5
“รูปสวยจังเลยค่ะ ขอโทษนะคะอาจารย์... ฉันจะเสียมารยาทไปหรือเปล่าถ้าทำให้อาจารย์ไม่สบายใจ... คืนให้ได้นะคะแต่ว่าอยากได้จังเลย”
“เก็บไว้เลยครับ...”
ในสีหน้าเรียบเฉย อาจารย์หนุ่มคิดว่าเขาไม่ผิดข้อหาอะไรกับการวาดรูปสาวสักคน ไม่ใช่ใครที่ไหนไกล เจ้าของร้านเบเกอรี่คาเฟ่หน้ามหา’ลัยนี้เอง
ส่วนไอ้พวกเด็กแสบที่ยุ่งไม่เข้าเรื่อง...
เมื่อเช้านี้พอจับตัวต้นเหตุได้ ต่างคนยืนคอพับคอตกโดนเทศนาเป็นอบรมทีมฟุตบอลอยู่ตรงสนามหญ้ากว่าที่คนเป็นอาจารย์จะยอมปล่อยตัว หลังกำชับบอกกับนักศึกษาราวเอ่ยคำสั่งประกาศิตว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีก เขาไม่พอใจมาก ๆ แต่จะให้อภัยเด็กขี้ขโมยสักครั้งหนึ่งเพราะอะไรก็แลกเกรดไม่ได้ ต้องทำงานมาส่งและตั้งใจเรียนเท่านั้น
และอีกครั้งหนึ่งตรงนี้...
รอยยิ้มหวานบนใบหน้าสดสวยใต้เครื่องสำอางอ่อน ลิปสติกสีชมพูกับแก้มระเรื่อแดงจาง ๆ ทำให้เขาละวางตาไม่ได้แม้สักนาที
“ฉันชอบรูปนี้มากเลยค่ะ ฉันจะเอาไปไว้ที่คอนโดฯ สวย ๆ ไม่ก็แปะไว้ที่บ้าน ให้ฉันจริง ๆ ใช่ไหมคะ?”
“เอาไปเลยครับ... ดีใจนะที่ชอบ แต่ผมไม่ได้วาดแค่รูปคุณรูปเดียว ผมวาดรูปไปเรื่อยเปื่อย เปิดรับคอมมิชชั่น... ประมาณนั้น...”
“มันคืออะไรคะ?” คิ้วเรียวสวยขมวดมุ่นมองคนที่แก้ตัวข้าง ๆ คู ๆ เธอม้วนภาพเก็บใส่กล่องทรงกลมอย่างเดิม วางมันอย่างระวังขนาดว่าคนวาดไม่ต้องเป็นกังวล แล้วประสานมือไว้บนโต๊ะเพื่อตั้งใจฟังเขายังกับว่าเป็นนักศึกษาในคลาส ป้องเกียรติจึงค่อย ๆ อธิบายว่ามันเป็นการจ้างวาดรูปประเภทหนึ่ง
“จ้างวาดรูปน่ะหรือคะ? แต่ฉันก็... ไม่เห็นว่ามันจะเกี่ยวกับการเอาฉันไปเป็นแบบ ไม่ใช่ว่าคนจ้างเขาอยากได้รูปอื่นเหรอคะ ทำไมต้องเป็นรูปฉันล่ะคะ...?” ถามด้วยหน้าตาใสซื่อ ก่อนที่เธอจะฉุกใจคิดได้ว่าละลาบละล้วงเกินไปสักหน่อย “เอ่อ... ฉันคิดว่าคนคงอยากจ้างมากค่ะถ้าฝีมือดีขนาดนี้ ขอดูตัวอย่างงานก่อนได้ไหมคะ ที่น้องบอกว่ามีอีก”
คราวนี้คนโกหกโดนจับได้เต็ม ๆ ว่านั่นเป็นข้ออ้าง อาจารย์หนุ่มยกมือป้องปากกระแอมไอ
“ก็... อยู่ในแท็บเล็ตครับ นักศึกษาเอาไป”
“อ้าว... ไม่ใช่ว่าได้คืนเมื่อเช้าแล้วหรือคะ? เห็นยืนคุยกันอยู่ตั้งนาน ตกลงว่าน้อง ๆ เขาไม่ได้หยิบของอาจารย์ไปอีกใช่ไหมคะ? ฉันว่าเขาก็ดูมีเงินนะคะไม่น่าขโมยของในมหา’ลัย แล้วของของอาจารย์ เป็นไปไม่ได้เลยนะคะ”
เณศราพยายามมองโลกในแง่ดี คิดว่าพวกเขาคงปรับความเข้าใจกันเรียบร้อยแล้วยังมีอีกเรื่อง...
แววตาคู่คมปลาบประกายใต้แว่นกรอบหนากลอกไปมา ในท่าทีเคร่งขรึมเหมือนกับว่าเขาไม่คนยิ้มเก่งแต่กลับพยายามยิ้มให้เธออยู่บ่อย ๆ เขายังทำอ้ำอึ้งตอบคำถามวกไปวนมา คงเป็นอย่างที่น้องบอกนั่นแหละว่าอาจารย์ปิ๊งเธอ!
“ไว้วันหลังก็ได้ค่ะ... เอาที่อาจารย์สบายใจดีกว่า ทานเค้กให้อร่อยนะคะสั่งเพิ่มได้ อาจารย์คงไม่กลัวอ้วนเนอะ”
“ไม่ครับ เค้กไขมันต่ำที่นี่ก็อร่อยดีนะ ผมมาทานบ่อย ๆ” ป้องเกียรติมีท่าทีลังเล แต่พอเธอจะลุก เขาก็รีบรั้ง “อยากดูงานวาดของผมไหมล่ะครับ?”
“อยากดูมาก ๆ เลยค่ะ เดี๋ยวฉันไปชงกาแฟให้อาจารย์ก่อนนะคะ วันนี้ฉันทำสตรอว์เบอร์รีหลายก้อนด้วย...”
“เอาสตรอว์เบอร์รีครับ กับลาเต้เย็นไม่หวาน ไม่ใส่น้ำตาลเลยครับ” พูดพลางยิ้มอ่อนมองคนตรงหน้าจากที่ไม่ค่อยทำบ่อยนัก อาจารย์หนุ่มมองว่าหากเขาไม่ให้เธอดูงานในมือถืออาจไม่มีเรื่องให้คุยกันต่อ แล้วการใส่ร้ายลูกศิษย์ว่าเป็นหัวขโมยก็ดูจะไม่เหมาะสม
ขณะร่างบางในชุดแตกต่างจากทุกวันที่เคยใส่กระโปรงตุ๊กตา วันนี้เธอใส่ยีนสีซีดทรงขากระบอกกับเสื้อเอวลอยดูน่ารักพร้อมรองเท้าผ้าใบที่เดินกระชับกว่า เธอลุกขึ้นเดินหายไปด้านหลังตู้เก็บเค้ก มีเครื่องชงกาแฟและมุมทำอาหาร คนข้างในสามารถชะโงกคอส่งเสียงออกมาพูดคุยกับลูกค้าได้ ชงกาแฟให้อาจารย์หนุ่มด้วยตัวเองแล้วเธอยังช่วยพนักงานต้อนรับลูกค้าก่อนกลับมานั่งที่เดิมด้วยท่าทางกระตือรือร้น
“กาแฟอร่อยไหมคะ? สมัยเรียนมหา’ลัย วิชาบาริสต้าฉันได้ท็อปเต็ม อาจารย์ชมพอ ๆ กับวิชาอบเค้ก...”
“อร่อยครับ... ทั้งกาแฟทั้งขนม” เจ้าของร้านก็น่ารัก...
ประโยคท้ายสุดนั้นคงไม่ได้พูดไป ป้องเกียรติก้มหน้าลงมองแก้วพลาสติกเย็นมีโลโก้น่ารักเป็นสาวผมหยิกหยอยกระโปรงฟูฟ่อง คนชงกาแฟคงแค่ปั่นเมล็ดมันด้วยเครื่องที่ไม่ต้องทำอะไร เรียกว่าคุยโม้ไปงั้น ทว่าเทคนิคการเทครีมเป็นรูปหัวใจอาจมีอะไรแอบแฝงหรือเปล่า
จนหันไปมองโต๊ะข้าง ๆ เห็นกาแฟเหมือนของเขา ใต้ฝาปิดใสไม่ว่าจะเป็นร้อนหรือเย็นก็มีหัวใจ... มือหนาเลื่อนลงวางแก้วกาแฟเย็นเฉียบที่ดื่มไปไม่กี่คำในสีหน้าผิดหวังเล็กน้อย
“อาจารย์ชอบกาแฟดำไหมคะ? เห็นว่ามาทานทีสั่งแต่กาแฟขม ๆ ไม่ใส่น้ำตาล”
“ชอบครับ ผมทานหวานเฉพาะเค้กหรือขนมเท่านั้น กาแฟผมทานขม ๆ แบบนี้แหละครับ”
“ร้านนี้ใช้กาแฟสดตลอดค่ะ เมล็ดกาแฟคัดสรรมาอย่างดีให้ลูกค้าดื่ม รับรองว่าไม่เสียดายเงินแน่นอน แก้วเดียวดีดทั้งวัน”
“มันก็เย็นแล้วนะครับ แบบนี้ผมไม่ต้องนอนดีดไปยันเช้าเลยรึไงคุณ?”
หน้านิ่งมุกฝืดทว่าน้ำเสียงทรงเสน่ห์ เณศราเผลอหัวเราะออกมา เธอกำลังนึกถึงนักร้องลูกทุ่งที่ป่านนี้โกอินเตอร์ไปแล้ว ในขณะที่อีกคนคงไม่รู้ว่าเธอขำอะไรนักหนา ซึ่งเขาไม่ได้เอ่ยทักว่ามันไม่งามกับการมานั่งหัวเราะใส่หน้าอาจารย์ระดับดอกเตอร์ ปล่อยให้เจ้าตัวรู้ตัวเอง
“ขอโทษนะคะอาจารย์ ฉันเสียมารยาทไปหน่อย อาจารย์จะมาทานเค้กเมื่อไรก็ได้นะคะ ฝากชวนน้อง ๆ มาทานด้วยนะคะ”
“ผมไม่สนิทกับเด็ก ๆ เท่าไรครับเพิ่งย้ายมาสอนได้ไม่ถึงเดือน เอาเป็นว่าผมจะบอกให้นะครับว่าคุณเณศราเบเกอรี่ฝากชวน” ปลายเสียงแผ่วเบาไป อดไม่ได้ที่จะนึกถึงหนุ่มสาววัยรุ่นอย่างนึกห่วง
“แล้ว... ผมอยากจะรบกวน ถ้าเป็นไปได้อย่าเอาไปพูดต่อนะครับ ผมไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่โต เกิดใครเอาไปว่าพวกเขาหยิบของอาจารย์”
“เรื่องน้อง ๆ ฉันไม่บอกใครต่อแน่นอนค่ะ พวกเขาไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร ดูเป็นเด็กดีกันออก...”
อาจารย์หนุ่มยิ้มไม่ออกกับคำว่า เด็กดี! นั่นเป็นไปไม่ได้เลย แต่ถ้าไม่ใช่เพราะแก๊งไอ้เปี๊ยก กามเทพที่ไหนก็ช่วยเขาให้มานั่งคุยกับเจ้าของร้านคนสวยไม่ได้
“น้อง ๆ คงทำไปด้วยความหวังดีประสาคนหนุ่มสาว อย่าไปโกรธเลยค่ะ จะเรียกเณ... หรือเนยแล้วแต่อาจารย์สะดวกเลยค่ะ คือฉันว่าเณศราค่อนข้างยาวไปนิด”
“อืม... ผมว่าควรให้เกียรติด้วยการเรียกว่าคุณเณไหมครับ? จะให้เรียกยังไงดีกว่า... เอาที่สมัครใจ”
“เนย... ออ... ฉัน...” เพราะเผลอหลุดปากไป ใบหน้าแดงซ่านก้มลงมองโต๊ะยกมือป้องปาก “เรียกอะไรก็ได้ค่ะ”
“อะไรก็ได้ไม่มีครับ อยากให้เรียกว่าเนยใช่ไหมล่ะ?”
“ได้ค่ะอาจารย์ป้อง เอ่อ... เป็นดอกเตอร์นะคะ?”
“ผมไม่ได้เป็นอาจารย์คุณนะคุณเนย... จะเรียกพี่ป้องหรือว่าดอกเตอร์ คุณคิดว่าอย่างไหนดีครับ?”
แล้วเขาก็ต้อนเธอให้กลายเป็นฝ่ายยอมรับด้วยตัวเอง เณศราเกือบได้ถลึงตาใส่อาจารย์หนุ่มที่จะไม่ยอมเป็นอาจารย์ แต่ยั้งใจไว้ได้ทัน เธอก้มศีรษะตอบเขาอย่างสุภาพ
“ขอเรียกอาจารย์ดีกว่าค่ะ ฉันคิดว่าเหมาะสมกว่าค่ะ”