“อยู่กับฉัน นายสามารถแสดงออกได้เต็มที่ เป็นตัวเองได้ตลอดและสามารถพูดเยอะๆได้” เพราะเหนือนภาเองก็อยากเห็นพระเพลิงในมุมนั้น ดูจากตอนนี้ก็รู้อยู่ว่าพระเพลิงกำลังวางตัวแต่เหนือนภาไม่ต้องการแบบนี้ เธอต้องการเห็นตัวตนที่แท้จริงของพระเพลิง
ไม่ใช่พระเพลิงใส่หน้ากากเข้าหาแต่อย่างใดเพียงแต่อยากเห็นพระเพลิงในตอนอ้อนๆเพราะทั้งท่างและบุคลิกมันก็บอกแล้วว่าเด็กหนุ่มคนนี้มันไม่ต่างกับลูกหมาตัวน้อยเลยสักนิด
“เพลิงว่ามันคงไม่ดี” พระเพลิงตอบกลับไปตามที่คิดเพราะสถานะระหว่างตัวของเขากับคุณเหนือนภาต่างกันมาก การตีตนเสมอเจ้านายมันไม่ดีหรอก
“ฉันชอบเด็กดีนะพระเพลิงเพราะฉะนั้นแล้วหากฉันบอกอะไรนายก็ควรจะทำตามนะ”
“ถ้าเพลิงไม่ทำตามเพลิงจะเป็นเด็กไม่ดีหรอครับ” ใบหน้าหล่อจิ้มลิ้มแหงนหน้ามองเหนือนภาและถามขึ้น
คำถามนี้เพียงคำถามเดียวทำเหนือนภารู้ได้ทันทีว่าอีกหนึ่งนิสัยของพระเพลิงก็คงเป็นคนซื่อๆและเหมือนจะซื่อมากเสียด้วยเพราะตอนนี้เจ้าลูกหมาตัวน้อยอย่างพระเพลิงกำลังตามเหนือนภาไม่ทัน
“หากผู้ใหญ่บอกอะไรแล้วไม่ทำตาม นายคิดว่าตัวเองเป็นเด็กดีหรือเปล่าพระเพลิง”
“ไม่ครับ”
“เพราะฉะนั้นแล้วก็ทำตามที่ฉันบอก”
“เพลิงเข้าใจแล้วครับคุณนภา” พระเพลิงตอบกลับไปตามตรงก่อนจะก้มหน้าลงตามเดิม
ตอนนี้พระเพลิงไม่กล้าแม้แต่จะสบตาคุณเหนือนภาด้วยซ้ำเพราะความสวยที่มีให้เห็นทำพระเพลิงประหม่าและทำตัวไม่ถูก
“เป็นเด็กดีแบบนี้นานๆนะพระเพลิงเพราะฉันชอบเด็กดีแบบนายที่สุด”
ยิ่งเห็นพระเพลิงทำตัวไม่ถูกก็ยิ่งรู้สึกพอใจ ไหนจะใบหน้าหล่อจิ้มลิ้มที่ตอนนี้กำลังแดงขึ้นสี ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าอาการที่เป็นอยู่มันคืออะไร หากไม่ใช่การเขินก็ไม่รู้จะเป็นอะไรได้อีกแล้ว
“เพลิงจะเป็นเด็กดีครับ”
“นายอยากเริ่มทำงานตอนนี้เลยไหมหรือจะอยู่ว่างๆไปก่อนเพราะสถานที่ไม่สะดวก ฉันก็ไม่ว่านะ” เหนือนภาถามขึ้นเพราะตอนนี้พระเพลิงยังไม่มีโต๊ะทำงานของตัวเอง
ตอนแรกที่คิดว่าจะเอาโต๊ะทำงานของพระเพลิงไว้นอกห้องข้างๆโต๊ะคุณเลขาหน้าห้องเห็นทีก็คงต้องคิดใหม่เพราะหากในห้องมีเจ้าลูกหมาตัวน้อยคอยนั่งทำตาแป๋วใสคงจะดีไม่น้อย
“เพลิงจะเริ่มตอนนี้เลยครับ เดี๋ยวจะลองแก้แบบก่อน” พระเพลิงตอบกลับมาก่อนจะเปิด IPad ของตัวเองขึ้นมา
แน่นอนว่าทุกการกระทำอยู่ในสายตาของเหนือนภาเสมอ เหนือนภาสังเกตตั้งแต่ตอนพรีเซ้นท์งานแล้วว่า IPad ของพระเพลิงเป็นตัวธรรมดา เดี๋ยวนี้คนที่ทำงานด้านนี้เขาจะใช้ตัว Pro เพราะลูกเล่นที่ทำได้มากกว่าแต่พระเพลิงกลับไม่ใช่
“เอาเครื่องฉันไปทำไหม หากนายจะวาดมันคงลื่นกว่า” เหนือนภาพูดขึ้นพร้อมส่ง IPad ของตัวเองให้กับพระเพลิง
“ไม่เป็นไรครับคุณนภา เพลิงทำเครื่องเพลิงได้พอดีว่ามันชินมือไปแล้ว”
ในเมื่อพระเพลิงพูดแบบนี้เหนือนภาก็ไม่ขัดเพราะเข้าใจในความถนัดของพระเพลิงดี อะไรที่ใช้บ่อยๆก็คงจะชินมือไปแล้วนั่นคือเรื่องจริงและหากได้เครื่องใหม่มาก็คงต้องใช้บ่อยๆเหมือนกันถึงจะชินมือ
เอาเป็นว่าตอนนี้ปล่อยให้เจ้าลูกหมาตัวน้อยอย่างพระเพลิงใช้ IPad ของตัวเองไปก่อนแล้วถึงพรุ่งนี้เมื่อไหร่เหนือนภาจะเอาเครื่องใหม่มาให้และให้ใช้จนกว่าจะชินมือ
“สงสัยหรืออยากถามตรงไหนก็ถามฉันได้นะพระเพลิง ฉันจะนั่งอ่านเอกสารตรงนี้” เพราะเหนือนภาเองก็มีงานที่ต้องทำ เอกสารบนโต๊ะมากมายเท่าภูเขาและเธอเองก็ต้องทำให้เสร็จภายในวันนี้
“ขอบคุณครับคุณนภา” พระเพลิงตอบกลับมาเพียงแค่นี้ก็ก้มหน้าก้มตาร่างแบบตัวสินค้าใหม่
แน่นอนว่าถึงไอเดียจะผ่านแต่หากรูปแบบไม่สวยงามและทันสมัยมันก็ไม่น่าซื้อและข้อนี้คือสิ่งที่พระเพลิงต้องแก้และหากแก้เสร็จแล้วก็พัฒนาตัวระบบและผลิตนำขายสู่ท้องตลาด
ปกติแล้วหากเป็นพนักงานคนอื่น เหนือนภาก็ไม่หยิบยื่นโอกาสให้เข้ามาทำงานในห้องทำงานส่วนตัวของเธอหรอกแต่เมื่อเป็นพระเพลิงก็ถือว่าเป็นข้อยกเว้นแล้วกันเพราะมันมีอะไรหลายๆอย่างในตัวของพระเพลิงที่มันน่าสนใจ
“คุณนภาเมื่อยหรอครับ” พระเพลิงที่แอบสังเกตอาการของคุณเหนือนภาคนที่เป็นเจ้านายของตัวเองก็ได้แต่ถามขึ้นเพราะตอนนี้คุณเหนือนภาอ่านเอกสารมานานแล้ว แผ่นหลังบางพิงเก้าอี้อย่างหมดแรงจนพระเพลิงเองก็แอบเห็นใจ
“เมื่อยปกตินั่นแหละ อ่านเอกสารเยอะๆก็ธรรมดาที่จะเป็นแบบนี้” เหนือนภาตอบกลับไปตามตรงเพราะเมื่อก่อนเธอไม่ค่อยได้เข้าบริษัทมันจึงทำให้มีเอกสารค้างคาเยอะแต่ต่อจากนี้เธอสาบานเลยว่าเธอจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้วเพราะมันหนักมาก
“ให้เพลิงนวดให้ไหมครับ”
“นวดหรอ” แน่นอนว่าเหนือนภาไม่คิดเหมือนกันว่าพระเพลิงจะพูดแบบนี้ออกมา
เจ้าลูกหมาตรงหน้าของเธอน่ะหรอจะนวดเป็นแต่ในเมื่ออีกฝ่ายเสนอมาแบบนี้ เธอเองก็ไม่ควรขัดควรแต่จะน้อมรับน้ำใจของเจ้าลูกหมาตัวนี้ไว้
“เอาสิ ฉันเองก็อยากได้คนนวดให้เหมือนกัน” เมื่อได้ยินคำตอบของคุณเหนือนภา พระเพลิงก็ไม่รอช้าเดินอ้อมมายังหลังเก้าอี้
“เพลิงขออนุญาตนะครับคุณนภา”
“ตามสบายเลย” เมื่อคุณเหนือนภาอนุญาตพระเพลิงก็ไม่รอช้าใช้มือหนาทั้งสองข้างของตัวเองบีบลงที่ไหล่ของคุณเหนือนภาอย่างเบามือ
“เพลิงทำเจ็บไปไหมครับ” พระเพลิงถามขึ้นเพราะตัวเขาเองก็กะน้ำหนักมือไม่ถูก คุณเหนือนภาตัวเล็กมากเล็กจนพระเพลิงไม่กล้าทำแรงๆเพราะปกติเคยนวดให้แค่พ่อ
“แรงกว่านี้เลยพระเพลิง แบบนี้มันเบาไป” เหนือนภาตอบกลับมาเพราะเธอรู้ดีว่าเจ้าลูกหมาตัวนี้กำลังเบามือ
“เพลิงกลัวคุณนภาเจ็บ” พระเพลิงตอบกลับไปตามตรงเพราะยิ่งคุณเหนือนภาตัวเล็ก พระเพลิงก็ยิ่งไม่กล้า
“ฉันไม่เจ็บ”
“ประมาณนี้โอเคไหมครับคุณนภา”
“โอเค” เหนือนภาพูดขึ้นก่อนจะปิดตาลงเพราะการนวดของพระเพลิงทำให้ตัวเธอผ่อนคลายและเคลิบเคลิ้มไม่น้อย
ให้ตายเถอะ ! เธอไม่คิดว่าเจ้าลูกหมาตัวนี้จะนวดได้ดีขนาดนี้ มันจะมากไปไหมหากเธอต้องการให้เจ้าลูกหมาตัวนี้นวดให้เธอทุกๆวัน
เวลาต่อมา
“ตายแล้ว ! ทำจานแตกแบบนี้ได้ยังไงเพลิง” คุณป้าเจ้าของร้านที่ได้ยินเสียงจานแตกก็รีบเดินตรงเข้ามาหลังร้าน
ตอนนี้พระเพลิงทำอะไรไม่ถูกได้แต่ก้มหน้ายอมรับผิดและที่จานแตกแบบนี้มันไม่ใช่พระเพลิงหรอกแต่แท้จริงแล้วเป็นเพราะหลานตัวน้อยของคุณป้าเจ้าของร้านที่ชนพระเพลิงจนจานที่วางซ้อนกันรอล้างตกลงมาแตก
“มันเป็นอุบัติเหตุนะครับป้า น้องแก้ววิ่งมาชนเพลิง เพลิงเลยล้มและโดนจาน” พระเพลิงตอบกลับไปตามตรงเพราะมันไม่ใช่ความผิดของเขาเลย
“ยังมาโทษหลานฉันอีก ทำผิดก็ไม่ยอมรับหรอ” คุณป้าเจ้าของร้านที่ได้ยินก็โกรธจัด ทำจานแตกไม่พอยังมาว่าร้ายโทษใส่หลานแบบนี้มันเกินไปแล้ว
“เพลิงไม่ได้โทษครับป้า เพลิงพูดจริงๆ” พระเพลิงพูดขึ้นอีกครั้งเพราะที่เขาพูดมันคือเรื่องจริง
“นายนี่มัน ! ไปเลยไป หลังจากนี้ไม่ต้องมาทำงานแล้ว มีอย่างที่ไหนมาว่าร้ายใส่หลานเจ้าของร้าน”
“ขะ...ขอโทษครับป้า เพลิงขอโทษอย่าไล่เพลิงออกเลยนะครับ เพลิงทำเองครับ เพลิงเป็นคนทำจานแตกเองครับป้า” พระเพลิงที่เริ่มเห็นท่าไม่ดีก็ได้แต่พูดขึ้น
เขาไม่อยากโดนไล่ออกเพราะกว่าจะหางานใหม่ได้มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ยิ่งตอนนี้ใกล้จะสิ้นเดือนมันมีค่าใช้จ่ายหลายอย่าง หากไม่ได้ทำงานตรงนี้พระเพลิงคงต้องลำบากแน่ๆ
“ไม่รู้ล่ะ ฉันไล่แกออก คนอย่างแกเลี้ยงไว้ไม่ได้ ต่อจากนี้ไม่ได้ต้องมาทำงานแล้ว ไปๆไปให้ไปพ้นหน้าฉัน”
แน่นอนว่าคุณป้าเจ้าของร้านไม่ฟังอะไร ได้แต่เอ่ยปากไล่พระเพลิงออกอีกทั้งยังเดินตรงมาหาพระเพลิง ถอดผ้ากันเปื้อนของร้านที่พระเพลิงใส่อยู่ออกจากตัว
“ป้าครับเพลิงขอร้อง อย่าไล่เพลิงออกเลยนะครับป้า” พระเพลิงได้แต่ยกมือไหว้ขอร้องขอความเมตตา
“ฉันไล่แกออก ไปเดี๋ยวนี้ไอ้เพลิง ออกไปจากร้านฉัน”
สุดท้ายเมื่อขอร้องขอความเมตตาไม่ได้ พระเพลิงก็ได้แต่ก้มหน้ายอมรับหยิบของของตัวเองและเดินออกจากร้าน
แต่ละวันชีวิตของพระเพลิงเจอแต่เรื่องอะไรก็ไม่รู้ ไม่ได้ทำผิดก็โดนกระทำเหมือนคนที่ทำผิด วันนี้ก็ไม่มีเงินที่ได้จากการทำงาน ทำได้แค่กดเงินในบัญชีออกมาเพื่อหาซื้อกับข้าวให้กับคนเป็นพ่อ
“พ่อครับ วันนี้มีแค่ต้มจืดกับหมูผัดพริกแกงนะพ่อ” พระเพลิงพูดขึ้นทันทีก่อนจะยกจานกับข้าวออกมาเมื่อคุณพ่อของตัวเองกลับมาถึงบ้าน
แน่นอนว่าพ่อของเขาวันนี้ก็เมามายสุราเหมือนเดิม เหมือนกับทุกๆวันที่พระเพลิงพบเจอ
“อะไรวะไอ้เพลิง มึงมีแต่กับข้าวง่อยๆให้กูแดกอีกแล้วหรอ” คนเป็นพ่อถามขึ้นอย่างหงุดหงิดเพราะกลับบ้านมาก็คิดว่าจะมีกับข้าวดีๆกิน ที่ไหนได้ก็กับข้าวธรรมดาแกงถุงหน้าปากซอย
“พ่อกินก่อนนะเดี๋ยวพรุ่งนี้เพลิงจะหาซื้อกับข้าวดีๆ มาให้นะพ่อ”
กับข้าวดีๆที่พ่อพูดถึงพระเพลิงไม่รู้ว่ามันคืออะไรเพราะแค่ของตรงหน้าสำหรับพระเพลิงมันก็ดีมากแล้ว
“เมื่อวานมึงก็พูดแบบนี้ไอ้เพลิง กับข้าวอะไรที่มึงซื้อมากูไม่แดก เอาเงินมากูจะไปหากินเอง” คนเป็นพ่อพูดขึ้นอีกครั้งก่อนจะเดินตรงมาหาพระเพลิง หยิบกระเป๋าของพระเพลิงออกมาค้น
“เพลิงไม่มีเลยพ่อ วันนี้เพลิงไม่มีเงิน” พระเพลิงตอบกลับไปตามตรงเพราะวันนี้เขาไม่มีจริงๆ ไม่มีหลงเหลือแม้แต่บาทเดียว
“ไอ้เพลิง ถ้ามึงไม่อยากโดนกูตีก็ไปหาเงินมาให้กู”
“วันนี้เพลิงไม่มีแล้วพ่อ ป้าเจ้าของร้านเขาไล่เพลิงออก”
“โดนไล่ออกก็ไปหาที่ใหม่สิวะไอ้โง่ มึงนี่มัน !”
❤️
เฮ้อ ! โอบกอดพระเพลิงเด็กดี