บทที่ 2 นพ.ตุลย์ภพ พลสุวัฒน์

1030 คำ
บทที่ 2 นพ. ตุลย์ภพ พลสุวัฒน์ ช่วงเวลาบ่ายโมงตรง ร่างสูงสง่าในชุดสูทสีดำราคาแพงขยับเสื้อเพียงเล็กน้อยเพื่อจัดระเบียบให้เข้าที่เข้าทาง ก่อนที่เจ้าตัวจะก้าวเดินเคียงคู่ท่านผู้อำนวยการโรงพยาบาลออกจากลิฟท์มาด้วยท่วงท่าสง่างาม สะดุดตาบรรดาเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ของชั้น 3 ให้จับจ้องมองชายหนุ่มหน้าคมที่ดูโดดเด่นด้วยความสงสัยใคร่รู้ " หล่อจังเลยอ่ะแก " น้ำเสียงของเพื่อนร่วมงานฉันเปรยขึ้นทันทีที่เห็นหนุ่มหล่อแปลกหน้าผู้นั้น ฉันเพียงแค่เงยหน้าขึ้นจากเอกสารตรงหน้าเล็กน้อย ก่อนที่จะจ้องมองไปยังชายหนุ่มรูปร่างกำยำผู้นั้น พร้อมสื่อสารให้เพื่อนร่วมงานได้รับรู้ " เขากำลังจะมาเป็นคุณหมอคนใหม่ของโรงพยาบาล " " จริงเหรอหวาน " " อืม" ฉันก้มลงทำงานเอกสารของตนเองต่อ ไม่ได้สนใจผู้ชายหล่อแต่ดูน่าหวาดหวั่นคนนั้น " แล้วเธอรู้ได้ยังไง" คนสนใจยังกระตือรือร้นที่จะรู้ความจริงจากปากฉันให้จงได้ " พี่แก้ว เลขาผอ. เป็นคนบอกฉัน" " แบบนี้ก็ดีเลยสิแก มีหมอหล่อแบบนี้นะฉันคงจะต้องหาเรื่องไปพบหมอวันละโรคเลยแหละ " คำเอ่ยของเพื่อนร่วมงานทำให้ฉันกลั้นขำเอาไว้ไม่อยู่ ก่อนจะแซวบรรดาสาวๆ ผู้คลั่งไคล้คนหล่อต่อ " จะหาโรคไปขึ้นขาหยั่งให้คุณหมอเขาตรวจภายในให้เหรอจ๊ะ" " นี่หมายความว่า...เค้าเป็นคุณหมอสูติฯ เหรอ" " อืม.." " ฉันว่านะ..ต่อไปนี้คนไข้แผนกสูติฯ คงจะแน่นทุกวันเลยล่ะ และฉันก็จะเป็นหนึ่งในนั้นอย่างแน่นอน" เพื่อนสาวชาวประชาสัมพันธ์ของฉันประกาศบอกเพื่อนๆ อย่างหมายมั่นปั้นมือ ฉันจึงเพียงแค่ส่ายหน้าไปมาช้าๆ กับความคิดความอ่านของเพื่อนร่วมงาน สักพักคนทั้งคู่กลับเดินตรงเข้ามายังเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ที่พวกฉันให้บริการลูกค้า เสียงของท่านผู้อำนวยการแนะนำคุณหมอผู้นั้นให้ฉันและทุกคนได้รู้จัก นพ. ตุลย์ภพ พลสุวัฒน์ นี่คือชื่อเสียงเรียงนามของเขา โลกหมุนรอบตัวฉันหยุดนิ่งไปชั่วขณะ วังวนความทรงจำเกี่ยวกับเสี่ยยงยุทธเมื่อ 3 ปีก่อนหมุนกลับเข้ามาในสมองของฉันอีกหน ความเป็นมืออาชีพด้านงานบริการต้อนรับลูกค้าสั่งให้ฉันเงยหน้าขึ้นเผชิญหน้ากับเขาพร้อมกล่าวคำทักทาย สวัสดีค่ะ" และนั่นฉันจึงได้มีโอกาสพิจารณารูปพรรณสัณฐานของเขาอย่างเต็มเต็ง ทั้งรูปหน้ายาวและดูกร้านขึ้น คิ้วเข้มดำดกพาดเฉียงเหนือดวงตา จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากหยักได้รูปที่ส่งผลให้ใบหน้าหล่อเหลาไร้ที่ติ ฉันจำเขาได้แล้วว่าเขาคือใคร? ฝ่ามืออันเย็นเฉียบค่อยๆ ยกขึ้นไหว้เขา สายตาคมกริบที่จับจ้องมายังฉันนั้นยังคงเช่นเดิมดูสงบนิ่ง ไร้ความรู้สึกยินดียินร้าย ต่างจากคำพูดจาที่เขาทักทายเสวนากับบรรดาเพื่อนร่วมงานของฉัน ย้อนกลับไปเมื่อ 3 ปีก่อน ในงานศพของเสี่ยยงยุทธ เพียงแค่ฉันและมารดาเดินทางไปปรากฏกายที่ศาลาเพื่อไหว้เคารพศพของเสี่ยยงยุทธ แต่ฉันกลับต้องพบเจอกับสายตาที่ส่งรังสีอำมหิตราวกับจะกินเลือดกินเนื้อมาให้ฉัน พร้อมกับที่หญิงสาวใบหน้างดงามหมดจดผู้ที่ฉันได้รับทราบสถานะในวันนั้นว่าเป็นบุตรีของเสี่ยได้เอ่ยวาจาเชือดเฉือนฉันและมารดา และใช้วิถีประชาไล่ฉันและมารดาให้พ้นจากสังคมไฮโซเหล่านั้น ในวันนั้นฉันเห็นชายผู้นี้ยืนนิ่งอยู่เคียงข้างบุตรสาวของเสี่ยยงยุทธ สีหน้าของเขาเรียบเฉยไม่แสดงอาการใดๆ ออกมาให้ใครรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ หากแต่ดวงตาคู่คมนั้นจ้องมองมาที่ฉันกับมารดาอย่างพิจารณา ในตอนนั้นฉันไม่ได้รับทราบข้อมูลใดเกี่ยวกับครอบครัวของเสี่ยยงยุทธมากนัก พอจะทราบเพียงแค่ว่าภรรยาของท่านเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจวาย มีบุตรสาว 1 คน และบุตรชาย 1 คนใช้ชีวิตอยู่ที่ต่างประเทศ การแต่งงานของฉันโดยไร้ทะเบียนสมรสกับเสี่ยในวันนั้นจึงเกิดขึ้นราวกับเป็นเรื่องที่รับรู้เฉพาะคนในครอบครัวฉัน ส่วนครอบครัวของเสี่ยฉันไม่อาจรับรู้ได้ว่าลูกเต้าเหล่ากอทั้งสองคนของเสี่ยมีความคิดเห็นเช่นไร แต่ถ้าหากว่าเขาจะไม่ชอบหน้าฉันอันเนื่องมาจากเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับบิดาของพวกเขา ฉันคงไม่สามารถห้ามความรู้สึกนึกคิดของใครต่อใครได้ แต่สิ่งที่ฉันกังวลมากกว่าเรื่องในอดีตนั่นก็คือ พี่แก้วบอกกับฉันว่าเขาเป็นหลานของท่านผู้อำนวยการโรงพยาบาล นั่นก็หมายถึงว่าโรงพยาบาลที่รับฉันเข้ามาทำงานอยู่ในตอนนี้คือโรงพยาบาลของเครือญาติของเสี่ยยงยุทธ เห็นแบบนี้แล้ว...อนาคตเรื่องการทำงานที่นี่ของฉันจะเป็นไปในทิศทางไหนกันนะ ฉันเจอฤทธิ์ของคุณหนูไฮโซลูกสาวของเสี่ยยงยุทธมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อ 3 ปีที่แล้ว แล้วตอนนี้ลูกชายของเสี่ยเข้ามาทำงานประจำที่นี่ แต่ถึงแม้นว่าเขาจะจำฉันได้ แต่ฉันหาใช่นักโทษไม่ ในอดีตเพียงแค่ฉันตกเป็นจำเลยของสังคมไฮโซนั่นเท่านั้น ยิ่งถ้าฉันคิดจะหนีนั่นก็แสดงว่าฉันยอมรับความจริงว่าฉันฆ่าพ่อเขา! ฉะนั้น...ในเมื่อฉันไม่ได้ทำอะไรผิด ฉันจะเกรงกลัวเขาด้วยเหตุผลอันใด ทุกวันนี้ ในสภาพเศรษฐกิจเช่นนี้ งานเป็นสิ่งที่หายากยิ่ง แม้จะต้องหาเลี้ยงตนเองเพียงผู้เดียวแต่อนาคตที่ฉันวางไว้ว่าจะอยู่โดยไร้คู่ไปจนแก่เฒ่า ฉันจำเป็นต้องเก็บหอมรอมริบเอาไว้เพื่อใช้เป็นทุนเพื่อใช้จ่ายในอนาคตของฉันอย่างน้อยๆ ฉันตั้งเป้าหมายระยะยาวของฉันเอาไว้ว่า ทำงานเก็บเงินได้สักสิบล้านเมื่อไหร่ ฉันจะกลับไปอยู่บ้านนอก ## จบตอน## ​
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม