ข่าวลือ

1485 คำ
ข่าวลือว่าองค์รัชทายาทนั้นกระทำอุกอาจต่อบุตรีของราชครูนั้นเริ่มลุกลามไปทั่วจนตอนนี้เดินผ่านที่ใดก็มีแต่ผู้คนหยิบขึ้นมาเป็นหัวเรื่องของการสนทนา “ข้าเห็นกับตา! นางออกมาในสภาพอิดโรยและเสื้อผ้าหลุดลุ่ย องค์รัชทายาททรงดื่มสุราจนหมดไหก่อนจะตามนางออกไป” “มิใช่ว่าองค์รัชทายาทชอบพอกับแม่นางเสียนอวี้บุตรีอนุของท่านแม่ทัพหรอกหรือ” “หากเป็นเช่นนั้นเหตุใดจึงกระทำเช่นนี้กับบุตรีของท่านราชครูเล่า แม้แต่ตอนนี้เหตุการณ์ก็ยังนิ่งเงียบ หรือองค์รัชทายาทจะไร้ความรับผิดชอบต่อความผิดของตัวเองเสียแล้ว” คำพูดหลากหลายได้ถูกส่งต่อมาจนถึงเสียนอวี้ ใบหน้างดงามแต่งแต้มอ่อนๆ ดวงตาสั่นไหวยามที่นางก้าวเดินกลับจวน เมื่อคืนนี้นางได้นั่งรอจดหมายจากองค์รัชทายาทจนเผลอหลับไปเมื่อตื่นมาอีกก็เจอกับข่าวลือแปลกๆ จากภายในวัง แต่ถึงขนาดเล็ดลอดออกมาได้แปลว่าต้องมีคนจงใจปล่อยข่าวลือเป็นแน่ ตอนนี้นางร้อนรนใจเป็นอย่างมาก นางตัดสินใจส่งจดหมายอีกฉบับไปหาลู่เฉิง หลังจากเหตุการณ์คืนนั้นลู่เฉิงและหลันฟู่อิงได้ถูกองค์จักรพรรดิและฮองเฮาเรียกไปพบในทันที ทั้งสองไม่อาจทนนิ่งเฉยต่อไปได้เมื่อมาถึงคราวนี้ลูกชายตัวดีของนางคงต้องยอมตบแต่งนางเข้าตำหนักเสียแล้ว แม้บุตรของนางจะแสนดื้อรั้นประวิงเวลามานานถึงเพียงนี้ หลันฟู่อิงที่ถูกเรียกพบนั้นเดินเข้ามาภายในตำหนัก เมื่อมาถึงก็พบว่าลู่เฉิงได้นั่งรออยู่ก่อนแล้ว นางประหม่าเล็กน้อยเมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อคืนก่อนในสวนของนางกับเขา นางเดินเข้าไปและก้มคารวะด้วยท่าทางอ่อนช้อย “ถวายบังคมฮ่องเต้ ถวายบังคมฮองเฮาเพคะ” นางลุกขึ้นก่อนจะค่อยๆ เดินไปนั่งที่นั่งข้างๆ กับลู่เฉิง ลู่เฉิงไม่แม้แต่จะมองนางเขากลับนั่งนิ่งเฉยสายตาไร้แววใดๆ “ข้าเรียกพวกเจ้ามา เจ้าคงรู้เรื่องข่าวลือนั่นใช่หรือไม่” “เพคะ” “พ่ะย่ะค่ะ” “ต่อให้มันจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่นั้น อย่างไรพวกเจ้าก็หมั้นหมายกันมานานแล้วถึงเวลาสมควรตบแต่งเข้าตำหนักองค์รัชทายาทเสียที” ฮองเฮาพูดด้วยน้ำเสียงเอ็นดูพวกเขาทั้งสอง เส้นสายของท่านราชครูนั้นมีมากมายนักมันจะเป็นการดีที่ลู่เฉิงจะมีการสนับสนุนที่ดีจากท่านราชครูหลันตั้วฮูจะทำให้ฐานะบุตรของนางมั่นคงในการครองราชย์บัลลังก์ “เสด็จแม่! เสียนอวี้ก็ถูกกล่าวหาพาให้เสียหายมิใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ เป็นเพราะนางจึงทำให้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น นางสมควรที่จะเป็นชายาของข้างั้นรึพ่ะย่ะค่ะ” “เจ้าลูกคนนี้ หาใช่เรื่องที่เจ้าจักต้องสนใจไม่ สตรีผู้อื่นที่มิใช่สตรีที่เจ้าหมั่นหมาย!” “เสียนอวี้นั้นอ่อนโยน และจิตใจดีกว่านางมากนัก” ลู่เฉิงพูดจาแดกดันพลางหันไปมองหน้าหลันฟู่อิงที่นั่งอยู่ข้างๆ หลันฟู่อิงทำเพียงนั่งเงียบๆ แต่ในใจกลับสั่นไหวเมื่อนางรู้ว่าอย่างไรนางจะต้องได้ตบแต่งเป็นพระชายาของเขาอย่างแน่นอน “อย่างไรเสียเจ้าต้องตบแต่งกับนาง! นางจะต้องเป็นชายาเอกของเจ้า” “!” ลู่เฉิงได้แต่นิ่งเงียบ สายตาเดือดดาลมองไปยังสตรีที่เขาจะต้องอภิเษกด้วยแววตารังเกียจ “ข้าหมดเรื่องจะพูดกับเจ้าแล้วเจ้าลูกเหลวไหลคนนี้ งานอภิเษกจะถูกจัดขึ้นภายในสามวัน จงเตรียมตัวให้พร้อม” “เสด็จพ่อ!” ลู่เฉิงเมื่อเห็นว่ามารดาของตัวเองนั้นมิยอมอ่อนข้อให้เขาแม้แต่น้อยเขาจึงหันไปพึ่งพาคนที่จะช่วยเขาได้เพียงหนึ่งเดียว แต่สายตาของท่านพ่อที่มองกลับมานั้นเป็นสีหน้าที่บ่งบอกว่า ข้าคงช่วยอะไรเจ้าไม่ได้จริงๆ ภรรยาว่าอย่างไรต้องว่าตาม เห็นนางโกรธเช่นนี้เขาไม่กล้าไปคัดค้านนางเพราะกลัวตัวเองจะติดร่างแหไปด้วย! “ฮึ่ม ว่าตามที่ฮองเฮาว่าเถิด จงถ่ายทอดคำสั่งของข้าลงไปองค์รัชทายาทลู่เฉิงจะอภิเษกพระชายาเอกหลันฟู่อิงภายในสามวันจากนี้” “น้อมรับคำบัญชาเพคะ” หลันฟู่อิงรีบลุกขึ้นมารับราชโองการของฮ่องเต้ในทันที ลู่เฉิงที่เห็นเช่นนั้นก็ยิ่งไม่อยากจะยอมรับให้นางเข้ามาในตำหนักของเขา เมื่อทั้งสองได้พูดเสร็จแล้วก็เดินออกไปเหลือเพียงลู่เฉิงและหลันฟู่อิงที่ยังคงนั่งอยู่ เขาไม่อยากตบแต่งกับนางแต่เป็นเช่นนี้คงจะปฏิเสธได้อยาก แม้เขาจะไม่อยากยอมรับแต่เมื่อกระทำเช่นนั้นกับนางไปแล้วเขาก็ต้องยอมรับมันให้ได้อยู่ดี สองสามวันหลังจากที่กลับมาจากสนามรบเขายังไม่ได้ติดต่อเสียนอวี้กลับไปแม้นางจะส่งจดหมายมาให้เขาถึงสองฉบับแล้ว อย่างไรเสียหากนางมารร้ายผู้นี้มิได้แตะต้องอวี้เอ๋อแล้วเขาก็จะปล่อยนางไปก่อนแล้วกัน ลู่เฉิงส่งสายตาแข็งกร้าวไปทางหลันฟู่อิงที่นั่งมองหน้าเขาอยู่แล้ว ยิ่งมองนางก็ยิ่งรู้สึกไม่ชอบใจที่นางเป็นคนที่ทำให้เขาต้องโดนบังคับแต่งงานเช่นนี้ “พอใจเจ้าหรือยัง! อย่าคิดว่าข้าจะใจดีกับเจ้าเชียวหลันฟู่อิง” “ฝ่าบาท หม่อมฉันกระทำเช่นนี้เพราะหม่อมฉันรักท่านมากนะเจ้าคะ” หลันฟู่อิงกล่าวกับเขาเสียงอ่อนน้ำตาพลางเอ่อล้นออกมาอีกครั้ง “สิ่งที่เจ้าทำมิใช่ความรัก เจ้าเพียงแค่ต้องการเอาชนะเสียนอวี้เท่านั้น!” เขาตรงเข้ามาบีบที่คางของนาง นางเจ็บจนอยากจะสะบัดหน้าออกแต่ก็อดทนไว้เพราะไม่อยากให้เขาโกรธเกลียดนางไปมากกว่านี้ “มะ มิใช่เช่นนั้นหม่อมฉัน” “ข้าไม่อยากฟังความใดจากเจ้าอีก! นับตั้งแต่เจ้าก้าวเข้าสู่ตำหนักของข้า ข้าจะทำให้เจ้ารู้จักกับคำว่านรกนั้นมันเป็นเช่นไร” เขาสะบัดมือออกจากคางมนของนางอย่างแรงจนหน้านางสะบัดไปด้านข้าง ลู่เฉิงเดินออกมาโดยไม่สนใจตาที่เริ่มแดงก่ำของนาง หลันฟู่อิงฟุบลงไปกับพื้นระคนหมดแรง นางพยายามคิดเข้าข้างตัวเองว่าหากได้ตบแต่งกับเขาไปเขาจะต้องยินยอมรับความรักจากนางในสักวัน นางตามติดเขาไปทุกที่ ทำของที่เขาชอบมาให้เขากินทุกครั้งแม้บางครั้งนางจะแอบเห็นเขาสั่งให้คนนำขนมของนางไปเททิ้งแล้วเลือกกินของเสียนอวี้แทนก็ตาม นางหึงหวงเขามากจนเกินไปจนบางครั้งก็ทำตัวร้ายกาจออกมาแต่ก็เพราะพวกนางมายุ่งกับคู่หมั้นของนางก่อนใช่หรือไม่ นางมีสิทธิ์ที่จะกันพวกนางออกไปมิใช่หรือและโดยเฉพาะเสียนอวี้ที่มีนิสัยและภาพลักษณ์ราวกับแม่พระ ยิ่งนางกลั่นแกล้งเสียนอวี้เท่าไหร่ก็เหมือนยิ่งทำให้ลู่เฉิงออกตัวปกป้องนางเท่านั้น และนั่นยิ่งทำให้ลู่เฉิงเริ่มสนใจในตัวนาง แม้กระทั่งยอมเลื่อนงานแต่งของนางและเขาจนล่วงเลยมาถึงสามปี! หลันฟู่อิงเก็บความเสียใจนี้ไว้ ตอนนี้ลู่เฉิงเป็นของนางแล้วแต่นางไม่อาจจะวางใจสิ่งใดได้ แม้เขาจะยอมตบแต่งนางเป็นฮูหยินเอก แต่เขาอาจจะรับเสียนอวี้มาเป็นอนุของเขาอีกคนก็เป็นได้ นางจะต้องตัดไฟตั้งแต่ต้นลม เมื่อคิดได้ดังนั้นร่างบางก็ลุกขึ้นมาสายตาเปลี่ยนเป็นอาฆาตแค้นก่อนจะเดินออกไป มุมหนึ่งร่างสูงเฝ้ามองการกระทำของนางอย่างเงียบๆ เจินซือองค์ชายรองเห็นแววตาเคียดแค้นของนางก็นึกเป็นห่วงเสียนอวี้ขึ้นมา ร่างสูงแอบตามนางไปอย่างเงียบๆ “จดหมายจากคุณหนูเสียนอวี้พ่ะย่ะค่ะองค์ไท่จื่อ” ทหารผู้หนึ่งเดินเข้ามาในตำหนักพร้อมกับยื่นซองจดหมายฉบับหนึ่งให้กับลู่เฉิง เขารับมันมาพร้อมกับเปิดอ่านเนื้อหาในจดหมาย สายตาเขาอ่อนโยนลงหลายส่วน แต่แล้วก็มีสายตาสำนึกผิดเกิดขึ้นมาชั่วขณะ “เฝ้าระวังไว้ให้ดี ข้าจะไปหานางในคืนนี้” เขาจะต้องบอกความจริงกับนาง เรื่องที่เขาจะอภิเษกภายในสามวันหลังจากนี้เขาอยากบอกนางด้วยตัวของเขาเอง “รับคำบัญชาพ่ะย่ะค่ะ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม