ตอนที่5สายใยรัก

2762 คำ
บทที่5สายใยรัก แก้มใสพาฉันไปนั่งข้างเวที บอกว่าที่ตรงนี้เป็นที่ประจำของพวกเราสองคน “ที่ฉันพูดเมื่อกี้ปลายมีคำตอบให้ฉันไหมเพื่อนรัก” ตอนแรกฉันตกใจที่หญิงสาวตรงหน้าจับได้ แต่แก้มใสยังไม่รู้ว่าฉันเป็นวิญญาณที่หลงเข้ามาอยู่ในร่างนี้ “มีสิแก้ม บางทีฉันแค่คิดว่าที่ผ่านมาฉันวิ่งตามพี่ปราบมาตลอด ก็เลยรู้สึกเหนื่อยๆ” ฉันพูดไปตามที่ได้ข้อมูลมา สำหรับเกวถ้าเธอเป็นน้องปลายฟ้าคงจะเหนื่อยไม่น้อย “นี่ปลายฟ้า เธอกับฉันเป็นคนธรรมดา มีบ้างที่จะรู้สึกอย่างนั้น แต่ฉันกลับมองว่าเธอโตขึ้นนะเพื่อน เหนื่อยก็พัก อยากทำอะไรก็ทำ รู้ไว้ฉันอยู่ข้างเธอเสมอ เขาจะเริ่มประชุมกันแล้ว” หน้าเวทีมีชาวบ้านมานั่งฟังประมาณ 40 กว่าคนได้ มีทั้งคนหนุ่มและคนแก่ ผู้หญิงที่อยู่ในวัยกลางคน ผู้ใหญ่บ้านขึ้นมากล่าวขอบคุณชาวบ้านทุกคนที่มาร่วมประชุมแล้ว ฉันฟังเข้าใจบ้างและไม่เข้าใจบ้าง เพราะไม่รู้อะไรนั่นเอง จากนั้นก็บอกว่าจะมีคนมาให้ความรู้หลังเก็บเกี่ยวข้าวเพื่อรักษาหน้าดิน เวลาทำนาปีหน้าจะได้ข้าวดี ไม่ต้องพึ่งปุ๋ยเคมี ที่เป็นตัวบ่อนทำลายหน้าดิน “สวัสดีพ่อ แม่ พี่ น้อง ลุง ป้า น้า อา ผมคงไม่ต้องแนะนำตัวแล้วนะครับ ขอบคุณผู้ใหญ่บ้านให้ผมได้นำความรู้ที่ครอบครัวผมทำมา นำมาบอกให้ทุกคน อย่างที่ผมเคยพูดไว้เมื่อปีก่อน ถ้าจะให้ลดต้นทุน แล้วเพิ่มผลผลิตให้กับนาข้าวของเรา สิ่งแรกที่จะต้องทำคือ…” เกวลินนั่งฟังคนตรงหน้าที่ยืนพูดต่อหน้าชาวบ้าน เขาดูมีเสน่ห์ขึ้นมาทันที จากที่ตอนแรกมองว่าเป็นผู้ชายที่หงุดหงิดเหมือนเวลาผู้หญิงมีประจำเดือน แต่พอเขาทำหน้าจริงจัง เป็นการเป็นงาน เขาดูเหมือนอาจารย์ที่กำลังสอนวิชาเกษตรให้นักเรียนฟัง “ปลาย ปลาย พี่ปราบพูดจบแล้ว ทำไมไม่ตบมือ” ฉันเพิ่งรู้สึกตัว ก่อนหน้านั้นฟังที่เขาพูด แต่ตามองไปหน้าเวที ฉันตั้งใจฟังเขาบอกวิธีรักษาหน้าดินแล้วก็จินตนาการไปว่า ต้องทำอย่างที่เขาบอก คิดภาพตัวเองตากแดดหน้าแดงหน้าดำ มาสะดุ้งตอนที่เพื่อนสะกิด “อ้อ เอ่อ ฉันตั้งใจฟังมากไปหน่อยนะ” แก้มใสยิ้มให้เพื่อนสาว การประชุมใช้เวลา 1 ชั่วโมงกว่า แล้วผู้ใหญ่บ้านให้แก้มใสออกมาชี้แจงว่าสิ้นปี ซึ่งเหลืออีก 2 เดือนกว่าจะมีเงินปันผลให้ทุกครัวเรือน แล้วชี้แจงงบประมาณที่เหลือ “ปลายฉันไปนะ วันนี้ไม่มีอะไร แต่งานหน้ามีแน่นอน สวัสดีค่ะพี่ปราบ” หลังจากที่พวกเราออกมาเป็นกลุ่มสุดท้ายที่รอปิดห้องปิดไฟ แก้มใสเอาไฟฉายใส่ไว้บนหัวแล้วสะพายกระเป๋าขี่จักยานกลับไป ฉันนั่งซ้อนท้ายเขากลับไปที่เถียงนา ผ้าร่มที่ใส่เหมือนนจะกันแดดได้อย่างเดียว ยิ่งดึกยิ่งหนาวเหมือนที่ยายหอมบอก ฉันเลยกอดกระเป๋าไว้แน่นไม่นานก็ถึงที่เก็บรถ จากนั้นต้องเดินตามคันนาไป เพราะมีไฟฉายอันเดียว ระหว่างที่เขาเก็บรถ ฉันก็ยืนรอ “จะเดินนำหน้าพี่หรือจะตามหลังพี่ครับ” เขาสะพายกระเป๋าข้างหลัง ถือไฟฉาย “คุณไปก่อน ฉันจะเดินตามหลังเอง” ผมหันกลับไปทางเดินที่เป็นคันนาเล็กๆ สองข้างทางมีแต่ต้นข้าวที่ใกล้จะเกี่ยวแล้ว ผมไม่ได้เดินเร็ว เพราะกลัวว่าเธอจะเดินไม่ทัน และเพื่อที่จะให้คนน้องมองเห็นทาง เมื่อมาถึงเถียงนา ผมเป็นคนบอกให้เธอล้างเท้าก่อนเข้านอน เธอจึงไปล้างเท้าแต่เสียงโทรศัพท์ผมดังขึ้น “เอาไฟฉายขึ้นห้องไปก่อน เพื่อนพี่โทรมา” “ค่ะ” ฉันรับไฟฉายขึ้นไปบนกระต๊อบ เปิดไฟฉายให้หันไปทางตะกร้า และเอาโทรศัพท์ขึ้นมาบันทึกชื่อและเบอร์หมอคนนั้นไว้ ในใจกังวลว่าที่เข้ามาอยู่ในร่างน้องเธอจะเป็นมะเร็งไปด้วยไหม วันนี้ฉันได้รู้ว่าน้องชอบทานเผ็ดมาก จากนั้นเอาผ้าห่มที่ยายให้มากาง ส่วนผ้าห่มที่มีอยู่ก่อนวางไว้ข้างๆ ยกให้เขา ฉันนอนตะแคงหันไปทางหน้าต่าง คิดว่าจะทำยังไงดีกับชีวิตที่ทะลุมาอยู่ที่นี่ ดูเหมือนเขาจะยอมลงให้เจ้าของร่างนี้แล้ว ฉันเผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้ แล้วลืมปิดไฟฉาย “มีอะไร” แฟนสาวปมโทรมา หรือจะบอกว่าอดีตแฟน “พี่ปราบ นี่ปลายฟ้าใส่ร้ายฉันให้พี่อีกแล้วใช่ไหม ทำไม่พี่พูดแบบนี้” ปกติพี่ปราบพูดมีหางเสียงกับเธอตลอด สำหรับผมที่ผ่านมาไม่เคยเห็นปลายฟ้าพูดถึงเธอเลย “อย่าดึงคนอื่นเข้ามาเกี่ยวเลย มาพูดเรื่องของเราเถอะ” ผมเบาเสียงลง “เพราะพี่ได้นอนกับมันสินะ ถึงรีบลุกขึ้นมาปกป้องมัน” ผมถอนหายใจ เมื่อก่อนยาหยีไม่ได้เป็นคนแบบนี้ไม่ใช่เหรอ หรือเธอเป็นแบบนี้อยู่แล้ว เป็นเขาที่มองข้ามไป “ถ้ายังไม่หยุดกล่าวหาบุคคลที่ 3 พี่จะวางสาย” “ก็ได้ๆ พี่ปราบ คือหยีต้องใช้เงินเพื่อสอบบรรจุครู พี่ช่วยหยีหน่อยได้ไหมคะ” “เท่าไร” ผมเก็บค่าสินสอดครบ 5 ล้านแล้ว ตอนนี้ยังไม่ได้ถอนเงินออกมา “100,000 บาทค่ะ” “ทำไมเยอะขนาดนั้น” การเลื่อนตำแหน่งต้องใช้เงินซื้อ ทุกหน่วยงานดูเหมือนจะทำการใช้เส้นสายยัดเยียดตำแหน่งกัน มันทำให้คนมีความสามารถถูกมองข้ามไป เพราะเงิน นี่แหละสังคมไทยทุกวันนี้ปลาใหญ่กินปลาเล็ก “พี่จะช่วย แต่ช่วยบอกความจริงว่าที่ผ่านมาหยีทำกับพี่แบบนั้นทำไม” “พี่ปราบ หยีทำอะไร พี่ไปฟังใครมา” “พี่ไม่ได้ฟังแต่พี่เห็น ที่นั่งใต้แสงเทียนในร้าน ที่หยีเข้าโรงแรมและภาพที่หยีนั่งรถด้วยกันสองต่อสอง” ผมหยุดพูด เพื่อจะฟังความจริง ผมไปหอประชุมวันนี้เพื่อนเอาหลักฐานที่แคปรูปจากไลน์กลุ่มมาให้เขาดู ว่าเพื่อนร่วมงานส่งมาให้ แต่ไม่กล้าบอกผมตรง ๆ “พี่ปราบ พี่ก็รู้ว่าฉันทำงานเป็นลูกน้องที่มีตำแหน่งน้อยนิด กลายเป็นลูกกระสุนที่ถูกยิงไปทางไหนก็ต้องไป ที่พี่เห็นความจริงเราไปกันหลายคน” เธอกลัวจะไม่ได้เลื่อนตำแหน่ง จึงแถต่อไป “หยี ที่ผ่านมาพี่อาจเป็นผู้ชายที่โง่ แต่ตอนนี้พี่เริ่มเข้าใจคนรอบข้างที่เตือนพี่แล้ว ตกลงเงิน 100,000 จะเอาหรือไม่เอา” เธอคงต้องปล่อยธนาคารและสารถีคนนี้ไปสินะ อีกอย่างความฝันเธอยิ่งใหญ่กว่านั้นคือได้เป็นคุณนายภรรยาท่านปลัด “ก็ได้ หยีคุยกับเขาตั้งแต่เขามาบรรจุที่อำเภอเราแล้ว หยีตัดเขาออกไปไม่ได้ แล้วหยีก็ไม่กล้าบอกพี่ด้วย ขอโทษนะพี่ปราบ พี่คือผู้ชายที่ดีที่สุดสำหรับหยี แล้ว แล้วพี่จะช่วยหยีจริงๆใช่ไหม” “ใช่ ขอบใจที่บอกพี่ตามตรง แล้วนี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่พี่จะช่วยหยี” ผมคิดว่าจะช่วยเหลือเธอเป็นครั้งสุดท้ายสำหรับคนที่เคยรัก จากนั้นตามคนตามอยู่ ที่ผ่านมาผมให้เกียรติเธอมาตลอด ไม่เคยล่วงเกินเธอสักครั้ง ทำไมชีวิตผมน่าสมเพชวะ หลังจากที่ผมทำธุระส่วนตัวเสร็จ ขึ้นมาที่ห้องเห็นไฟฉายเปิดทิ้งไว้ จึงไปปิดหน้าต่างลงมา เห็นว่าหญิงสาวนอนหันหลังไปทางหน้าต่างแล้วเว้นพื้นที่ให้เขาพร้อมผ้าห่มผืนใหญ่ ส่วนเธอห่มผ้าที่ถือกลับมา ผมค่อยๆพลิกร่างบางให้นอนในท่าที่สบาย อีกอย่างจะดูมือซ้ายเธอด้วยว่ายังแดงอยู่ไหม จากนั้นเอาว่านหางจระเข้ที่เก็บมาจากบ้านแม่ทาให้เธอเบาๆ เกวที่หลับไปสักพัก หญิงสาวรู้สึกว่ามีอะไรเย็นๆมาแตะที่หลังมือ เธอค่อยๆลืมตา เห็นคนตรงหน้ากำลังมองไปที่มือข้างที่แดง ใบหน้าเขาเคร่งเครียด หัวคิ้วชนกัน แล้วเหมือนเขาจะใจลอย กดนิ้วแรงจนเธอรู้สึกเจ็บหลังมือ “โอ้ยย” ชายหนุ่มตรงหน้าถึงรู้สึกตัว และยกมือขึ้นมาเป่าให้เธอ ด้วยใบหน้าที่รู้สึกผิด “พี่ขอโทษที่ทำให้ตื่น” ก่อนหน้านั้น ผมกำลังคิดว่าต่อไปนี้ผู้หญิงตรงหน้าคนนี้ต่างหากที่ผมควรจะดูแลเธอ ที่ผ่านมาผมทำร้ายน้ำใจเธอมาตลอด “ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณ” เธอดึงมือออกเตรียมตัวจะหันหลังกลับไปนอนท่าเดิมแต่ “เอ๊ะ ปล่อยนะคุณ” เขายิ้ม ยิ้มอะไร ผีเข้าหรือไง นี่เป็นความในใจของเกวลิน “ไม่ปล่อย เพราะเราแต่งงานกันแล้ว” เธอดิ้น แต่มีหรือที่เธอจะสู้ชายหนุ่มรูปร่างกำยำได้ “ไม่ แต่งได้ก็หย่าได้…อุบส์ อื้ออ อื้มมม” เธอเถียงขาดใจ แต่เขาขึ้นคร่อมร่างเธอแล้วปิดปากเธอไว้ด้วยริมฝีปากหนาเขา มือสองข้างถูกชายหนุ่มยกขึ้นไปเหนือศีรษะแล้วกดข้อมือเล็กสองข้างไว้ ด้วยมือข้างเดียวของเขา เกวลินตัวแข็งทึ่ง เพราะความตกใจลิ้นสากเข้ามาควานหาน้ำหวานในปากเธอยังง่ายดาย ผมแค่คิดว่าจะแกล้งเธอ แต่พอริมฝีปากสัมผัสกัน ผมรู้สึกโหยหาและต้องการเธอมากมาย ผมไม่ได้ทำเพราะอารมณ์โกรธ แต่กลับรู้สึกเอ็นดูเธอ เกวรู้สึกร้อนวูบวาบไปทั่วร่าง พยายามจะพูดให้เขาหยุด แต่เขาไม่ยอมปล่อยให้ริมฝีปากเธอเป็นอิสระ มืออีกข้างเขาเริ่มลูบไล้เข้ามาข้างในเสื้อ ไม่นานตะขอเสื้อถูกปลด “โอ้ยย” เธอกัดลิ้นเขาไปเต็มแรง “เมียชอบซาดิสม์ก็ไม่บอกผัว หึ หึ หึ” สายตาหื่นกระหายนั้นเกวลินขนลุกซู่ จากนั้นหญิงสาวไม่มีโอกาสได้พูดอีกเลย เพราะเขาจู่โจมร่างบางแบบจัดเต็มพรมจูบไปทั่ว นี่เป็นครั้งแรกของเธอและของร่างนี้ด้วย เกวไม่มีแรงจะต่อต้าน เขาจับมือที่อ่อนระทวยทั้งสองข้างมาวางบนบ่าแข็งแรง “จับมันสิครับ มันเป็นของน้องแล้ว” เสียงทุ้มนุ่มนั้น หญิงสาวค่อยๆลืมตามองเขา ผู้ชายตรงหน้ามองเธอด้วยสายตาเร่าร้อนและพร่ามัว บวกกับสายตาที่อบอุ่นและมีความหมายแฝงอยู่ “ให้โอกาสพี่นะครับ” สายตาและน้ำเสียงที่อ้อนวอนเหมือนคนรู้สึกผิดนั้น ฉันควรจะให้โอกาสเขาใช่ไหม เกวค่อยๆเลื่อนมือไปที่ใบหน้าคมเข้ม แล้วลูบบริเวณคาง หู คิ้ว จมูกและปากลงมายังหน้าอกและหน้าท้องที่เป็นลอนๆ ชายหนุ่มมองใบหน้าเนียนใส แก้มคนใต้ร่างแดงระรื่น แม้จะเป็นแค่แสงจากไฟฉาย ไม่สว่างเท่าหลอดไฟก็ตาม กลับส่งผลให้คนใต้ร่างน่ารักน่าเอ็นดู เหมือนเด็กได้ของเล่นใหม่ เธอสำรวจหน้าท้องและแผ่นอกเปลือยเปล่าเขาด้วยความชื่นชม ผมอดใจไม่ไหว คิดว่าคนน้องอนุญาตแล้ว จึงก้มลงมอบจูบให้เธอพร้อมกับคนใต้ร่างได้กลิ่นคาวเลือดที่เธอกัดลิ้นผมเมื่อกี้ “ทำตามพี่ครับ” เขารู้ว่าคนน้องจูบไม่เป็น จึงค่อยๆสอนบทเรียนรัก เกวลินไม่เคยจูบกับใครมาก่อน แต่ก็เคยดูหนังผู้ใหญ่มาบ้าง พอมาเจอกับตัวเองจริงๆ เธอไปไม่เป็นเลย ทุกอย่างที่เขาทำล้วนสร้างความตื่นเต้นและวาบหวิวให้กับร่างเล็ก ค่ำคืนที่เต็มไปด้วยเสียงครางท่ามกลางท้องทุ่งที่เป็นพยานว่าหัวใจของทั้งคู่เริ่มก่อตัวถักทอมาเป็นสายใยรักแล้ว เขารู้ว่าคนน้องไม่เคย จึงรักธอด้วยความทะนุถนอม ร่างบางคล้ายตามเขาทุกอย่าง จนคนใต้ร่างสลบคาอก เขาถึงหยุดกิจกรรมรัก ปราบก้มลงมาจูบหน้าผากเมีย เอาผ้าขนหนูมาเช็ดคราบน้ำรักแล้วใส่ชุดใหม่ให้ ส่วนเขาเปลี่ยนแค่กางเกงจากนั้นคลี่ผ้าห่มผืนใหญ่นอนตะแคงลง สอดแขนให้เธอหนุนแล้วหลับไปด้วยใบหน้าอิ่มเอม รู้สึกเบาสบายไปทั้งตัว เกวลินตื่นมาเพราะแสงสว่างลอดผ่านไม้ไผ่ ตอนนี้น่าจะ 07.35 น. ผ้าห่มผืนใหญ่มาอยู่บนตัว คนข้างๆไม่อยู่แล้ว หญิงสาวจะลุกขึ้นแต่รู้สึกหน่วงๆที่ช่วงล่าง แล้วก้มลงสำรวจเสื้อผ้า นี่ไม่ใช่ชุดที่นอนใส่เมื่อวาน เมื่อคืนที่ให้โอกาสเขา เพราะในแววตาคู่นั้นมีความเด็ดเดี่ยว และจริงใจ หญิงสาวค่อยๆ ลุกขึ้นจับการเก็บที่นอนเอาผ้าปูออก เพราะเลอะเลือดพรหมจรรย์ จากนั้นเอาผ้าปูใหม่มาปู แล้วเปิดหน้าต่างสามบาน มองออกไปเห็นแต่หมอก ถ้าถึงหน้าหนาวคงจะหนาวไม่น้อย จากนั้นเอาของใช้ส่วนตัวเพื่อลงไปวางไว้ในห้องน้ำ พร้อมชุดที่จะใส่เพื่อเตรียมหลังอาบน้ำตอนเช้า เมื่อลงมาเห็นว่าข้าวหุงเสร็จแล้ว ข้างๆมีกองไฟแล้วตั้งหม้อ 1 ใบ ใช้ก้อนหิน 3 ก้อนวางอยู่แทนเตาสามขา น้ำในหม้อกำลังเดือด ไม่รู้ว่าเขาต้มน้ำไว้ทำไม มองรอบๆไม่เห็นใครจึงไปในห้องน้ำที่ไม่มีหลังคา “อูยย น้ำเย็นเหมือนออกมาจากตู้เย็นเลย” ฉันเอามือจุ่มน้ำในโอ่งแล้วรีบเอาขึ้นมา จากนั้นรวบผมมัดขึ้นข้างบนแล้วกลั้นหายใจเอาขันน้ำมาราดลงบนตัว ใช้เวลาไม่ถึง 5 นาทีก็อาบน้ำเสร็จ ชุดที่หยิบมาเป็นเสื้อยืดคอกลมสีพีชและผ้าซิ่น จากนั้นเก็บครีมอาบน้ำและแชมพูแขวนไว้ที่ข้างฝาแล้วแปรงฟัน พอออกมาเห็นเขาเดินกลับมาในมือถือผักสีเขียวกลับมาด้วย ชุดที่เขาใส่เป็นกางเกงขาสั้นและเสื้อกร้ามสีดำ มีผ้าขนหนูสีขาวที่คอ เขาน่าจะไปวิ่งกลับมา “อรุณสวัสดิ์ครับ อาบน้ำเย็นทำไม พี่ต้มน้ำไว้ให้เราอาบ” เขาหยุดแล้วมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า เกวหนาวสั่นยืนกอดผ้าขนหนูไว้ “เอ๊ะ ปล่อยนะคุณ” เขาไปวางผักแล้วอุ้มเธอขึ้นไปบนกระท่อม “เดี๋ยวไม่สบาย นอนที่นี่ เสร็จแล้วพี่จะข้าวเอาขึ้นมาให้” เขาอุ้มเธอมาวางบนที่นอนแล้วห่มผ้าให้ “ฉันไม่ได้เป็นอะไร คุณหุงข้าว ฉันทำกับข้าวก็ได้” ตอนแรกผมจะออกไปแล้ว แต่หันกลับมาหา “จะเรียกพี่ว่าผัวหรือพี่ เลือกเอาละกัน แล้วคำว่าฉันเลิกพูดเสียทีแทนตัวเองว่าเมียหรือน้องเข้าใจไหมคะ” เขาโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ จนใบหน้าเนียนใสเห่อร้อน ภาพเมื่อคืนผุดขึ้นมาในหัว “อุบส์ อื้อออ ใจลอยเพราะเรื่องเมื่อคืนเหรอคะ อุบส์” เธอเอามือปิดปากเขาไว้ แล้วสบตาเขา เหมือนว่าเรื่องเมื่อคืนเพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อเช้า “ถ้าไม่อยากให้พี่พูด รู้นะว่าต้องทำยังไง ไม่อย่างนั้นลองพูดคำฉัน 1 คำ คืนนี้พี่จะรักเรา 1 ครั้ง หึ หึ หึ นอนพักผ่อน พี่จะไปทำข้าวต้มมาให้” เขาออกจากห้องไปพร้อมผ้าปูที่นอนที่หญิงสาวกองไว้ เกวลินค่อยๆนอนลง อาบน้ำเสร็จแล้วรู้สึกเบาสบายตัว หญิงสาวจับแก้มสองข้าง ถึงรู้ว่ามันร้อนมาก เหมือนว่าในกระท่อมยังมีกลิ่นอายความเร่าร้อนปกคลุม แล้วพยายามสะบัดความคิดออกจากหัว นึกถึงครั้งแรกที่ตื่นมาเจอคนอารมณ์เหวี่ยงหวีด ขี้หงุดหงิด กับเวลานี้เขากลายเป็นผู้ชายที่อ่อนโยนและใจดีกับ แล้วใบหน้าเนียนใสยกยิ้มมุมปาก ฉันกลายเป็นสะใภ้ชาวนาจริงๆแล้วสินะ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม