เมื่อประธานผู้สูงศักดิ์ในพิธีนั่งลงโดยมิเอ่ยวาจา ขันทีเจ้าพิธีการในวันนี้จึงส่งเสียงประกาศออกมาอีกครั้ง “เริ่มการประชันฝีมือได้” พิธีประชันฝีมือเริ่มต้นขึ้นและดำเนินไป มีทั้งชงชา คัดเลือกใบชา คัดอักษร แต่งกลอน ร่ายรำ บรรเลงพิณ ศิษย์สำนักชิ่นหลันล้วนโอ้อวดฝีมืออย่างเต็มที่ไม่ตระหนี่ทั้งสิ้น ทว่าผู้มีสิทธิ์ตัดสินใจเลือกเพียงหนึ่งเดียวทำแค่นั่งนิ่งเสมือนไร้ตัวตนไม่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ แววตาของชายหนุ่มเย็นชา ใบหน้าเย่อหยิ่งยังคงเรียบนิ่งไร้คลื่นอารมณ์ใด ไม่สนใจมองการประชันเลย เพราะในห้วงภวังค์ ยังคงครุ่นคิดถึงใครบางคนมิคลาย หลายคราใบหน้าหล่อเหลาของเขาฉายแววเศร้าอย่างลึกล้ำ จ้าวหมิงอวี่ไม่คิดว่าชีวิตนี้จะกลายเป็นบุรุษช้ำรัก เขาเป็นถึงองค์ชายที่เกิดจากพระสนมเต๋อกุ้ยเฟยผู้ล่วงลับ ซึ่งเป็นอดีตหญิงในดวงใจของจักรพรรดิจ้าว ตั้งแต่เด็กจนเติบใหญ่ล้วนมีแต่ผู้คนรุมล้อมมอบความรักใคร่ มีเพียงนางที่