4
[ภาขวัญ]
ลอบทำร้าย
เมื่อใยไหมเดินออกไป พอลก็กวักมือเรียกบอดี้การ์ดที่ตรวจสอบประวัติมาหาเรา
"ครับคุณพอล"
"ทำไมปล่อยไปง่ายๆ" ซานิมองหน้าพอลคล้ายจะเอ็ดเพื่อนอีกครั้ง
"จากการตรวจสอบชื่อนามสกุล พบมีประวัติอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งเดียวกับคุณใยไหมครับ และตอนนี้พำนักอยู่อเมริกา สัญชาติอเมริกา มีงานทำเป็นหลักแหล่ง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นผมจะตรวจสอบใบหน้าอีกครั้งว่าตรงกับข้อมูลที่ได้รับหรือไม่"
"จับตาดูให้ดี แม้แต่ยัยใยไหมก็อย่าให้คลาดสายตา"
"ครับคุณพอล"
ปวดหัวกับพี่พายุ เซ็งเรื่องพี่หมอภูมิ ต้องมาเหนื่อยกับความอคติของพอลอีกเหรอเนี่ย
ฉันถอนหายใจแล้วยกไวน์ขึ้นดื่มจนหมดแก้ว ตอนนี้บอดี้การ์ดเดินออกไปแล้วพวกเขากำลังดูข้อมูลของผู้มาใหม่ในมือถือ
จนสักพัก... ใยไหมเดินนำผู้ชายตัวสูงคนหนึ่งมา สูงมากตัวใยไหมแค่อกเขาเอง สองคนนั้นยืนอยู่ทางเข้าโซนวีวีไอพี บอดี้การ์ดตรวจเช็คใบหน้าค้นตัวหาอาวุธ ฉันพยายามมองหน้าเขาคนนั้นท่ามกลางแสงสลัวและเสียงเพลงดังกระหึ่ม
แต่หน้าตาดี ขาวมาก อีกอย่างหน้าคล้ายใยไหมเลย
"หล่ออ่ะ" ซานิเห็นตรงกัน
"เป็นพี่ชายแท้ๆใยไหมแน่ๆ" ฉันเสริม
"ฉันก็ว่างั้นหน้าคล้ายกันเลย แล้วตอนตาแกอุปการะประวัติใยไหมมีพี่ชายไหม?" ฉันส่ายหน้า
"ไม่รู้เลยว่ะ มาม๊าไม่ได้พูดถึงเรื่องนั้นเลย" ซานิสะกิดฉันเมื่อใยไหมพาพี่ชายเดินมาหาเรา ยิ่งดูใกล้ๆยิ่งหน้าตาดี ตอนนี้ยัยซานิอ้าปากค้างไปแล้ว
"ทุกคนนี่พี่หมอกนะ พี่ชายฉันเอง"
"สวัสดีค่ะพี่หมอก" ฉันกับซานิทักทาย ส่วนพอลไม่สนใจด้วยซ้ำรายนั้นเอาแต่นั่งทำหน้านิ่งๆ และดื่มไวน์ในแก้วตัวเอง
"สวัสดีครับ ได้เจอกันสักทีใยไหมพูดถึงพวกคุณบ่อยมาก"
"เป็นพี่ชายแท้ๆใยไหมเหรอคะ" ซานิถาม
"ครับ"
แล้วสองพี่น้องก็นั่งลงเล่าที่มาที่ไปให้ฟัง แต่เล่าแบบตะโกนๆเพราะเสียงเพลงดังมาก พี่หมอกถูกนำไปอุปการะก่อนเพราะแหม่มที่อเมริกาอยากได้แค่ลูกชาย ตอนนั้นทั้งคู่ยังเด็กมากไม่มีใครจำอะไรได้ พึ่งรู้ว่าตัวเองยังมีพี่มีน้องและหากันจนเจอก็เมื่อสองปีก่อน
"ตอนนี้ฉันกะว่าจะไปอยู่อเมริกากับพี่หมอกแล้ว อยากไปทำงานและตั้งหลักปักฐานที่นั่น"
พอลที่กำลังยกไวน์ดื่มชะงัก
"คิดถึงแย่เลย แต่ถ้าไปแล้วอนาคตดีก็ดีใจด้วยนะใยไหม" ใยไหมยิ้มตอบซานิแล้วมองหน้าฉัน
"ภาขวัญ ขอบคุณนะที่ครอบครัวแกดูแลฉันดีขนาดนี้ ฉันจะไม่ลืมบุญคุณเลย"
"โอ๊ยบุญคุณอะไรที่ผ่านมาแกก็เป็นเพื่อนที่ดี เลิกดราม่าคนยิ่งเฉาๆอยู่ ดื่มๆค่ะพี่หมอก"
พอฉันชวนพี่หมอกดื่มบอดี้การ์ดก็เดินมายืนคุ้มกันด้านหลัง ไม่ว่าฉันจะทำอะไรก็โดนจับตามองตลอด และพี่หมอกไม่มีสิทธิ์ยื่นอะไรให้ฉันเลย แม้แต่นามบัตรของเขาบอดี้การ์ดก็ริบไปจากมือทันที
แต่เขาชวนคุยและดื่มเก่งมาก เล่าตอนที่ตัวเองไปอยู่อเมริกาให้ฟังซะเพลินเลย
"พี่ได้ยินแว่วๆว่าภาขวัญเฉา เป็นอะไรเหรอครับ"
"อ้อ โดนหมอแก่ๆคนนึงไม่รับรักค่ะ" ซานิปิดปากขำ
"พอเขาไม่รับรักก็เปลี่ยนสรรพนามให้เลยนะ" ฉันบึนปากกลับ มันน่าอายจริงๆนะที่รู้สึกคนเดียว
"สดใสแบบนี้ เดี๋ยวก็ดีขึ้นนะ"
"อีกนานไหมคะพี่หมอก"
"เร็วๆนี้แหละ ไม่วันนี้... ก็พรุ่งนี้" ฉันมองหน้าพี่หมอกแล้วยิ้มให้ ถามว่าเมาไหม? ไม่เหลือค่ะ... ฉันดื่มไวน์ไปสามขวดแล้ว ตอนนี้หัวหมุนติ้วเป็นลูกข่างเลย
"พี่หมอกคุยเก่งมากกกก ไว้ว่างๆเราหาโอกาสกินข้าวกันนะ"
พอลมองฉันแล้วกวักมือเรียกบอดี้การ์ดทันที
"ภาขวัญเมาแล้ว บอกพี่พายุมารับได้เลย"
"นายท่านกำลังมาครับ"
พอได้ยินชื่อพายุพี่หมอกก็มองหน้าใยไหมทันที ใยไหมยิ้มตอบพี่ชายเธอและอธิบายว่าพี่พายุเป็นอะไรกับฉัน ก่อนที่พี่หมอกจะส่งยิ้มกลับมาปกติ แต่ตอนนี้สภาพฉันกับซานิไม่ปกติแล้วค่ะ เมาจนคอพับจึงไม่ปฏิเสธความเผด็จการของอิพอล
กลับก็กลับวันอื่นค่อยมาใหม่
"นายท่านมาแล้วครับคุณภาขวัญ" บอดี้การ์ดบอกฉัน และจากนั้นก็มีมือหนากระชากให้ลุกขึ้นยืน
"ปล่อยตัวเองเมาเละเทะแบบนี้ได้ไง"
"โอ้ยลุงตูบ มาก็บ่นเลยนะ มากินเหล้าก็ต้องเมาสิคะ"
"พอลดูแลซานิ" พี่พายุบอกพอลเสียงหงุดหงิด
ฉันไม่รู้เลยว่าตัวเองทิ้งอะไรไว้ข้างหลังบ้าง รู้แต่ว่าพี่ชายช้อนตัวอุ้มฉันเดินออกมาจากผับและจับยัดใส่รถโรลส์รอยซ์ แล้วเมื่อบอดี้การ์ดปิดประตูให้ปึก! ฉันก็ฟุบหน้าติดกระจกหมดสภาพ
"คราวหลัง..."
"คราวหลังห้ามเมาแบบเน้!" ฉันต่อคำพี่พายุ
"รู้ตัวก็ดีนี่ เราไม่ใช่คนธรรมดายิ่งเป็นผู้หญิงของไลออนดรากอน"
"หนูรู้พี่พายุ ขี้บ่นแบบนี้เป็นพ่อแทนเลยมะ"
"ให้ตายสิน้องกู ดื้อฉิบ"
ฉันไม่สนใจหันข้างให้พี่พายุแนบหน้ามองออกไปนอกกระจก รถกำลังขับไปเรื่อยๆ ผ่่านเสาไฟริมทางทีละเสา วิวสายไฟรุงรังสุนทรีกว่าคนข้างๆตั้งเยอะ
แต่ขณะที่ฉันกำลังฝืนตาหนักๆมองข้างถนน ก็มีรถหรูคันหนึ่งขับแซงขึ้นไปช้าๆ ฉันมองรถคันนั้นแล้วถึงกับเบิกตา
เฮ้ย... ผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างหลังใช่คนจริงๆรึเปล่า
เขาหันมามองฉันจนเราสบตากัน ก่อนจะยิ้มที่มุมปาก แต่เครื่องหน้า จมูก ปาก คิ้วที่เห็นรางๆโดยรวมแล้วหล่อสะกดมาก
ฉันขยี้ตาจ้องมองดีๆ คน! ยังไงก็คน แต่เมื่อเขาหันกลับไป รถคันนั้นก็รีบเร่งผ่านไปอย่างรวดเร็ว
"ตั้งใจมองอะไรขนาดนั้น" พี่พายุถาม
"เจอคนหล่อค่ะ"
"คนหล่อ?"
"ใช่ หล่อกว่าพี่พายุ"
'ปัง!'
"เฮ้ย!"
ฉันสร่างเมาทันทีและรีบถกกระโปรงดึงปืนที่เหน็บอยู่ข้างขาออกมา พี่พายุรีบจับฉันก้มลงเตรียมปืนของตัวเองเหมือนกัน รถที่ถูกยิงไม่ใช่รถฉันแต่เป็นคันหน้าและคันหลัง ตอนนี้เสียหลักตกข้างทางไปแล้ว
"มันยิงรถคุณซานิกับคุณพอลครับ"
"ว่าไงนะ!"
"จอด!"
ฉันตะโกนบอกแต่พี่พายุไม่อนุญาต
"พวกมึงพาน้องกูกลับ จอดให้กูลง" ฉันส่ายหน้า
"ไม่! จอดรถเดี๋ยวนี้ ภาขวัญไปด้วย!"
เสียงปืนดังตามหลัง และตอนนี้ก็มีรถหลายคันพยายามจะเบียดเราตกข้างทางให้ได้ บอดี้การ์ดฉันยิงสวนอยู่บ้าง แต่เนื่องจากพวกมันก็อยู่ในรถกระสุนเจาะได้แค่เหล็กเท่านั้น
แต่ฉันห่วงซานิกับพอล ถ้าพวกมันลงไปซ้ำสองคนนั้นต้องตายแน่ๆ
"เลิกคิดว่าหนูเป็นผู้หญิงสักที หนูเป็นมาเฟียเหมือนพี่ อบรมและฝึกมาเหมือนพี่ กลับรถไปหาซานิกับพอลเดี๋ยวนี้!"
"..." พี่พายุเงียบและใช้ความคิด แต่ฉันรอไม่ไหวแล้ว
"รอเฮี้ยไรวะ!"
'เอี๊ยดดดดด!'
รถเบรกกระทันหันแล้วหักพวงมาลัยกลับทันที แต่ระหว่างทางเลี้ยวกลับเราชนรถพวกมันลงข้างทาง จะตายหรือรอดก็ช่าง แต่ฉันขึ้นลำปืนไว้มองหน้าพี่พายุว่าเอาจริง
"ถ้าเลือกจะซ่า อย่าเจ็บให้พี่เห็นนะ"
"ภาขวัญสัญญาค่ะ คุ้มกันด้วย"
"อืม"
'ปัง! ปัง! ปัง!'
เราเห็นรถพอลกับซานิแล้ว ตอนนี้ควันขึ้นโขมงและบอดี้การ์ดกำลังสกัดพวกผู้ก่อการร้ายที่ลงมาจากรถ ชุดฉันตอนนี้ไม่ควรจะมาทำอะไรแบบนี้เลย สั้นก็สั้นแหวกก็แหวก
แม่งเอ๊ย
"จอด!"
เมื่อรถจอดฉันกับพี่พายุก็เปิดประตูอีกฝั่งลงไปหลบข้างรถ บอดี้การ์ดขึ้นลำปืนทุกคน บางคนประสานงานขอเพิ่มกำลัง
'ปัง! ปัง! ปัง!'
พี่พายุกับบอดี้การ์ดเอี้ยวไปยิงสกัด จังหวะนั้นเป็นจังหวะที่พวกมันต้องหาที่หลบ
"พี่ไปเอง ภาขวัญสกัดให้พี่" ฉันมองไปที่รถซานิกับพอลแล้วพยักหน้า ดีเหมือนกันลำพังแรงฉันไม่ไหวแน่
"นับแล้ววิ่งเลยนะ"
"หนึ่ง..."
"สอง..."
"สาม!"
ฉันหันขวับเอี้ยวปืนยิงฝั่งตรงข้ามทันที
'ปัง ปัง ปัง ปัง'
พี่พายุกับการ์ดบางส่วนวิ่งไปรถคันนั้น ฉันกระหน่ำยิงไม่หยุดจนพวกมันไม่มีโอกาสแม้แต่จะชะโงกหัวออกมา
'แกร๊ก'
"กระสุน!"
บอดี้การ์ดคว้าแม็กที่มีกระสุนเต็มโยนให้ฉันทันที ฉันรีบปลดแม็กเก่าทิ้งและกระทุ้งอันใหม่เข้าลำปืน ก่อนจะเอี้ยวหันไปยิงอีกครั้งไม่ให้ขาดช่วง
'ปัง ปัง ปัง ปัง'
เสียงปืนดังสนั่นหวั่นไหวรถไม่มีใครกล้าขับผ่าน กระสุนฉิวเฉียดฉันไปหลายครั้ง จนต้องรีบถดไปอีกทางและหมอบซุ่มยิงผ่านใต้ท้องรถแทน
จนในที่สุดพวกมันเงียบไม่ยิงสวนกลับมา
แต่ทว่า...
กลิ้งบางสิ่งบางอย่างมากับพื้นผ่านใต้ท้องรถ
"ภาขวัญ ระเบิดควัน!" พี่พายุตะโกนและวิ่งมาทันที
"พี่พายุ อย่ามา!"
"เฮ้ย! คุ้มกันภาขวัญ"
'ฟี๊~~~'
ควันสีขาวคละคลุ้งทั่วบริเวณจนฉันเริ่มมองไม่เห็น ฉันพยายามคลำประตูเพื่อจะขึ้นรถ ตอนนี้มีเสียงรองเท้าเดินไปเดินมาวุ่นวายไปหมดจนแยกไม่ออกว่าใครเป็นใคร
จนสุดท้ายมีมือปริศนาจับข้อมือฉันหมับ!
"พี่พายุ"
เจ้าของมือไม่ตอบ กระตุกข้อมือฉันออกไปจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว
"พี่พายุจะไปไหน ทำไมไม่ขึ้นรถ"