ตอนที่ 5 สาวผมแดง

1966 คำ
@ คฤหาสน์หลังใหญ่สไตล์ยุโรปใจกลางเมืองกรุง "ฮัดเช้ย ฮัดเช้ย เป็นอะไรวะ จามตั้งแต่เมื่อคืนยันเช้า" มาเฟียหนุ่มเดินลงบันไดจากชั้นสองของบ้าน สวมสูท ผูกเน็กไท เตรียมตัวเดินทางเข้าบริษัทแต่เช้า เนื่องจากมีประชุมสำคัญเกี่ยวกับการผลิตเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ชิ้นใหม่ทันสมัยและมูลค่าสูง ทรงผมเปิดข้างและเซตผมเสยไปด้านหลัง ดูหล่อเหลา ก้าวขาขึ้นนั่งบนรถสปอร์ตหรูสีดำ ลูกน้องคนสนิทเป็นคนขับ @ บริษัท Sranon Medical Equipment ท่านประธาน พรรษา ใบหน้าหล่อเหลาก้าวขาลงจากรถสปอร์ตหรู มุ่งหน้าไปยังห้องทำงาน ท่ามกลาง สายตาวาววับ หวานเยิ้ม ส่งเสียงฮือฮาตื่นเต้นที่ได้เห็นท่านประธานหนุ่มหล่อเดินผ่าน "สวัสดีค่ะ ท่านประธาน วันนี้ท่านประธานมีประชุมเวลา10โมงเช้า ฉันเตรียมเอกสารไว้ที่โต๊ะทำงานท่านประธานเรียบร้อยแล้วค่ะ" พลอยพรรณ เลขาสาววัยกลางคน ทำความเคารพเจ้านายหนุ่มและแจ้งเรื่องงานให้เจ้านายหนุ่มทราบ "สวัสดีครับคุณพลอย " พยักหน้าให้กับเลขาแทนการบอกกล่าว ว่ารับทราบถึงเรื่องที่ต้องเข้าประชุม ระหว่างที่กำลังรอเวลาเข้าประชุม ก็นั่งกดสมาร์ทโฟนเครื่องหรูเข้าส่องเฟสบุ๊ค หนึ่งธิดา ชาญชล นิ้วสัมผัสจอเลื่อนขึ้นเลื่อนลง กดเข้าดูสตอรี่ ปรากฏคลิปหญิงสาวกำลังพูดคุยหยอกล้อกับแมวตัวอ้วน อย่างเพลิดเพลิน " สวยเป็นบ้าเลย เสียงพูดก็หวาน เสียงตอนครางจะหวานขนาดไหนวะ " บ่นพึมพำ จินตนาการถึงตอนหญิงสาวมานอนใต้ร่างตนเอง (ก๊อก ก๊อก ก๊อก) " ประธานคะ ถึงเวลาเข้าประชุมแล้วค่ะ " เลขาสาวส่งเสียงเตือนประธานหนุ่มที่ยังไม่ยอมออกจากห้องทำงาน " ครับผมกำลังจะออกไป " @ บ้านสมบูรณ์สุข "พ่อ...พ่อ น้าพร " "มีอะไรฝ้าย เรียกพ่อกับน้าทำไม" นางพรส่งเสียงร้องถามลูกเลี้ยงจากชั้นบนของบ้าน " คือ...วันนี้ฝ้ายจะไปรับจ้างป้าอุ่นเก็บสับปะรดน่ะ" หญิงสาวตอบกลับแม่เลี้ยงที่กำลังเดินลงมาจากชั้นบนของบ้าน มีนายสมบูรณ์เดินตามลงมาติดๆ " จะไปทำทำไมล่ะฝ้าย แดดร้อนขนาดนี้จะทำไหวเหรอลูก " นายสมบูรณ์เอ่ยถามลูกสาวด้วยคำพูดที้ไม่ได้เห็นด้วย กับการที่ลูกสาวคนสวยจะต้องไปทำงานตากแดดจนตัวดำ " ฝ้ายอยากทำงานน่ะพ่อ ทำรอไปก่อนดีกว่านอนอยู่บ้านเฉยๆ เบื่อจะแย้แล้ว " หญิงสาวทำหน้างอแงเหมือนเด็กอ้อนขอผู้เป็นพ่อไปทำงาน พรางอมยิ้มเมื่อนึกถึงแผนการที่ตนเองเตรียมไว้ " พี่สมบูรณ์ปล่อยให้ลูกสาวพี่ทำตามใจตัวเองบ้างเถอะ แค่ไปเก็บสับปะรด พี่ทำหน้าอย่างกับยัยฝ้ายไม่เคยทำงานกรรมกรแบกหาม" " จะไปก็ไป ถ้าทำไม่ไหวก็หยุดนะลูก " บอกลูกสาวด้วยความเป็นห่วง " ไม่ต้องห่วง สบายมากเลยพ่อ ฝ้ายทำได้อยู่แล้ว" พูดจบก็ขึ้นขี่มอไซค์คันโปรด มุ่งหน้าไปสวนสับปะรดของนางอุ่น " ป้าอุ่นคะ" "อ้าวฝ้าย มีอะไรมาหาป้าแต่เช้าเลย" "ฝ้ายได้ยินลุงสมร้านขายของชำคุยกับลูกค้าว่าป้าอุ่นกำลังหาคนงานมาช่วยตัดสับปะรด ฝ้ายอยากจะมาช่วยป้าอุ่นตัดสับปะรดน่ะ ให้ฝ้ายทำนะคะ ป้าไม่ต้องจ้างก็ได้ ฝ้ายอยู่บ้านไม่ได้ทำอะไร อยากทำงานน่ะค่ะ " " เอ็งจะทำไหวเหรอฝ้าย แดดมันร้อนมากเลยนะฝ้าย เอ็งไม่กลัวดำหรือไง " "ก็เพราะอยากดำไงถึงได้มาขอทำงานตากแดด" หญิงสาวคิดในใจ "ไม่กลัวดำหรอกป้า นอนอยู่บ้านเฉยๆกลัวเป็นง่อยมากกว่า" พูดไปอมยิ้มไป เพราะในใจของเธอมีแผนร้ายที่เตรียมไว้ต้อนรับเจ้าหนี้ "แล้วไม่ได้เตรียมเสื้อแขนยาว เตรียมหมวกมาเหรอฝ้าย งั้นรอก่อนนะ ป้าจะไปหาหมวกหาเสื้อมาให้" "ไม่ต้องหรอกป้าอุ่น ฝ้ายอยากใส่ชุดนี้น่ะ ดำก็ช่างมัน ค่อยไปทาครีมบำรุงผิว ฝ้ายชอบดำคล้ำๆ เผื่อจะมีหนุ่มฝรั่งหลงทางมาจีบบ้าง" แสร้งพูดให้นางอุ่นไม่คิดอะไรมาก "นี่มันชุดใส่ไปแข่งกีฬานะฝ้าย" "เถอะน่าป้าอุ่น ฝ้ายชอบแบบนี้ ไปกันเถอะค่ะ" พูดจบก็กอดแขนนางอุ่นกึ่งเดินกึ่งวิ่งลงไปที่สวนสับปะรด สองสัปดาห์ต่อมา "ฝ้าย....หยุดไปตัดสับปะรดได้แล้ว นี่เอ็งดำเมี่ยมอย่างกับถ่านแล้วนะ" นางพร พูดกับลูกเลี้ยง สั่งห้ามด้วยสีหน้าท่าทางตกใจที่ผิวขาวดั่งหยวกกล้วย กลายมาเป็นผิวดำคล้ำที่เกิดจากการตากแดดนานๆ ผิวของหญิงสาวตอนนี้ไหม้เกรียมมีจุดด่างดำทั่วใบหน้า ใครๆได้พบเห็นต่างก็ตกใจในความเปลี่ยนแปลงของหนึ่งธิดา " งั้นวันนี้ฝ้ายคงต้องไปร้านเสริมสวยแล้วล่ะ น้าพร ฝ้ายว่าจะไปทำสวยสักหน่อย" " ดีแล้วฝ้าย เป็นสาวเป็นนางจะมาปล่อยเนื้อปล่อยตัวให้ตัวเองเป็นยายเพิ้งไม่ได้นะ หนุ่มๆเห็นเขาตกใจวิ่งหนีกันพอดี " " จ้ะ...น้าพร" ขับรถมอเตอร์ไซค์คู่ใจตากแดดครึ่งชั่วโมงก็ถึงร้านเสริมสวยที่ตั้งใจจะเข้าไปให้บริการทำผม ร้านเสริมสวยอยู่ห่างจากบ้านของหญิงสาวพอสมควร " สวัสดีค่ะคุณลูกค้า" ช่างประจำร้านเสริมสวยกล่าวสวัสดีลูกค้า ในตอนที่หนึ่งธิดาเดินเข้าไปในร้าน "คุณลูกค้าต้องการทำอะไรคะ สระไดร์ อบไอน้ำ ทำสี ยืด หรือดัดดีคะ" ช่างทำผมสาวสองเอ่ยถาม " ตัดค่ะ เหลือความยาวเลยบ่าลงไปสัก5เซ็น แล้วก็ดัด พร้อมกับทำสีไวน์แดงค่ะ " ช่างมองดูหญิงสาวหัวจรดเท้าเพียงเสี้ยววินาที หากเธอดูแลผิวให้ดี ทรงผมที่ทำวันนี้มันก็คงจะออกมาสวยรับกับใบหน้า แต่หญิงสาวตรงหน้า ผิวดำไหม้เกรียม แลดูสกปรกเหมือนคนไม่อาบน้ำมาหลายวัน ช่างเสริมสวยได้แต่คิดในใจและบอกให้ลูกค้าสาวไปสระผม " ได้เลยค่ะคุณลูกค้า ขึ้นเตียงสระผมได้เลย" หลายชั่วโมงผ่านไปก็ได้ทรงผมที่หนึ่งธิดาต้องการ "เสร็จแล้วค่ะ ให้ใช้หวีซี่ห่างใช้ในการหวีผมนะคะ ลูกค้าอย่าใช้หวีซี่เล็ก เพราะจะทำให้ลอนผมแตกออกจากกัน ผมจะฟูดูไม่สวยค่ะ " " โอเคค่ะ ค่าทำผมหนูขอสแกนจ่ายนะคะ" หยิบมือมือขึ้นมากดเข้าแอพธนาคาร สแกนจ่ายเรียบร้อย เดินออกจากร้านเสริมสวย เดินตรงไปยังร้านสะดวกซื้อที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับร้านเสริมสวย มือเรียวคว้าเอาลิปสติกสีแดงสด และดินสอเขียนคิ้วสีดำเข้ม เดินไปยังเคาน์เตอร์แคชเชียร์เพื่อชำระเงิน "ทั้งหมด 118 บาทค่ะ ลูกค้ารับอะไรเพิ่มไหมคะ" "ไม่ค่ะ" จ่ายเงินเรียบร้อยก็เดินออกจากร้านสะดวกซื้อ ขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์ กดปุ่มสตาร์ทแล้วขับกลับบ้าน " กลับมาแล้วเหรอฝ้าย มาทันอาหารเย็นพอดีเลย พ่อเอ็งกำลังบ่นถึง นึกว่าจะกลับมามืดค่ำ เอ๊ะนั่นเอ็งทำผมมาใหม่เหรอฝ้าย สีผมสวยดีนะ แต่สีผิวที่หมองคล้ำจุดด่างดำ และฝ้าบนใบหน้าเอ็งมันไม่เข้ากับทรงผมของเอ็งเลยฝ้าย เอ็งเปลี่ยนไปเยอะเลยนะ เหมือนคนมีอายุ น้าว่าเอ็งควรหาเวลาไปขัดผิวให้มันผุดผ่อง ให้ดูดีมีสง่าราศีมันจะดีกว่านะ" " ค่ะ เดี๋ยววันไหนว่างๆฝ้ายจะขัดๆถูๆให้ขี้ไคลมันหลุดก็แล้วกันนะ " ตอบแม่เลี้ยงไป แต่ในใจกลับคิดว่า ฝันไปเถอะว่าคนอย่างนังฝ้ายจะยอมขัดผิว เป้าหมายของเธอคือต้องตากแดดให้ตัวดำ ยิ่งผิวคล้ำดำแดดเท่าไหร่ยิ่งดี หลังจากกินข้าวอาบน้ำเสร็จเรียบร้อย หญิงสาวก็เดินไปนั่งเก้าอี้หน้ากระจกที่อยู่ในห้องนอน ส่องกระจกพร้อมกับใช้หวีซี่เล็กหวีผม ลอนผมสวยที่ทำมาแตกออกจากกัน กลายเป็นผมฟูดูไร้น้ำหนักขึ้นมาทันที หยิบลิปสติกสีแดงสดขึ้นมาทา ตามด้วยดินสอเขียนคิ้วสีดำเข้ม "เป็นไงล่ะ ปากแดงอย่างกับไปกินเลือดใครมา คิ้วก็ดำหนาอย่างกับปลิง ฮ่าฮ่า" หัวเราะชอบใจกับฝีมือการเขียนคิ้วทาปาก "ตัวดำ หัวฟู ปากแดง คิ้วหนาอย่างกับปลิง รับรองไอ้เ*******ูเห็นแล้วต้องตกใจจนสมรรถภาพทางเพศเสื่อมแน่ๆ" หัวเราะลั่น เมื่อนึกถึงแผนการที่จะทำให้เจ้าหนี้รังเกียจกับสภาพร่างกายของเธอ หลังจากที่ได้เห็นสภาพตัวเองถึงความขี้ริ้วขี้เหร่แล้ว ก็ไม่ลืมที่จะเช็ดล้างทำความสะอาดใบหน้าให้กลับมาปกติ จากนั้นก็ปิดไฟเดินขึ้นเตียงนอนดึงผ้ามาห่มนอนอย่างสบายใจ ตื่นเช้ามาก็รีบบิดคันเร่งรถคู่ใจไปที่ว่าการอำเภอ เพื่อทำบัตรประจำตัวประชาชนใบใหม่แทนใบเก่าที่ชำรุดจากฝีมือของเธอเอง หญิงสาวยังคงไปช่วยนางอุ่นตัดสับปะรดทุกวัน กระทั่งช่วงเย็นก็ขับรถคู่ใจมาถึงบ้าน "อีกสามวันก็ครบกำหนดที่ต้องใช้หนี้ นี่ฉันต้องยกลูกสาวไปขัดดอกใช้หนี้จริงๆใช่ไหมแม่พร ฉันมันเป็นพ่อที่ไม่ได้เรื่องจริงๆเลย ลูกสาวคนเดียวฉันยังไม่สามารถทำให้ลูกมีความสุขได้ ฉันว่าเราปล่อยให้มันยึดบ้านยึดที่ดินเราไปเถอะนะแม่พร แล้วเราก็ไปเช่าห้องเล็กๆเก็บของเก่าขาย หาเช้ากินค่ำประหยัดอดออม เผื่อวันไหนยัยฝ้ายมันได้งานทำ ชีวิตพวกเราอาจจะดีขึ้น" นายสมบูรณ์คุยกับเมียรักเสียงสั่น อาการจุกในอกน้ำตาคลอ "พี่จะบ้าหรือไงพี่สมบูรณ์ มันใกล้จะถึงวันแล้ว พี่ไม่มีทางเลือกแล้ว พี่จะมัวรอยัยฝ้ายได้ทำงาน ถึงตอนนั้นพวกเราต้องเร่ร่อนไปอีกนานแค่ไหน ถ้ายัยฝ้ายมันยอมไปกับเขา เราก็ยังมีบ้านให้อยู่ พอยัยฝ้ายไปอยู่กับเขา เขารักเขาหลง ก็ค่อยให้มันส่งเงินมาสักก้อน เราสองคนผัวเมียจะได้มีทุนปลูกผัก ผลไม้ขาย แต่ตอนนี้เราไม่มีทุนจะมาปลูกมาบำรุงอะไรเลย ฉันไม่เปลี่ยนใจ ยังไงคืนนี้ฉันก็จะคุยกับยัยฝ้าย ยังไงมันก็ต้องไปกับเขา" "พ่อกับน้าพรหยุดทะเลาะกันได้แล้วค่ะ ฝ้ายจะไปอยู่กับเจ้าหนี้ของพ่อค่ะ ถ้าเขามารับฝ้ายก็จะไป " ฝะ...ฝ้าย มะ...มาตั้งแต่เมื่อไหร่" นายสมบูรณ์ตกใจมากที่เห็นลูกสาวอันเป็นที่รักมาได้ยิน สิ่งที่ตนและนางพรคุยกัน "พ่อไม่ต้องคิดมากหรอก ฝ้ายไม่ยอมให้ใครมายึดบ้านเราได้ง่ายๆหรอกพ่อ ฝ้ายก็ขี้เกียจหางานทำแล้วแหละ ไปอยู่กับเขาอาจจะมีอะไรดีๆสนุกๆให้ทำ ฝ้ายจะไม่ยอมให้บ้านถูกยึดเป็นอันขาด" "ดีแล้วฝ้าย เผลอๆเอ็งอาจจะตกถังข้าวสารได้เป็นคุณนายนอนบนกองเงินกองทองก็เป็นได้" นางพรพูดกับลูกเลี้ยง แสดงอาการดีอกดีใจ ที่ลูกเลี้ยงให้ความร่วมมือ "งั้นฝ้ายขอตัวไปเก็บเสื้อผ้าเตรียมไว้ตั้งแต่ตอนนี้เลย ฝ้ายก็ตื่นเต้นอยากให้ถึงวันเต็มทนแล้ว" พูดจบก็วิ่งขึ้นบันไดบ้าน ไม่รอให้นายสมบูรณ์กับนางพรพูดอะไรต่อ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม