ตอนที่1 เพื่อเธอที่รัก
ชีวิตที่ดูมีความสุขมากของครอบครัว “กุลณฉัตร” สามีที่ขยันทำงานเพื่อหาเลี้ยงครอบครัว ไม่ให้ภรรยาต้องออกไปทำงานลำบากนอกบ้าน “อรสา” มีเพียงหน้าที่เดียวที่ต้องทำคือเลี้ยงดู “จันทร์เจ้าขา” ลูกสาวอันเป็นที่รักของเธอกับ “ทวิภพ” สามีที่อยู่กินกันมานานถึงแปดปี ทวิภพไม่เคยทำให้อรสาต้องหนักอกหนักใจเลยสักครั้ง เพราะเขาเป็นผู้ชายที่รักครอบครัวมาก ไม่มีสักครั้งที่จะออกนอกลู่นอกทางให้ครอบครัวต้องมีปัญหากัน
“คุณแม่ขา วันพรุ่งนี้วันเกิดเจ้าขาแล้ว คุณพ่อจะกลับมาทันไหมคะ?”
หนูน้อยจันทร์เจ้าขาในวัยย่างเข้าห้าขวบ พูดคุยเสียงเจื้อยแจ้วในขณะที่นั่งรถกลับมาจากโรงเรียนกับผู้เป็นแม่ ซึ่งก็เป็นแบบนี้ทุก ๆ วัน ทำให้ชีวิตของอรสาไม่เคยจะเหงา และเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขที่ชวนให้ยิ้มได้เสมอ
“เดี๋ยวกลับถึงบ้าน หนูโทรถามคุณพ่อนะคะว่าจะกลับมาบ้านกี่โมง”
อรสายิ้มให้กับลูกสาว ตั้งแต่มีจันทร์เจ้าขาชีวิตครอบครัวของเธอก็ถูกเติมเต็มสมบูรณ์ และมีความสุขมากยิ่งขึ้น สามารถพูดได้เต็มปากว่าลูกสาวคือความโชคดีของชีวิต เพราะตั้งแต่จันทร์เจ้าขาเกิดมา ครอบครัวที่เคยทุกข์ยากลำบากมาก กลับกลายเป็นดีทุกอย่างจนน่าเหลือเชื่อ กิจการครอบครัวที่สามีเคยทำ ตอนนี้ขยายใหญ่จนกลายเป็นห้างหุ้นส่วนที่มีชื่อเสียงในวงกว้าง จากที่เคยเช่าบ้านคนอื่นอยู่ จนมาวันนี้สามารถซื้อบ้านราคาหลายสิบล้านด้วยเงินสดเป็นของขวัญให้กับชีวิต ใคร ๆ ในละแวกนี้มักจะเรียกทวิภพว่า “เสี่ยภพ” ทั้งที่เขาอายุเพิ่งจะสามสิบห้าปีเพียงเท่านั้น แต่ความมั่งมีก็ทำให้เขามีหน้ามีตาอัพเกรดตัวเองให้ดูสง่างามและสูงส่งมากยิ่งขึ้น
“เจ้าขาอยากไปเที่ยวทะเลด้วยค่ะคุณแม่ พรุ่งนี้วันหยุดแล้วเราชวนคุณพ่อไปเที่ยวทะเลกันนะคะ”
ความช่างพูดและเป็นเด็กร่าเริงแจ่มใส ทำให้คนเป็นแม่ต้องอมยิ้มตามทุกครั้งที่ได้ฟังเสียงเล็ก ๆ แห่งความสุขนี้
“ได้สิคะ เดี๋ยวเราแวะซูเปอร์ซื้อของเข้าบ้านก่อนนะลูก”
“ค่ะคุณแม่”
สองแม่ลูกขับรถเลี้ยวเข้าซูเปอร์มาเก็ตทางผ่านก่อนกลับบ้าน ซื้อหาจับจ่ายของกินและของใช้ ตามหน้าที่แม่บ้านที่ดีพึงกระทำ ดวงตากลมโตสีน้ำตาลอ่อนกลับมองเห็นคนคุ้นเคย ที่เขากำลังเดินอยู่กับสาวสวยหน้าตาดีคนหนึ่งด้วยความบังเอิญ หัวใจที่ไหวอ่อนเริ่มสั่นสะท้านอย่างห้ามไม่ได้ ท่าทางที่ดูสนิทสนมเดินโอบกอดรอบเอวกัน เธอไม่อยากคิดไปไกลสักนิดว่าสองนั้นคนนั้นเกินเลยกันไปถึงขั้นไหนแล้ว
อรสาไม่เคยระแวงสามีเลยสักครั้ง แม้ว่าจะมีบางคนพยายามพูดให้ได้ยินหลายต่อหลายหน ว่าทวิภพสามีของเธอกำลังมีผู้หญิงคนอื่น หรือว่าทุกครั้งที่เขากลับบ้านดึกดื่น ที่จริงแล้วเขาไม่ได้ยุ่งกับเรื่องงาน แต่กำลังยุ่งกับสาวสวยอย่างหล่อนคนนั้นกันแน่นะ
“คุณแม่ขา เจ้าขาอยากได้กีวีด้วย”
เสียงของลูกสาวทำให้อรสาสะดุ้ง และหันกลับมาสนใจลูกน้อย มากกว่าความคลางแคลงใจที่กำลังสงสัยสามีอยู่
“ได้สิคะ เจ้าขาเอาเมลอนด้วยไหมลูก”
“เอาก็ได้ค่ะคุณแม่”
สองแม่ลูกยังคงเดินชอปปิ้งไปด้วยกัน เหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย ทั้งที่ในใจของอรสากำลังร้อนรุ่มดั่งไฟเผา แต่เธอก็ต้องรอให้เขากลับมาบ้านเสียก่อน จะได้ซักถามหาความจริงว่าสิ่งที่เห็นเมื่อครู่นี้มันคืออะไรกันแน่
ทวิภพกลับเข้าบ้านมาในเวลาเกือบตีสอง เหมือนกับหลาย ๆ คืนที่ผ่านมา เพราะเขาบอกกับภรรยาว่าติดลูกค้า ต้องออกไปคุยงานแล้วก็สังสรรค์กันต่ออีกนิดหน่อย ซึ่งอรสาไม่เคยว่าหรือซักไซ้คอยจับผิดสามีเลยสักครั้ง ก็ตั้งแต่ทางบ้านเริ่มมีฐานะดีขึ้น ชีวิตของทวิภพเองก็เป็นแบบนี้อยู่บ่อยครั้งจนกลายเป็นเรื่องปกติ
เพื่อนฝูงที่มีก็มาจากหลากหลายสายงาน สังคมที่ดูกว้างขึ้นกลับบ้านดึกคือเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยจนชิน
ทวิภพอาบน้ำชำระร่างกายพร้อมกับสวมใส่ชุดนอนจนเรียบร้อย ขาสูงยาวก้าวเดินตรงไปยังห้องนอนของลูกสาว เพื่อหอมแก้มอย่างเช่นทุกครั้งที่ชอบทำ ก่อนจะเดินกลับไปยังห้องนอนใหญ่ ที่มีภรรยากำลังนอนหลับสนิทอยู่บนเตียงกว้าง
ร่างสูงใหญ่ล้มตัวลงนอนเบา ๆ พร้อมกับสวมกอดภรรยาอย่างความเคยชิน อ้อมแขนที่อรสาคิดว่ามันเป็นของเธอเพียงคนเดียว แต่เมื่อเห็นเขาโอบกอดผู้หญิงคนอื่นต่อหน้าต่อตาในวันนี้ เธอก็ชักจะไม่แน่ใจแล้วว่ามันมอบความอบอุ่นให้แค่เธอกับลูก หรือมีผู้หญิงคนอื่นมาร่วมแชร์ความสุขแบบนี้ด้วยตั้งนานแล้ว
“พี่ภพกลับบ้านดึกจังเลยนะคะ”
ทวิภพถึงกับต้องชะโงกหน้าขึ้นมองภรรยา ที่เธอกำลังนอนหันหลังให้กันอยู่อย่างงุนงง
“นี่อรยังไม่หลับอีกเหรอครับ?”
“ยังค่ะ อรรอพี่อยู่”
อรสาหันหน้ากลับมาเผชิญกับสามีอีกครั้ง แม้จะอยู่ในความมืด ฝ่ามือเรียวยกขึ้นลูบไล้แก้มสากที่มีไรหนวดทิ่มแทงมือเล่นเบา ๆ
“พี่ภพมีอะไรจะบอกอรไหมคะ?”
“อรหมายถึงอะไรล่ะ”
ทวิภพรู้สึกถึงความไม่ปกติของภรรยา เพราะอรสาไม่เคยจะถามเขาแบบนี้เลยสักครั้ง หรือว่ามีใครมาเล่าบอกอะไรให้เธอต้องคิดมากอีกกันแน่นะ
“วันนี้พี่ไปไหนมาคะ พอดีมีคนเห็นว่าพี่เดินอยู่กับผู้หญิงในซูเปอร์ใกล้บ้านเรา”
โคมไฟบนหัวเตียงนอนถูกเปิดจนสว่างจ้า ทวิภพชันข้อศอกเท้าศีรษะเอาไว้ นอนตะแคงข้างจ้องมองใบหน้าของภรรยา ฝ่ามือหนาเกลี่ยปรอยผมที่ลงมาปิดบังใบหน้าสวยหวานออกให้อย่างเบามือ
“ใครนะช่างกล้าใส่ร้ายพี่ขนาดนั้น พี่ออกไปดูงานที่ชลบุรีมา จะเอาเวลาที่ไหนไปเดินซูเปอร์กับใครได้ ใครคนนั้นที่มาบอกอรเขาคงจะตาฝาดไปแล้วล่ะพี่ว่า”
อรสาไม่อยากทำอะไรให้ทวิภพจับผิดได้ เธอจึงไม่บอกว่าเป็นคนเห็นด้วยตาของตัวเอง จะให้จำผิดคนได้ยังไงในเมื่อเสื้อผ้าทุกชุดของเขา เธอเป็นคนเลือกซื้อหามาเองกับมือ แน่นอนว่าไม่ได้ตาฝาด ภาพที่สามียิ้มและพูดคุยกับหล่อนคนนั้นปานคู่รัก ยังคงติดตาตรึงใจอยู่ไม่หาย ไม่ได้อยากระแวงคนข้างกายเท่าไหร่นัก แต่เธอก็ไม่อยากหลับหูหลับตาทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นได้ กับเรื่องบางเรื่องเรายิ่งไม่ควรปล่อยผ่าน ถ้าเกิดสามีไปมีบ้านเล็กบ้านน้อยขึ้นมาจริง ๆ เธอก็คงไม่ยอมเป็นเมียหลวงผู้ใจบุญ แบ่งปันสามีให้ใครใช้ร่วมกันได้หรอก