______________
"ยัยนี่ติดหนี้ฉัน ฉันก็เลยให้มาทำงานใช้หนี้" เขาตอบไปหน้านิ่งๆ
"มึงเอาเวลาไปสนใจงานไหม จะอะไรกับยัยนี้นักหนา? "
"ก็ลาลิลณ์มันเพื่อนผมนะ เลยถามดู" เจบียิ้มๆ ก่อนจะหยิบบุหรี่ขึ้นมาแบ่งส่งให้พี่ลูคัสก่อน พอพี่ลูคัสหยิบไป เขาก็หยิบอีกม้วนและจุดบุหรี่ดูดกันอย่างแสนจะชิว พ่นควันคุยกันไปมา ราวกับมองไม่เห็นเลยว่ามีฉันยืนอยู่ตรงนี้ด้วย
ฉันก็แค่เดินตามพวกเขาสองคนไปอย่างไม่ได้หื้ออื้อใดๆ
จริงๆ ฉันไม่ได้ใส่ใจเรื่องที่เขาคุยกันสักเท่าไหร่ กลัวว่าพวกเขาจะมองว่าฉันสาระแนเรื่องงานของเขามากจนเกินไป
ฉันจึงเดินทิ้งระยะห่างอยู่หน่อยๆ พอมีมารยาท
"ยัยลาลิลณ์จะทำงานเราได้เหรอเฮีย? " จู่ๆ เจบีหันมามองฉันเล็กน้อย
แต่เมื่อกี้เอ่ยถึงฉันนิ?
ซึ่งนั้นก็ทำให้ฉันรีบเงยหน้าไปทางพวกเขาทันทีและยิ้มๆ
"ยัยนี่บอกเองว่า ทำได้ทุกอย่าง" พี่ลูคัสตอบแค่นั้นก่อนขยี้บุหรี่ลงที่พื้น
"ยังไงฝากมึงจัดการด้วยละกัน"
"กูขับรถมาเหนื่อยๆ"
"ขอไปหาอะไรดื่ม และพักสายตาแป๊บ" เขาพูดเพียงเท่านั้นก่อนจะเดินตรงเข้ามาหาฉัน
และเดินสวนทางไปโดยไม่ได้มองหน้าหรือพูดคุยอะไรกับฉันแม้แต่คำเดียว
เอาจริงๆ ฉันเองก็รู้สึกเหมือนตัวเองอยู่คนละโลกกับพี่ลูคัสเหมือนกันนะ
เพราะขนาดเรานั่งรถกันมาแค่สองคน ตลอดเวลาครึ่งวัน
เรายังคุยกันแบบนับคำได้เลย
"มาเหนื่อยๆ เดี๋ยวกูไปเข้าห้องพัก" เจบีเดินมาช่วยฉันหิ้วกระเป๋าสะพาย
"อ่อ ขอบใจนะ" ฉันตอบไปอย่างเกรงใจ แต่เจบีก็ดึงกระเป๋าไปซะแล้ว
"เดี๋ยวเธอนอนห้องเดียวกับ ผู้หญิงอีกคนหนึ่งนะ" เจบีพูดก่อนจะยื่นกุญแจห้องพักให้ฉัน
"ใครเหรอ? " ฉันถามไปแบบดีใจที่อย่างน้อยก็มีเพื่อนนอนด้วย
"คนที่มาทำงานเหมือนกับเธอนะ"
"แต่ว่าตอนนี้ยัยนั่นคงอยู่แถวสระว่ายน้ำ"
"เดี๋ยวคงเจอกันตอนเย็นๆ เลย" เจบีวางกระเป๋าและเปิดไฟอะไรให้ทุกอย่าง
"มีอะไรอยากถาม ก็ถามมาได้เลย"
"มึงไม่ต้องเกรงใจกูหรอกน่า"
"กูเจบีเพื่อนมึงไงยัยหัวหน้า" เจบีตบไหล่ของฉันแรงๆ
มันเจ็บนะ แต่ต้องทนยิ้มไป เพราะหมอนี้ค่อนข้างบ้าพลังแต่นิสัยไม่แย่
"งานที่ฉันต้องทำ มันผิดกฏหมายไหม? "
"ฉันเสี่ยงติดคุกไหม แล้วตำรวจจะจับไหม? " ฉันถามไปอย่างระบายๆ เพราะเครียดมาตลอดทางจริงๆ
"ใจเย็นๆ" เจบีจับไหล่ของฉันก่อนจะขำออกมาเบาๆ
"เราแค่มาเสนอขายบารากุ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่นำเข้าจากอาหรับใช่ไหม? " เจบีตอบอย่างใจเย็น
"แล้วบารากุ ขายได้เหรอ? "
"มันคือสิ่งผิดกฏหมายไม่ใช่เหรอ? " ฉันถามไปอย่างลังเลนิดๆ
"เอาจริงๆ เฮียลูคัสไม่เคยทำอะไรถูกกฏหมายเลยนะ" เจบีเลียริมฝีปากและตอบกลับมาแบบยิ้มรับ
"เธอไม่รู้มาก่อนเลยเหรอ? " เขาย้อนถามกลับมา
ซึ่งฉันก็ส่ายหน้าเบาๆ
"รู้แค่ว่า บ้านอลิเซียเป็นพวกมาเฟียอะ" ฉันตอบไปตามตรง
"อื้ม สีเทาปนสีดำเลยแหละ" เจบียักคิ้วและเหยียดยิ้มตอบมา
"แล้วเราจะไม่โดนอะไรเหรอ? " ฉันเริ่มกังวลมากขึ้นไปอีก
"ไม่ต้องกลัวไปน่า ถ้าเงินถึงทุกอย่างก็เงียบได้" เขาเอามือปิดปากของตัวเองเบาๆ
"ส่วนเรื่องสินค้าที่เราขาย" เจบีพูดอย่างไม่มีความวิตกกังวลใดๆ
"โทษปรับสูงสุดไม่เกิน20,000บาท เฮียลูคัสจ่ายให้เธอได้แน่นอน" เขาตบไหล่ของฉันอย่างหนักแน่น
"กูไปคุมงานต่อก่อนนะ มึงก็เตรียมตัวไว้แล้วกัน" เจบีพูดก่อนจะหันหลังเดินไปทางประตูทางออก
แต่ยังไม่ทันที่เขาจะเดินออกไป เจบีก็ชะงักฝีเท้าเล็กน้อย
"เออยัยหัวหน้า เฮียเป็นคนจริงจังกับงานมากๆ และทุ่มเทเพื่องานจริงๆ"
"ยังไงพยายามอย่าทำพลาดนะ" นั่นคือสิ่งที่เจบีเตือนฉันเอาไว้ ก่อนที่เขาจะเปิดประตูเดินออกไปจากห้อง โดยที่ฉันยังไม่ทันจะได้ตอบอะไรกลับไป
ฉันอาบน้ำแต่งตัวเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการทำงาน โดยที่รู้รายละเอียดแค่ว่า เป็นงานขายทั่วๆ ไปเท่านั้น
ฉันจึงใส่เสื้อเชิ้ตและกระโปรงทรงเอยาวคุมเข่าอย่างสุภาพ พร้อมกับรองเท้าคัดชูสีดำคู่ใจ
หลังจากที่ฉันได้พักเพียงชั่วครู่ ก็มีชายชุดดำคนหนึ่งเดินมาเคาะประตูเวลาสองทุ่มตรง แม้ว่าฉันจะแอบสงสัยในหลายๆ เรื่อง
แต่สุดท้ายแล้วก็ทำอยู่ดี เพราะฉะนั้นจะเกิดอะไรมันก็ต้องเกิด
ฉันเดินตามชายชุดดำคนนั้นมาจนถึงห้องสีดำห้องหนึ่งภายในโรงแรมสุดหรูแห่งนี้ และทันทีที่ประตูเปิดออกเสียงเพลงดีเจดังแทรกออกมาและแสงสีจากด้านในก็สาดส่องออกมา มันคล้ายๆ กับไนต์คลับของทางโรงแรม ซึ่งเป็นห้องเก็บเสียงเพราะภายนอกไม่ได้ยินเสียงดังเหมือนด้านในสักเท่าไหร่ ทั้งห้องแทบจะโขมงไปด้วยควันสีขาวโพ้นไปทั่วห้อง กลิ่นหอมจากน้ำยาชิชาซึ่งเป็นกลิ่นหอมที่เต็มไปด้วยพิษจากสารนิโคติน ผู้คนในห้องนี้กลับดูดบารากุกันแทบจะทุกโต๊ะ
ทั้งหญิงชายต่างพากันพ่นสารนิโคตินควันโขมงออกมาจากริมฝีปากของพวกเขา
แววตาที่เคลิบเคลิ้ม หยาดเยิ้มไปด้วยรสชาติของเครื่องสูบหลากหลายรสชาติและเครื่องดื่มน้ำเมามากมาย
"ควรจะเรียกที่นี้ว่าผับ? สถานมัวสุม หรืออะไรดีละเนี่ย? " ฉันมองไปรอบๆ สถานที่แปลกตาที่ฉันไม่เคยคิดมาก่อนว่าตัวเองจะได้เข้ามาอยู่ในสถานที่อโคจรแบบนี้
"ลูกค้าที่เธอต้องดูแลคือ คุณพงษ์"
"ชายสวมเสื้อสูทสีน้ำเงินตรงโน้น" เขาพูดพร้อมกับยื่นแฟ้มเอกสารบางอย่างให้กับฉัน
"พูดคุยยังไงก็ได้ ให้คุณพงษ์ยอมเซ็นต์ซื้อสินค้าของเราในระยะยาว" เขายื่นหน้ามากระซิบฉันเบาๆ
"อ่อๆ ค่ะ" ฉันพยักหน้าอย่างงๆ
และเดินตรงไปทางคุณพงษ์อะไรนั้นที่โต๊ะของเขา แต่สายตาก็กวาดมองไปรอบๆ จนไปหยุดกับพี่ลูคัสที่ยืนจิบเหล้าและคุยกับลูกค้าชาวต่างชาติอยู่สี่ห้าคน แต่ในวงแขนของเขาก็มีสาวสวยหน้าตาดียืนอยู่ด้วย มือของเขาลูบขึ้นลงที่สะโพกของหญิงสาวราวกับเขาเป็นเจ้าของเธอ
พอพี่ลูคัสหันหน้ามาเจอกับฉันที่แอบมองเขาอยู่พอดี เขาก็จ้องกลับทันที ซึ่งฉันก็รีบสะบัดเอาความคิดบ้าๆ นั้นออกไปจากหัว
และเริ่มโฟกัสไปที่การทำงานทันที
"คุณพงษ์ๆๆ" ฉันพูดในใจเบาๆ และพยายามสูดลมหายใจเข้าออก
ฉันก้มหน้าอ่านอกสารในมือของตัวเองไปพลางๆ
"เอกสารการซื้อขาย เครื่องยาสูบเตาบารากุแบบเป็นหมื่นชิ้นขึ้นไป "
"ใบเสนอราคา"
"ข้อตกลง"ฉันอ่านทุกอย่างและทำความเข้าใจ ก่อนจะเดินพกความมั่นใจเต็มร้อยเดินเข้าไปหาลูกค้าคนที่ฉันเพิ่งได้รับมอบหมายมา
ฉันเดินถือแฟ้มและฉีกยิ้มตรงเข้าไปหาคุณพงษ์ ชายวัยกลางคนอายุน่าจะๆ ราวสี่สิบได้และเขากำลังทดลองสูบบารากุเตาเรียบหรูที่แกะสลักลายอาหรับแท้ๆ และพ่นควันออกมา พร้อมกับจิบเหล้าเข้มๆ ตาม
"สวัสดีค่ะ คุณพงษ์" ฉันยกมือไหว้และเอ่ยทักทายเขาไปอย่างสุภาพ
คนที่นั่งสูบบารากุอยู่ตรงหน้าเงยหน้ามองมาทางฉันนิดๆ
"ทำไมเป็นเธอละที่จะมารับหน้าที่ดูแล
ฉัน? " คำทักของเขาทำเอาฉันหน้าเสียไปทันที
คุณพงษ์อะไรนั้นมองฉันแบบหัวจรดปลายเท้า ก่อนจะสูบบารากุและพ่นควันใส่หน้าของฉันแบบเต็มๆ
ฉันทำได้แค่ฝืนยิ้มรับอย่างพยายามไม่คิดอะไร แต่พอฉันเงยหน้ามองไปรอบก็พบว่า
ตามโต๊ะนักธุรกิจคนอื่นๆ ก็จะมีสาวสวยแต่งตัวเซ็กซี่ๆ ขนาบข้างกายพวกเขา และพวกเธอก็มีแฟ้มเอกสารในมือเหมือนฉันเป๊ะๆ
พอฉันเริ่มสังเกตุบรรยายกาศรอบๆ ตัวมากขึ้น มันก็ทำให้ฉันเริ่มไม่มั่นใจในตัวเองขึ้นมาทันที
"คุณพงษ์สะดวกให้ดิฉันเริ่มอธิบายสินค้าและข้อตกลงเลยไหมคะ? " ฉันเอ่ยถามคุณพงษ์ไปตามตรง
"นั่งสิ" เขาตอบมาเพียงสั้นๆ และขยับตัวเบี่ยงๆ ให้ฉันนั่งโซฟาสีแดง ข้างๆ กับเขา
ซึ่งแน่นอนว่า โต๊ะแคบๆ นี้ มีโซฟารูปครึ่งวงรีนั้นเพียงตัวเดียว
"ขออนุญาตนะคะ"ฉันเอ่ยขออนุญาตไปก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาตัวเดียวกับเขา
แบบเกร็งๆ
"เรามาเริ่มกันเลยนะคะ"ฉันหันไปฝืนยิ้มสู้กับสายตาของคนข้างๆ ที่มองฉันแบบแปลกๆ
"ดื่มเป็นเพื่อนกันก่อนสิ อย่าเพิ่งรีบขายของ"คุณพงษ์ไม่เพียงพูดเปล่า เขาเทเหล้าเข้มๆ ลงใส่แก้ว และดันส่งมาทางฉันทันที
"คือ ฉันไม่กินเหล้านะคะ"ฉันเอ่ยปฏิเสธไปอย่างยิ้มแห้งๆ
"แต่ฉันจะไม่คุยด้วย ถ้าเธอไม่ดื่มมัน"คุณพงษ์พูดก่อนจะยกแก้วเหล้านั้นวางลงบนแฟ้มเอกสารของฉันอีกครั้ง
"ได้ค่ะๆ "ฉันตอบไปแบบกัดฟันสู้และกระดกดื่มจนหมดแก้ว ข่มจนบาดคอ
"ฮ่าฮ่าๆ เธอนี่ดูซื่อๆ ดีนะ แปลกดีแต่ฉันก็ชอบ” เขาพูดไปและหัวเราะอย่างชอบใจ มือก็กำสายดูดบารากุพ่นควันอย่างสำราญ
ฉันเริ่มมีอาการมึนๆ เพราะฤทธิ์เหล้านั้น และไม่ได้ใส่ใจอะไรกับคำพูดของคุณพงษ์อะไรนั้น ฉันยังคงนั่งประคองสติของตัวเองเอาไว้ก่อนแม้ว่าสมองจะเริ่มเบลอๆ ไปบ้างก็ตาม
"พูดมาสิ ฉันรอฟังเธอพรีเซนข้อเสนออยู่"เขาพูดก่อนจะรินเหล้าเทเติมใส่ให้ฉันอีก ก่อนที่พนักงานแถวๆ นั้นจะรีบเข้ามาเติมน้ำแข็งและโซดาใส่แก้วของฉันและแก้วของลูกค้าคนนี้
"ขออนุญาตเริ่มอธิบายเกี่ยวกับสินค้าที่เรามีทั้งหมดก่อนเลยนะคะ"
"เพื่อที่คุณพงษ์จะได้ฟังไว้เป็นข้อมูลประกอบ เพื่อพิจารณาสำหรับซื้อขายกับทางเรา" ฉันวางแฟ้มเอกสารเอาไว้ด้านหน้าของเขาเบาๆ ก่อนจะหันไปมองที่บารากุเตาร้อนๆ สีเงินอร่าม ที่แกะสลักลายสไตล์อาหรับ
"บารากุ หรือชิชาของเรา นำเข้าโดยตรงมาจากประเทศแถบอาหรับ"
"ส่วนผสมเป็นสูตรลับเฉพาะที่ไม่สามารถหาซื้อได้ในไทยหรือประเทศในแถบเอเชียนี้"
"และแน่นอนว่าทางเราเป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวที่ผูกขาดการนำเข้า ชิชา และสูตรจากต้นตำรับแท้มากถึงหนึ่งร้อยสูตร"
"เรามีเครื่องครบและมาแอสเซล ที่ประกอบไปด้วย น้ำผึ้ง กากน้ำตาล ผลไม้ ดอกไม้ตากแห้ง และสมุนไพรแท้"
"ถ่านที่แผดเผา ที่เข้ากับเตาโลหะ ทำให้อุณหภูมิของน้ำยาด้านในร้อนอุ่นในอุณหภูมิที่เหมาะสม" ฉันยังคงตั้งหน้าตั้งตาพูดต่อไป
แม้ว่าคุณติณจะยังคงสูบบารากุและพ่นควันราวกับเขาแทบไม่ได้ฟังในสิ่งที่ฉันพูดสักเท่าไหร่
ฉันเริ่มชำเลืองมองไปรอบๆ ข้าง โต๊ะๆ ก็พบว่าแฟ้มเอกสารเหล่านั้นมันหายไปแล้ว บางโต๊ะก็กำลังจดปากกาเส้นลงบนสัญญาอย่างง่ายดาย
ทั้งๆ ที่ฉันไม่เห็นว่าพวกเธอจะทำอะไรเลย เรานั่งอยู่ไม่ไกลกันมาก ฉันแทบไม่ได้ยินเสียงของผู้หญิงคนอื่นๆ อธิบายเกี่ยวกับสินค้าเลยสักนิด
ฉันก็แอบงุนงงกับวิธีการขายของแต่ละคน
"คุณพงษ์ได้ทดลองสูบด้วยตัวเองไปแล้ว ชอบไหมคะ? " ฉันเอ่ยถามอย่างพยายามชวนๆ เขาคุย
เพื่อเข้าประเด็นบารากุอีกครั้ง...แต่ขณะที่ฉันกำลังอธิบายสรรพคุณของสิ่งที่ได้รับมอบหมายให้มาทำการค้าอยู่นั้น
สายตาเจ้ากรรมมันดันเหลือบไปเห็น พี่ลูคัสที่กำลังสูบบารากุ ก่อนจะคว้าเอาผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างคนเดิมมาประกบริมฝีปากเพื่อที่จะปล่อยควันชิช่านั้นเข้าไปใน ริมฝีปากของเธอคนนั้น อย่างไม่แคร์สายตาของใครทั้งสิ้น ฉันเมินไปมองทางอื่นแทนที่จะมองไปทางพี่ลูคัสนั้น
"เธออยากจะลองลิ้มรสชาติบารากุนี้ดู เหมือนกับแม่สาวคนนั้นไหมละ? " จู่ๆ คุณพงษ์ก็พูดขึ้นก่อนจะขยับตัวเข้ามาหาฉันแบบที่ฉันยังไม่ทันได้ตั้งตัว
"…เออ ..ไม่ค่ะๆ" ฉันตอบไปปฎิเสธไปเสียงสั่นๆ แต่ก็ตอบเขาไปทันทีเช่นกัน
"หลังจากที่คุณพงษ์ได้ฟังเรื่องที่ดิฉันอธิบายไปเกี่ยวกับเรื่องสินค้าแล้ว"
"คุณพร้อมจะจดปลายปากกาเซ็นซื้อกับทางเราเลยไหมคะ? " ฉันเบี่ยงตัวเองออกมาเล็กน้อยเพื่อที่จะหยิบแฟ้มเอกสารยื่นให้ไปทางเขา
"ไอ้เรื่องเซ็นสัญญามันไม่ได้ยากเลยนะ" เขาไม่พูดปากเปล่า แต่เขาเอื้อมมือมาสัมผัสจับมือของฉันใต้แฟ้มเอกสารนั้นทับฝ่ามือของฉันเอาไว้
"เอาจริงๆ ฉันยังไม่เข้าใจที่เธออธิบายเกี่ยวกับสินค้าเท่าไหร่เลยนะ" เขาพูดก่อนจะชนแก้วกับฉันอีกครั้ง
ซึ่งฉันดื่มต่อกับเขาแถมไม่ไหวแล้วจริงๆ เพราะคอยังแสบไม่หายเลย
เขายัดเยียดแก้วเหล้าใส่มือของฉันเอาไว้
"เธอพอจะมีเวลาทั้งคืน ไปอธิบายให้ฉันฟังต่อบนเตียงไหม? " (หมับ) ยังพูดไม่ทันจะขาดคำมือของเขาก็วางลงบนต้นขาของฉันและล่วงเข้ามาใต้กระโปรงของฉัน ด้วยความมือไหว
ฟุ๊บบบ! ฉันสาดเหล้าจากแก้วในมือใส่หน้าของหมอนั้นไปทันที
"จะทำอะไรอะ? " พร้อมกับลุกขึ้นยืนขึ้นเสียงใส่ไอ้ตาคุณพงษ์ที่จู่ๆ ก็เอามือมาล้วงใต้กระโปรงแถมยังพูดจาทุเรศๆ นั้นออกมา
"อีนังนี้กล้าดียังไง!!!! " เขาตวาดลั่นและปัดเตาบารากุเตานั้นลมลงพื้นทันที
ยังไม่ทันที่ฉันจะได้เถียงหรือโต้กลับใดๆ
"ฝากดูลูกค้าที่ นีน่า" เสียงดุดันของใครบางคนดังขึ้นจากด้านหลังของฉัน
ข้อมือของฉันก็ถูกกระชากตัวออกไปทันทีจนแทบเซ
เพราะฉันเองก็เริ่มเมาๆ เดินขาพันกันไปพันกันมา
ฉันถูกลากตัวออกมาจากงานนั้น
@ห้องพักสุดหรูหราในโรงแรม
ติ๊ด!! เสียงแตะคีย์การ์ดของพี่ลูคัสดัง
ก่อนที่เขาจะกระชากเปิดประตูออกอย่างแรง!
"พี่ลูคัสคือ.. " ฉันกำลังจะเริ่มอธิบายทั้งๆ ที่ปวดหัวและมึนไปหมด
คนตรงหน้ากำหมัดแน่น
"เธอทำให้ฉันเสียลูกค้ารายใหญ่ไป! " เขาขึ้นเสียงใส่ฉันแบบไม่พอใจสุดขีด
"ลูกค้าคนนั้นเขาลวนลามฉันนะคะ" ฉันอธิบายกลับไปทันที
เพราะคิดว่าฉันไม่ได้ผิด จู่ๆ ชายคนนั้นล่วงมือเข้ามาใต้กระโปรงของฉัน มันเกินกว่าที่จะรับได้แล้วจริงๆ
….
"แล้วไง? "สิ่งที่เขาตอบทำเอาฉันถึงกับพูดอะไรไม่ออกเลยจริงๆ
"ฉันเคยบอกไปแล้วนิ ว่าต้องการคนที่ทำงานได้ทุกอย่าง! " เขาย้อนกลับมาอีกครั้งและกระชากแขนของฉันเข้ามาประจันหน้า
แววตาคู่นั้นมองจ้องเข้ามาในแววตาของฉัน
ฝ่ามือหนาบีบข้อมือเล็กๆ ของฉันจนแทบจะแหลกละเอียดคามือของเขา
"คุณหมายถึงให้ฉันไปนอนกับเขาเหรอคะ? " ฉันถามไปทั้งน้ำตาคลอๆ และเสียงที่สั่นเครือ
"แล้วเธอทำได้ไหมละ? " คนตรงหน้าเลิกคิ้วถามขึ้นอีกครั้งราวกับว่ามันคือเรื่องง่ายๆ ธรรมดาๆ
ฉันพูดออกไปเลย ทำได้แค่ร้องไห้ไปอย่างตกใจกับสิ่งที่เจอในตอนนี้
"เธอว่า งานอะไรที่ทำแค่ไม่กี่ชั่วโมง ไม่กี่นาทีแล้วใช้หนี้เกือบสี่หมื่นบาทนั้นได้? " เขาย้อนถามกลับมาด้วยใบหน้าที่เจ้าเล่ห์เพทุบาย
"แค่ขายของง่ายๆ แค่นั้นนะเหรอ? "