บทที่4.มาดามจูเลีย

1873 คำ
“แอะๆ” เด็กน้อยเริ่มโยเย เพราะใกล้ถึงเวลานอน “คงง่วงแล้ว...พาไปนอนเถอะอริส” มาดามบอกเชิงอนุญาต ทิพยอาภาพยักหน้าเห็นด้วย หลังอิ่มมื้อกลางวัน บุตรสาวของเธอก็ทำท่าจะหลับ เพียงแต่มาดามเรียกหา เธอเลยพามาพบก่อน “ไว้ใจได้แค่ไหนมาดาม...” อาเธอร์ถาม ท่านมองตามทิพยอาภาไปจนหายลับเข้าไปในตัวคฤหาสน์ “ยังไม่รู้หรอกค่ะคุณพี่ แต่ดูแล้วไม่มีพิษมีภัย...” มาดามตอบแบบกลางๆ เท่าที่นางจับตามอง อริสดูรักและดูแลแองเจลิน่าอย่างดีเยี่ยม “อืม...เห้อ!! แต่แม่ของแกนี่ ใจเด็ดน่าดูนะ ทิ้งลูกไว้แล้วหายตัวไปเฉยๆ ...” ท่านเปรยถึงมารดาของแองเจลิน่า เพราะหากเป็นผู้หญิงคนอื่น คงได้ร้องแร่แห่กระเซิงจนชื่อเสียงของดีแลนป่นปี้ “น้องว่า น้องเข้าใจความรู้สึกของผู้หญิงคนนั้นนะคะ หล่อนไม่เคยหวังอะไรจากเรา และคงแทบใจจะขาด ตอนที่ยอมปล่อยลูกไว้...ก็ลูกชายคุณพี่...หึ!!” มาดามกระแทกเสียในลำคอ หัวอกคนเป็นแม่ มีใครบ้างไม่รักลูก แต่เพราะถูกบีบคั้น เธอจึงยอมจากไป “เราก็ไม่รู้เรื่องลึกๆ ของเขา...ผมพูดอะไรไม่ได้หรอกมาดาม มันเป็นเรื่องส่วนตัวของแมท” อาเธอร์ออกตัว...ท่านไม่เคยก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของแมทธิว เมื่อมาดามจูเลียออกโรงปกป้อง แล้วพ่ออย่างท่านหรือจะกล้างัดข้อกับมารดาตัวเอง... “น้องอยากรู้จังค่ะ คุณท่านจะว่ายังไง?” มาดามแพชี่เปรยยิ้มๆ แมทธิวว่าจองหองแล้ว คนที่หยิ่งทะนงของแท้คือ...มาดามจูเลีย นางอยากรู้หากประมุขเฒ่ากลับมาแล้วเจอทายาทดีแลนตัวเป็นๆ นางพญาจะว่าอย่างไร จะอัปเปหิแองเจลิน่าออกไปจากคฤหาสน์ดีแลน หรือว่าเชิดชู ในฐานะทายาทเพียงคนเดียว... นั่นสินะ...อยากรู้แล้วสิ? ... อาเธอร์คิดในใจครึ้มๆ อยากรู้ว่าคนเจ้ายศเจ้าอย่าง อย่างมารดา...จะทำอย่างไรกับเหลนคนแรก... แมทธิวหงุดหงิด แต่ก็ไม่อยากออกไปไหน เขารอเวลาที่จะออกไปดินเนอร์กับเอ็มม่า และหวังว่าหญิงสาวแสนเสน่ห์นางนั้นจะช่วยให้ความรู้สึกตายด้านของเขาหายไปสักที ชายหนุ่มนั่งในห้องทำงานที่ย่อส่วนไว้ในคฤหาสน์ดีแลน เขาเปิดโน๊ตบุ๊คส่วนตัวดูกร๊าฟและผลกำไรที่เลขานุการส่วนตัวส่งให้ทางเมล์ ตรวจทานเอกสารบางอย่างที่อาจจะต้องการใช้อย่างเร่งด่วน ในฐานะรองประธาน เมื่อประธานกรรมการอาวุโสตัวเอ้ อย่างมาดามจูเลียไม่ได้ขึ้นแท่นอยู่เวลานี้ งานทั้งหมดจึงถูกโยนมาให้แมทธิวรับผิดชอบ เขาเปิดงานในคอมพิวเตอร์ส่วนตัว ตรวจงานจนเกือบเสร็จ... ระหว่างที่พักตา...ชายหนุ่มนั่งเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ ยกขาขึ้นพาดไว้ขอบโต๊ะ พริ้มเปลือกตาหลุบลงและคิดอะไรเรื่อยเปื่อย แค่หลับตา... เงาวูบวาบของผู้หญิงคนหนึ่งก็ลอยโฉบเข้ามาในห้วงคำนึง แมทธิวขมวดคิ้ว...ริมฝีปากสีเข้มแยกแสยะ พร้อมกับเสียงคำรามเบาๆ ดังลอดออกมา “มาอีกแล้ว...ยัยตัวแสบ!!” ทิพยอาภาในห้วงฝัน หล่อนยิ้มย่อง เหมือนกำลังพึงพอใจอะไรหนักหนา แต่คนที่แค้นแทบกระอักคือแมทธิวนี่เอง “เหอะ!!” ชายหนุ่มลืมตา เขากระแทกเสียงขุ่น ภาพในห้วงฝัน จางหายไปในบัดดล “ต้องการอะไรหะ เธอต้องการอะไรทิพ?” ไม่มีคำตอบ ตอบกลับมา เมื่อทิพยอาภาไม่ได้อยู่ในบริเวณนี้หรือบริเวณใกล้เคียง หล่อนหลบหน้าซ่อนตัว ทำตัวไม่ต่างอะไรกับหนูจรจัด...หลบซ่อนตามซอกหลืบ และเร้นหลบหายไป จนเขาไขว่คว้าไว้ไม่ทัน แมทธิวคิดว่าหล่อนคงกำลังเล่นแง่...เขาไม่เชื่อหรอกว่าผู้หญิงจนกร็อบอย่างหล่อนจะไม่หวัง ‘เงิน’ จากเขา...เพียงแต่ยังไม่ถึงเวลาที่หล่อนจะขู่กรรโชก เขาไม่รู้ว่าหล่อนจะยื้อเวลาไว้ทำไม...เพราะไม่ว่าตอนนี้ หรือตอนไหน...เขาก็ไม่มีวันยอมรับหล่อนมายืนข้างๆ แม้ว่าหล่อนจะมีเลือดเนื้อเชื้อไขของเขาเป็นเดิมพัน มุมปากได้รูปกระตุกยิ้มหยันตัวเอง!! เป็นความประมาทที่สุดสำหรับคนระวังตัวจัดอย่างเขา พลาดเพียงแค่ครั้งเดียว...แต่เป็นชนวนเหตุระยะยาว...ที่ทำให้เขาต้องมานั่งปวดหัวจะแยกอยู่นี่ไง!! “ถ้าฉันต้องยอมรับความอัปยศอะไรสักอย่างของเธอ...ขอให้รู้เอาไว้เถอะ... ฉันไม่เคยเต็มใจ!” แมทธิวกัดกรามกรอด คิดถึงตัวต้นเหตุแบบฉุนๆ มุมขวาบนของคอมพิวเตอร์มีสัญญาณไฟกะพริบวิบๆ ชายหนุ่มขมวดคิ้ว...ตรงนั้นคือวงจรปิดที่เป็นเหมือนสายตาเรดาห์ในคฤหาสน์ดีแลนทั้งหมด มันถูกติดตั้งระบบนี้ หลังจากทิพยอาภาเร้นกายหายไป โดยไม่มีใครรู้ใครเห็น... แมทธิวเลื่อนเก้าอี้ชิดขอบโต๊ะ ปลายนิ้วกดคลิกขวาที่เมาท์ ตรงจุดที่มีไฟกะพริบ เขาเลือกที่จะกดดู ‘ห้องของแองเจลิน่า’ ภาพสว่างวาบขึ้นมา...แมทธิวกดขยายให้ภาพใหญ่เต็มจอ เขาบังคับกล้อง หมุนไปยังเตียงนอนมุมห้อง... บนที่นอนขนาดใหญ่ เด็กน้อยนอนแผ่อยู่กลางเตียง มีผ้าห่มผืนหนาๆ วางไว้บนหน้าอก ดวงตาพริ้มหลับเหมือนมีความสุขเสียเต็มประดา...และด้านข้างเตียง... พี่เลี้ยงสุดอัปลักษณ์นั่งพับผ้าอยู่แบบเงียบๆ หล่อนคอยมองบนเตียงบ่อยๆ บนใบหน้าเรียบกริบนั่น...มีรอยยิ้มน้อยๆ แต้มบนเรียวปาก แมทธิวตัวชาวาบ!! ไม่ใช่แค่ภาพซ้อนทับ...แม้แต่ยิ้ม ก็ยังมีส่วนคล้าย... ทิพยอาภายิ้มไม่บ่อย หล่อนเป็นคนเงียบ ๆ และค่อนไปทางระวังตัว ช่วงเวลาที่ผูกพันกัน แม้จะเป็นช่วงสั้น ๆ หล่อนยิ้มแทบนับครั้งได้ และแมทธิวจำได้ติดตา มือใหญ่เอื้อมจับคอมพิวเตอร์ส่วนตัวขยับเข้ามาใกล้ๆ ยื่นหน้าไปจนเกือบติดหน้าจอ จ้องมองรอยยิ้มของ ‘พี่เลี้ยงสุดขี้เหร่’ ตาไม่กะพริบ!! ปลายนิ้วยกขึ้นขยี้เปลือกตาแรงๆ ก่อนมองซ้ำ... แมทธิวถอยหลังออกห่างๆ เมื่อแน่ใจว่า ยิ้มที่ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของ ‘อริส’ เป็นรอยยิ้มแบบเดียวกันกับทิพยอาภา แม่นางบำเรอตัวน้อยๆ ของเขา เขาไม่ได้ตาฝาดหรือตาเฝื่อน รอยยิ้มของหญิงสาวสลักลงมาในหัวใจเขา และยังคงค้างคาอยู่ในนั้น ไม่ว่าพยายามสลัดให้หลุดเท่าใด ก็ไม่มีทางหลุดหล่นไปสักที มุมปากด้านขวาของแมทธิวขยับยกขึ้น เหมือนเขากำลังจะแสยะยิ้ม... แต่...ชายหนุ่มต้องรีบกลั้นลมหายใจ เขาเลื่อนเก้าอี้มาชิดขอบโต๊ะอีกครั้ง จ้องมองภาพที่เห็นด้วยดวงตาที่เกือบถลน... “แอะๆ” เสียงแองเจลิน่าร้องเบาๆ ทิพยอาภาจึงวางมือจากงานที่ทำ หล่อนผุดลุกขึ้นยืน เดินไปเกาะขอบเตียง ยื่นหน้ามองสบในตาใสแจ๋วของบุตรสาว ที่กำลังเตะขา แกว่งมือไปมา... “ไงจะแองเจิ้ล ตื่นแล้วเหรอจ๊ะ” เธอทักเสียงแผ่ว คลี่ยิ้มสดใสและเด็กน้อยก็ยิ้มรับ แองเจลิน่าเตะขาแรงๆ หล่อนทำเหมือนกำลังจะพลิกตัว ทิพยอาภาจึงจ้องมองยิ้มๆ เธอรอให้บุตรสาวพลิกตัวกลับ และแล้ว...แองเจลิน่าก็ทำให้ เด็กน้อยเตะขาแรงๆ ในอากาศ พลิกตัวคว่ำหน้าลง พร้อมกับผงกศีรษะ ยิ้มแฉ่งให้คนเป็นแม่ที่กำลังมองด้วยอยู่อย่างลุ้นระทึก “เก่งมาก...เก่งที่สุดเลย” ทิพยอาภาชมเปราะ หล่อนยื่นหน้าไปฟัดแก้มยุ้ยๆ ของบุตรสาวแรงๆ พร้อมกับหัวเราะเบาๆ เพราะมือน้อยของแองเจลิน่าจับคอเสื้อเธอไว้จนแน่น ดวงตาคู่นั้นช้อนมองอย่างมีความหวัง ปากอิ่มย้อยดูดมุบหมับ!! เหมือนกับกำลังร้องขอมารดาเงียบๆ เต้าทรวงของทิพยอาภาเต้นตุ๊บๆ ปลายยอดอกปวดหนึบ มันเป็นสัญชาตญาณของแม่กับลูก เป็นสื่อสัมผัสที่รู้กันแค่สองคน หญิงสาวหันซ้ายแลขวา...ไม่มีใครอยู่ในบริเวณนั้น เธอรีบเดินเร็วๆ ไปปิดประตูห้อง หญิงสาวรู้ว่ามีกล้องวงจรปิด แต่เมื่อเจ้านายทั้งสองยังอยู่ที่เรือนกระจก คงไม่มีคนไหนกำลังส่องกล้องอยู่แน่ๆ เธอก้าวขึ้นเตียง...เอียงตัวหลบมุมกล้อง เมื่อมองจนแน่ใจ ทิพยอาภาจึงปลดกระดุม เปิดเนื้อในอวบอิ่ม และแองเจลิน่าก็รีบผวาใส่ เด็กหญิงอ้าปากงับปลายยอดอกที่เคยได้ลิ้มรสน้ำนมอุ่นๆ มือกลมป้อม...วางแนบเต่งเต้า ดันเบาๆ เหมือนเป็นการกระตุ้นน้ำนมให้ไหลทะลักมากขึ้น พริ้มเปลือกตาลง ทำหน้าเหมือนมีความสุขหนักหนา... แมทธิวแทบจะแนบใบหน้าชิดขอบจอ เขาเห็นแค่แผ่นหลังกับหัวไหล่กลมกลึงยามชายเสื้อหลุดห้อยร่องแร่ง หล่อนทำอะไรกับลูกเขา...และการกระทำนั่นคืออะไร? เมื่อหล่อนอยู่ในมุมอับ จนไม่สามารถเห็นด้านหน้า... เท้าเร็วเท่าความคิด...แมทธิวกระเด้งตัวลุกขึ้นยืน เขาสาวเท้าเดินเร็วๆ เป้าหมายคือห้องนอนแองเจลิน่า ปีกซ้ายของคฤหาสน์ดีแลน เป็นครั้งที่สองในรอบหนึ่งวัน!! ปัง!! ชายหนุ่มกระชากประตูเปิดแรงๆ จนเด็กน้อยที่นอนหลับกลางเตียงผวา!! ทิพยอาภายื่นหน้าออกมาจากห้องน้ำ เธอกำลังซักผ้าเช็ดคราบน้ำนม สายตาสุดสนเท่ห์มองชายหนุ่มสูงศักดิ์ที่ยืนจังก้าอยู่กลางประตู…แววตาเธอหวาดหวั่น!! แมทธิวกัดกรามกรอดๆ เขามาไม่ทัน ชั่วเวลาสั้นๆ จากห้องทำงานจนมาถึงปีกซ้าย เขาสาวเท้าเร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ แต่ก็ยังไม่ทันอยู่ดี เขายกข้อมือขึ้นมองหน้าปัดนาฬิกา สิบนาที ความกว้างใหญ่ของคฤหาสน์ดีแลน เป็นอุปสรรคทำให้เขาจับผิดผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ ฝากไว้ก่อนเถอะ!! ชายหนุ่มคำรามในลำคอเบาๆ หล่อนน่าสงสัยและน่าจับตามอง สายตาคมดุลดลงต่ำๆ เขาเพ่งมองเนินหน้าอกของ ‘อริส’ ก่อนจะลอบกลืนน้ำลายเอือกๆ นี่เขาเป็นบ้าหรือไรกัน? ทำไมเขาถึงรู้สึกอยากซุกหน้ากับเนินอกยัยเห่ยตรงหน้า... แมทธิวหันหลังขวับ...รีบเดินจากไปเหมือนพายุ!! ขามาเขารีบแบบสุดชีวิต ขากลับก็ไม่ต่างกันเลย ชายหนุ่มเดินกึ่งวิ่ง ทำเหมือนกับว่ามีเงาปีศาจวิ่งไล่กวด...จนทำให้เขาต้องกระเสือกกระสนหนีแบบแทบลืมหายใจ!! อยู่ไม่ได้แล้ว!! บรื้นๆ ... เสียงสตาร์ทเครื่องยนต์ของรถยนต์คันโปรดของแมทธิวดังสนั่น ทิพยอาภาทิ้งชายผ้าม่านลง หลังแอบมองจนแน่ใจว่าชายหนุ่มออกไปจากคฤหาสน์หลังงามแล้ว เธอผ่อนลมหายใจยาวๆ ยกมือขึ้นกรีดเกร็ดน้ำตาทิ้ง...ไม่ว่าจะในอดีตหรือปัจจุบัน แมทธิวก็ยังมีอิทธิพลเหนือเธออยู่ดี เขาทำให้เธอใจเต้นระส่ำได้แค่เพียงสบตา เขาทำให้เธอลืมโลกได้ยามอยู่แนบชิด และเขาทำให้เธอเหมือนจะขาดใจได้...แค่เพียงหันหลังหนี
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม