ตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาเฮยหลงสังเกตผู้เป็นภรรยาของเขาอยู่ตลอด และแน่นอนว่าเพียงแสนเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด
นิ้วมือเรียวแกร่งเคาะลงบนโต๊ะทำงานเป็นจังหวะอย่างใช้ความคิด คนรอบนอกที่พอมีอำนาจในมือย่อมรู้กันทั่วว่าเขาไม่อยากได้เมียคนนี้ และแน่นอนว่าหลายต่อหลายครั้งที่ยายนั่นถูกจับตัวไป ข่มขู่ ยื่นข้อเสนอ ให้ทางเลือกในการมีชีวิตต่อ ด้วยการให้ยายนั่นหักหลังเขา ที่ผ่านมาเพียงแสนไม่เคยหักหลังเขาหรือเขาไม่รู้อันนี้ก็ไม่ทราบได้ แต่พอถูกจับตัวไปในครั้งนี้เพียงแสนเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด จากที่เคยวอแวเขาตอนนี้เดินผ่านยังไม่มองหน้า
“นายกำลังสงสัยใช่ไหมครับ” จาร์กัวตัดสินใจเอ่ยถามผู้เป็นนายออกไป
“มึงยังมองออกสินะ”
“ครับ แต่ระหว่างกำลังคิดจะหักหลังกับหมดรักนายแล้ว ผมยังด่วนสรุปไม่ได้ว่าข้อไหน”
“ฮ่า ๆ หมดรักกู งั้นก็บุญหัวกูแล้วสิ!” เขาไม่เคยนึกถึงอย่างหลังที่จาร์กัวพูดเลย พอได้ฟังแล้วมันยุบยิบในใจยังไงไม่รู้ “เออ หมดรักกูก็ดี”
“หรือนายหลงรักคุณแสนไปแล้ว”
“มึงตบปากตัวเองเท่าอายุมึงเลย” เขาเบนสายตาหลบมือขวาตัวเอง ก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้นยืนเต็มความสูง คว้าสูทมาสวมใส่ก่อนจะตวัดสายไปมองคนร่วมห้อง “กูจะไปหาพวกนั้น มึงไปเคลียร์เรื่องโกดังช่วยไอ้จังก้าก็แล้วกัน”
“ครับนาย”
เขาพยักหน้ารับตวัดเรียวขาแกร่งเดินออกไปจากห้องทำงานบนตึกสูงระฟ้า ซึ่งเป็นอาณาจักรของเขาเกือบห้าสิบชั้น บริษัท ‘LCL GROUP’ เป็นศูนย์รวมใหญ่ของบริษัทในเครือทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นอสังหาริมทรัพย์ โรงแรม การบินที่ร่วมหุ้นส่วนด้วย และบริษัทค้าปลีกอีกหลายแห่งและหลายแบรนด์บนห้างสรรพสินค้า รวมไปถึงโรงพยาบาลในเครือของตระกูลทางฝั่งฮ่องกงที่ขยายสาขามาเปิดที่ไทยอีกด้วย และยังมีธุรกิจสีเทาที่เขาต้องเข้ามาจัดการ เขาขึ้นมาบริหารที่นี่ตั้งแต่อายุ 27 ปี กำไรแต่ละไตรมาสเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เอาชนะใจรุ่นเสาเอกเสาโทมาได้อย่างยากลำบาก เพราะคนที่อยู่ก่อนมักคิดว่าเด็กสมัยใหม่บริหารไม่เป็น ทำไม่ได้ และไม่น่าไว้วางใจ หาคนจะร่วมลงทุนด้วยยังยาก แต่เขาผ่านมันมาได้จนเป็นที่ยอมรับของประธานอาวุโสเกือบทุกคน
“ไอ้ชาติหมา กูเรียกมึงจนก้ามคอขึ้นแล้วไหม!”
เฮยหลงหลุดจากความคิดตวัดสายตาเอาเรื่องไปมองคนเรียกเขาหยาบ ๆ แต่เพราะรู้จักกันมานานเขาเลยไม่ถือโทษ และมีไม่กี่คนหรอกที่เขายอมให้ด่าแรงขนาดนี้
“กูก็เป็นลูกคุณหลานคุณ ไอ้ห่า!” เฮยหลงหลุบตามองแก้วเหล้าของตัวเอง ยกมันขึ้นดื่มจนหมด
“มึงเป็นอะไรของมึง คิดถึงน้องพั้นซ์ น้องพริ้ง น้องจินนี่ หรือคิดถึงเมีย แต่อย่างหลังนี่กูแค่เล่นเอามุขเฉย ๆ มึงคงไม่คิดถึงคุณเพียงแสนหรอก” แทนไท หนุ่มหล่อไทยแท้เพื่อนสนิทของเฮยหลงไล่รายชื่อเด็กในสต็อกของเพื่อนทีละคน แต่เมียมันเขาแค่พูดเล่น ๆ เท่านั้นเพราะพลั้งปาก คนสนิทมันจะรู้ดีว่ามันไม่ชอบให้เอ่ยถึงผู้หญิงคนนั้น
“ไม่ได้คิดถึงใคร”
“จะแถก็เอาให้เนียนครับ เพื่อนรู้เพื่อนดูออก” แทนไทคว่ำปาก เบื่อลูกผู้ลากมากดี เงินเยอะเมียเยอะ จัดสรรเวลาไม่ได้ลำบากนัดเพื่อนฝูงมาร่วมทำบาปอย่างการดื่มเหล้าอีก ไม่พอคืนนี้เขาอาจเสียตัวให้แม่เสือสาวดาวคะนองแถวนี้ บอกตรงชายรับไม่ได้ครับ!
รับไม่ได้คนเดียวขอสองถึงสามคนมัดมาพร้อมกันเลย
“เพียงแสนเปลี่ยนไป”
“สักที” นี่ไม่ใช่แทนไทแต่เป็นหนุ่มลูกครึ่งตาสีฟ้าครามทรงเสน่ห์อย่าง ‘ปีเตอร์’ หนุ่มนักรักตัวพ่อ และทำธุรกิจสีเทาเหมือนเฮยหลง
“สักทีนี่คือ?” เฮยหลงเลิกคิ้วขึ้นสูง
“มึงควรดีใจด้วยซ้ำไม่ใช่เหรอที่คุณเพียงแสนไม่วอแวมึงแล้ว” แทนไทพอจับต้นชนปลายถูกจึงพูดออกไปด้วยน้ำเสียงเนือย ๆ
“กูไม่ได้หมายความแบบนั้นเว้ย แต่ยังเหลือเวลาอีกตั้งหนึ่งปี ถ้าเธอหักหลังกูไปเข้าพวกคนอื่นกูก็ต้องจับตาดูไหม”
“อ๋อ พวกแก๊งมาเฟียไม่เคยกลัวใครแต่กลัวเมียจะหักหลังแล้วเอาไม่อยู่” ปีเตอร์ส่ายหน้าไปมา เพราะสนิทกันมานานและกลุ่มเขาไม่ใช่พวกโลกสวย เวลาว่างไม่ได้มีมากมายไม่ต้องพูดอ้อมโลกแค่พูดออกมาตรง ๆ ให้เข้าใจได้โดยเร็วยิ่งดี
“กูว่าเพียงแสนน่าจะเล่นกูแล้วว่ะ” เฮยหลงส่ายหน้าไปมา เขานี่เหรอจะจัดการยายนั่นไม่ได้ มันไม่ใช่แบบนั้นหรอก แล้วมาดูกันว่าเขากับหล่อนใครจะมีลมหายใจอยู่นานกว่ากัน
เพียงแสนต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึกเพราะเสียงโหวกเหวกโวยวายดังมาตั้งแต่ชั้นล่าง แม้จะไม่อยากสนใจคงมีสักคนใกล้ตายก็ได้ถึงเสียงดังขนาดนี้ ในเมื่อนอนยังไงก็นอนไม่หลับจึงคว้าเสื้อคลุมมาสวมแล้วเดินลงบันไดลงไปด้านล่าง หางตาเหลือบไปเห็นหมอประจำตระกูลก็พอรู้แล้วแหละว่ามีคนบาดเจ็บแน่นอน
“นายครับ หมอมาแล้ว” จาร์กัววิ่งหน้าตั้งเข้ามาพร้อมกับคุณหมอประจำตระกูล
เฮยหลงพยักหน้ายกมือออกจากบาดแผลของตัวเอง ใบหน้าเรียบเฉยไม่ได้แสดงความเจ็บปวดออกมาให้ใครเห็น หางตาเหลือบไปเห็นคนเดินลงมาใหม่
‘ว้าย เฮยหลงคุณเป็นอะไร ใครทำอะไรคุณ ฮรือ ๆ คุณต้องเจ็บมากแน่ ใครก็ได้มาช่วยสามีฉันด้วยค่ะ’
จะเวอร์ตลอดทั้งที่เขาก็กลับมาถึงบ้านแล้วก็ตามด้วยโหวกเหวกโวยวายเรียกหมอมาดูแลเขา
แต่นั่นมันเมื่อก่อน ตอนนี้มีเพียงสายตาเรียบนิ่งที่มองมา ซึ่งแน่นอนมันทำให้เขาต้องจดจ้องไปที่เพียงแสนไม่วางตา นอกจากจะไม่มีปฏิกิริยาตกใจแล้วยังยกแขนขึ้นกอดอกพิงไหล่กับกำแพงทอดสายตาเรียบนิ่งมองมาที่เขา มุมปากหยักเหยียดยิ้มทันที
“คุณเพียงแสนนายเรียกครับ”
เพียงแสนตวัดสายตาไปมองจาร์กัวก่อนจะสืบเท้าเข้าไปหาคนนอนเอนกายไปกับโซฟา ด้านข้างมีคุณหมอกำลังทำแผลที่ช่วงหน้าท้องให้ เธอลากสายตาจากแผลขึ้นไปมองหน้าเขาเฉื่อย ๆ
“พอใจกับผลงานไหม?” สายตาดุดันมุมปากเหยียดยิ้มจ้องมองคนเป็นเมียไม่วางตา
“พอใจอะไร” เพียงแสนถามกลับเสียงเรียบ ทั้งอาทิตย์เธอนอนซมกองน้ำตา ไปทำงานก็ไม่ได้เพราะคิ้วแตกหัวแตกต้องรอแผลหาย “คงไม่ได้คิดว่าแสนทำหรอกนะ”
“ยังไม่ได้พูดนิ เผยไต่เหรอ?”
“เฮยหลง!” เพียงแสนกดเสียงต่ำ
ความน้อยเนื้อต่ำใจเข้าแทรกความรู้สึกอีกแล้ว ไม่ว่าเธอจะโดนลากไปทำร้ายแค่ไหนไม่เคยหักหลัง ไม่เคยขายข้อมูล ไม่เคยทำอะไรผิดต่อเขาทั้งต่อหน้าและลับหลัง แต่เขากลับไม่เคยไว้ใจเมียคนนี้เลย
อนุภาพของคนไม่มีรักเราสักนิดมันสาหัสต่อความรู้สึกขนาดนี้เชียวเหรอ!
“หึ ระวังหัวจะหลุดออกจากบ่า”
“ทำตัวเหมือนฉลาดนะ แต่ถ้าแค่นี้ยังดูไม่ออกว่าที่ผ่านมาแสนเป็นยังไงก็แล้วแต่คุณจะคิด มันก็เหลืออีกไม่ถึงปีหรอก”
“ไม่ถึงปีอะไร”
“สิ่งที่คุณอยากได้มาตลอดไง”
“ปากดี พูดออกมากี่ครั้งต่อกี่ครั้งทำได้สักครั้งไหม ครั้งนี้ก็คงไม่ต่างกัน ดีแต่ปาก!”
อึก! เธอเจ็บมากจริง ๆ พอยอมรับว่าเขาไม่รักมันเจ็บขนาดนี้เลยใช่ไหม จริงอย่างที่เฮยหลงบอกที่ผ่านมาเธอยกเรื่องหย่ามาประชดเขากี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ไปอำเภอกี่หน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือเธอหนีปัญหาและไม่กล้าหย่าจริง ๆ ด้วยซ้ำ
“ถ้าอยากได้มากแสนก็จะให้”
“ฉันยินดีตอบแทนเธออย่างงามแลกกับกระดาษใบเดียวเลยเพียงแสน”
เขาก็รอวันนี้มานานแล้วเหมือนกัน วันที่เขาจะเป็นอิสระหลุดจากพันธะที่คนอื่นพยายามยัดเยียดให้ โดยเฉพาะเรื่องการหย่า เขานึกไม่ออกเลยว่าจะจัดการฉลองยิ่งใหญ่ที่สุดแบบไหนดีกับอิสระที่จะได้คืนมา เจ็ดวันเจ็ดคืนเลยยังได้ถ้ามันแลกกับไม่ต้องมีเมียชื่อเพียงแสนอีกต่อไป!