ส่วนตะวันก็นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ไม่ห่างจากคุณแม่เท่าไหร่ คงจะเจ็บแผลที่โดนตีนั่นแหละ และถ้าไม่ใช่พี่ไวยมาตะวันก็คงไม่ลงมาหรอก แล้วพ่อละ ตอนนี้พ่อพฤกหายไปไหน “อ้าวดวงใจ พี่เขามารอพักนึงแล้วนะลูก” “ทราบแล้วค่ะคุณแม่ ว่าแต่พ่อพฤกละคะ พ่อพฤกไปไหน” “พ่ออยู่ข้างบนกำลังลงมาจ้ะ” “งั้นเราไปรอที่โต๊ะอาหารเลยมั้ยคะ อาหารพร้อมแล้ว” “ได้ซิ ไปเถอะไวย ไปทานข้าวกัน” “ครับคุณน้า” พี่ไวยเดินไปที่โต๊ะอาหาร แต่สายตากลับจ้องมาที่เราตลอดเวลา และไม่นานพ่อพฤกก็เดินลงบันไดมา สีหน้าท่านดูไม่ซีเรียสอะไรเลยนะ แถมยังยิ้มให้พี่ไวยอีกด้วย “มานานรึยังไอ้หนุ่ม” “ไม่นานครับ สวัสดีครับคุณน้า” “อืมดีๆ มาๆกินข้าวกัน” พ่อพฤกชวนพวกเรานั่งกินข้าวทันที และการกินข้าวก็เป็นไปอย่างราบรื่น ตะวันไม่พูดขัดใจพ่อเลย เรารู้นะว่าตะวันทำเพื่อเรา ตะวันคงไม่อยากให้บรรยากาศที่เรารอคอยแบบนี้ต้องเสียต