ตอนที่2 ตัดสินใจ

3935 คำ
เราซบลงกอดม๊า ที่นอนอยู่บนเตียง     ม๊า : อื้ม~~//ม๊าค่อยๆ รู้สึกตัว เรายกตัวขึ้น ม๊าค่อยๆ เปิดตามอง     เรา : ม๊า~สโนว์กลับมาแล้วนะคะ//เราพูดด้วยเสียงเบา น้ำตาไหลออกมาเป็นทาง     ม๊า : สโนว์ สโนว์ลูกม๊า//ม๊าทำตาโตด้วยความตกใจ จะลุกขึ้นกอดเรา แต่เราเอามือห้ามไว้     เรา : ม๊าไม่ต้องลุก//เราก้มไปกอดม๊าเอง     ม๊า : มาแล้ว ลูกของม๊ามาแล้ว//ม๊าน้ำตาไหลกอดเราไว้แน่น อีกมือลูบหัวให้เราอย่างอ่อนโยน     เรา : ขอโทษที่สโนว์ไปซะนาน ไม่ได้กลับมาดูแลป๊ากับม๊าเลย     ม๊า : ไม่เป็นไร ม๊าเข้าใจ ตอนนี้กลับมาก็ดีแล้ว ต่อไปก็อยู่ดูแลม๊าได้//เรายกตัวขึ้นทันที     เรา : เอ่อ..ม๊าค่ะ คือจริงๆ สโนว์ต้องกลับไปที่เมกาเพื่อทำงานและเรียนให้จบ     ม๊า : อะไร จะกลับไปทำไม ไม่ได้ห่วงม๊าสักนิดเลยหรอ//ม๊าจ้องหน้าเรา     ป๊า : นี่ๆ อย่าพึ่งเถียงกันสิ มึงไม่สบายอยู่ อย่าคิดมาก//ป๊าเดินไปข้างเตียงอีกด้าน นั่งลงลูบหัวม๊าเบาๆ     ม๊า : แต่เฮีย..//ม๊ากำลังจะพูด แต่เหลือบไปเห็นบิวตี้     ม๊า : นั่นบิวตี้ใช่ไหม มาหาอาม๊าสิ//ม๊ายื่น2มือไปทางบิวตี้     บิวตี้ : ใช่ค่ะอาม๊า สวัสดีค่ะ//บิวตี้ยกมือไหว้อย่างรู้งาน แล้วเดินมายืนข้างๆ เรา เราจับบิวตี้มานั่งด้านหน้าให้ใกล้กับม๊า     ม๊า : หลานอาม๊าสวยจริงๆ สวยกว่าในโทรศัพท์อีก ได้ใครมาเนี่ย//ม๊าดึงตัวบิวตี้ให้ไปนอนซบ แล้วกอดบิวตี้ไว้แน่น     บิวตี้ : ได้อาม๊ากับม๊าสโนว์ยังไงล่ะคะ//ลูกเราคนนี้เข้าใจพูดจริงๆ จากที่เรา เศร้าเมื่อกี้ กลับหายไปซะสนิท     ม๊า : ให้หลานไปใช้ชีวิตที่โน้นไม่มีใครคอยดูแล ห่างไกลพวกญาติๆ คงเหงามากสินะ//ม๊าพูดไปลูบหัวบิวตี้ไป     บิวตี้ : ไม่เลยค่ะ บิวตี้อยู่ที่ไหนก็ได้ ขอแค่ได้อยู่กับหม่าม๊าสโนว์ก็พอ//บิวตี้ยกตัวขึ้น หันมายิ้มกับเรา     ม๊า : ต่อไปก็อยู่กับอาม๊าที่ไทยนี่แหละ ไม่ต้องไปไหนอีก//ควับ!! บิวตี้หันไปจ้องหน้าม๊าทีน่าอย่างไว     บิวตี้ : คือ..คือว่า//บิวตี้พูดอ้ำอึ้งหันมามองหน้าเรา     ป๊า : เอาล่ะๆ ไว้ค่อยพูดกัน ลูกกับหลานเดินทางมาเหนื่อยๆ ไปนอนพักกันก่อนดีกว่า     ม๊า : ก็ได้ๆ     ป๊า : ห้องสโนว์ห้องเดิม ป๊าให้คนจัดไว้แล้ว     เรา : ขอบคุณค่ะป๊าม๊า จากนั้นเราพาบิวตี้เดินมาที่ห้องนอนของเรา กระเป๋าเดินทางถูกยกขึ้นมาเรียบร้อย     เรา : บิวตี้ไปอาบน้ำก่อนนะลูก     บิวตี้ : ได้ค่ะแม่//บิวตี้เข้าไปอาบน้ำ ส่วนเรานั่งจัดกระเป๋าไป คิดไปว่าจะเอายังไงดี เราก็ห่วงม๊า ห่วงผู้ป่วยที่โน้นด้วย ไหนจะเรื่องเรียนป.เอกของเราอีก ห่วงทุกอย่าง แต่ไม่รู้จะตัดสินใจยังไง     ..?? ..: ม๊าค่ะ หม่าม๊า!! //เราสะดุ้งตกใจ เพราะมีคนมาเขย่าตัว เรารีบหันไปที่แท้เป็นบิวตี้     บิวตี้ : ม๊าใจลอยคิดอะไรอยู่คะ บิวตี้เรียกตั้งนานแล้ว     เรา : ม๊ากำลังคิดเรื่องอาม๊าอยู่และกำลังคิดว่าพวกเราจะทำยังไงต่อไปดี//เรานั่งลงบนเตียง บิวตี้มานั่งข้างๆ     บิวตี้ : หม่าม๊าเคยบอกบิวตี้ว่า อยากเป็นหมอโรคหัวใจเพราะไว้รักษาอาก๋งกับอาม๊าไม่ใช่หรอคะ ตอนนี้อาม๊าป่วยหม่าม๊าสโนว์ควรจะอยู่ดูแลรักษาไม่ใช่หรอคะ     เรา : นั่นสินะ ม๊าเป็นหมอก็เพื่อจะรักษาอาก๋งกับอาม๊านิ//คำพูดของบิวตี้ทำให้เราคิดได้ ใช่แล้วเราตัดสินใจเป็นหมอก็เพราะพวกท่านทั้ง2คน ตอนนี้สิ่งที่เราต้องห่วงที่สุดคืออาการของม๊าทีน่าสินะ     เรา : แล้วลูกล่ะ เรื่องเรียน เรื่องเพื่อนจะทำยังไง//เราถามบิวตี้     บิวตี้ : ไม่เป็นไรค่ะ บิวตี้เรียนเก่งอยู่แล้ว จะเรียนที่ไหนก็ได้ ส่วนเรื่องเพื่อนไม่จำเป็นต่อบิวตี้หรอกค่ะ คนที่สำคัญที่สุดคือหม่าม๊าต่างหาก//บิวตี้ส่งยิ้มให้เรา หมับ!! เราดึงตัวบิวตี้มากอด     เรา : ขอบใจลูกมาก//บิวตี้กอดเราไว้แน่น     บิวตี้ : ตอนนี้หนูว่าหม่าม๊าไปอาบน้ำดีกว่าค่ะ เหม็นมาก//เราผละกอดออก บิวตี้เอามือบีบจมูกตัวเอง     เรา : แม่ตัวร้าย//เราโยกหัวบิวตี้เบาๆ จากนั้นก็ไปอาบน้ำ แล้วมาแต่งตัวนอน เรานอนลงบนเตียงข้างๆ บิวตี้ ตอนกลางดึกบิวตี้หลับไปแล้ว เรานอนไม่หลับิเดินไปที่ห้องของป๊ากับม๊า เราเปิดประตูแง้มไปนิดนึง ไฟในห้องยังเปิดอยู่ เราแอบมองเข้าไปเห็นป๊ากำลังเอาผ้าเช็ดหน้าให้ม๊าอยู่บนเตียง     ม๊า : เฮีย~ทีน่าไม่อยากให้ลูกกลับไปเลย หลายปีแล้วนะที่่ลูกไม่ได้อยู่กับพวกเรา     ป๊า : ลูกโตแล้วเป็นถึงหมอผ่าตัด พวกเราจะบังคับให้ลูกอยู่กับเราไม่ได้หรอก     ม๊า : ถ้าตอนนั้น ทีน่าไม่ตามใจลูก ไม่ปล่อยให้เรื่องเลยเถิด สโนว์คงมีความสุขกว่านี้ คงไม่หนีไปแบบนี้ ความผิดทั้งหมดเพราะทีน่าเอง แค่กๆๆ//ม๊าพูดไปร้องไห้ไป ม๊าคงโทษตัวเองมาตลอด เราได้แต่ร้องไห้เอามือปิดปากตัวเองไว้     ป๊า : มึงอย่าคิดมาก ลูกไม่เคยโทษมึงหรอก     ม๊า : ลูกไม่เคยพูด แต่ทีน่ารู้ว่าลูกคิดยังไง ลูกเศร้ามากถึงได้หนีไปเมกาแบบนั้น ฮือๆ ทีน่าทำร้ายลูกเอง//ม๊าร้องไห้ออกมาเสียงดัง ทำเอาเราใจไม่ดี ใจสั่นไปหมด ไม่เคยคิดเลยว่าจริงๆ แล้วม๊าคิดแบบนั้นกับเรา ตลอดเวลาม๊าคงทุกข์ใจมาก เราเป็นลูกที่แย่จริงๆ     ป๊า : อย่าร้องไห้สิ อย่าเครียดเดี๋ยวอาการกำเริบอีก กูเห็นมึงเจ็บ กูก็เจ็บด้วย//ป๊าเช็ดน้ำตาให้ม๊า ทั้ง2คนดูแลซึ่งกันและกัน เป็นภาพที่เราเห็นมาตั้งแต่ยังเด็กๆ เราเดินกลับห้องนอนมาทันที เราตัดสินใจแล้ว ส่งจดหมายทางอีเมล์ไปที่รพ.ในเมกา ส่งจม.ไปลาออกที่โรงเรียนให้บิวตี้ เรื่องเรียนป.เอกเราดร๊อปไว้         เช้าต่อมา เรายังไม่ได้นอนเพราะต้องเคลียอะไรหลายๆ อย่าง เราปลุกบิวตี้ให้ตื่นไปอาบน้ำแต่งตัว แล้วเดินลงมาข้างล่างเพื่อกินอาหารเช้า เราเจอแม่บ้านกำลังจัดโต๊ะอยู่     เรา : ป๊าล่ะ     แม่บ้าน : คุณผู้ชายจะลงมาทานหลังจากให้คุณผู้หญิงทานอาหารเสร็จค่ะ     เรา : แสดงว่าป๊าอยู่บนห้องกับม๊าสินะ     แม่บ้าน : ค่ะ     เรา : มื้อแรกที่ไทยของบิวตี้ ต้องทานกันพร้อมหน้ากันสิ เธอไปยกอาหารไปห้องม๊า พวกเราจะไปทานพร้อมหน้าพร้อมตากัน//เราสั่งแม่บ้าน แล้วหันไปยิ้มกับบิวตี้     บิวตี้ : บิวตี้ก็อยากทานพร้อมกัน4คนค่ะ//บิวตี้ยิ้มกลับมา เรา : งั้นไปกันค่ะ//เราจูงมือบิวตี้มาที่ห้องนอนของป๊าม๊า เปิดประตูเข้าไป ม๊านั่งพิงอยู่ที่หัวเตียง ป๊านั่งอยู่ข้างๆ กำลังป้อนโจ๊กให้ม๊า     ม๊า : ลงไปทานอะไรกันหรือยัง//ม๊ามองพวกเรา2แม่ลูกสลับกัน     ป๊า : ไปกินก่อนเลย ป๊ารอม๊ามึงทานเสร็จ จะลงไปกิน     เรา : ไม่เอาหรอก//เราพูดจบ แม่บ้าน3คนยกถาดอาหารขึ้นมา     ม๊า : เกิดอะไรขึ้น//ม๊าทำหน้าตกใจ     เรา : มื้อแรกในไทยของบิวตี้ ต้องทานพร้อมหน้ากันสิค่ะ//เราพูดจบ ทั้งป๊าและม๊ายกยิ้มขึ้น ป๊าวางถ้วยโจ๊ก เดินไปด้านข้างยกโต๊ะมาวางข้างๆ เตียง ส่วนเราและบิวตี้ไปยกเก้าอี้มาวางไว้ แม่บ้านเอาถาดอาหารมาวางบนโต๊ะ เรานั่งลงบนเก้าอี้ บิวตี้นั่งข้างๆ ส่วนป๊านั่งที่เตียงเหมือนเดิม ป้อนโจ๊กให้ม๊า และจิบกาแฟไปด้วย เรากับลูกก็นั่งกินโจ๊กกันไป หน้าม๊าดูมีความสุขมาก กินโจ๊กที่ป๊าป้อนให้ไปหลายคำ     เรา : แค่นี้ก็พร้อมหน้าพร้อมตาแล้ว//เรามองหน้าม๊ากับป๊าสลับกัน ม๊ายิ้มออกมาอย่างดีใจ     ป๊า : วันนี้มึงกินเยอะนะ//ป๊าส่งยิ้มให้ม๊า                                  เรา : สโนว์มีเรื่องจะพูดกับป๊าม๊าด้วย หวังว่าป๊าม๊าจะเข้าใจและยอมรับคำตัดสินใจของสโนว์//เราพูดจบ ป๊ากับม๊ามองหน้ากัน ม๊าเปลี่ยนเป็นทำหน้าเศร้าทันที     ป๊า : ป๊าเข้าใจ และตามใจลูก//ป๊าหันมาพูดกับเรา     เรา : สโนว์ตัดสินใจกลับค่ะ//เราพูดเบาๆ     ม๊า : ม๊าเข้าใจดี ม๊ารู้ว่าคงบังคับให้ลูกอยู่ใกล้ๆ ม๊าไม่ได้ ลูกคงมีเพื่อนมีแฟนอยู่ที่โน้น ไหนจะคนไข้ ไหนจะเรื่องเรียน ม๊าเตรียมใจไว้แล้วว่าลูกจะต้องกลับเมกาแน่นอน     เรา : ม๊าค่ะ สโนว์ไม่มีทั้งเพื่อนไม่มีทั้งแฟน วันๆสโนว์ทำแต่งานไม่มีเวลาว่างหรอกค่ะ ม๊าเองก็คงรู้ว่าทางโน้นดูถูกคนเอเชียขนาดไหน ทุกอย่างมีแต่การแก่งแย่งชิงดี แข่งขันกันทั้งนั้น     ม๊า : อืม ม๊าเข้าใจ ม๊าผ่านมาแล้ว     ป๊า : แล้วจะกลับวันไหน//ป๊าถามแทรกขึ้น     เรา : เดี๋ยวๆ ฟังสโนว์ให้จบก่อน ที่บอกว่ากลับคือ สโนว์หมายถึงว่าจะกลับมาอยู่ไทยค่ะ     ป๊าม๊า : ห๊า!! อยู่ไทย//ป๊ากับม๊าตกใจ พูดพร้อมกัน     เรา : ใช่ค่ะ สโนว์กับลูกจะมาอยู่ที่นี่ จะไม่กลับไปที่เมกาอีก สโนว์ตัดสินใจจะอยู่ดูแลป๊ากับม๊าที่นี่ค่ะ//เราพูดจบม๊าน้ำตาไหลทันที เรารีบลุกขึ้นเดินไปกอดม๊า     ม๊า : ขอบใจ..ขอบใจที่อยู่กับม๊า//ม๊ากอดเราไว้แน่น     ป๊า : ดีจริงๆ //ป๊ามาสวมกอดทับพวกเราไว้     บิวตี้ : หนูกอดด้วยๆ //บิวตี้ลุกเดินขึ้นมาบนเตียง แล้วยืนกอดทับพวกเราทั้ง3คนไว้ กอดตามประสาเด็ก เราขยับตัว ป๊าและบิวตี้ผละกอดออก เราผละกอดออกจากม๊า     ป๊า : ป๊าจะให้สโนว์เข้าไปบริหารในรพ.แทน//ป๊าพูดขึ้น เราหันไปมองหน้าป๊าทันที     เรา : ป๊าค่ะ สโนว์อยากเป็นหมอ อยากช่วยคน สโนว์ยังเสียดายการรักษาที่เรียนมา ขอสโนว์เป็นหมอผ่าตัดก่อนนะคะ เรื่องบริหารให้ป๊าบริหารไปก่อนนะ//เรารีบพูดปฏิเสธ     ม๊า : เป็นหมอผ่าตัดมันได้อยู่ แต่สโนว์รู้ใช่ไหมว่าตอนนี้ที่รพ.เปลี่ยนไปมาก คนนั้นก็อยู่ด้วย     เรา : รู้ค่ะ สโนว์ได้ยินข่าวมาบ้าง     ป๊า : 3ปีมานี้อะไรๆ ก็เปลี่ยนไป รพ.ของเรามีชื่อเสียงด้านการรักษาโรคหัวใจเป็นอันดับ1ของประเทศ เพราะฝีมือของไอ้นั่นที่ทำให้รพ.ของเรามีชื่อเสียง     เรา : ม๊าไม่ได้เข้าห้องผ่าตัดคนไข้เลยเหรอคะ//เราหันไปถามม๊า     ม๊า : ไม่เลย เพราะ3ปีมานี้ อาการโรคหัวใจของม๊ามันรู้สึกไม่ดี//ม๊าพูดหน้าเศร้า เพราะเรารู้ดีว่าม๊ารักการรักษาคนไข้ขนาดไหน     ป๊า : เพราะหัวใจของกูที่มันดื้อ ทำมึงเจ็บตัว//ป๊าเอามือไปจับที่หน้าอกม๊า     ม๊า : ไม่เลยเฮีย ถ้าไม่มีหัวใจของเฮีย ทีน่าคงไม่มีวันนี้ คงไม่ได้อยู่เห็นหน้าลูกกับหลานมาถึงวันนี้หรอก ทีน่าต้องขอบใจหัวใจดวงนี้ต่างหาก//ม๊าจับทับมือป๊าที่วางอยู่บนหน้าอกตัวเอง     บิวตี้ : บิวตี้รักอาม๊าค่ะ//บิวตี้กอดม๊าไว้ บิวตี้ก็คงรู้สึกถึงความรักของป๊ากับม๊า     ม๊า : อาม๊าก็รักบิวตี้ รักทุกคน//ม๊ากอดบิวตี้ตอบ     เรา : อย่าเศร้าไปเลยค่ะม๊า สโนว์จะรักษาคนไข้ จะดูแลรพ.ของเราให้ดีที่สุด และที่สำคัญหัวใจของป๊ากับม๊าสโนว์จะเป็นคนดูแลเอง//เราทำหน้าจริงจังมองหน้าป๊ากับม๊าสลับกัน บิวตี้ผละกอดออก นั่งลงข้างๆ ม๊าบนเตียง     ป๊า : ป๊าไม่ได้จะเข้าข้างไอ้นั่น แต่ในเมื่อลูกอยากเป็นหมอรักษาหัวใจ รู้ต้องรู้ไว้ว่า ตอนนี้มันอยู่ทีมAเรื่องการผ่าตัดหัวใจเป็นหน้าที่ของมันคนเดียว//ป๊ากันมาบอกเรา ทำหน้าจริงจัง     เรา : เข้าใจค่ะ สโนว์จะเข้าไปเป็นหมอทีมBเอง ไม่สิต้องบอกว่าเข้าไปเป็นหมอสำรองตัวคนเดียว แล้วสโนว์จะขอจัดตั้งทีมผ่าของตัวเอง แค่ป๊าอนุญาตก็พอค่ะ     ป๊า : ได้ ป๊าจะอนุญาต     เรา : แต่ไม่ใช่ในฐานะลูกสาวของประธานรพ.นะคะ แต่อนุมัติในนามของแพทย์ที่มาจากเมกา     ม๊า : ทำไมต้องทำแบบนั้น แค่ลูกเข้าไปเป็นหมอก็ได้ผ่าตัดอยู่แล้วนิ     เรา : ไม่เอาหรอกค่ะ อะไรที่ได้มาง่ายๆ มันไม่สนุก สโนว์อยากเริ่มหาทีมแพทย์ที่มีฝีมือดีๆ ไม่ใช่แค่ประจบพูดเก่งเท่านั้น อีกอย่างสโนว์จะเป็นทีมAด้วยฝีมือของสโนว์เอง แล้วเขี่ยไอ้นั่นตกลงมาให้มันเจ็บอย่างสาสม//เรายก2มือตัวเองขึ้นมาดู     ป๊า : ทั้งดื้อ ทั้งร้ายเหมือนใครวะ//ป๊าหันไปมองม๊า     ม๊า : ลูกของทีน่าก็ต้องนิสัยเหมือนทีน่าสิเฮีย//ม๊าส่งยิ้มให้ป๊า     บิวตี้ : ไอ้นั่น..ไอ้นั่นนี่คืออะไรหรอคะ//บิวตี้พูดแทรกขึ้น     เรา : ม๊าหมายถึงตัวเห็บหมัดที่เกาะอยู่ในรพ.นะ//เราหันไปตอบบิวตี้     ม๊า : ลูกทำใจได้แล้วใช่ไหม กล้าที่จะเผชิญหน้ากับมันแล้วใช่ไหม//ม๊าจับมือเราไว้     เรา : ตลอด8ปีนี้ สโนว์เป็นคนใหม่แล้วค่ะ ที่ผ่านมาสโนว์มีทุกวันนี้ได้ก็เพราะบิวตี้//เราส่งยิ้มให้บิวตี้     ม๊า : ดีแล้วๆ //ม๊าเอามืออีกข้างตบลงบนมือที่จับเราอยู่เบาๆ เหมือนให้กำลังใจ     ป๊า : จะเข้าไปรพ.เมื่อไหร่ดี//ป๊าพูดแทรก     เรา : วันนี้เลยค่ะ สโนว์อยากไปเยี่ยมชมรพ.ก่อนว่าเปลี่ยนแปลงไปขนาดไหน     ป๊า : เดี๋ยวป๊าแจ้งไปทางรพ.ให้ ช่วงนี้น่าจะมีนักศึกษาแพทย์เข้ามาใหม่ด้วย รพ.อาจจะยังยุ่งๆ อยู่     เรา : แล้วป๊าไม่ได้เข้าไปที่รพ.เองเหรอคะ     ป๊า : ตั้งแต่ม๊ามึงไม่สบาย ป๊าก็ไม่ได้เข้าไปหรอก ให้ไอ้หนึ่งดูแลแทน     เรา : หนึ่ง? //เราทำหน้าสงสัย     ม๊า : ลูกคงจำไม่ได้ ลุงหนึ่งคือลูกชายของหมอใหญ่ที่ผ่าตัดหัวใจช่วยม๊าไว้ ม๊ายกหุ้นให้ครอบครัวหมอใหญ่และให้ลูกชายของหมอใหญ่มาดูแลรพ.เป็นรองผอ.    เรา : อ่อนึกออกแล้วค่ะ ลุงหนึ่งที่เป็นพ่อของไอ้นั่นใช่ไหม//เรามองหน้าป๊าม๊าสลับกัน     ป๊า : ใช่     เรา : เฮ้อ~เพราะทั้งมัน ทั้งครอบครัวของมัน เข้ามาใกล้ชิดกับครอบครัวเรามากเกินไป สโนว์ถึงได้ต้องไปไกลถึงเมกา     ม๊า : ม๊าขอโทษเพราะม๊าไม่ดีเอง ม๊าไม่น่าจะตอบแทนผู้มีพระคุณแบบนั้น     เรา : ไม่ใช่ความผิดของม๊าหรอกค่ะ สโนว์ไม่ดีเองต่างหาก ม๊าแค่อยากตอบแทนหมอใหญ่คนนั้นก็แค่นั้นเอง หากหมอใหญ่ไม่ช่วยม๊าไว้ ตอนนี้ก็คงไม่มีสโนว์คนนี้     บิวตี้ : หม่าม๊าค่ะ บิวตี้ฟังมา บิวตี้งงไปหมดแล้วค่ะ//บิวตี้มองหน้าเรา     เรา : มานั่งสิ ม๊าจะเล่าให้ฟัง//บิวตี้เดินอ้อมมานั่งที่ตักของเรา     เรา : บิวตี้รู้แล้วใช่ไหมเรื่องอาก๋งกับอาม๊าสลับหัวใจกัน     บิวตี้ : ค่ะ     เรา : คนที่ผ่าตัดช่วยอาม๊าก็คือหมอใหญ่คนนึงที่รพ.ของเรา อาม๊าทีน่าเห็นหมอคนนั้นเป็นผู้มีพระคุณก็เลย ให้หุ้นของรพ.แก่หมอคนนั้น20% พอหมอใหญ่ตายลูกชายของหมอคนนั้นชื่อหนึ่ง เข้ามาดูแลรพ.แทนในฐานะรองผอ.ของรพ.     บิวตี้ : อ่อเข้าใจแล้วค่ะ แล้วที่บอกว่าไอ้นั่นคือใครหรอคะ//บิวตึ้ถามต่อ     เรา : ที่ม๊าบอกว่าเห็บหมัดน่ะหรอ มันก็เป็นลูกชายของคนชื่อหนึ่งนั่นแหละ มันเป็นหมอผ่าตัดหัวใจเหมือนม๊า แต่ม๊าไม่ค่อยถูกกับมันหรอก แต่ฝีมือผ่าตัดมันเก่ง มันกลายเป็นหมอชื่อดังในไทยไปแล้ว//เราเคยดูวิดีโอการผ่าตัดที่ป๊าส่งมาให้ ยอมรับว่าฝีมือของมันเก่งจริง ทั้งผ่าเร็ว ฝีมือการเย็บละเอียด     บิวตี้ : เป็นศัตรูกันหรอคะ     เรา : อืม พูดแบบนั้นก็ได้     บิวตี้ : คนนั้นชื่ออะไรหรอคะ     เรา : ชื่อนที//เรากัดฟันแน่น เพราะเป็นชื่อที่เราไม่อยากจะเอ๋ยหรือพูดถึง ป๊ามาจับมือเราไว้ เราหันไปมองหน้าป๊า     ป๊า : ตกลงวันนี้จะเข้าไปที่รพ.ใช่ไหม//ป๊าถามเปลี่ยนเรื่อง     เรา : ค่ะ สโนว์แค่อยากให้ป๊าบอกเลขาของป๊าไว้พอค่ะ แค่อยากเดินชมแผนกต่างๆ     ป๊า : ได้สิ     เรา : บิวตี้ไปกับม๊าไหมคะ     บิวตี้ : ไม่ไปค่ะ บิวตี้อยากอยู่เป็นเพื่อนคุยกับอาม๊า     เรา : แต่ลูกอย่าซนนะคะ              บิวตี้ : ได้เลยค่ะหม่าม๊า ฟอด!! //บิวตี้หอมแก้มเรา     ม๊า : ให้บิวตี้อยู่กับม๊าดีแล้ว ม๊าจะสวยบิวตี้แต่งหน้าทำผมสวยๆ     บิวตี้ : จริงเหรอคะ หม่าม๊าไม่เคยสอนเลย     ม๊า : จะสอนได้ยังไง ก็เจ้าตัวไม่ชอบแต่ง//ม๊าหันมามองหน้าเรา ใช่แล้วเราไม่ชอบแต่งตัวเปรี้ยวๆ เหมือนม๊าหรอก เราชอบแต่งแบบสบายๆ ขาลุยมากกว่า     เรา : งั้นสโนว์ขอตัวก่อนนะคะ     ป๊า : ขับรถที่บ้านไปล่ะ     เรา : ไม่เอาหรอกป๊า ถ้าขับไปมีหวังรู้กันทั้งรพ.ว่าสโนว์เป็นใคร     ป๊า : ตามใจๆ เราเดินออกจากห้องทันที ขึ้นมาแต่งตัวสบายๆ ใส่เสื้อยืดรัดรูป กับกางเกงยีนต์ขาเดฟ ใส่แว่นตาดำ สะพายเป้ไว้ด้านหลัง ใส่รองเท้าผ้าใบ จากนั้นเดินลงมาข้างล่าง ใช้แอฟเรียกแท็กซี่มารับหน้าบ้าน จากนั้นตรงไปที่รพ. เรามาถึงรพ.แล้ว รพ.ขยายใหญ่ขึ้นเยอะ มีตึกเพิ่มขึ้นมาหลายตึก คนมารพ.ก็เยอะ เราเดินเข้าไปในรพ. ตรงไปที่ประชาสัมพันธ์ด้านหน้ารพ.แต่เลขาของป๊ามายืนรออยู่แล้ว เลขาชื่อ พี่นัด เป็นผู้หญิงทำงานกับป๊ามานาน เราจำพี่นัดได้ เลยเดินไปทักก่อน     เรา : พี่นัดไม่เจอกันนานเลยนะคะ//เราดึงแว่นตาดำลงเล็กน้อย พี่นัดหันมามองหน้าเรา     พี่นัด : คุณหนูสโนว์!! ไม่เจอกันหลายปี จำแทบไม่ได้เลย//พี่นัดทำหน้าอึ้ง     เรา : เบาๆ ก็ได้ค่ะ ที่นี่รพ. ว่าแต่ไม่มาหลายปีคนป่วยมารพ.เราเยอะขึ้นนะคะ     พี่นัด : ปกติไม่เยอะขนาดนี้หรอกค่ะ พอดีใกล้ๆ มีอุบัติเหตุรถตู้ตกจากถนน ทางเลี่ยงด้านบนพอดี ผู้ป่วยฉุกเฉินประมาณ10คนเลยเข้ามารักษาที่รพ.ของเราที่ใกล้ที่สุดค่ะ     เรา : แผนกERคงยุ่งอยู่สินะคะ พาสโนว์ไปแอบดูหน่อย     พี่นัด : ได้ค่ะ//พี่นัดเดินนำเราไปที่แผนกER ซึ่งเป็นห้องฉุกเฉินอยู่อีกตึกนึง ระหว่างทางเราเจอ พนักงานเข็นเตียงผู้ป่วยที่มีเลือดเต็มตัว นอนร้องครวญครางด้วยความเจ็บ ไปตามทางเดินผ่านเราไป     เรา : เอาผู้ป่วยไปไหนกันคะ     พี่นัด : อาการหนัก น่าจะต้องให้หมอแผนกอื่นเช็ดรายละเอียดเพิ่มค่ะ//พี่นัดหันมาพูดกับเรา แล้วหันไปเดินนำต่อ จนมาถึงแผนกER ยังไม่ทันเดินเข้าไปในตึก เสียงโวยวายและเสียงร้องโหยหวนดังออกมาแต่ไกล มีคนเข้าๆ ออกๆ เยอะมาก     พี่นัด : ข้างในคงยุ่งอยู่ คุณสโนว์จะเข้าไปจริงๆ ใช่ไหมคะ//พี่นัดหันมาถามอีกครั้ง     เรา : เข้าสิค่ะ//เราเดินนำหน้าพี่นัดเข้ามาในตึกเองเลย ผลักประตูเข้าไปในแผนกER เดินเข้าไปหลบด้านในมุมห้องเพื่อไม่ให้เกะกะการทำงานของคนอื่น ทุกคนกำลังวุ่นวายทั้งพยาบาล ทั้งหมอในชุดกาวน์ ต่างพากันห้ามเลือดและทำแผลให้ผู้ป่วยกันอย่างชุลมุน เป็นภาพที่เราชินตา เรายืนกอดอกกวาดสายตามองรอบๆ เจอกลุ่มนักศึกษา3คนที่ใส่เสื้อกาวน์สีขาว เป็นผู้ชาย1 ผู้หญิง2 กำลังยืนมุงผู้ป่วยอยู่ที่เตียงนึง 2คนกำลังยืนจดอะไรใส่สมุดในมือ แต่1ในนั้นมีผู้หญิงคนนึงเป็นนักศึกษาแพทย์ปล่อยผมยาว ยืนเคี้ยวหมากฝรั่ง กิริยาท่าทางไม่สมกับเป็นหมอสักนิด     เรา : พวกนั้นเป็นนักศึกษาแพทย์สินะคะ//เราหันไปถามพี่นัด     พี่นัด : ใช่แล้วค่ะ//พี่นัดพูดจบ เราเดินไปที่3คนนั้นทันที เราเข้าไปใกล้ ชะโงกไปดูคนป่วยที่นอนอยู่บนเตียง และแอบหันไปดูสมุดในมือของนักศึกษาแพทย์ที่จดอยู่ ที่แท้ก็แค่จดบันทึกอาการของผู้ป่วยที่นอนใส่เฝือกที่แขน อย่างไร้สาระ     เรา : ทำไมไม่ไปช่วยคนบาดเจ็บพวกนั้นล่ะ//เราพูดขึ้นทั้ง3คนหันมามองเราหัวจรดเท้า     นักศึกษาแพทย์ชาย : เธอก็พึ่งมาใหม่สินะ ทำไมไม่ไปใส่เสื้อกาวน์     เรา : ฉันเนี่ยนะ//เราชี้หาตัวเอง เออเราก็เป็นหมอใหม่สำหรับที่นี่เหมือนกัน     เรา : ช่างเถอะๆ ว่าแต่ทำไมพวกเธอมายืนจดอะไรไร้่สาระ ทำไมไม่ไปช่วยดูแลคนป่วยที่นอนเจ็บพวกโน้นล่ะ     นักศึกษาแพทย์หญิง : อาจารย์หมอไม่ให้เราไปช่วยล่ะสิ เพราะพวกเราเป็นมือใหม่คงจะกลัว พวกเราทำผิดพลาด     เรา : เฮ้อ~~ก็แค่เล็กน้อย น่าจะเห็นแก่คนป่วยมาก่อน ดูสิหมอพวกนี้ก็ยังจัดการช่วยคนป่วยไม่ทันเลย//เรากวาดสายตาไปรอบๆ ห้อง บางเตียงคนป่วยยังไม่มีหมอเข้าไปปฐมพยาบาลด้วยซ้ำ     นักศึกษาแพทย์ : นั่นสินะ//นักศึกษาแพทย์ผู้หญิงกับชายหันไปมองหน้ากัน ส่วนผู้หญิงอีกคนที่เคี้ยวหมากฝรั่งกลับยืนเฉยๆ ไม่สนใจอะไร     ..?? ..: ช่วยๆ ช่วยลูกผมด้วย/มีผู้ชายวัยกลางคนวิ่งอุ้มเด็กอายุประมาณ3ขวบเข้ามาในห้องER ทุกคนหันไปมอง แล้วหันกลับมาทำหน้าที่ตรงหน้าต่อ อย่างไม่สนใจผู้ชายที่เข้ามาใหม่     พยาบาล : อุ้มเด็กไปวางที่เตียงตรงโน้นก่อนค่ะ//พยาบาลคนนึงชี้ไปที่เตียงที่ว่างอยู่     ผู้ชายอุ้มลูก : แต่ลูกผม..     พยาบาล : ไปนอนรอก่อนเถอะค่ะ ตรงนี้ทุกคนกำลังยุ่ง//พยาบาลพูดเสียงดัง ผู้ชายคนนั้นจำใจอุ้มลูกไปวางที่เตียง หมอคนอื่นกลับไม่หันมาดูอาการของเด็กสักนิด แค่ผู้ชายคนนั้นวางเด็กลงนอน เด็กกลับมีอาการหายใจหอบ ติดขัด หายใจเฮือกๆ ดังๆ อย่างทรมาน     เรา : อาการนี่มัน...
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม