ตอนนี้พวกเราทุกคนกำลังปาร์ตี้กันสนุกสนานเลยค่ะ เป็นปาร์ตี้ริมชายหาดที่น่าจะเป็นปาร์ตี้เดียวในโลกที่รวมคนหน้าตาดีโคตรๆ เอาไว้โดยเฉพาะ หน้าตาดีทุกคนไม่มีจุดไหนที่ตกสำรวจเลย ฮ่าๆๆ
แต่ที่ฉันหมั่นไส้ที่สุดก็คงจะเป็นความรักของ 2 คู่รักในทริปนี้ที่หวานกันสุดๆ หวานจนคนไร้คู่อย่างคะนิ้งต้องแอบมองบนด้วยความอิจฉา ส่วนคุณแม่สุเมธดูเหมือนจะไม่ได้สนใจว่าใครจะหวานใส่กันเพราะคุณแม่มีทั้งพี่เวกัส พี่ซีเจย์ให้คอยไปพะเน้าพะนอคลอเคลียไม่ห่าง แล้วท่าทางพี่สองคนนั้นก็ใจดีให้ลวนลามได้แบบไม่จำกัดยูนิตซะด้วย
“สนุกไหมนิ้ง”
“สนุกสิจ้ะ เลิกถามคำนี้ได้แล้วยัยแม่ชี ฉันขอพูดจากใจครั้งเดียวเลยว่าทริปนี้สนุกมากๆ ทุกคนในทริปไม่มีใครทำให้ฉันอึดอัดเลย ถ้าชวนมาอีกคะนิ้งมาแน่นอน” ฉันตอบเจ้าขาไปพลิกบาร์บีคิวในเตาไปด้วย ก็เข้าใจเพื่อนแหละว่ากลัวพาฉันมาแล้วไม่สนุกเพราะเวลาส่วนใหญ่ประมาณ 70 เปอร์เซ็นเจ้าขาเทไปให้พี่มิกซ์คนเดียว
“อื้อ นิ้งอย่ารำคาญนะที่ถามเซ้าซี้ เรากลัวนิ้งไม่สนุกไม่ค่อยได้อยู่กับนิ้งเลย”
“โอ้ย~ ไม่ต้องห่วงอยู่กับพี่สุเมธสนุกกว่าอยู่กับแกอีกเจ้าขา ไปเลยเอาบาร์บีคิวไปป้อนสามีได้เลยค่ะมองตามตาละห้อยแล้วนั่น ไม่รู้หิวบาร์บีคิวรึว่าหิวอะไรกันแน่” ฉันยื่นจานบาร์บีคิวที่สุกแล้วให้เจ้าขาแล้วก็พูดล้อ แต่ไม่ได้ล้อเกินจริงหรอกเพาะพี่มิกซ์เอาแต่มองตามเจ้าขาจริงๆ มองแบบพร้อมสิงมาก อยากโดนผู้ชายหล่อๆ มองแบบนี้บ้าง >///<
“ชิส์! ถ้านิ้งมีบ้างเราจะล้อให้หนักกว่านี้เลย” เจ้าขาย่นจมูกใส่ฉัน น่ารักอีกแล้วลูกสาวแม่นิ้ง
“ตามสบายเลยค่ะ สวย แซบระดับคะนิ้งเพื่อนไม่ได้ล้อธรรมดาแน่นอน เพราะผู้เพื่อนจะไม่มองพร้อมสิงแบบผู้แกแต่ผู้เพื่อนจะมองแบบพร้อมสมสู่”
“คะนิ้ง!” เจ้าขาตาโตแล้วก็ฟาดลงมาที่แขนฉันเต็มแรงทันทีที่ฉันกระซิบบอกคำสุดท้ายจบ
“ฮ่าๆๆ อึ้งเลยสิ ไปเลยเอาบาร์บีคิวไปเสิร์ฟ” ฉันหัวเราะใส่เจ้าขาที่ไม่เคยชินกับคำพูดของฉันสักที ที่จริงยัยเรียบร้อยนี่ก็ไม่ชินกับคำพูดแบบนี้ของใครอยู่แล้วล่ะค่ะฉันเลยชอบพูดแกล้ง แต่ประโยคเมื่อกี้นิ้งก็ค่อนข้างมั่นใจนะคะว่าถ้าว่าที่สามีในอนาคตของนิ้งถ้าลองได้กินนิ้งแล้วรับลองว่าต้องมองคะนิ้งแบบนั้นตลอดเวลาแน่นอน อิอิ อีหลงตัวเอง! ฮ่าๆๆ
“หนูนิ้งลูก~”
“ขาคุณแม่” ฉันหันไปขานรับผู้ชายหน้าหล่อแต่ติดจะสำอางมากที่สุดในสามโลก มองทีไรก็เสียดายของทุกที อยากจะกรี๊ดใส่หน้าคุณแม่สุเมธหลายๆ ครั้ง ที่มีของดีในตัวแต่ใช้ไม่ถูกวิธี
“ไปนั่งพักไหมล่ะเดี๋ยวคุณแม่ย่างต่อเอง”
“ไม่เป็นไรค่ะคุณแม่ นิ้งย่างนี่แหละสนุกดี” ฉันยิ้มให้พี่สุเมธที่อยู่ดีๆ ก็สนิทกันได้แบบรวดเร็วสุดๆ ไม่ได้ย่างคนเดียวหรอกค่ะ สาวๆ ช่วยกันย่างนั่นแหละ แต่อีกสองสาวคือพี่พัดลมกับเจ้าขาเขาต้องหาเวลาปลีกตัวไปหาแฟนบ้าง พี่สุเมธก็คอยสร้างความสนุกให้ทุกคน ฉันไม่มีใครให้เจ๊าะแจ๊ะก็เลยครองเตาอย่างเมามันคนเดียวยาวๆ ไปเลย
“พี่กัสพี่ซีว่างนะคะลูกสาว” ฉันยิ้มแล้วหันมาพลิกกุ้งหอยปูปลาต่อคุณแม่ก็ขยับมากระซิบกระซาบบอกฉัน
“คะ?”
“พี่กัสพี่ซียังว่าง สนไหม คุณแม่ให้ลูกนิ้งเลือกก่อน เพราะคุณแม่กินคนไหนก็ได้ ฟินหมด อิอิ”
“ฮ่าๆๆ ไม่เอาหรอกค่ะ อีกอย่างพวกพี่เขาก็ไม่ได้สนใจนิ้งหรอก” ฉันเข้าใจสิ่งที่พี่สุเมธต้องการสื่อก็หลุดขำออกมาแล้วก็ส่ายหน้าตอบ
“ใครไม่สน สวยขนาดนี้มีแต่เสือหิวมองตามตาเป็นมัน เลือกหน่อยสิ รู้ไหมว่าคุณแม่ปิ๊งหนูมาก ถ้าได้หนูมาร่วมแก๊งเมียคงมีความสุข ขี้เกียจลุ้นนิสัยชะนีคนอื่น” พี่สุเมธจีบปากจีบคอพูดส่วนฉันก็ได้แต่ฟังแล้วก็ยิ้ม
เอาเรื่องจริงไหมคะ คือ...ที่ย้ำว่าไม่หลงเสน่ห์บ่อยๆ นี่ฉันย้ำเตือนตัวเองค่ะ เสือทั้งนั้นเลยนะคะไม่มีใครเป็นแมวเลย ฉันไม่คิดว่าคนที่เหลือจะสามารถเปลี่ยนตัวเองให้เป็นแมวได้หลังจากมีแฟน คงไม่มีใครโชคดีแบบพี่พัดลมแล้วก็เจ้าขาบ่อยๆ และมันคงไม่มีทางที่ผู้ชายแก๊งเดียวกันจะเปลี่ยนนิสัยไปในทางกลัวเมียเหมือนกันได้หมดทุกคน
“ไม่กล้าเสี่ยงค่ะคุณแม่” ฉันหันไปยิ้มตอบทีเล่นทีจริงพี่สุเมธก็เลยยิ้มหวานกลับมา
“จริงๆ แล้วผู้แก๊งนี้ดีทุกคนนะลูกสาว ติดแค่โสดแล้วทำตัวร่าน แต่ที่จริงดีมาก ดีกับเมียนะ แต่กับคนอื่นจะดาร์กๆ เทาๆ หน่อย ถ้าใครได้หัวใจไปครองนี่ยิ่งกว่าซินเดอเรลล่า”
“นั่นแหละค่ะ เอาตัวเองไปเสี่ยงโดยที่ไม่รู้ว่าจะได้เป็นตัวจริงรึเปล่ามันน่ากลัวค่ะพี่สุเมธ นิ้งไม่เล่นกับไฟดีกว่า” เราสองคนไม่ได้คุยแบบซีเรียสนะคะ เหมือนกำลังกระซิบเม้าท์ผู้ชายกันมากกว่าหน้าตาเราสองคนนี่กลอสซิปที่สุดแล้ว
“นั่นสิเนอะ แต่ก็ต้องยอมรับว่าไฟที่เห็นนี่น่าเล่นมาก ถ้าคุณแม่มีมดลูกจะลองเป็นแมงเม่าบินเข้ากองไฟสักที อิอิ แต่ลูกสาวคิดได้แบบนี้ก็ดีเหมือนกันเนอะ ไม่เจ็บตัวเจ็บใจดี เซฟตัวเองแบบผู้หญิงฉลาดมีคุณค่ามาก ผู้หญิงบางคนมีโอกาสได้ใกล้ชิดพวกพี่ๆ เขา ถึงจะรู้ว่าไม่มีโอกาสได้อยู่ยาวก็ยังอยากลองเสี่ยง”
“ถ้าไม่เป็นเสือมากก็อยากลองอยู่ค่ะคุณแม่ งานพรีเมี่ยมขนาดนี้” ฉันตอบยิ้มๆ แล้วก็สนใจกุ้งหอยปูปลาที่เริ่มจะสุกตรงหน้า ย่างเตานี้เสร็จจะไปนั่งคุยกับทุกคนแล้วเหมือนกัน
“อื้อ แต่วันนี้คุณแม่ว่าคุณแม่ได้พลังงานบางอย่างออกมา เหมือนจะเห็นเค้าเสือสิ้นลายตัวต่อไปยังไงก็ไม่รู้” พี่สุเมธพูดกลั้วหัวเราะตามปกติ ส่วนฉันที่ได้ยินก็หันไปมองแล้วขมวดคิ้วมองหน้าพี่สุเมธ อารมณ์เหมือนอยากรู้เรื่องชาวบ้านนั่นแหละค่ะ
“ใครเหรอคะ?”
“ไม่บอก~ ปล่อยให้เป็นเรื่องของพรหมลิขิตและชีวิตของเขา อิอิ หนูอยู่เฉยๆ ของหนูแบบนี้น่ะดีแล้วค่ะ สวยๆ แบบเดิมรอเขาเดินมาสยบแทบอกบึ๊มๆ ก็พอ อิอิ” พี่สุเมธทำหน้ามีลับลมคมในแล้วก็หมุนฟลูเทิร์นเดินบิดสะโพกไปรวมตัวกับทุกคน ทิ้งให้ฉันยืนงงอยู่คนเดียว
เสือสิ้นลาย?
ฉันทวนคำพูดของพี่สุเมธในใจแล้วก็มองไปทางด้านสองคนที่ยังเป็นเสือ พี่ซีเจย์นี่เจอเมื่อกลางวันพูดจาดีออกแนวพี่ชายแต่สายตายังมีลายอยู่เยอะไม่แน่ใจว่าจะอยากลบลายรึเปล่า หรือถ้าจะเป็นเสือสิ้นลายก็ไม่ใช่เพราะอีนิ้งแน่นอน เขาไม่ไดด้มีทีท่าว่าจะสนใจฉันเป็นพิเศษ ถึงแม้ว่าหลายครั้งตอนที่ถ่ายรูปให้พี่ซีเจย์จะแอบมองหุ่นฉันแล้วกลืนน้ำลายก็ตาม แต่มันก็แค่ปฏิกิริยาของผู้ชายทั่วๆ ไปที่เห็นผู้หญิงหุ่นแซบๆ
ส่วนพี่เวกัส...
ไม่สิ้นลายหรอกค่ะ ไม่มีทางสิ้นลายแน่นอน ฉันหันไปมองเพราะจะแอบสำรวจแต่ใครจะคิดว่าจะได้เห็นสายตา เสือหิว ที่กำลังมองมาที่ฉันพอดิบพอดี!
ชัดเลยอีนิ้ง! นั่งเท่ๆ กระดกเบียร์เบาๆ แล้วสายตาจ้องมาแบบไม่กระพริบ สายตาหิวมาก ไม่ต้องเดาก็รู้เพราะเห็นสายตาแบบนี้ของผู้ชายเวลามองผู้หญิงในผับประจำ
แล้วฉันเอาหัวเป็นประกันเลยว่าไม่เคยเห็นสายตาผู้ชายคนไหนที่มองฉันได้หิวเท่าพี่เวกัสอีกแล้ว
...ไม่มีหรอกค่ะคุณแม่เสือสิ้นลาย มีแต่ผู้ชายร้ายๆ ที่เป็นเสือหิว!