บทที่ 11 ต่างคนต่างลืมซะ

1209 คำ
“เฮีย! เฮียยิ้มทำไมครับ?” เป็นเอกชะงัก เขามองในถ้วยข้าวต้มแล้วนึกถึงใบหน้าและเรือนร่างที่ตนเองสัมผัสทุกซอกทุกมุมเมื่อคืนก่อน ....ไม่ใช่แค่ครั้งเดียว...แต่...ถึงสามครั้ง.... “เปล่านี่? เฮียก็แค่คิดอะไรนิดหน่อย” “ยาเมื่อคืนที่เพียงขวัญแอบใส่ให้เฮีย อาจจะเป็นยาอันตรายก็ได้นะครับ เฮียไปตรวจสักหน่อยดีไหม?” เนติรู้สึกว่าพี่ชายของตนดูเลื่อนลอยผิดปกติ เป็นเอกที่กินข้าวต้มจนหมดถ้วยยกแก้วน้ำขึ้นดื่มจนหมด เขาเพิ่งรู้สึกกระหายน้ำมากเมื่อได้ท้องเริ่มอุ่นนี่เอง “ไม่เป็นไรน่า ตอนนี้ก็ปกติแค่ยังแฮ้งค์อยู่นิดหน่อย” “ถ้ามีอาการผิดปกติ เฮียรีบบอกผมเลยนะครับ” เนติยังคงไม่วางใจ แม้พี่ชายเขาจะคิดว่ายังเมาค้างอยู่ แต่ยาที่คนเลวๆ แอบใช้กับผู้อื่นอาจจะเป็นยาที่สร้างอันตรายในภายหลังก็ได้ “นี่แกไม่มีธุระที่ไหนเหรอ?” “ลืมไป ผมนัดกับลิซเอาไว้ตอนเที่ยงว่าจะเลี้ยงขอโทษเธอที่เมื่อคืน ผมหนีกลับมากับเฮียก่อน” เนติที่โผเผเข้าห้องนอนไปอาบน้ำได้ พออาบน้ำเสร็จยังไม่ทันจะได้เปลี่ยนเสื้อผ้าก็ผล็อยหลับบนโซฟาทั้งที่มีผ้าขนหนูพันเอวอยู่ เขารู้ตัวอีกทีก็เก้าโมงกว่าจึงได้รีบอาบน้ำลวกๆ แล้วไปเรียกพี่ชาย “เออ! ขอโทษด้วยที่ทำแกพลาดเรื่องเมื่อคืน” “ช่างมันเถอะน่าเฮีย เย็นนี้เราค่อยไปใหม่ แต่ว่าเฮียสภาพนี้จะไหวเหรอครับ?” “พักสักวันดีไหม? พรุ่งนี้ค่อยไปกัน” “ก็ดีเหมือนกันครับ แต่วันนี้ผมต้องไปขอโทษลิซก่อน” “คราวนี้ลิซจะเอากระเป๋าหรือรองเท้าล่ะ?” “อะไรก็ซื้อๆ ให้ไปเถอะ ผมว่าสำหรับผม ลิซพูดง่ายดี ไม่จุ้นจ้านด้วย” ลิซเป็นลูกสาวผู้มีอันจะกินคนหนึ่ง จบการศึกษาระดับปริญญาโทจากต่างประเทศ ทำงานในบริษัทยักษ์ใหญ่ เธอเองก็ไม่อยากจะแต่งงานมีครอบครัวและเลือกนอนกับหนุ่มที่ตนพอใจ และหนึ่งในนั้นก็คือเนติ ในเมื่อลิซไม่เคยทำตัวน่ารำคาญ เนติจึงยินดีจะซื้อข้าวของที่เธออยากได้ให้อย่างเต็มใจ พอเนติออกจากประตูไป เป็นเอกก็รีบกึ่งวิ่งกึ่งเดินไปด้านหลัง ออกประตูบ้านหลังใหญ่ เขาผ่านระเบียงทางเดินไปยังอาคารสองชั้นอีกหลังที่อยู่ไม่ไกลนัก เขาเดินอ้อมไปด้านหลังแล้วเคาะหน้าต่างสองสามครั้ง ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! แจ่มใสสะดุ้ง เธอกำลังเรียบเรียงข้อมูลปริญญานิพนธ์ในหัวอยู่เงียบๆ เมื่อลุกไปแหวกผ่านออกดูก็ถึงกับตะลึง ชายหนุ่มที่ยืนอยู่นอกหน้าต่าง อ้าปากบอกให้เธอเปิดประตูรับ เขาเดินอ้อมกลับมาหน้าห้องพักของเธอ มองซ้ายมองขวาเพราะกลัวว่าจะมีคนมาเห็น ดีที่ห้องพักของแจ่มใสเป็นห้องเล็กอยู่ซอกด้านใน “เฮียมาทำไมคะ?” เธอถามกระซิบกระซาบ หญิงสาวไม่อยากจะเปิดประตูรับ แต่เขากลับดันเข้ามาในห้องแล้วหันไปปิดประตูเองอย่างเบามือ ชายหนุ่มล็อคประตูเรียบร้อยก็เดินไปนั่งบนเตียงเดี่ยวที่อยู่ติดผนังห้อง “ทำไมล่ะ? ทำไมเฮียจะมาห้องนี้ไม่ได้?” แจ่มใสหน้าแดง มือเท้าสะเอว “เฮียจะทำให้หนูแจ่มเดือดร้อนนะคะ” “เธอต่างหากที่จะทำให้ฉันเดือดร้อน” ในใจคนฟังเดือดปุดๆ เมื่อวานเธอถูกเขาข่มเหงชัดๆ “อย่าบอกนะว่า...เธอจะกล่าวหาฉันว่ารังแกเธอ คิดดูให้ดี เราสองคนต่างสมยอมกันต่างหาก เธอเองก็อายุเกินยี่สิบแล้ว ฉันก็ไม่ได้ดึงเธอเข้าไปบนห้องสักหน่อย” เป็นเพราะเห็นหน้าของหญิงสาวดูไม่สลด ทำให้เป็นเอกปากเสียนึกอยากจะพูดให้แจ่มใสมีความผิดไปพร้อมกับตนเอง “นี่เฮีย! เฮียไม่ต้องกลัวหนูแจ่มจะเรียกร้องให้รับผิดชอบหรอกนะ ในเมื่อเรื่องนี้มีแค่เราสองคนที่รู้เรื่องก็ลืมๆ มันไปเถอะค่ะ แค่เฮียอย่าปากโป้งไปบอกใครก็พอแล้ว” เธอเชิดหน้าหันไปอีกทางด้วยความโมโห ที่แท้เฮียเอกก็มาห้องเธอเพราะอยากจะมากดดันให้เธออย่าเรียกร้องสิ่งใดนี่เอง.... “แจ่มใส! นี่เธอ...” “ทำไมคะ? หนูแจ่มไม่ได้หัวโบราณกับเรื่องบนเตียงหรอกค่ะ ในเมื่อเฮียเห็นว่าเราสองคนทำผิดด้วยกัน และดูเหมือน...เฮียก็กลัวหนูแจ่มจะเปิดโปงให้เฮียเสียหาย เราสองคนก็ตกลงกันแบบแฟร์ๆ เลยล่ะกัน เอาเป็นว่า....เรื่องเมื่อคืนไม่เคยเกิดขึ้น หนูแจ่มไม่พูด เฮียไม่พูด ดีไหมคะ?” เป็นเอกเด้งตัวลุกขึ้นจากเตียง เขาไม่เคยเจอผู้หญิงหัวดื้ออย่างนี้มาก่อน ที่ผ่านมา ผู้หญิงทั้งหลายต่างอยากให้เขารับผิดชอบกันทั้งนั้น อย่างน้อยก็เรียกร้องค่าเสียหายเป็นตัวเงินก็ยังดี แต่นี่...ยายหน้ากลมแป้นที่แสนจะธรรมดาตรงหน้ากลับร้องปาวๆ ว่าให้ต่างฝ่ายต่างลืมไปซะ แจ่มใสนึกเจ็บใจ เสียตัวก็แล้ว หากจะต้องเสียหน้าอีกล่ะก็...ช่างน่าสมเพช หญิงสาวเปลี่ยนจากเท้าสะเอวเป็นกอดอก เธอรู้สึกโมโหกับคำพูดและท่าทางของเฮียเอกที่ดูเหมือนจะประเมินเธอไว้ไม่ต่างจากคู่นอนชั่วคืนของเขา “ได้! เธอเป็นคนพูดเองนะหนูแจ่ม ต่อไปเรื่องนี้เราจะไม่เอ่ยถึงมันอีก” “ค่ะ! คำไหนคำนั้น! ใครผิดคำพูดขอให้กลายเป็นหมา!” แจ่มใสเห็นหน้าถมึงทึงของเป็นเอกแล้วก็นึกโมโห เป็นเอกที่คิดคำพูดเอาไว้คิดว่าจะตะล่อมให้แจ่มใสไม่เกี่ยวข้องกับตัวเองอีกต่อไป พอได้ยินสิ่งที่ตนเองต้องการในทีแรกจากปากหญิงสาวก็พลันชะงัก รู้สึกเจ็บจี๊ดในใจ “ตกลง!” ชายหนุ่มรับคำเสียงดังแล้วออกจากห้องไป เขาโมโหจนต้องเดินลงส้นเพื่อระบายอารมณ์ไปจนถึงโซฟากลางห้องโถง ตัวที่เมื่อวานหนูแจ่มนอนดูทีวี พอทรุดกายลงนั่งชายหนุ่มก็สบถออกมา “เด็กบ้า! อวดดีนัก!” แม้จะโล่งใจที่ไม่ต้องรับผิดชอบสิ่งที่ทำไปในคืนก่อน แต่ลึกๆ กลับกังวล เขาไม่ควรจะข้องเกี่ยวกับแจ่มใสเพราะเธอเป็นว่าที่น้องสะใภ้ ต่อให้เนติไม่ยอมแต่งงานกับแจ่มใส เขาก็ไม่คิดว่าเธอสมควรจะเป็นสะใภ้ใหญ่แห่งคฤหาสน์สกุลเจียง และยิ่งเกิดจากความผิดพลาดเช่นนี้ ยิ่งไม่ควร แจ่มใสเดินมาปิดประตูห้องพลางถอนหายใจ ดีที่เธอรีบออกไปซื้อยาคุมกำเนิดฉุกเฉินมากิน ไม่อย่างนั้นอาจจะเกิดเรื่องไม่คาดฝันตามมา ทุกอย่างเป็นแค่ความผิดพลาด ในเมื่อเฮียเอกรังเกียจเธอ เธอก็จะรังเกียจเขาเช่นกัน คงต้องหาทางล้มการแต่งงานกับเฮียเนให้ได้ เธอไม่มีทางจะร่วมสกุลกับเฮียเอกเด็ดขาด! ******************************
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม