไปที่ว่าการอำเภอ เพื่อทำบัตรประจำตัวประชาชนใบใหม่แทนใบเก่าที่ชำรุดจากฝีมือของเธอเอง
หญิงสาวยังคงไปช่วยนางอุ่นตัดสับปะรดทุกวัน กระทั่งช่วงเย็นก็ขับรถคู่ใจมาถึงบ้าน
"อีกสามวันก็ครบกำหนดที่ต้องใช้หนี้ นี่ฉันต้องยกลูกสาวไปขัดดอกใช้หนี้จริงๆใช่ไหมแม่พร ฉันมันเป็นพ่อที่ไม่ได้เรื่องจริงๆเลย ลูกสาวคนเดียวฉันยังไม่สามารถทำให้ลูกมีความสุขได้ ฉันว่าเราปล่อยให้มันยึดบ้านยึดที่ดินเราไปเถอะนะแม่พร แล้วเราก็ไปเช่าห้องเล็กๆเก็บของเก่าขาย หาเช้ากินค่ำประหยัดอดออม เผื่อวันไหนยัยฝ้ายมันได้งานทำ ชีวิตพวกเราอาจจะดีขึ้น"
นายสมบูรณ์คุยกับเมียรักเสียงสั่น อาการจุกในอกน้ำตาคลอ
"พี่จะบ้าหรือไงพี่สมบูรณ์ มันใกล้จะถึงวันแล้ว พี่ไม่มีทางเลือกแล้ว พี่จะมัวรอยัยฝ้ายได้ทำงาน ถึงตอนนั้นพวกเราต้องเร่ร่อนไปอีกนานแค่ไหน ถ้ายัยฝ้ายมันยอมไปกับเขา เราก็ยังมีบ้านให้อยู่ พอยัยฝ้ายไปอยู่กับเขา เขารักเขาหลง ก็ค่อยให้มันส่งเงินมาสักก้อน เราสองคนผัวเมียจะได้มีทุนปลูกผัก ผลไม้ขาย แต่ตอนนี้เราไม่มีทุนจะมาปลูกมาบำรุงอะไรเลย ฉันไม่เปลี่ยนใจ ยังไงคืนนี้ฉันก็จะคุยกับยัยฝ้าย ยังไงมันก็ต้องไปกับเขา"
"พ่อกับน้าพรหยุดทะเลาะกันได้แล้วค่ะ ฝ้ายจะไปอยู่กับเจ้าหนี้ของพ่อค่ะ ถ้าเขามารับฝ้ายก็จะไป
" ฝะ...ฝ้าย มะ...มาตั้งแต่เมื่อไหร่"
นายสมบูรณ์ตกใจมากที่เห็นลูกสาวอันเป็นที่รักมาได้ยิน สิ่งที่ตนและนางพรคุยกัน
"พ่อไม่ต้องคิดมากหรอก ฝ้ายไม่ยอมให้ใครมายึดบ้านเราได้ง่ายๆหรอกพ่อ ฝ้ายก็ขี้เกียจหางานทำแล้วแหละ ไปอยู่กับเขาอาจจะมีอะไรดีๆสนุกๆให้ทำ ฝ้ายจะไม่ยอมให้บ้านถูกยึดเป็นอันขาด"
"ดีแล้วฝ้าย เผลอๆเอ็งอาจจะตกถังข้าวสารได้เป็นคุณนายนอนบนกองเงินกองทองก็เป็นได้"
นางพรพูดกับลูกเลี้ยง แสดงอาการดีอกดีใจ ที่ลูกเลี้ยงให้ความร่วมมือ
"งั้นฝ้ายขอตัวไปเก็บเสื้อผ้าเตรียมไว้ตั้งแต่ตอนนี้เลย ฝ้ายก็ตื่นเต้นอยากให้ถึงวันเต็มทนแล้ว"
พูดจบก็วิ่งขึ้นบันไดบ้าน ไม่รอให้นายสมบูรณ์กับนางพรพูดอะไรต่อ