ส้มกดเบอร์โทรให้ตามที่เขาบอกด้วยความงงปนหงุดหงิดเพราะพี่ทีเร็กซ์เดี๋ยวดีเดี๋ยวดุอารมณ์แปรปรวนยิ่งกว่าผู้หญิงเป็นประจำเดือนซะอีก เธอไม่รู้หรอกนะว่าแต่ละวันไปเจออะไรมาบ้างแต่ถ้าอยากได้เพื่อนคุยก็ควรทำตัวน่ารักกว่านี้หน่อยสิ
ว่าแต่ทำไมเขาหูแดงขนาดนี้นะ!?
"ถ้าพี่โทรไปก็รับด้วยละ" เธอส่งโทรศัพท์กลับคืนมาแล้วเขาก็ยื่นมือไปรับและปลายนิ้วชนกันนิดเดียวแต่กลับความรู้สึกเหมือนว่าถูกไฟช๊อตอย่างรุนแรง
เขากำลังจะบ้าแล้วแน่ๆ
ยัยซื่อบื้อไม่รู้อะไรเลยสักนิดรึไงว่าการช้อนตามองแบบนี้มันน่ารักมากขนาดไหนแล้วเหมือนว่าเธอกำลังอ้อนอยู่กลายๆ มวลความร้อนประหลาดเข้ามาปกคลุมทั้งตัวเสียจนต้องดื่มน้ำเย็นให้รู้สึกดีขึ้นมาบ้างจนหมดแก้วแล้วเทใหม่ดื่มอีกครึ่งแก้วเล่นเอาแทบจุกแต่ก็ยังรู้สึกร้อนผาวอยู่ร่ำไร
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่!?
เธอกลับไปเล่นโทรศัพท์ตามเดิมไม่แสดงท่าทีอะไรเลยจนกระทั่งดนตรีสดเริ่มทำการแสดงในเพลงรักวัยรุ่นด้วย ไม่รู้ว่าเป็นเพราะท่วงทำนองโรแมนติกแสนหวานหรือเพราะบรรยากาศรอบตัวกันแน่ภาพคนตรงหน้าถึงได้ดูดีเสียจนประหม่าเหงื่อซึมกรอบหน้าที่ยังร้อนผาวไม่หาย
หัวใจสั่นสะท้านเมื่อเธอวางโทรศัพท์ลงช้อนตามองอีกครั้งอย่างไม่ได้ตั้งใจ นัยน์ตากลมแป๋วไร้เดียงสายเปร่งประกายสวยราวกับคริสตัลยามสะท้อนแสงเมื่อทอดมองและเส้นโค้งที่สวยที่สุดในตอนนี้คงหนีไม่พ้นริมฝีปากอมชมพูที่กำลังยิ้มนี่ไง
เชี้ย!! น้องส้มยิ้มหวานให้ครั้งแรก
...กูจะตายไหมวะ?
"ชอบเหรอ?" เพื่อเป็นการไม่ให้เธอรู้ว่าเขากำลังประหม่าอย่างหนักเพราะเหตุผลอะไรก็ช่างหัวมันเถอะขี้เกียจจะคิดเลยต้องตีหน้านิ่งเฉยแล้วชวนคุยเรื่องอื่น
"ชอบค่ะ พี่ทีเร็กซ์มีเรื่องเครียดเหรอหน้าบึ้งตลอดเวลาเลย" บรรยากาศดีขนาดนี้ถ้าเอาเรื่องเครียดมาทำลายจนไม่สามารถจะดื่มดำได้ก็ดูจะใจร้ายจนเกินไปนะ
เธอขยับเอนตัวเข้าใกล้จนชิดกับขอบโต๊ะแล้วยื่นมือออกไปนิ้วชี้และนิ้วกลางแตะเข้าที่มุมปากหยักของเขาให้ยิ้มออกมาพร้อมกับยิ้มให้เป็นตัวอย่างด้วย พี่ทีเร็กซ์ทำตาโตเท่าไข่ห่านตัวแข็งทื่อคงเพราะตกใจแล้วจับมือเธอไว้ซะงั้น
"ทำอะไรน่ะ!?" ไม่ไหวแล้วรู้สึกเหมือนจะตายอยู่รอมร่อ นี่ถ้าเธอยังทำตัวน่ารักแบบนี้อีกละก็คงต้องแวะโรงพยาบาลเตรียมให้หมอปั้มหัวใจที่หยุดเต้นแล้วละนะ
"จะทำเสียงดุทำไหมเนี่ย ส้มแค่อยากให้พี่ทีเร็กซ์ยิ้มบ้างรู้ไหมว่าพี่น่ะหน้าเครียดตลอดเวลาเลย พี่ทำหน้าแบบนี้ไม่ให้เกียรติบรรยากาศเลยนะคะ" เธอรู้สึกว่ามือเขาชื้นด้วยนะแล้วยังจับแน่นขึ้นไม่ยอมปล่อยมืออีกด้วย
"ไม่ให้เกียรติ?" เขาทวนคำพูดของเธอด้วยความสงสัยเพราะที่นี่ไม่ใช่สถานที่ศักดิ์สิทธิ์อะไรเลยเป็นแค่ร้านอาหารธรรมดาเท่านั้นเอง
"อยู่ในบรรยากาศดีขนาดนี้ต้องมีความสุขบ้างสิคะ ที่นี่มีทั้งสวนดอกไม้แสนสวยประดับให้รู้สึกสดชื่น มีน้ำพุแล้วยังมีดนตรีคลอเหมือนกับว่าเราอยู่ในเทพน***********กสักเรื่องมากกว่าร้านอาหารธรรมดา พี่อุตส่าห์พาตัวเองมาในที่ดีๆแบบนี้จะไม่ยิ้มรับก็ใจร้ายเกินไปรึเปล่าคะ?" เธอแค่อยากให้เขาได้ผ่อนคลายความเครียดลงบ้างแค่นั้นเอง
"ครับเจ้าหญิงบนยอดหอคอย!" ริมฝีปากหยักลึกค่อยๆคลี่ยิ้มออกมาให้ก่อนจะเม้มด้วยความรู้สึกหมั่นเขี้ยวยัยหนอนหนังสือที่ช่างเปรียบเปรยแล้วยิ้มกว้างให้เธออีกครั้ง
มือเล็กนี้ก็นุ่มดีจริงแล้วยังหอมมากอีกด้วยนะ เขาจำใจปล่อยมือเธอออกก่อนจะวางแขนเท้าค้างระหว่างรออาหารมาเสิร์ฟพลางมองสิ่งที่น่าสนใจตรงหน้า เธอมองไปรอบๆตัวท่าทางจะชอบใจมากด้วยสิสีหน้าถึงมีความสุขขนาดนั้นยิ่งทำให้เขายิ้มกว้างมากขึ้นไปอีก
ไม่เจอหนึ่งอาทิตย์ทำไมคิดถึงขนาดนี้นะ!?
...คิดบ้าอะไรวะเนี่ย!!!
ในตอนนี้เขาค้นพบเรื่องแปลกประหลาดอีกอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นนั่นคือเสียงร้องเพลงหวานใสดังแว่วเข้าหูน่าฟังกว่านักร้องบนเวทีเสียอีก ไม่รู้ว่าเธอจะคิดยังไงแต่ว่าเขารู้สึกมีความสุขจริงๆนะ มือข้างขวาที่จับมือเธอก่อนหน้านี้แล้วมายกเท้าค้างเลื่อนมาสัมผัสริมฝีปากและสูดกลิ่นหอมติดมือฝากฝั่งรอยจูบกลางฝ่ามือของตัวเองแผ่วเบา
เหี้ย!! นี่เขาทำบ้าอะไรกันเนี่ย
"ในที่สุดก็มาพี่หิวจนไส้แทบขาด!"
"งั้นกินเยอะๆเลยนะคะ"
"เราแหละต้องกินเยอะๆตัวผอมแห้งหมดแล้วนะ"
"ช่วงนี้ส้มทำงานหนักนี่คะไว้เดี๋ยวหลังจากนี้คงหายเครียดแล้วกินแหลกนะ รับรองว่าพี่ทีเร็กซ์จะจำไม่ได้แน่ว่าส้มผอมขนาดนี้!"
"ไว้พี่จะรอดูแล้วกัน"
เธอนั่งกินข้าวมือค่ำพร้อมกับแอบมองพี่ทีเร็กซ์ที่ผีเข้าผีออกไม่หยุด เขาน่ะเป็นคนหน้าตาดีมากนะเสียอย่างเดียวคือไม่ค่อยยิ้มและอารมณ์แปรปรวนยิ่งกว่าหญิงวัยทองซะอีก ริมฝีปากหยักเดี๋ยวยิ้มเดี๋ยวหุบต่างกับแววตาที่อบอุ่นกว่าทุกครั้งจนน่าแปลกใจเพราะองค์ประกอบหลายอย่างสวนทางกันไปหมดเลย
เขาตักกับข้าวให้เธอแล้วตีหน้ามึนหันไปมองทางอื่นจากนั้นก็ตักให้ใหม่เรื่อยๆจนเวลาผ่านไปสักพักเริ่มรู้สึกอิ่มแต่เขาก็สั่งขนมมาเพิ่มต่อ พี่ทีเร็กซ์ยิ้มกว้างได้น่ารักมากเลยนะแล้วสิ่งที่เขาทำเพราะเหงาหรืออะไรก็ช่างเธอก็ขอบคุณ
ดนตรีโรแมนติกหวานซึ้งคละเคล้าอกหักปะปนกันไปตามที่มีคนขอไป เธอนั่งกินขนมก่อนจะเจอเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้นกลางร้านอาหารถัดจากเราไปแค่สามโต๊ะเท่านั้นเองทำให้ภาพทุกอย่างเห็นชัดเจน
คนขอแต่งงานกลางร้านอาหารเพิ่มความโรแมนติกด้วยเพลงรักหวานซึ้งกินใจ ชายคนนั้นคุกเข่าตามแบบที่เคยเห็นในหนังแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเบาแต่แววตาเต็มไปด้วยความสุขเมื่อผู้หญิงตอบตกลงก็สวมแหวนให้พร้อมส่งช่อดอกไม้แล้วดึงเข้ามากอดกันแน่น
"ตาหวานเยิ้มเชียวนะน้องส้ม"
"คิดว่ามีแค่ในนิยายซะอีก"
"คนเขาก็ขอแต่งกันแบบนี้กันออกจะเยอะแยะไปไม่เห็นต้องทำตาซึ้งอะไรเลย!"
"อย่าทำเสียงดุสิเดี๋ยวบรรยากาศเสียหมด"
"อื้ม!!" เขาไม่ได้ตั้งใจจะทำเสียงดุหรือตีหน้าตึงสักหน่อยแต่สิ่งที่เธอแสดงออกในตอนนี้มีผลกับหัวใจอย่างมากเลยจำเป็นต้องกลบเกลื่อนทุกอย่างไว้แบบนั้น
เขากำลังจะบ้าเพราะเธออยู่แล้วนะ!
…ทำไงดีวะ!?