เล่นกับเพื่อน :: CHAPTER 4 ทำไมใครต่อใครชอบคิดว่าเป็นคู่รักมากกว่าเพื่อน [50%]

1985 คำ
Secret to be :: 4 :: ทำไมใครต่อใครชอบคิดว่าเป็นคู่รักมากกว่าเพื่อน :: SUN TALK :: ผมรู้สึกหนักบนตัวเหมือนมีผีมาอำไม่ให้ขยับไปไหนได้ แม้ว่าร่างกายจะขยับไม่ได้แต่ใช่ว่าดวงตาจะไม่สามารถลืมมองสิ่งที่อยู่ตรงหน้าได้ ดวงตาปรับรับกับแสงแดดที่สาดส่องเข้ามา กระทั่งเห็นเส้นผมสีน้ำตาลคาราเมลถึงได้รู้ว่าคนข้างกายที่นอนกอดก่ายผมด้วยความละเมอเมื่อคืน มานอนหลับบนตัวของผมตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ ลมหายใจของแป้งร่ำเพื่อนสาวคนสนิทหอบถี่ ทำให้ผมดันไหล่เธอให้ออกจากตัวอย่างเชื่องช้าและพลิกตัวเธอให้นอนหงายซึ่งยัยนี่มักจะหลับลึกมากจนผมลอบมองใบหน้าสวยที่แม้ตอนหลับก็ยังคงสวยเหมือนเปลี่ยนเลยจริงๆ จะมีก็แต่ความเซ็กซี่ที่เพิ่มขึ้นจนน่าหงุดหงิด ยิ่งไล่สายตามองลำคอระหงและหัวไหล่เปลือยเปล่าเนื่องจากชุดนอนสายเดี่ยวหลุดจนเกือบจะเห็นหน้าอกที่ใหญ่โตล้นออกมา ผมรีบเบือนหน้าหนีดึงผ้าห่มคลุมให้เธอถึงช่วงหน้าอก “แม่งเอ๋ย! ดีนะที่เป็นกู” ไม่อยากจะคิดถ้ายัยนี่แต่งตัวแบบนี้ นอนหลับลึกขนาดนี้กับคนอื่นจะเป็นยังไง มันน่าโมโหจริงๆ เวลาเห็นยัยนี่แต่งตัวเซ็กซี่ขนาดนี้ ผมก็ว่าอะไรไม่ได้มากปะก็แค่เพื่อนนี่นา แค่ตงิดใจทุกครั้งเวลาเห็นแป้งร่ำแต่งตัวโป๊ ทั้งที่ตอนเด็กยัยนี่น่ะทอมบอยเลยนะ ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้เปลี่ยนไปมากขนาดนี้หรือบางทีอาจจะเพราะผู้หญิงก็อยากรักสวยรักงามกันบ้าง โอเค ผมยอมรับว่าเพื่อนของผมคนนี้เธอสวยโคตรๆ และต่อให้แต่งตัวมิดชิดแค่ไหน ก็ดูน่ามองไปหมดนั่นแหละ ผมถอนหายใจลุกขึ้นนั่งยกมือยีเส้นผมสีดำสนิท จากนั้นก็โน้มตัวไปหยิบมือถือมาดูเวลาก็พบว่าแปดโมงกว่าแล้ว ยัยนี่มีเรียนไม่ใช่หรือไงกัน กำลังจะเอื้อมมือไปแตะบนบ่าแป้งร่ำเพื่อปลุกเธอ ฉับพลันสายตาของผมก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างที่ชี้โด่ตั้งแต่เช้า “ฉิบหาย โด่อะไรขนาดนี้วะ” ก่อนจะได้ปลุกแป้งร่ำผมต้องรีบไปจัดการตัวเองในห้องน้ำ ก่อนที่ยัยนี่จะตื่นมาเห็นหอไอเฟลของผม รีบตรงเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำชำระร่างกายและชักรูดท่อนเอ็นของตัวเองไปด้วย ก็นะถึงจะไม่ชอบใช้มือชักให้ตัวเองแต่เวลาที่ตื่นขึ้นมาเจอน้องชายมาจ๊ะเอ๋ขนาดนี้ ผมก็ต้องยอมละนะจะให้ยัยนั่นมาเห็นผมชี้โด่ไม่ได้ ยัยนั่นต้องหาว่าผมโรคจิตแน่ ทั้งที่มันเป็นเรื่องปกติของผู้ชายเจ้าชู้อย่างผม ก็มันไม่เคยเกิดขึ้นไงปกติผมจะนอนกับผู้หญิงที่นัดเจอด้วยหรือไปหว่านเสน่ห์ใส่ พอหมดฤทธิ์ตอนมีเซ็กซ์ก็จะไม่ชี้โด่ แต่นี่ผมไม่ได้ไปนอนกับใครไง จะชูชันมาทักทายพี่ชายตอนเช้าก็คงไม่แปลกใช่ไหมล่ะน้องชาย มือขวาจับท่อนเอ็นขนาดใหญ่ยาวของตัวเอง มือซ้ายยันกับกำแพงผนังห้องน้ำเอาไว้ เปิดน้ำให้ไหลเพื่อกลบเสียงครวญครางของผมที่ตอนนี้เงยหน้าขึ้นหลับตาพลางครางกระหึ่มในลำคอ เมื่อมือรูดชักเอ็นของตัวเองจนเจ็บปวดตรงหัวปลายบานหยัก ทว่าทำไมตอนหลับตาผมถึงเอาแต่นึกถึงใบหน้าของเพื่อนสาวคนสนิท ก็เมื่อคืนแป้งร่ำดันเกือบจะเอื้อมมือมาจับเอ็นผม รู้ว่ายัยนั่นกำลังละเมอ แต่ที่แปลกใจคือทำไมต้องนึกถึงหน้าเพื่อนของตัวเองด้วยวะไอ้ซัน! “ซี้ด...” ก็นึกไปถึงหน้าสาวที่ควงด้วยสิวะ ทำไมต้องเป็นแป้งร่ำด้วยไอ้ซัน มึงไม่เคยคิดอะไรกับยัยนั่นด้วยซ้ำจะยืมหน้าเพื่อนสนิทมาทำให้ตัวเองสุขสมแบบนี้แม่งโคตรจะเหี้ยเลยนะมึง! ยัยนั่นน่ะ ไม่มีทางทำให้มึงเสร็จเร็วหรอก เชื่อสิ ไม่มีทางหรอกเพราะฉะนั้นรีบๆ ทำให้เสร็จสักทีและลืมหน้าของแป้งร่ำไปซะ ทำแบบนี้มึงก็ไม่ได้ต่างอะไรกับผู้ชายใจหมาที่เอาหน้าเพื่อนสนิทมาทำเรื่องระยำนะเว้ย พอที “อ๊า ตะ แตกแล้วแป้ง!” สิ้นประโยคที่ครางต่ำในลำคอ ตัวของผมก็สั่นเกร็งขณะที่มือกำลังสาวท่อนเอ็นที่กำลังรีดน้ำขาวขุ่นออกมาจนกระจายเต็มพื้นห้องน้ำ ผมหอบหายใจหนักหลุบสายตามองเอ็นของตัวเองที่ค่อยๆ สงบลงหลังจากที่ปลดปล่อยอารมณ์เปลี่ยวในใจออกไป จินตนาการว่าแตกใส่หน้ายัยนั่น “นี่กู... ทำเหี้ยอะไรลงไปวะเนี่ย!” มึงแม่งต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ไอ้ซัน จะไปคิดกับแป้งร่ำแบบนั้นมันดูเหมือนคนโรคจิตเลยให้ตายสิวะ เป็นเพื่อนกันไม่ควรเอาหน้าเพื่อนมาทำเรื่องระยำหมาแบบนี้ด้วยซ้ำ สติไอ้ซัน มึงถึงสติหน่อยดิวะ “ตื่นแล้วเหรอ” “เธอก็ควรตื่นได้แล้ว มีเรียนเก้าโมงไม่ใช่ไง” “อือ ว่าแต่นายเป็นอะไร ทำไมทำหน้าหงุดหงิด หงุดหงิดฉันเหรอ?” “เปล่า หงุดหงิดตัวเอง” ตอบคำถามแป้งร่ำขณะที่ยืนติดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาว “วันนี้ไม่ต้องไปที่ห้องฉันนะ” “อ้าว ทำไมอะไหนสัญญาแล้ว” “ฉันลืมไปว่ามีนัดกับไอ้จอม” “นัดกับจอมหรือกับสาว?” เอาเป็นว่าฉันไม่พร้อมเจอหน้าเธอตอนนี้ไงแป้งร่ำ เพราะฉันดันเอาหน้าเธอมาทำเรื่องระยำกับตัวเองแบบนั้น ฉันมองหน้าเธอไม่ติดจริงๆ ขอเวลาไปลืมด้วยการกินเหล้าสักหน่อยดีกว่า “เหอะ” “งอนกูอีกละ นัดกับไอ้จอมจริงไม่ได้โกหก” “ไม่ต้องมาพูด” แป้งร่ำพูดจบก็มองค้อนผมพลางเดินชนไหล่จนผมเซเกือบล้ม ช่วงนี้ยัยนี่เป็นห่าอะไรก็ไม่รู้นะ ชอบโกรธ ชอบหงุดหงิดใส่ผมตลอดไม่รู้ว่าตัวเองไปทำอะไรให้ยัยนั่นโกรธกันนักกันหนา เอาง่ายๆ ปะแค่ผมหายใจผมก็คงผิดอะ เราสองคนนั่งเงียบใส่กันหลังจากที่ผมต้องขับรถมาส่งแป้งร่ำที่มหาลัย จริงปะในหัวของผมมันวนเวียนเรื่องที่เกิดขึ้นในห้องน้ำไม่ตกเลย ยกมือยีเส้นผมของตัวเองเหมือนกับคนบ้าเพราะผมมันโคตรจะเหี้ยที่ดันนึกถึงหน้ายัยแป้งร่ำตอนกำลังจะแตก ไหนจะจินตนาการไปว่าแตกใส่หน้ายัยนั่นอีก “เฮ้อ ชีวิตกู” “จอดร้านน้ำเต้าหู้ก่อน” “หือ? นี่มัน...” “จำได้ใช่ปะ” พอผมหักรถเลี้ยวมาจอดที่หน้าร้านน้ำเต้าหู้ข้างทาง มันเป็นร้านดั้งเดิมที่เราสามคนมีไอ้สองด้วยมากินกันตอนสมัยเรียนม.ปลายด้วยกัน แป้งร่ำหยิบกระเป๋าเงินเปิดประตูรถออกไป ส่งผลให้ผมลอบมองร่างบอบบางที่เดินนวยนาดอยู่บนรองเท้าผ้าใบหุ้มข้อ เห็นบอกว่าข้อเท้าดีขึ้นจะสวมส้นสูงแต่ผมก็ห้ามไว้ซะก่อน ยัยนั่นก็เลยเลือกสวมรองเท้าผ้าใบแบบไม่ค่อยจะพอใจสักเท่าไหร่ ลอบมองร่างบอบบางที่ยืนสั่งน้ำเต้าหู้และไล่สายตาตั้งแต่เรียวขายาวไปถึงเอวคอดกิ่ว แป้งร่ำยืนกอดอกมองแม่ค้าที่กำลังตักน้ำเต้าหู้ให้กับคนอื่นอยู่ ดังนั้นพอจ้องใบหน้าสวยด้านข้างซึ่งมัดผมสีน้ำตาลคาราเมลรวบไว้ตรงท้ายทอย แค่ยืนรอน้ำเต้าหู้ทำไมยัยนี่ถึงได้เซ็กซี่ขนาดนี้วะ? งง คือเป็นครั้งแรกเลยนะที่ผมเผลอมองแป้งร่ำแบบเฉพาะเจาะจง ไม่ค่อยได้ใส่ใจเท่าไหร่มาครั้งนี้มันทำให้ผมมองยัยนั่นแบบละสายตาไม่ได้เลยจริงๆ “พอจะเข้าใจแล้วว่าทำไมไอ้ฉลามถึงอยากได้เธอขนาดนี้ เพื่อนกูสวยจริงๆ ว่ะ” ผมเบ้ปากและหลุบสายตามองมือถือในกระเป๋าของแป้งร่ำ แน่นอนว่ามันมีข้อความเด้งขึ้นมาทำให้ผมหยิบขึ้นมากดดูหน้าจอก็พบว่าเธอตั้งรูปโปรโฟล์เป็นรูปตัวเองสวมบิกินี่สีดำตอนไปรีสอร์ทเฮียไนท์ แล้วแม่งโคตรจะเซ็กซี่มากๆ จนผมถอนหายใจ ว่าแต่ใครส่งข้อความมา? ผมไม่รู้รหัสผ่านมือถือของแป้งร่ำ จึงทำได้เพียงดูแค่ตัวข้อความตรงหน้าจอล็อกเท่านั้น Cha-lam :: ฉันรอเธอที่หน้าคณะ มีเรื่องจะคุยด้วย Cha-lam :: อย่าคิดจะหนีฉันแบบตอนนั้นนะ เธอไม่รอดมือฉันหรอกแป้ง “ไอ้เหี้ยนี่มึงกำลังขู่เพื่อนกูเหรอวะ?!” ไอ้สัตว์ทะเล ไอ้หูฉลามเน่า แม่งกล้าดียังไงมาขู่แป้งร่ำวะ เพราะแบบนี้ไงผมถึงอยากให้ยัยนั่นหาผัวได้เร็วๆ จะได้ปกป้องเธอและทำให้ไอ้เหี้ยนี่เลิกรังควานเธอสักที ผมเองก็ใช่ว่าจะชอบใจนะ หงุดหงิดแทบบ้าที่เห็นแป้งร่ำโดนขู่เข็ญและถูกมันคุกคามสารพัด แต่จะให้ผมยังไงล่ะ? มันไม่เคยคิดจะใส่ใจผมหรือกลัวผมด้วยซ้ำ เพราะเป็นแค่เพื่อนนี่นา ผมวางมือถือแป้งร่ำลงในกระเป๋าตามเดิม ฉับพลันก็ต้องขมวดคิ้วที่เห็นผู้ชายวัยทำงานสองคนยืนซุบซิบอะไรกันสักอย่างและสายตาก็มองแป้งร่ำแบบที่เธอไม่รู้ตัว สายตาของมันดูก็รู้ว่าไม่ได้มองหน้าหรอก มองนมยัยนั่นและมองขาขาวๆ ที่สวมกระโปรงทรงเอสั้นจนผมโมโหทุกครั้งที่เห็นมัน ทันเท่าความคิดผมก็เปิดประตูรถสาวเท้าไปยืนเท้าเอวบดบังแป้งร่ำที่ยืนรอน้ำเต้าหู้อยู่ “ลงมาทำไมอะ? อยากกินอะไร” “ซื้ออะไรทำไมนานขนาดนี้” “ใกล้ถึงคิวแล้ว สั่งน้ำเต้าหู้นมสดให้นะ” “อือ” พยักหน้ารับและเบนสายตามองชายสองคนที่พอเห็นดวงตาแข็งกร้าวของผม ก็พากันรีบขยับมายืนอีกฝั่งแน่นอนว่าผมเอียงคอมองกระโปรงด้านหลังของแป้งร่ำ จากนั้นก็เอามือดึงชายกระโปรงเธอให้ลงมาอีก “อะไรของนายเนี่ย จะดึงทำไม!” “นับวันกระโปรงยิ่งสั้นขึ้นทุกวันนะแป้ง” “แล้วทำไม?” “ไม่ทำไม ใส่สั้นแบบนี้ไปไหนมาไหนคนเดียวได้ยังไง รถก็พัง” “ไปได้ก็แล้วกัน ถ้านายไม่มารับมาส่ง ฉันก็นั่งแท็กซี่ไง” พูดประชดกันใช่ปะวะ คิดว่าผมจะปล่อยให้ยัยนี่นั่งรถสาธารณะด้วยการแต่งตัวที่โป๊ขนาดนี้เหรอ บอกเลยว่าไม่เด็ดขาด “ก็มารับดิ” “บอกแล้วว่ามีนัดกับไอ้จอม กลับกับเพนไปก่อน” “ทำไมต้องโทรบอกเพนเรื่องข้อเท้าฉันด้วย มีเบอร์กันก็จริง ทำไมต้องโทรหาเพน” “อ้าว ก็ไม่โทรแล้วใครจะมารับเธอเล่า!” กลายเป็นว่าเรายืนเถียงกันตรงหน้าร้านน้ำเต้าหู้ จนแม่ค้าและลูกค้าต่างพากันมองเราสองคนด้วยสีหน้ามึนงง “ฉันไม่ได้โทรหาเพนบ่อยๆ ปะ แค่มีเรื่องจำเป็น” “ทีหลังอย่าโทร” “...” “มีอะไรโทรหาฉันก่อน ตกลงไหม?” “อะไรของเธอ หวงเบอร์เพื่อนตัวเองกับฉันเหรอวะ” ยัยนี่ถ้าจะบ้าปะวะ “ฉันไม่ได้เจ้าชู้ถึงขนาดจะกินเพื่อนของเพื่อนสนิทหรอก จำไว้” “ไม่รู้ล่ะ” “งี่เง่าฉิบหาย” [50%] *---------------------------------------------------------------*
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม