ห้าปีต่อมา
ภายในบ้านหลังหนึ่งซึ่งมีขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ มีร่างบางของหญิงสาวกำลังนั่งกุมขมับพลางทำหน้าเคร่งเครียดอยู่ที่โซฟากลางบ้าน สายตามองดูโทรศัพท์มือถือและอ่านข้อความในห้องแชตซ้ำไปซ้ำมาพร้อมความรู้สึกหนักอึ้งอยู่ภายในอก
“วันนี้พี่สาวของรักทำอะไรกินน้า~” เสียงหวานใสเอ่ยทักถามพี่สาวขึ้นทันทีที่เดินเข้ามาในบ้าน กลิ่นหอมฉุยของอาหารทำให้น้ำลายสอ เพียงนึกถึงอาหารหน้าตาน่าทานกระเพาะอาหารก็หลั่งน้ำย่อยจนเกิดเสียงร้องโครกครากดังระงม เพราะพี่สาวของเธอทำอาหารอร่อยที่สุดในโลก
“รัก...” พี่สาวคนสวยเมื่อได้ยินเสียงก็ค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมามองร่างบางของน้องสาว ก่อนที่จะเอ่ยทักถามด้วยน้ำเสียงแผ่ว ดูไม่สดใสเหมือนดั่งเช่นทุกวัน “กลับมาแล้วเหรอ?”
คิ้วเรียวขมวดมุ่นด้วยความแปลกใจทันทีเมื่อเห็นใบหน้าคิดไม่ตกและน้ำเสียงดูเป็นทุกข์ของพี่สาว รีบสาวเท้าเดินมายอบกายนั่งลงเคียงข้างและเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง “พี่อ้อมเป็นอะไร ทำไมนั่งทำหน้าเครียดล่ะ?”
“รักมีเงินเก็บสำหรับจ่ายค่าเทอมเท่าไหร่นะ?”
“ประมาณหนึ่งแสน พี่อ้อมถามทำไมเหรอ?”
“พี่ขอยืมก่อนสิ”
“หะ! พี่อ้อมจะเอาไปทำอะไร?” พอได้ยินดังนั้นก็ร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจ เพราะไม่คิดว่าพี่สาวจะกล้าออกปากขอยืมเงินกับเธอ
ปกติพวกเธอสองคนพี่น้องจะมีเงินส่วนรวมสำหรับใช้จ่ายในชีวิตประจำวันและเงินเก็บสำรองสำหรับอนาคต ส่วนเงินเก็บส่วนตัวนั้นได้จากน้ำพักน้ำแรงจากการทำงานของแต่ละคน ซึ่งเงินเก็บของใจรักนั้นได้มาจากการที่เธอตะลอนทำงานพาร์ทไทม์เพราะอยากแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของพี่สาว และเงินนั้นเธอก็ตั้งใจเอาไว้ใช้เป็นค่าเทอมในเทอมแรกของการเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย
“ธุรกิจร้านอาหารของทศแฟนของพี่กำลังขาดทุนหนัก เขาต้องใช้เงินไปฟื้นฟูกิจการ”
อ้อมกอดพูดด้วยสีหน้าเป็นทุกข์ พอใจรักได้เห็นพี่สาวเป็นเช่นนั้นก็รู้สึกใจคอไม่ดีไปด้วย แต่ถ้าหากยอมง่าย ๆ คนที่น่าจะลำบากที่สุดก็คงจะเป็นเธอ
“พี่อ้อม...”
“ขอโทษนะรัก พี่จำเป็นต้องยืมก่อน เงินเก็บของพี่ไม่พอ ทศเขาเดือดร้อนจริง ๆ แล้วพี่ก็ไม่อยากขัดใจเขา”
“แต่นั่นมันเงินค่าเทอมของรักนะ ถ้ารักไม่มีมันรักก็จะไม่ได้เรียน”
“ทศเขาสัญญากับพี่ว่าจะรีบคืนก่อนวันจ่ายค่าเทอม แต่ถ้าไม่ทัน...พี่จะรีบหามาคืนแทน”
“ทำไมเราต้องลำบากเพราะ...”
“เพราะเขาคือคนที่พี่รัก พี่รักเขาเหมือนที่พี่รักรัก”
ยังไม่ทันที่ใจรักจะได้พูดจบประโยค พี่สาวของเธอก็พูดสวนขึ้นมา ทำให้เธอต้องเงียบและนิ่งฟังด้วยความรู้สึกไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่ แต่กระนั้นก็ไม่กล้าแสดงอาการหรือความรู้สึกเหล่านั้นออกไป
“รักคือน้องสาวของพี่ ส่วนเขาก็คือคนรักของพี่ อนาคตพี่กับเขาอาจจะได้แต่งงานกัน มีอะไรก็ควรช่วยเหลือเกื้อกูลกันไว้”
พอได้ยินพี่สาวสุดที่รักอย่างอ้อมกอดพูดออกมาแบบนั้นใจรักก็พูดอะไรไม่ออก เธอไม่ได้อยากเป็นคนใจแคบ แต่ค่าเทอมนั้นมันสำคัญมากสำหรับเธอ เนื่องจากมหาวิทยาลัยคือความฝันของเธอ คือสิ่งที่เธอใฝ่ฝันไว้ตั้งแต่พ่อกับแม่เสียชีวิตไป เธออยากเรียนสูง ๆ เพื่อจบมาทำงานดี ๆ เก็บเงินให้ได้เยอะ ๆ และพาพี่สาวไปเที่ยวต่างประเทศ และอีกอย่างเธอก็ไม่อยากเห็นพี่สาวต้องลำบากลำบนทำงานเพื่อหาเงินมาคืนหากผู้ชายคนนั้นเบี้ยวเงิน
“เขายืมทั้งหมดเท่าไหร่เหรอ?”
“ประมาณหนึ่งล้านบาท พี่ต้องยืมเงินเก็บในอนาคตของเราส่วนหนึ่งไปให้ทศด้วยนะ เขาสัญญาว่าจะรีบหามาคืน”
“......” ใจรักพูดไม่ออก ได้แต่เม้มปากแน่นเก็บซ่อนอาการไม่พอใจเอาไว้
“นะรักนะ พี่รบกวนหน่อยนะ”
ใจรักลอบพ่นลมหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนที่จะล้วงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกงยีนตัวเก่าและตัวเก่งของเธอ
“ก็ได้ เดี๋ยวรักโอนให้”
สาวน้อยโอนเงินจำนวนหนึ่งแสนบาทถ้วนให้พี่สาวสุดที่รัก เห็นยอดเงินที่เหลือติดบัญชีเพียงแค่หมื่นนิด ๆ ก็พ่นลมหายใจออกมาเบา ๆ อีกครั้งด้วยความไม่สบายใจ แต่พอเหลือบตาไปมองใบหน้าที่ดูสดใสขึ้นของพี่สาวก็ทำให้เธอใจชื้นด้วยความดีใจ
“ขอบใจมากนะรัก ไปกินข้าวกันดีกว่า พี่ทำกับข้าวรอไว้เยอะเลย”
“ไปกันค่ะ รักหิวแล้ว”
สองพี่น้องเดินจับจูงมือกันไปทางทานอาหารเย็นด้วยกันที่โต๊ะอาหารอย่างมีความสุข แม้จะคละคลุ้งไปด้วยความไม่สบายใจจากสถานการณ์ก่อนหน้านี้ แต่ความรักระหว่างพี่น้องก็ไม่สามารถทำให้มื้ออาหารนี้กร่อยลงได้