EP.6 HATE YOUR LOVE แค้นร้ายพ่ายรัก

1582 คำ
EP.6 HATE YOUR LOVE แค้นร้ายพ่ายรัก “ที่เราหยิบธงนั้นมาได้ ไม่ใช่เพราะว่าพลอยถือมันเอาไว้ไม่แน่นพอหรอกหรอ” ฉันตอบไปตามความความรู้สึกนึกคิดของตัวเอง เพราะตอนนั้นคว้าเอาไว้ช้ากว่าแค่เสี้ยววินาที เพียงแต่ฉันออกแรงกระชากมากกว่าเท่านั้น “ดีนะที่มันแค่ธงโง่ ๆ อะ แต่ถ้าเป็นอย่างอื่น ระวังจบไม่สวยนะซิน เตือนเพราะหวังดีจริง ๆ ไม่ได้เคืองอะไร” พลอยเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยก่อนจะเดินไปทันที PARIS PART ขณะที่ฉันกำลังนั่งทำเล็บอยู่กับยายเอมและยายลิปดา มืออีกข้างก็ปัดเล่นไอจีสตอรี่ไปเรื่อย ๆ ก่อนเจอรูปถ่ายของคนในคณะพีท เพราะว่าฉันมีรหัสอินสตราแกมเขา มันคือวิดีโอคลิปสั้น ๆ เป็นคลิปที่พีทขับเจ็ตสกีเข้าจอดเทียบฝั่ง โดยมีใครอีกคนซ้อนท้ายมาด้วยพร้อมกับธงสีแดง “น้องซินเยี่ยมยอดที่สุด” เสียงคนในคณะต่างโห่ชมผู้หญิงที่ซ้อนท้ายพีทมา “พี่พีทขับเก่งมากเลยนะคะ” ยายเด็กนั่นยิ้มหน้าบานไปทางพีท พีทตัวเปียกเล็กน้อยและฉีกยิ้มจาง ๆ ฉันบรรจงกดไลก์ไปเบา ๆ “เห็นคลิปแล้วยังใจเย็นได้อยู่อีกหรอ นี่มึงแพรริส จริงปะเนี่ย” ยายลิปดามองฉันอย่างระแวง ๆ และทำท่าจะสวดมนต์ “ตอนแรกก็เย็นแล้วนะ แต่ตอนนี้เย็นยะเยือกเลยละ” ฉันแบะปากเล็กน้อย “แปลกที่มึงไม่ชวนพวกกูไปตามล่าพีท ปกติตอนนี้มึงโน่น พังงานคณะไอ้พีทราบเป็นกองแล้ว ถ้าเจอคลิปแบบนี้” ยายเอมพูดแล้วคว่ำปากมองมาทางฉันซึ่งยังคงนั่งทำเล็บอย่างสุขสบายใจ “ตามไปทำไมล่ะ” ฉันหันไปถาม ด้วยใบหน้าตอแหลนิด ๆ “มึงไม่กังวลเลยจริงดิ คนขี้หึงเป็นช้างตกมันแบบมึงเนี่ยนะ...” ยายลิปดาหันมาถามด้วยเสียงประหลาดใจ “แล้วมึงว่าค่ายคณะนั่นกับแพริส อะไรที่พีทขาดไม่ได้” ฉันถามพร้อมอมยิ้มเล็กน้อย “อีแพร มึงมีแผนอะไร เล่ามาเดี๋ยวนี้” ยายตุ๊ดเอมหันมาตาขวางใส่ฉันทันที ชู่ววว ฉันเอานิ้วชี้แตะปากตัวเองเล็กน้อย “แพร!!” ยายเอมเริ่มจริงจังมากขึ้น “เดี๋ยวคืนนี้พีทก็ต้องกลับมาเองแหละ” ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาหลังจากเล็บแห้งสนิทแล้ว “ทำเล็บเสร็จแล้ว ไปต่อขนตาดีไหม คืนนี้จะได้สวย ๆ ไง” ฉันหยิบบัตรเครดิตยื่นจ่ายค่าบริการและชวนพวกนางไปเสริมความงามกันต่อ... “หวังว่ามึงจะไม่ทำอะไรแผลง ๆ นะ” ยายตุ๊ดเอมชี้หน้าคาดโทษฉันเอาไว้ หกโมงเย็น @คอนโด “วันนี้หนูไปนอนติวหนังสือที่ห้อง วีโอเลตนะพี่แพร กลับดึก ๆ” ยายมิราถือหนังสือเล่มใหญ่เดินสะพายเป้ออกไป วีโอเลตก็คือเพื่อนสนิทของยายมิราที่อยู่คอนโดตรงข้ามกัน ฉันเลยไม่ต้องเป็นห่วงมาก แต่ที่น่ากลัวคือน้องอาจจะตายเพราะอ่านหนังสือนี่แหละ “อืม อย่าอ่านเยอะมากนักล่ะ เดี๋ยวตายก่อนสอบเอนทรานซ์พอดี” ฉันลูบหัวยายน้องสาวจอมเนิร์ดไปเบา ๆ “พี่ก็อ่านหนังสือบ้างนะ จะได้ไม่ฟุ้งซ่านและสร้างเรื่อง” ยายมิรายักคิ้วเล็กน้อย “นี่ฉันพี่แกนะ ยายหนอนหนังสือ” ตอบเสร็จก็ดันตัวมิราออกจากห้องไป ปัง!! เสียงปิดประตูห้องดังขึ้น “เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า” ฉันยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูเวลา ก่อนที่จะ... ตุบบบบ ตับบบ ฟุ่บบบ เคร้งงงง เพล้งงงง จัดการปัดข้าวของในห้องให้กระจัดกระจายไปทั่ว “หรือฉันควรย้ายไปเรียนนิเทศ ตอนปีสี่ดีนะ” ฉันพูดแล้วยิ้มแย้มเล็กน้อย “จัดฉากเก่ง” ทั้งยังเริ่มถ่ายภาพจำลองเหตุการณ์เลวร้ายในจินตนาการของตัวเอง ก่อนจะเริ่มถ่ายรูปสภาพห้องที่เหมือนโดนปล้น ข้าวของเครื่องใช้เละเทะไปหมด LINE PARIS: PHOTO PARIS: PHOTO PARIS: PHOTO PARIS: PHOTO _____Read____ PEACH: เกิดอะไรขึ้นแพร มีใครเป็นอะไรไหม ทำไมห้องเป็นแบบนั้น ยังไม่ทันที่ฉันจะพิมพ์ตอบข้อความพีท เขาก็โทรกลับมาทันที ฮือออ ฮือออ ติ๊ด แล้วกดตัดสายทันที ก่อนจะเดินไปอาบน้ำและเริ่มเก็บของที่ตกระเนระนาดให้เป็นระเบียบตามเดิม สามชั่วโมงผ่านไป... ติ๊งต่อง ๆๆ ปัง ๆๆๆๆ เสียงเคาะประตูและกดกริ่งดังสนั่นไปทั้งห้อง ฉันเลยเปิดประตูออกในขณะที่อยู่ในชุดทำครัวสุดน่ารัก ก่อนจะฉีกยิ้มหวาน ๆ ให้พีท “แพร เป็นอะไรไหม ทำไมโทรหาไม่รับ นี่พีทโทรหาทุกคนเลยอะ เกิดอะไรขึ้น แล้วมิราล่ะ พีทโทรหาก็ไม่ติดเหมือนกัน” เขาพูดออกมาแบบสติแตกและดูอิดโรยมาก ใบหน้าชุ่มไปด้วยเหงื่อ ฉันหัวเราะและยิ้มผิดกับใบหน้าวิตกของพีท เพราะดีใจที่อย่างน้อยฉันก็สำคัญกว่าค่ายโง่ ๆ นั่น แต่พีทน่ะสิ จากใบหน้ากังวลเริ่มเปลี่ยนเป็นนิ่ง ๆ และค่อย ๆ มองฉันอย่างสำรวจ “แพรแค่อยากทานดินเนอร์กับพีทน่ะ แพรทำอาหารเองเลยนะ” และฉันก็เฉลย ก่อนจะเดินจับมือพีทเข้ามาในห้องที่มีสภาพเป็นปกติ อีกฝ่ายนิ่งไปแล้วเดินวนรอบ ๆ ห้อง “แพรไม่ได้อยู่ในอันตรายอะไรใช่ไหม ห้องนี้ปกติทุกอย่าง แต่แพรแค่หลอกให้พีทมาหาเท่านั้นน่ะหรอ” พีทหันกลับมาถามฉันด้วยใบหน้าที่ซีเรียส “ก็แพรคิดถึงพีทหนิ ทำไมพีทจะมาหาแพรไม่ได้ล่ะ หรือพีทอยากใช้เวลากับคนอื่นมากกว่าแพร” ฉันขึ้นเสียงเล็กน้อย เถียงกลับอย่างไม่ยอม “พีทต้องขับรถระยะทางเป็นร้อย ๆ กิโลเนี่ยนะ แค่สองคืนเท่านั้นที่พีทเข้าค่ายของคณะแล้วเราไม่ได้เจอกัน” พีทก็โต้กลับมาด้วยใบหน้าเหน็ดเหนื่อย “ก็ขับไปขับกลับสิ แพรก็ต้องการเวลาจากพีทเหมือนกัน” ฉันเริ่มอ้างเหตุผลที่ฟังแทบไม่ขึ้นอย่างคนเอาแต่ใจ พีทปล่อยมือของฉันและกุมขมับตัวเองด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ “พีทขับรถมาจากเกาะนั่นเกือบ 3 ชั่วโมง ทั้งที่พีทเองโคตรจะล้ากับกิจกรรมต่าง ๆ ของคณะ แต่พีทฝืนขับมาตั้งไกลเพราะพีทเป็นห่วงแพร ห่วงจนแทบบ้า ห่วงแพรที่สุด” พีทเงยหน้าและมองฉันอย่างผิดหวัง ดวงตามีน้ำตาคลอเล็กน้อย “ทำไมถึงเอาความรู้สึกของพีท มาล้อเล่นแบบนี้!” พีทถามกลับพร้อมขึ้นเสียงด้วยอารมณ์โกรธ “แพรรู้ตัวปะ ว่าแพรอะ แคร์แต่ตัวเองจริง ๆ” แล้วถอนหายใจก่อนจะเดินออกไปจากห้องทันที ปัง! ฉันวิ่งตามพีทกลับที่รถของเขา “พีทจะไปไหนอีก กลับมาแล้วก็อยู่นี่เลยสิ” “ก็แพรบอกเองไม่ใช่เหรอว่าให้พีทขับไปขับกลับ นี่แพรก็เจอหน้าพีทเรียบร้อย งั้นพีทไปได้แล้วสินะ” อีกฝ่ายหันมาพูดเสียงดังใส่ฉัน จากนั้นจึงเปิดประตูขึ้นรถ “ไม่ได้ แพรไม่ให้กลับไป” ฉันตะโกนกึ่งกรี๊ดใส่คนที่นั่งอยู่บนรถ แต่พีทไม่ได้สนใจ “ถ้าขับออกไป เราเลิกกัน!” ฉันตวาดเสียงแหลมปรี๊ดลั่นอย่างไม่อายใคร พีทนั่งนิ่งในรถอยู่สักพัก ก่อนที่จะค่อย ๆ เคลื่อนผ่านหน้าของฉัน “พีทททท พีทททท” ฉันตะโกนเรียกพีทลั่น ขณะที่รถคันหรูขับออกจากคอนโดไป... ฉันอยากจะกรี๊ดออกมาก็ร้องไม่ออก ทำได้แค่ยืนตัวแข็งทื่ออย่างทำอะไรไม่ถูกขณะมองรถของพีทขับออกไปจนสุดสายตา เขาไม่เคยหันหลังให้ ไม่เคยเดินหนีแบบนี้เลยด้วยซ้ำ ‘ถ้าขับออกไป เราเลิกกัน!!!’ ฉันคิดทวนประโยคนั้นอย่างเจ็บใจ นี่ค่ายโง่เง่านั่นสำคัญกว่าความสัมพันธ์ของเราอีกงั้นเหรอ ก่อนรีบกลับไปที่คอนโดเพื่อคว้าเอากุญแจรถและวิ่งมาที่รถตัวเองทันที ฉันกดสตาร์ทเครื่องยนต์ทั้งที่ตัวสั่นไปหมด “พี่แพร พี่แพร!!” เป็นยายมิราที่วิ่งมาทางฉัน ก่อนจะรีบเปิดประตูขึ้นมาบนรถทันที “ลงไป นี่ไม่ใช่เรื่องของเด็ก” ฉันหันหน้าตวาดใส่มิรา เพราะไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้จริง ๆ “ไม่!! หนูไม่ปล่อยให้พี่ขับรถคนเดียวแน่ จะไปไหนก็ไปด้วยกันสิ” มิราตอบด้วยเสียงอ่อนโยน และค่อย ๆ เอื้อมมือมาจับมือของฉัน “แกนี่มันพูดไม่รู้เรื่องรึไง กลับขึ้นห้องไปซะ” ฉันทำตาขวาง ๆ ใส่ แต่ยายมิรากลับนั่งรัดเข็มขัดแน่นและไม่ยอมพูดอะไรต่อ “ถ้าไม่รีบ เดี๋ยวตามพี่พีทไม่ทันนะ” ทั้งยังหันมาพูดกับฉันนิ่ง ๆ พลางชี้ให้รีบออกรถ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม