บทที่7แก้มใส
เมื่อคืนหลังจากที่ฉันกลับมาจากการประชุมหมู่บ้าน กลับเข้าบ้านเห็นพ่อนอนงอตัวอยู่บนที่นอน
“พ่อ พ่อเป็นอะไร ทำไมพ่อตัวซีดแบบนี้” นายก้างมองหน้าลูกสาวคนเดียวที่เขารักมาก เธอกำพร้าแม่ตั้งแต่เด็กๆ ออกจากโรงเรียนมาช่วยเขาทำนา
“พ่อท้องเสียนะลูก ไม่นานน่าจะดีขึ้น แล้วที่ประชุมว่าอย่างไรบ้าง” “สิ้นปีนี้ทางสหกรณ์จะมีเงินปันผลให้ทุกคน แล้วพี่ปราบให้ความรู้เรื่องการรักษาหน้าดินจ้ะ”
ฉันพูดยังไม่จบ พ่อเข้าห้องน้ำอีกแล้ว พร้อมเสียงอาเจียนดังออกมาจากห้องน้ำ แก้มใสไม่รอช้า รีบก่อไฟแล้วเอากระติกร้อนมาน้ำเสียบปลั๊ก เพื่อจะชงเกลือแร่ให้พ่อ จากนั้นไปเอากล่องยาสามัญประจำบ้าน มาดูว่าเกลือแร่หมดอายุหรือยัง นายก้างออกมาจากห้องน้ำด้วยความอิดโรย “พ่อมานั่งผิงไฟตรงนี้ แก้มจะชงน้ำแร่ให้พ่อนะ” เขามานั่งผิงไฟกับลูกสาว “วันนี้พ่อกินกับข้าวเก่ามาอีกแล้วใช่ไหม”
“พ่อเสียดายนะลูก” เมื่อวานตอนเย็นลูกสาวทำแกงส้มหน่อไม้ แต่กินไม่หมด เขาเก็บไว้กินตอนเช้า ไม่เห็นเป็นอะไร มันเหลือจึงกินตอนกลางวันอีกครั้ง แล้วพอสัก 1 ทุ่ม เขาปวดท้องขึ้นมา จนตอนนี้ 3 ทุ่มกว่าแล้ว
“แก้มเคยบอกพ่อแล้ว ต่อไปอย่ากินแกงเก่าอีก แก้มมีพ่อคนเดียว ถ้าพ่อเป็นอะไรไปแก้มจะอยู่ยังไง”
แม่จากฉันไปตั้งแต่ฉันอายุ 4 ขวบ พ่อก้างรักแม่มาก ไม่ยอมมีคนอื่น กลัวว่าคนที่เข้ามาจะรังแกลูกสาว ฉันรู้ว่าพ่อเสียสละความสุขเล็ก ๆเพื่อรักษาใจฉัน ฉันเองก็ออกจากโรงเรียนเพื่อมาช่วยพ่อทำนา เลยจบแค่ม. 3
“พ่อขอโทษนะลูก วันหน้าพ่อจะไม่กินแล้ว” สองพ่อลูกอยู่บ้านชั้นเดียว แต่ยกสูงจากพื้น 3 เมตร เป็นบ้านเก่าแก่ แต่มีความแข็งแรงทนทาน ถ้ามองจากภายนอกสภาพบ้านเก่ามากแล้ว
แต่พอเข้ามาในบ้านกลับสะอาดสะอ้าน มีตู้เย็น เก่าๆกับโทรทัศน์สี่เหลี่ยมขนาดเล็ก ข้างบนมีเสาอากาศวางอยู่ มีรูปภาพข่าวดำสามพ่อแม่ลูก เป็นรูปเดียวที่ติดไว้ฝาผนังบ้าน
“ถ้าพ่อดื้อแก้มจะไปทำงานในเมืองจริงๆนะ” ฉันแกล้งพูดไปอย่างนั้น เพราะพ่อไม่อยากให้ไปไกลบ้านเป็นห่วงกลัวว่าคนจะมาหลอกลูกสาว ระหว่างนั้นฉันชงน้ำเกลือให้พ่อเสร็จพอดี
“ขอบใจมากลูก ไม่ต้องมาขู่พ่อเลย พ่อว่าที่ลูกไม่ยอมไปทำงานเพราะพ่อปินหรือเปล่า” ใบหน้าคมสวย ตาโต เขินอายเล็กน้อย
“พ่อนะ พี่ปินเขาไม่สนใจหนูหรอก แก้มชอบเขาข้างเดียว อีกอย่างแก้มไม่ได้หวังให้พี่เขาชอบกลับสักหน่อย มันก็เป็นความสุขของแก้ม แล้วพ่อห้ามไปพูดให้ใครฟังเข้าใจหรือไม่”
“5555 ได้ พ่อรับปาก แต่พ่อบอกแม่ของลูกไปแล้ว” เขายิ้มให้ลูกสาว เธอมีเรื่องอะไรจะมาเล่าให้เขาฟังตลอด แม้แต่เรื่องของเพื่อนที่ชื่อปลายฟ้าและปันปัน เธอก็มาเล่าให้เขาฟัง
“พ่อ วันนี้แก้มเกือบมีเรื่องชกต่อยกับคนที่มาว่าเพื่อนแก้ม” เขารู้ว่าเพื่อนลูกสาวหมายคือใคร “อีกแล้วเหรอลูก แต่ลูกสาวพ่อแค่ขู่เขาไปใช่ไหม” แม้เขาจะเลี้ยงลูกสาวแบบเด็กผู้ชาย แต่งานบ้านงานเรือน เธอทำได้ทุกอย่างแล้วลูกสาวเขาเป็นเด็กมีไหวพริบและฉลาดด้วย
“ก็ประมาณนั้นแหละ พ่อเดาทางแก้มได้หมดแล้วนิ” หลังจากที่เขาได้ดื่มเกลือแร่แล้วรู้สึกดีขึ้น จึงให้ลูกสาวไปนอน
นายก้างเลือกนอนที่ห้องครัว เพราะต้องการผิงไฟด้วย ก่อนไปนอนลูกสาวได้ชงเกลือแร่ให้เขาและก่อไฟเพิ่ม
“พ่อจิบบ่อยๆ จนกว่าพ่อจะหลับ ถ้าไม่ดีขึ้นแก้มจะไปหารถให้พ่อ” “ได้ ถ้าไม่ดีขึ้น พ่อจะเรียกแก้ม” หญิงสาวดึงปลั๊กไฟออก
ถ้ามีเวลาเหลือ สองพ่อลูกจะพยายามใช้ฟืนในการทำกับข้าว แต่ถ้าวันไหนรีบไปรับจ้างที่ไกลหน่อย เวลาเร่งรีบจะใช้เตาแก๊สในการทำกับข้าวแทน
ตี 5 ของวันรุ่นขึ้น ฉันตื่นขึ้นมาทำธุระแล้วไปเข้าครัว ไม่เห็นพ่อ แสดงว่าพ่อเข้าไปนอนในห้องแล้ว ฉันเอาข้าวสารมาล้างแล้วหุงข้าวและก่อไฟเพื่อจะทำกับข้าว อีกอย่างพ่อตื่นมาจะได้ผิงไฟด้วย วันนี้จะทำข้าวต้มกินให้พ่อกิน
“ทำไมลูกตื่นเช้านักละ” นายก้างหลังจากที่เมื่อคืนเขาจิบเกลือแร่ที่ลูกสาวชงไว้จนหมดก็เกลี่ยขี้เถ้าแล้วกลับเข้าไปนอน นี่เพิ่งตื่น “พ่อมานั่งผิงไฟที่นี่ เมื่อคืนพ่อหลับอิ่มไหม”
“อืม พ่อดีขึ้นแล้วลูก วันนี้แก้มจะไปไหน” เขารู้ว่าลูกสาวตื่นเช้ามาแบบนี้จะต้องไปรับจ้าง “วันนี้แก้มไม่ได้รับจ้าง แต่จะไปดูกับดักที่วางไว้เมื่อวานจ้ะ”
เมื่อวานลูกสาวเขาไปปล่อยน้ำที่ขันในนาข้าวแล้วเอาลอบดักปลาไปวาง สองพ่อลูกมีนาแค่ 2 ไร่ ได้ข้าว 40 กระสอบ แล้วข้าวที่ได้เหลือทุกปี ที่ไปรับจ้างเพราะเก็บเงินไว้ใช้จ่ายจิปาถะ อีกอย่างเวลาทำนาคนที่มีรถไถนาก็จะรับจ้างไถนา
แก้มใสเก็บเงินสำหรับค่าจ้างไถนาทุกปี หญิงสาวรู้ว่าถ้าไม่สบายต้องเสียเงินเหมารถไปโรงพยาบาลและยังต้องเสียเวลา จึงซื้อยาที่จำเป็นไว้ในบ้าน ไม่ใช่แค่เธอกับพ่อ บ้านใกล้เรือนเคียงก็เคยมาขอกินยาพวกยาแก้ปวด ยาแก้แพ้ เธอและพ่อแบ่งให้โดยไม่คิดเงิน
“แล้วหนูปลายฟ้าปล่อยน้ำหรือยังลูก” นาของยายหอมอยู่ใกล้กับนาของสอ
พ่อลูก “ยังเลยจ้ะพ่อ นาของปลายฟ้าปลูกทีหลังเราอีก เอ่อ พ่อปีนี้ข้าวของพวกเราสวยมาก คงเก็บได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยจ้ะ” เธอทำกับข้าวไปด้วยคุยกับพ่อไปด้วย
“ต้องขอบคุณพ่อปราบ ที่นำความรู้มาให้ชาวบ้าน” หลังจากที่สองพลูกกินข้าวด้วยกัน เวลานี้เริ่มจะเห็นแสงสว่างแล้ว แก้มใสเตรียมตัวที่จะไปดูกับดักที่วางไว้ “พ่อแก้มไปนะ” “โชคดีลูก”
นายก้างมองตามลูกสาวจนลับสายตาแล้วเข้ามานั่งผิงไฟในบ้าน ปีนี้อายุเข้า 50 แล้ว ไม่รู้ว่าจะจากไปวันไหน ความเป็นห่วงลูกสาวนั้นไม่เคยหมดไปจากใจ ถ้าเขาสบายดี วันนี้อาจไปรับจ้างถางหญ้าที่สวนคนอื่น
ทางด้านแก้มใส เมื่อเดินไปถึงที่วางกับดักหญิงสาวไล่เก็บลอบที่วางไว้ มี 15 ใบ ได้ทั้งปลาซิว ปลาไหล ปลาช่อนและปู เช้าๆแบบนี้น้ำค้างเยอะมาก ทั้งตัวเปียกหมดแล้ว ที่เดินหน้าไปที่ลำธาร เพื่อไปเก็บผักกูดและบอนส้มที่ขึ้นข้างลำธาร
“เมื่อไรปลายจะมาปล่อยน้ำนะ” พ่อเธอเคยเล่าว่าเมื่อก่อน พ่อแม่ของปลายฟ้าเป็นเพื่อนกับพ่อแม่เธอ พวกเขาซื้อที่นาใกล้กัน เพื่อที่ลูกโตมาจะได้เป็นเพื่อนกัน แต่น่าเสียดายที่น้าทั้งสองมีอันเป็นไป ทำให้ปลายกำพร้าพ่อแม่ มียายหอมที่เลี้ยงแกมา
“เอ้า แก้มใส หนูไปทำอะไรมา ทำไมเสื้อเปียกหมดเลยลูก” ระหว่างที่เดินเก็บผักกูดเห็นป้าบัวแบกตะกร้ามาตามคันนา ที่ปากป้าบัวคาบกล้องยาสูบมาด้วย ควันลอยขึ้นมาจากกล้องยาสูบ เป็นภาพที่เก็นจนชินตาไปแล้ว
“สวัสดีป้าบัว แก้มมาเก็บผักกูด และบอนส้มแล้วป้าจะไปไหนหรือ” “ป้าจะไปเอาฟืนจ้ะ หนูจะเกี่ยวข้าวเมื่อไร”
“อาทิตย์หน้าน้ำน่าจะแห้งจ้ะ แล้วป้าจะเกี่ยวเมื่อไร แก้มจะได้ไปแลกวันกับป้าด้วย”
“โอ้ยย ของป้าลุงเพิ่งปล่อยน้ำเมื่อเช้าเองลูก รีบๆเก็บรีบๆกลับไปเถอะ ประเดี๋ยวจะไม่สบายเอา” นาของสายบัวอยู่ถัดนาของยายหอม จึงเห็นหญิงสาวตรงหน้ามาตั้งแต่เด็ก
และอยากได้เธอมาเป็นลูกสะใภ้ แต่ลูกชายไปเรียนและทำงานกับพี่สาวในเมือง ไม่มีเวลากลับมาบ้าน นานๆ จะกลับมา พวกเขาแค่ส่งเงินมาให้ใช้จ่ายในการรับจ้างดำนาเกี่ยวข้าว “ขอบคุณจ้ะป้าบัว แก้มได้ปลาเยอะเลย จะแบ่งให้ป้าด้วยนะ”
“ขอบใจนะแก้ม แต่หนูเอาไว้กินเถอะ วันก่อนลุงทองไปเข้าป่าได้กับข้าวมาหลายอย่าง ป้ายังกินไม่หมดเลยลูก” หลังจากที่คุยกันต่ออีกสัก 5 นาที ทั้งสองแยกกัน
เมื่อฉันกลับมาถึงบ้าน ตกใจกับสภาพพ่อก้างที่ดูไม่ได้เลย ฉันวางทุกอย่างไว้ รีบเขาไปประคองท่าน “พ่อ ทำไมเป็นแบบนี้ พ่อเป็นยังไงบ้าง” หลังจากที่ลูกสาวออกไปแล้ว นายก้างปวดท้องและอาเจียนออกมาจนหมด จากนั้นเอาน้ำเกลือมาชง แต่จิบเท่าไรก็ออกมาหมด กระเพาะไม่ยอมรับอะไรเลย
“พ่อจ๋ารอแก้มแป๊บนะ หนูขอไปอาบน้ำก่อน” เธอเอาปลาที่ได้ใส่ถังน้ำแล้วใส่น้ำเปิดฝาไว้พอให้มีอากาศหายใจ ระหว่างที่อาบน้ำ คิดว่าจะไปหารถที่ไหน เวลานี้คนไปทำงานกันหมด เมื่อนึกได้ว่าที่บ้านพี่ปราบมีรถยนต์ 2 คัน แต่พวกเขาอยู่บ้านหรือเปล่า ไม่ลองไม่รู้
หลังจากที่อาบน้ำแล้ว เตรียมเอกสารของพ่อแล้วให้พ่อรอที่บ้าน หญิงสาวรีบปั่นจักรยานไปที่บ้านพี่ปราบ เจอลุงทิดนั่งใต้ถุนบ้านกับพี่ปิน
ณ โรงพยาบาลประจำอำเภอ
“แก้มขอบคุณลุงทิดและพี่ปินมาก นี่จ้ะค่ารถ” เวลานี้พ่อก้างนอนให้น้ำเกลือ หมอบอกว่ากระเพาะติดเชื้อรุนแรง ต้องนอนให้ยาฆ่าเชื้อและเติมน้ำเกลือ สองพ่อลูกมองหน้ากัน เมื่อเช้าพวกเขาอยู่บ้าน ตั้งใจว่าสายๆจะไปสวนลำไย
แต่เห็นหญิงสาวปั่นจักรยานมา สีหน้าไม่ดีเท่าไร ขอเหมารถไปอนามัยที่อยู่ห่างจากบ้านไป 3 กิโล แต่เมื่อมาเห็นสภาพนายก้าง ก็ให้ลูกชายพามาที่โรงพยาบาล
“ให้พ่อพี่เถอะ” ปินหันไปทางพ่อ ในใจเขาไม่อยากรับ เพราะหญิงสาวตรงหน้าเป็นเพื่อนกับน้องสาวเขามานานแล้ว
“ลุงว่าหนูแก้มเก็บไว้เถอะ ลุงกับปินจะขึ้นไปแล้ว ถ้าได้ออกโรงพยาบาลเมื่อไร โทรหาพี่เขาก็ได้” เธอยื่นเงิน 300 บาทให้สองพ่อลูก แต่ไม่มีใครรับ
“ถ้าลุงทิดและพี่ปินไม่รับ งั้นวันเกี่ยวข้าวแก้มจะไปช่วยนะจ้ะ” ลุงทิดยิ้ม บอกว่าตามใจ แล้วสองพ่อลูกขอตัวกลับ หญิงสาวเองก็หันหลังกลับขึ้นไปหาพ่อที่นอนให้น้ำเกลือกับยา
เมื่อกี้ลุงทิดบอกว่าถ้าได้ออกโรงพยายามให้โทรพี่ปิน ถึงฉันจะดูเป็นผู้หญิงตรงไปตรงมา แต่กับคนที่ชอบ ฉันไม่กล้าแม้แต่จะขอเบอร์ ต้องขอบคุณตัวเองที่ไม่แสดงออกและเก็บอาการได้ดี เพื่อนสนิททั้งสองคนก็ไม่มีใครรู้ อีกอย่างฉันไม่คู่ควรกับพี่เขาสักนิด
หมอบอกว่าถ้าพาพ่อมาช้าไป 10 นาที พ่อจะซ็อคเพราะร่างกายขาดน้ำอย่างรุนแรง แล้วอาจจะเสียใจไปตลอดชีวิต
ตอนนี้ได้แต่ขอบลุงทิดและพี่ปิน ที่ขับรถมาด้วยความเร็ว ไม่นั้นอาจเสียพ่อไปแล้ว
ส่วนนายก้างเมื่อได้ยาฆ่าเชื้อและน้ำเกลือ เขาหลับไปด้วยความเพลีย แก้มใสมานั่งเฝ้าพ่อที่ห้องรวมผู้ป่วยชาย มองไปรอบๆ ส่วนมากจะเป็นคนสูงอายุ ระหว่างนั้นโทรศัพท์เครื่องเก่าดังขึ้น เมื่อเห็นชื่อ หญิงสาวค่อยๆลุกออกไปคุยข้างนอก เพื่อจะไม่รบกวนพ่อและคนอื่น ๆ
“ว่ายังไงเพื่อนรัก” “แก้มฉันเพิ่งรู้ว่าพ่อแก้มเข้าโรงพยาบาล ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง” เมื่อเกวลิน
เมื่อเข้ามาชาร์จแบตให้ตัวน้องปลายฟ้า ยังงงว่าโทรศัพท์พี่ปราบให้ชาร์จให้นั้นสายชาร์จจะเข้ากันหรือ แต่ปรากฎว่าในห้องนอนมีสายชาร์จ 2 อันแล้วเข้ากันด้วย เมื่อชาร์จแบตแล้วก็รีบโทรไปหาเพื่อนทันที
“ปลอดภัยแล้วจ้ะ ตอนนี้พ่อนอนให้ยา แต่ต้องนอนโรงพยาบาล ขอบใจนะปลายที่โทรมาหาเรา”
“ดีใจด้วยนะแก้ม ฉันอยากลงไปเยี่ยมพ่อเธอด้วย” “โอ้ยย แม่คุณ ไม่ต้องมาหรอก ถึงมือหมอแล้วสบายใจได้ ว่าแต่ปลายจะไปปล่อยน้ำเมื่อไร นาของฉันปล่อยน้ำแล้วนะ”
“คงอีกสักสองสามวัน แก้มแล้วเธอนอนที่ไหนเหรอ” “ฉันก็นอนข้างพ่อไง มีเก้าอี้ใบเดียวฉันก็นอนได้แล้ว”
แสดงว่าห้องที่พ่อของแก้มอยู่เป็นห้องรวม ฉันคุยกับ แก้มอีกหลายคำ บอกเพื่อนว่ามีอะไรให้ช่วยหรือเงินไม่พอยังไงให้บอกด้วย แต่แก้มปฏิเสธฉันทุกทาง บอกว่ามีเงินเก็บแล้ว และขอบคุณ จนเมื่อมีเสียงเคาะประตู
“แก้มแค่นี้ก่อนนะ แล้วฉันจะโทรหาเธออีก ขอให้พ่อแก้มหายไวๆนะจ๊ะ” “ขอบใจจ้ะปลาย” ฉันเดินไปเปิดประตูเจอพี่ปราบเดินเข้ามา “คุยกับแก้มเหรอคะ” เลยพยักหน้าคนพี่ “เอ๊ะ” เขามือไวมาก อุ้มฉันมานั่งบนเตียง แล้วให้นั่งบนตักเขา
“พี่ปราบ ปล่อยน้องก่อนค่ะ” แต่คนพี่ขยับอ้อนแขนแน่นขึ้น “อย่าดิ้น นั่งดีๆ พี่มีเรื่องจะคุยด้วยครับ” ฉันอ่อนระทวย กลายเป็นลูกนกที่อยู่ใต้ปีกแม่นกซะงั้น
“มีอะไรคะ แล้วไปคุยข้างนอกไม่ได้เหรอ” ฉันไม่ชินที่เขาเปลี่ยนไปแบบนี้ “พี่ได้ยินยายหอมคุยกับแม่ว่าน้องอยากเรียนต่อเหรอครับ” “ค่ะ” “ทำไมครับ” ฉันหันใบหน้ามองมาทางเขา “ที่น้องจะเรียนเพราะยายหอม อย่างที่สองก็เพื่อตัวน้องเอง”
“ไหวเหรอ” เขามองใบหน้าเนียนใสไร้เครื่องสำอางด้วยความเป็นห่วง ในแววตาไม่มีคำดูถูกดูแคลนอยู่ในนั้น
ฉันยิ้ม อยากบอกเขาว่าเธอเรียนจบปริญญาตรีมาแล้ว “ทำไมคะ หรือพี่ปราบคิดว่าน้องจะทำไม่ได้” “พี่ไม่ได้คิดแบบนั้น พี่รู้ว่าเมียพี่เก่ง แต่พี่จะให้ลงเรียนที่มสธ.เท่านั้น”
เขาคิดว่าถ้าจะให้เรียนจริงๆก็จะให้เรียนทางไกลเท่านั้น จะไม่ปล่อยเธอห่างจากสายตาอีกแล้ว
“งั้นน้องจะเรียนเข้าใจเหรอกคะ” ฉันคิดว่าจะลงไปเรียนวันเสาร์อาทิตย์ อีกอย่างเห็นรถยนต์ใต้ถุนบ้าน คิดว่าจะขับรถลงไปเรียนแล้วไปนอนกับปันปัน
“พี่จะติวให้ครับ” ทั้งสองมองหน้ากัน แต่สายตาคนพี่ไม่น่าไว้ใจเท่าไร ที่ยกยิ้มมุมปาก เหมือนคนเจ้าเล่ห์
“ขอบคุณค่ะ แต่น้องไม่รบกวนพี่ปราบหรอก อุบส์ อื้ออ” คนพี่ก้มลงปิดปากเธอ ด้วยริมฝีปากเขา แล้วกดค้างไว้สักพักแล้วประคองใบหน้าแดงระรื่นให้มองหน้าเขา
“ที่ผ่านมาพี่อาจทำตัวไม่ดีกับน้อง เป็นพี่ที่แย่มาก แต่ต่อจากนี้ไปพี่จะเป็นต้นไม้ให้น้องได้พักพิงนะครับ”
พอคนน้องพูดคำว่าไม่รบกวน ปราบใจหายวาบ ใช่แล้ว ที่ผ่านมาคนน้องไม่เคยรบกวนเขาเลย แต่เวลานี้เขาอยากให้เธอรบกวนและพึ่งพาเขาทุกอย่าง นี่เป็นความคิดของผู้ชายชื่อปราบ