บทที่6.หลุมพราง...

1554 คำ
บทที่6.หลุมพราง... หลังจากกลับมาจากการพักผ่อนหลังงานวิวาห์ ภารตีทำตามคำพูดที่รับปากนักรบไว้ เธอร้องของมารดาจนวิภาวีใจอ่อน ยัดตำแหน่งหัวหน้าแผนกให้นักรบเข้าไปทำงานในเดอะเพรส โดยไม่ผ่านความเห็นชอบของนรสิงห์ เมื่อน้องชายของเธออยู่ในช่วงพักร้อนพอดี เขาอยู่ที่ภูเก็ต ใช้เวลาทั้งหมดกับการนอน ชดเชยกับช่วงเวลาที่กร่ำงานมาหลายปี           เดอะเพรส...           ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ เป็นแหล่งช็อบปิ้งที่นรสิงห์ลงแรงทุ่มเทมันสมองจนสามารถทำให้ชื่อเสียงกระฉ่อน มีบรรดาไฮโซ เซเลป และคนทั่วไป ตบเท้าเดินเข้าไปจับจ่าย วันๆ หนึ่งไม่ต่ำว่าแสนคน...มียอดเงินสะพัด มีรายได้เข้าเป็นกอบเป็นกำ จากการเช่าพื้นที่ของบรรดาร้านรวงต่างๆ           นักรบเดินยืดเขาเข้ามาเหยียบในเดอะเพรสสมความตั้งใจ แม้จะเป็นแค่ตำแหน่งเล็กๆ แต่ในอนาคตเขาต้องไปไกลกว่านั้น เมื่อเป็นสามีของภารตี บุตรสาวหุ้นส่วนใหญ่ของเดอะเพรส           ระหว่างทางบรรดาคนขี้ประจบพากันเข้ามาฝากตัว ยิ่งทำให้นักรบลำพองมากขึ้น           ขนาดบอร์ทบริหารบางคนที่เดินผ่าน ยังกล่าวทักทาย ยิ่งทำให้ชายหนุ่มเดินยืดมากขึ้นอีก           “เชิญค่ะ นี่ห้องทำงานของคุณนักรบ”           หัวหน้าฝ่ายบุคคลลงทุนมาต้อนรับด้วยตนเอง เมื่อเป็นคำสั่งจากเบื้องสูง จะมีใครหน้าไหนกล้าขัด เมื่อขณะนี้คนที่กุมบังเ**ยนคือวิภาวี เมื่อนรสิงห์อยู่ในช่วงพักร้อน           ในการทำงานวันแรกของนักรบ คือการทำความรู้จักกับหัวหน้าฝ่าย และผู้บริหารระดับสูงหลายท่าน รวมถึงการเดินวางกล้าม ทำท่าอวดตัว แม้จะเป็นที่ขัดนัยน์ตาใครหลายคน แต่ใครล่ะจะกล้าพูด เมื่อด้านข้างของชายหนุ่ม มีภารตีบุตรสาวของบอร์ทใหญ่เดินขนาบไปด้วย           “ตีจ๋า ตีจะไปช็อป หรือจะไปเสริมสวยก็ได้นะ ผมไม่อยากให้ใครๆ นินทา ว่ามีเมียมาคอยคุม”           ชายหนุ่มกล่าวเสียงหวาน แต่ใจความสำคัญคือการไล่ภารตีกลายๆ           “ตีกลัวคุณรบไม่คุ้นกับงานค่ะ เลยอยากอยู่ช่วย”           “ผัวตีน่ะจบนอกนะครับ ผมน่าจะทำได้ งานไม่ได้ยากอะไรเลย ที่สำคัญ ผมไม่อยากให้ตีเหนื่อย”           ชายหนุ่มรีบตะล่อมเสียงหวาน เขาแอบเบ้ปาก เมื่อมีภารตีคอยตามแจ...           “ก็ได้ค่ะ เย็นๆ ตีจะแวะมารับนะคะ” รถยนต์ที่ขับมาจากบ้านของภารตี เป็นรถนำเข้ารุ่นล่าสุด เป็นของขวัญแต่งงานที่วิภาวีจัดให้บุตรสาว ตามคำเรียกร้องของเจ้าตัว แต่นั่นเป็นความต้องการของนักรบ เมื่อภารตีไม่นิยมขับรถยนต์ เธอไม่อยากอารมณ์เสียเพราะการจราจรแสนแน่นขนัดบนท้องถนน สู้นั่งสบายๆ มีคนขับมากกว่า           “อย่าเลยครับ วันนี้ตีอยู่บ้าน ทำอาหารไว้รอผมดีกว่า ผมจะรีบกลับไม่ไถลออกนอกทางเด็ดขาด”           ชายหนุ่มรีบพูดเสียงขึงขัง...หากภารตีจะกลับ หล่อนย่อมเรียกคนขับรถแน่ ดังนั้น เขาจะได้ขับรถยนต์หรูฉายเดี่ยวคนเดียว           “ตีไม่ชอบเข้าครัวนี่คะ”           ภรรยาหมาดๆ ทำหน้ายับ เธอไม่ชอบกลิ่นเครื่องเทศที่ติดผม ติดเสื้อผ้า อีกอย่างที่บ้านของเธอมีแม่ครัวคอยจัดให้ เธอไม่เคยต้องทำอะไรแบบนั้น แม่แต่การรินน้ำใส่แก้ว           “ตีจ๋า... รู้มั้ย เสน่ห์ปลายจวักน่ะ ผัวรักผัวหลง หากตีทำกับข้าวไว้รอ...ผมจะไปไหนรอด”           คำหวานที่แฝงไว้ด้วยยาพิษ นักรบพูดได้แบบไม่ติดขัด เพียงเพื่อจะสลัดผู้หญิงน่ารำคาญคนหนึ่งออกไปห่างๆ ตัว เขาอยากมีเวลาที่เป็นตัวเอง ไม่ต้องเกร็งและปั้นหน้าตลอดเวลาเช่นนี้           “ก็ได้ค่ะ คุณรบรู้ไว้นะคะ ตีรักคุณ ตีเลยอยากให้คุณพอใจ รีบกลับบ้านนะคะคนดี”           หญิงสาวถอนใจ...ยังไงเสีย คนในสังคมรับรู้กันไปทั่ว นักรบ คือสามีของเธอ และเวลานี้เธอเป็นสะใภ้ไชยยะนัน           อีหน้าไหนแหลมเข้ามา เธอมีสิทธิ์จัดการในฐานะเมียแต่ง!!           ชายหนุ่มจึงเริงร่า ส่งสายตาหวานๆ ให้พนักงานสาวๆ ที่หวังสบายทางลัด แม้จะต้องแลกมาด้วยการเสียอะไรบางอย่าง...           1อาทิตย์สำหรับการทำงานที่เดอะเพรส...นักรบทำดี จนมีแต่เสียงชม แต่นั่นคือหน้าฉาก เพราะเข้าต้องการให้ทุกคนยอมรับ และเวลานี้ยังไม่มีช่องพอ จะให้ยักยอกได้...           การประชุมบอร์ทจบลงด้วยดี มีเสียงเอ่ยชมจนภารตียิ้มปลื้มกับความสามารถของสามี รวมทั้งแม่ยายอย่างวิภาวี ที่พลอยได้หน้าไปด้วย...           “ทำไมต้องให้คุณรบไปด้วยคะแม่?”           ภูเก็ต...เธอไม่อยากให้นักรบไปเหยียบที่จังหวัดนั้น เมื่อ บุษบัน ยังอยู่ที่นั่น!!           “ยัยตี แยกแยะหน่อย ฉันส่งผัวแกไปทำงานนะ หากอยากให้คนอื่นรวมทั้งน้าแกยอมรับผัวแก ก็อยู่เฉยๆ”           วิภาวีปรามเสียงขุ่น หล่อนถอนใจแรงๆ กับความเจ้ากี้เจ้าการของบุตรสาว           “แม่ก็รู้ ตียุ่ง!! ตีไม่ไว้ใจให้คุณรบไปคนเดียว”           ภารตีมีกำหนดไปทำสวยที่เกาหลี เธอนัดหมอไว้แล้ว และเลื่อนไม่ได้เสียด้วย           “ปล่อยๆ บ้างก็ได้ผัวน่ะ เขาเป็นผัวแก ไม่ใช่ลูก ตามจิกแบบนี้เดี๋ยวเขาจะรำคาญ” นางสอนบุตรสาวด้วยความหวังดี           “แม่ก็...อีนั่นมันจ้องคุณรบตาเป็นมัน หากตีเผลอ...”           “ตบมือข้างเดียวไม่ดังหรอกนะตี...หากผัวแกไม่เล่นด้วย อีนังนั่นก็ทำอะไรไม่ได้”           วิภาวีติง...เธอหนักใจแทนบุตรสาว เมื่อนักรบน่ะดูไม่ยาก ลูกเขยนางมีความลับซุกไว้เยอะ และคงกะล่อนไม่น้อย           “เปลี่ยนคนไปไม่ได้เหรอแม่...” บุตรสาวหน้าม่อย อ้อนมารดาเสียงอ่อยๆ           “ตี...คิดในแง่ดีซิลูก ให้เขาพิสูจน์ตัวเอง หากเขาไม่ยุ่งกับอีนังนั่น ลูกก็จะได้วางใจไง แต่ถ้าหางโผล่!! จบเร็วก็ดีสำหรับตัวลูก”           ในฐานะมารดา เธอรักบุตรสาวยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด หากบุตรเขยเป็นคนหน้าไหว้หลังหลอก ครั้งนี้ก็จะเป็นบทพิสูจน์อย่างหนึ่ง ยังไงเสีย นรสิงห์ก็อยู่ที่นั่น นางอาศัยไหว้วานให้น้องชายเป็นหูเป็นตาให้ หากนักรบชั่วชาติ เขาก็ไม่สมควรร่วมอยู่ในครอบครัวของนาง           “คุณแม่!!”           ภารตีร้องเสียงหลง แต่เมื่อคิดดูอีกที ครั้งนี้ก็เป็นการพิสูจน์นักรบอย่างที่มารดาพูด จะได้รู้ดำ รู้แดงไปเลย ว่าเขาจริงใจแค่ไหน แม้จะรู้สึกหวิวๆ ในอก เมื่อภารตีเองก็ไม่ใคร่แน่ใจ ว่าสามีรักเธอ หรือสตางค์ในกระเป๋าของเธอ           “สิงห์อยู่ที่นั่น ตีจะกลัวอะไรลูก แม่จะให้น้าเราจับตาดูอีกทาง”           ภารตีถอนใจ เธอพยักหน้าเห็นด้วย...หลังใคร่ครวญถึงผลได้ผลเสีย แม้จะผ่านงานวิวาห์มาแล้วแค่1 อาทิตย์กว่าๆ           “กลับหรือยังครับทูนหัว สวัสดีครับคุณแม่”           นักรบยิ้มประจบส่งให้มารดาของภรรยา วิภาวีแค่นยิ้มให้ เธอไม่สนิทใจที่จะรับไหว้ เมื่อกว่าจะได้นักรบมาเป็นสามีของบุตร สาว เธอควักกระเป๋าจ่าย ไปไม่น้อย เหมือนเวลานี้นางรับเลี้ยงคนทั้งไชยยะนันด้วย เพราะสิ่งที่นักรบเรียกร้องจากบุตรสาว นับตั้งแต่กินตำแหน่งสามี ภารตีควักจ่ายไปเกือบ10ล้าน           “คุณรบ!!” ภารตีเตรียมจะย้ำ           “อะแห้ม!!” แต่เสียงกระเอมของมารดาดังขัดจังหวะ นางถลึงตาใส่บุตรสาวไม่ให้ภารตีเตือนสามี เขาจะได้ไม่ทันระวังตัว หากนักรบคิดจะนอกลู่นอกทาง           หญิงสาวถอนใจ เธอยอมกลืนคำพูด เพราะอยากรู้ใจสามีเช่นกัน           “อะไรครับตี?”           “เปล่าค่ะ ตีกำลังจะชวนคุณรบไปทานข้าว แม่คงไม่ว่างไปกับเรา...”           หญิงสาวเลยแสร้งเปลี่ยนเรื่องพูด           “ไปเถอะตี แม่มีเรื่องต้องคุยกับบอร์ทบริหารอีกหลายอย่าง คงไม่ออกไปไหนวันนี้”           นางรีบสวมรับ ก่อนจะเดินแยกไปอีกทาง รู้สึกหนักอึ้งในอก เพราะการที่นำบุตรเขยมาทำงานในเดอะเพรส นางยังไม่ได้บอกน้องชาย           “ไปค่ะคุณรบ จะได้รีบกลับมาทำงาน”           ภารตีสอดมือคล้องแขนสามี เธอเอียงใบหน้าซบไหล่ของนักรบ ซ่อนแววตาเป็นกังวลไว้ โดยที่ชายหนุ่มนึกกระหยิ่ม...เมื่อเขารู้กำหนดการของภารตี วันพรุ่งนี้เขาออกเดินทางไปภูเก็ต โดยที่ภารตีต้องเหินฟ้าไปเกาหลี เพื่ออัปหน้าตัวเอง...           วันนั้นทั้งวัน นักรบจึงแสร้งหวานกับภรรยา เพื่อให้หล่อนคลายใจ เขากลัวที่สุด กลัวภารตีเปลี่ยนใจ และตามไปคุมเขาเหมือนเดิม...           วันรุ่งขึ้น...           ชายหนุ่มโบกมือลาภรรยาคนสวย เขาจูบหน้าผากหล่อน แถมทำท่าอิดออด จนภารตีเกือบเปลี่ยนใจ แต่เมื่อหล่อนหายลับไปหลังเกท นักรบจึงพ่นลมหายใจแรงๆ เขายิ้มกริ่มเมื่อนึกถึงแผนการที่ร่างไว้ในอกคร่าวๆ           ครั้งนี้...บุษบัน...หนีไม่รอดแน่ๆ           เขาจะสยบหล่อนไว้ใต้อุ้งมือ...เมื่อหล่อนทำให้เขาขาดความมั่นใจ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม