บทที่1.วิวาห์พาฝัน....................

1492 คำ
 “หูยยย หล่อ หรู โปรไฟล์ดี มาดสุขุม ดูดีตั้งแต่หัวจรดเท้า แต่ถ้ามีแต่ตัวก็ไม่ไหวนะเธอ” หล่อนยกมือปิดปาก หัวเราะคิกคัก เพราะต่อให้นักรบเป็นผู้ชายในฝัน หากกระเป๋าใส่สตางค์ของเขาเบาหวิว ก็ไม่มีผู้หญิงคนไหนสนใจเขาหรอก “ยัยตีคงไม่แคร์หร๊อก!! หล่อนอู้ฟู่รวยเหลือกินเหลือใช้ กะอีแค่ซื้อ ‘ผัว’ สักคน คงไม่ทำให้สมบัติหล่อนยุบยอบลงไปเท่าใดหร๊อกจ้า” เป็นการนินทาระยะเผาขน เมื่อคู่บ่าว สาว ยืนอยู่เยื้องๆ คู่รักที่มีความสุขยิ้มเยือน หารู้ไม่ว่า รอบๆ ตัวเขา มีแต่เสียงนินทา บุษบันถอนใจ เธอเดินเลี่ยงหลบ เมื่อมองเห็นคุณรินลดาโบกมือเรียกอีกครั้ง ถาดใส่เครื่องดื่มของเธอพร่องลงไปเยอะ...เมื่อแต่ละคนที่มาร่วมงาน ต่างร่วมเฉลิมฉลองกันแบบไม่อั้น เมื่อเจ้าของงานใจป้ำเปย์ไม่ยั้งเหมือนกัน “เดี๋ยว” เสียงห้าวร้องเรียกเธอ บุษบันหันไปยิ้มให้ เธอยื่นถาดไปตรงหน้าเขา ก่อนจะสะดุดลมหายใจตัวเอง เพราะดวงตาคู่คมนั่น ตรึงเธอจนกลายเป็นหุ่นยนต์ไปชั่วขณะ ตั้งแต่เกิดจนโตเป็นสาว บุษบันไม่เคยเจอผู้ชายคนไหนที่มีดวงตาดูลึกลับและแปลความหมายไม่ออก เหมือนคนตรงหน้าสักนิด ผู้ชายตัวใหญ่ ไหล่กว้าง ตัวสูงเหมือนนักกีฬา เขาสวมสูทผ่าหน้าแบบไร้กระดุม ใต้เสื้อสูทมีเสื้อยืดแนบเนื้อสีขาว เผยให้เห็นลอนกล้ามพอๆ กับนายแบบดังบางคนที่ถ่ายรูปแนวเซ็กซี่ ปลายคางของชายหนุ่มมีไรเคราจางๆ จมูกของเขาโด่งคม รับกับดวงตาคมกริบ เธอกลืนน้ำลายฝืดๆ รีบดึงสติของตนเองกลับมา กะพริบเปลือกตาปริบๆ เมื่อเขากลับยืนเฉย ไม่ได้หยิบเครื่องดื่มในถาดที่มีไว้บริการ “เออ...” “เธอต้องการอะไรบุษบัน ทำไมเธอมาอยู่ที่นี่?” คำถามของเขาทำให้บุษบันตกใจ เธอผงะถอยหลัง แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรมากกว่านั้น เมื่อช้อนสายขึ้นมองเขาตรงๆ “แล้วทำไมบุษจะอยู่ที่นี่ไม่ได้ล่ะคะ?” เธอย้อนถามเขา หากเขารู้จักเธอ แล้วทำไมเขาถึงถามเธอแบบนั้น นรสิงห์หรี่เปลือกตาลง เขาประเมินผู้หญิงตรงหน้าต่ำไป หล่อนดูไม่ยี่หระ แม้จะยืนอยู่ในงานสำคัญของ ‘แฟนเก่า’ “ถ้าเธอไม่ก่อปัญหาก็แล้วไปเถอะ!! เธอจะอยู่ที่ไหนก็สิทธิ์ของเธอบุษบัน แต่...หากความวุ่นวายนั้น สาเหตุมาจากเธอละก็...เธอกับฉันคงได้เจอกันอีกแน่” ชายหนุ่มเปรยเสียงเย็น เขาปรายตามองหญิงสาวด้วยแววตาเย็นเฉียบ หญิงสาวไหวไหล่ให้กับคำขู่ที่แสนน่ารังเกียจนั่น เขาคิดว่าเธอจะทำอะไรเหรอ...ถึงเธอจะถูกทิ้ง!! แต่บุษบันก็ไม่ใช่คนเจ้าคิดเจ้าแค้น เธอปลงได้กับความจอมปลอมที่นักรบโยนใส่ บางครั้งเธอยังนึกเวทนาภารตีด้วยซ้ำ ผู้ชายคนนั้นจะเสแสร้งและปลอกลอกหล่อนไปอีกเท่าใด กับการจมไม่ลงของเขาเอง “ถ้าไม่มีอะไรแล้ว...บุษขอตัวนะคะ” หญิงสาวค้อมตัวลง เธอเดินจากไป พร้อมกับความระแวง เมื่อนรสิงห์ไม่คิดว่า บุษบันจะมาอย่างมิตร “บุษรู้จักคุณสิงห์ด้วยหรือจ้ะ?” รินลดาส่งยิ้มให้ชายหนุ่มด้านหลังลูกน้องสาวสวย เธอถามหญิงสาวตรงหน้าเพราะอยากรู้จริงๆ “ใครคะ? อ้อ...ผู้ชายคนนั้น... บุษไม่รู้จักหรอกค่ะ เพิ่งจะเคยเห็นหน้าเธอก็วันนี้เอง” หญิงสาวส่งต่อถาดเครื่องดื่มให้กับพนักงานที่รับช่วงต่อ เธอตอบแก้ความกังขาของนายจ้าง “เห็นคุยกันตั้งนาน คุณรินก็คิดว่าบุษรู้จักเธอเสียอีก” เจ้าของรีสอร์ตเปรยลอยๆ “บุษอีกทีนะ คืนนี้คุณรินมีงานด่วน ต้องบินไปกรุงเทพฯ ดังนั้น อยากให้บุษช่วยประสานงานแทนคุณรินที” สาวใหญ่กล่าวเซ็งๆ แทนที่จะได้อยู่ดูบรรยากาศยามค่ำ ของงานวิวาห์สุดหรู เธอกลับมีงานต้องบินด่วนเสียอย่างนั้นเอง “จะดีเหรอคะคุณริน” หญิงสาวยิ้มแหยๆ เธอพยายามที่สุดที่จะอยู่ให้ห่างงานนี้ แต่ทำไมโชคชะตาเล่นตลกเสียเหลือเกิน ยิ่งวิ่งหนี กลับยิ่งขยับเข้าไปพัวพัน “คุณรินไว้ใจบุษนะ เอาน่า... นึกว่าเป็นการทดลองคุมงานครั้งแรกของบุษด้วย” รินลดายิ้มให้กำลังใจ เธอไม่รู้ว่าบุษบันมีความหลังกับคนเหล่านั้น “ชุดที่จะใส่อยู่ในห้องคุณรินนะ ไซส์บุษกับคุณรินน่าจะใกล้เคียงกัน คุณรินอนุญาต... อย่าให้เสียชื่อล่ะ” นายสาวกล่าวให้กำลังใจ ก่อนจะเดินไปอีกทาง เธอหมุนตัวมาโบกมือให้บุษบัน... “เห้อ...” เสียงถอนหายใจแรงๆ หลังนายจ้างสาว กระโดดขึ้นรถยนต์ส่วนตัวเพื่อจะไปยังสนามบิน ชุดเดรสสีโอรสถูกวางไว้บนที่นอน บุษบันถอนใจเฮือกใหญ่ๆ เธอไม่อยากทำหน้าที่นี้เลย เพราะมันเสี่ยงมากที่จะต้องเผชิญหน้ากับนักรบและภารตีตรงๆ สำหรับตัวนักรบเอง ความสัมพันธ์ของเธอกับเขาจบลงตั้งแต่วันนั้น ไม่มีอะไรมาเปลี่ยนความต้องการของเขาได้ และก็ไม่มีอะไรมาเปลี่ยนความคิดของเธอได้เช่นกัน ความอ่อนหวานของความรู้สึกแสนพิเศษนั่น บุษบันจะเก็บไว้ในใจ เก็บไว้เป็นความทรงจำไว้เตือนตนในอนาคต ครั้งหนึ่งเธอเคยสัมผัสกับความละมุนละไมของ ‘ความรัก’ มาก่อน แม้ผู้ชายคนนั้นจะไม่ได้รักเธอ เท่าที่เธอรักเขา           หญิงสาวรีบแต่งตัว หลังเหลือบมองเวลาที่นาฬิกาที่แขวนอยู่บนพนังห้อง...เวลาเหลือน้อยนิดเสียจนเธอมัวโอ้เอ้ไม่ได้ เป็นความลำบากใจที่สุดของบุษบัน!! หากเธอไปปรากฏกายขึ้นในบริเวณงานเลี้ยง ผู้ชายคนนั้น... คงจับตามองเธอด้วยอคติในใจอีกเป็นแน่…           แล้วก็เป็นจริงดังคาด...           เมื่อบุษบันเดินเข้าไปในบริเวณงานเลี้ยง...           มันเหมือนกับเวลาหยุดลงชั่วขณะ เพราะเสียงร้องกรี๊ดๆ ของ เจ้าสาว           “อีๆ อีหน้าด้าน...ใครเชิญแกมาไม่ทราบ!!”           ภารตีหอบกระโปรงยางฟูฟ่องของหล่อนไว้ในอ้อมแขนเดินฝ่าแขกสนิท มิตรสหายตรงเข้าไปหาบุษบันทันที หล่อนส่งเสียงเกรี้ยวกราดแบบไม่รักษากริยา พร้อมกับแผดเสียงก้อง...ตั้งท่าเล่นงานหญิงสาวคนมาใหม่แบบไม่ไว้หน้าใครทั้งหมด           นักรบยืนอึ้ง...กว่าเขาจะทันได้ตั้งตัว ผู้หญิงที่เขาวางหล่อนไว้ในตำแหน่งทรงเกียรติ ก็เดินถลาลิ่วๆ ไปไกล เกินกว่าจะห้ามทันเสียแล้ว           นรสิงห์เป็นอีกคนที่ขยับตัวตามหลานสาว เขาเดินลิ่วๆ ตามหลังภารตี พร้อมรีบส่งเสียงปราม           “ยัยตี หยุดๆ แกจะร้องกรี๊ดๆ ทำไมหะ?” นรสิงห์ตะโกนห้าม           “จะให้ตีหยุดได้ยังไงคะน้าสิงห์ อีนี่มันจงใจมาป่วนงานตีชัดๆ”           หล่อนหันไปกล่าวแก้ให้ตัวเอง แต่ฝีเท้าที่ก้าวเดินก็ไม่ได้ชลอลง           “น้ารู้ แต่นี่มันงานแก รักษาหน้ากษิดิศชญาธรด้วยสิ” คุณน้าวัยหนุ่มติงด้วยความหวังดี เพราะบรรดาแขกเรื่อที่มาร่วมเป็นสักขีพยานในครั้ง มีแต่คนระดับเดียวกัน ไฮโซ เซเลป ภารตีจะทำให้กษิดิศชญาธรทั้งหมดต้องเอาหน้าซุกดิน หากหล่อนยังไม่หยุดกริยาต่ำๆ เช่นนั้น           “อีนั่นสิคะมันต้องอาย มันกล้าดียังไงมาเสนอหน้าที่นี่ ทั้งที่ตีไม่ได้เชิญ”           หล่อนยังไม่หยุดความคลั่งแค้น ตะเบ็งเสียงแบบไม่กลัวใครได้ยิน และหวังจะฉีกหน้าบุษบัน ให้หล่อนไม่มีที่ยืนในสังคม           “ขอโทษเถิดค่ะ ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นเหรอคะ?”           บุษบันสลัดความกลัวในใจทิ้งไป เธอไม่ได้มาป่วน เธอมาเพื่อเป็นตัวแทนรินลดา เธอมาทำงาน!! “อย่ามาทำหน้าตาย อีสะตอ!!”           เจ้าสาวแสนสวยเปิดฉากฉะ โดยมีสายตาหลายร้อยคู่มองตาไม่กะพริบ           นักรบกระหืดกระหอบมาถึง หลังภารตีและนรสิงห์ไม่กี่นาที แต่ก็ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลย เขาหมุนมองรอบๆ ตัวพร้อมกับสีหน้าที่ค่อยๆ ซีดลง           “ขอประทานโทษค่ะคุณลูกค้า” บุษบันเน้นคำพูดเหมือนกับบอกอีกฝ่ายเป็นนัยๆ แต่ความโกรธบังตาภารตีเสียแล้ว หล่อนไม่สนใจอื่นใดทั้งสิ้น ที่หญิงสาวต้องการคือทำทุกทางให้ผู้หญิงตรงหน้าอายจนต้องเอาปีบคลุมหัวเดิน           “แกมาทำอะไรที่นี่หะ...แกจงใจอยากให้งานฉันล่มล่ะสิ!!”           บุษบันถอนใจแรงๆ เธอโบกมือเรียกใครบางคน ที่ยืนอยู่ไม่ไกล “คุณซ้งคะ ช่วยบอกคุณภารตีหน่อยได้ไหมคะ ดิฉันมีหน้าที่อะไรที่รีสอร์ตแห่งนี้”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม