เช้าวันจันทร์ เธอตื่นแต่เช้าตรู่มาทำอาหารเช้าง่ายๆให้เธอกับเขา เพราะวันนี้เป็นวันแรกที่เธอจะได้กลับไปเรียนหลังจากที่ต้องให้เพื่อนสนิทแจ้งลาป่วยกับอาจารย์แต่ละวิชาไปร่วมสัปดาห์ ยังดีที่เขาใจดีให้เธอกลับไปเรียนได้ เพราะอีกไม่นานเธอก็จะสอบแล้ว และหลังสอบเสร็จเธอก็ต้องไปฝึกงานตามบริษัทที่ได้ประสานยื่นเรื่องขอฝึกงานเอาไว้
ร่างงามในชุดนักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดัง เดินยกจานอาหารเช้ามาเสิร์ฟให้เจ้าของห้องที่นั่งรออยู่ที่โต๊ะอาหารอยู่ก่อนแล้ว เสื้อพอดีตัวเผยให้เห็นสัดส่วนของวัยสาวอย่างชัดเจน ไหนจะกระโปรงทรงสอบสั้น แหวกเล็กน้อยตามสมัยนิยม ยิ่งทำให้หญิงสาวตรงหน้าดูสวยสมวัยและแฝงความเซ็กซี่อย่างไร้เดียงสา จนเขาต้องกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ และข่มอารมณ์ไม่ให้จับเธอมากระแทกคาชุดนักศึกษา
“วันนี้เรียนถึงกี่โมง”
“สี่โมงเย็นค่ะ”
“อืม งั้นตอนเย็นเดี๋ยวฉันไปรับเอง แล้วเดี๋ยวเอาชุดไปให้เปลี่ยนด้วย จะพาไปที่ผับ ฉันมีเอกสารต้องเซ็นนิดหน่อย แล้วค่อยไปหาข้าวกินกัน”
“เอ่อ แต่ตอนเย็น ฉันมีทำงานพิเศษที่คาเฟ่นะคะ”
“งานพิเศษของเธอหลังเลิกเรียน คือเป็นผู้หญิงของฉัน คอยดูแลปรนนิบัติและทำให้ฉันพอใจก็พอแล้ว เวลาทั้งหมดของเธอต้องเป็นของฉัน ฉันจะให้เธอทำอะไรก็ต้องตามใจ ห้ามขัด ส่วนค่าใช้จ่ายต่างๆของเธอ ไม่ต้องกังวล เพราะฉันจะจัดการให้ตามที่ตกลง เดี๋ยวส่งเลขบัญชีเข้ามาในไลน์ฉัน เท่านี้เธอก็ไม่ต้องกังวลอะไรแล้ว สิ่งที่เธอต้องกังวลมีอย่างเดียว คือจะทำยังไงให้ฉันมีความสุขและพอใจ เข้าใจไหม”
“เข้าใจค่ะ”
“วันที่มีเรียนปกติ ฉันจะให้โชคไปรับไปส่ง แต่ถ้าวันไหนฉันว่างจะไปรับไปส่งเอง ส่งตารางเรียนมาให้ฉันด้วย จะได้รู้ว่าเธอเลิกเรียนกี่โมง ไม่ใช่แอบไปเถลไถลที่ไหน”
“ค่ะ แต่ตอนนี้ใกล้สอบแล้ว ปกติจะรวมกลุ่มกันไปติวที่บ้านเพื่อนค่ะ ขออนุญาตไปได้ไหมคะ”
“เพื่อนผู้หญิงหรือผู้ชาย”
“ผู้หญิงค่ะ เพื่อนสนิทที่สุดของฉัน ขาไปเราจะรวมกลุ่มกันแล้วไปรถของเพื่อนคนนี้เลย”
“อืม ได้ ฉันอนุญาต แต่ต้องบอกเวลากลับที่แน่ชัด และให้โชคไปรับเหมือนเดิม แต่ถ้าฉันว่างและไม่ติดอะไร ก็อาจจะไปรับเอง”
“ค่ะ”
“แล้วถ้าเธออยากไปเที่ยว หรือไปไหนมาไหนกับเพื่อนๆบ้าง ก็ให้โทรหรือไลน์ขออนุญาตฉันทุกครั้ง และบอกเวลากลับที่แน่นอน โชคจะได้ไปรับถูก ฉันเองก็ไม่ได้ใจร้ายใจดำขนาดเอาเวลาทั้งหมดหลังเลิกเรียนของเธอ ให้เธอมาตั้งหน้าตั้งตานอนให้ฉันเอาขนาดนั้นหรอกนะ ฉันเองก็มีงานต้องทำ มีอะไรให้รับผิดชอบเยอะ เธอเองก็มีสังคม มีเพื่อน จะทำอะไรก็แค่บอก และไม่ทำผิดสัญญา อย่ายุ่งกับผู้ชายอื่น แค่นั้น ทำได้ใช่ไหม”
“ทำได้ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ”
เธอยกมือไหว้ขอบคุณเขา เพราะต่อให้เธอต้องเอาตัวเข้าแลกยอมมาเป็นผู้หญิงของเขาเพื่อชดใช้หนี้สิน แต่ก็ยังถือว่ามาเฟียอย่างเขาก็พอมีมโนธรรมและใจดีกับเธออยู่บ้าง เธอยังได้ไปเรียน ได้คบเพื่อน ได้ไปติวหนังสือ และแน่นอน เมื่อเลิกกับเขาไปแล้ว เธอยังได้มีอนาคต
รถตู้ครอบครัวคันหรูสีดำ แล่นเข้ามาจอดที่ข้างตึกคณะบริหารธุรกิจที่เธอเรียนอยู่ ประตูอัตโนมัติเปิดออก พร้อมด้วยร่างงามที่รีบลงรถมาอย่างลุกลี้ลุกลน เธอสะพายกระเป๋าแบรนด์ชื่อดังที่เขาซื้อให้และบังคับให้เธอนำออกมาใช้แทนกระเป๋าผ้าลายน่ารักใบเก่า
“วันนี้เลิกเรียนสี่โมงเย็นนะคะ ขอบคุณที่มาส่งค่ะ”
เธอรีบเดินเร็วๆเข้าตึกคณะไป แต่คนที่ได้รับหน้าที่มาส่ง ยังไม่สามารถจะกลับเลยได้ เพราะยังมีอีกหน้าที่ที่สำคัญมากที่ได้รับมอบหมายมาทำ นั่นคือคอยแอบๆตามติดชีวิตเธอและถ่ายรูปรายงาน ว่าวันๆหนึ่ง เธอทำอะไร พูดคุยกับใครบ้าง มีใครเข้ามาหาหรือเข้ามาขายขนมจีบกับเธอบ้าง และที่สำคัญ ภารกิจนี้ ห้ามให้เธอรู้ตัวเด็ดขาด
“เห้อ เดิมเป็นลูกน้องคนสนิทดูแลผับให้เจ้านาย ตอนนี้กลายมาเป็นคนขับรถ แถมพ่วงด้วยนักสืบ คอยตามจับชู้ของเมียนายอีก ไอ้โชคนะไอ้โชค”
เขาส่ายหน้าให้กับชะตาชีวิตของตนเอง ใช่ว่าเขาจะไม่เต็มใจรับใช้นาย หรือรับใช้ผู้หญิงของนาย แต่ต้องคอยตามติดเป็น Stalker แบบนี้ มันดูจะโรคจิตหน่อยๆไหม
นายนะนาย ดูก็รู้ว่าณิชาเป็นเด็กดี ไม่ได้อ่อยผู้ชายไปทั่ว หรือมั่วผู้ชายไม่เลือก จนถึงขั้นต้องมาคอยตามจับตาดูพฤติกรรมขนาดนั้น แต่เขาว่า เป็นที่ตัวนายเขาเองมากกว่าที่ขี้หวงเกินกว่าเหตุ
ปวีณา เพื่อนสนิทที่สุดของณิชา จอดรถในช่องจอดแล้วเดินออกมา ก็เห็นเพื่อนสนิทเดินลุกลี้ลุกลนออกมาจากรถยนต์คันหรูราคาหลายล้าน ท่าทางมีพิรุธนั่นทำให้เธอสงสัย และอีกอย่างคือ ครอบครัวของณิชา ไม่ได้ร่ำรวยขนาดที่จะซื้อรถราคาขนาดนี้ได้ จึงเก็บความสงสัยไว้ ยังไงวันนี้ก็ต้องซักถามให้รู้เรื่อง
“ยัยณิชา กลับมาแล้วหรอ”
“ยัยนา คิดถึงจังเลย”
สองสาวตรงเข้าสวมกอดกันแน่นด้วยความคิดถึง ตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่เธอหายตัวไปแล้วอ้างกับเพื่อนว่าป่วย ก็ได้เพื่อนคนนี้ที่คอยเก็บใบงาน จดเล็คเช่อ หรือแม้กระทั่งทำงานส่งให้
“แกเป็นยังไงบ้าง มีอีกหลายเรื่องเลยนะ ที่แกต้องบอกฉัน”
“อะไรหรอยัยนา เรื่องอาการป่วยของฉันหรอ”
“แกอย่ามาโกหก ณิชา เมื่อกี้ฉันเห็นแกลุกลี้ลุกลนลงมาจากรถคันนั้น รถของใคร แล้วมันมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น แกเล่ามาเดี๋ยวนี้”
ณิชาตาเบิกกว้าง ไม่มีอะไรที่จะปิดบังเพื่อนรักคนนี้ของเธอได้เลยจริงๆ ปกติเธอสองสาวสนิทกันมาก ไม่เคยมีความลับอะไรต่อกันสักเรื่อง และเรื่องนี้ถึงแม้เธอจะตั้งใจให้เป็นความลับระหว่างเธอกับเพื่อนเป็นเรื่องแรก แต่ก็คงไม่ได้แล้วสินะ เพราะต่อให้เธอไม่บอก และทำโกหกเนียนๆ แต่คนอย่างปวีนา ถ้าได้สงสัยแล้ว ยังไงเจ้าหล่อนก็ต้องหาคำตอบมาจนได้
“คือว่าฉัน..”
ณิชาอ้ำอึ้ง ไม่รู้จะเริ่มเล่าเรื่องอัปยศอดสูนี้จากตรงไหนก่อนดี และที่สำคัญ ตรงนี้คนก็พลุกพล่าน ไม่เหมาะอย่างยิ่งที่จะมาเล่าความลับอะไรให้ใครฟัง
“ไปที่สวนริมน้ำกัน เรามีเวลาอีกหนึ่งชั่วโมงก่อนเข้าเรียน”
ปวีนากล่าวแล้วจูงมือเพื่อนรักที่ตอนนี้แววตาสับสนและกังวลเป็นอย่างยิ่ง ตรงไปยังสวนริมน้ำ ที่ที่เงียบสงบของมหาวิทยาลัย ที่เธอและเพื่อนชอบมานั่งเล่นกันเป็นประจำก่อนถึงคาบเรียน
“เล่ามา แกมีเรื่องอะไร”
“นา คือฉัน ตอนนี้ฉันไม่มีค่าพอสำหรับใครอีกแล้ว ฉันเอาตัวเข้าแลกเพื่อเงิน ฉันต้องใช้หนี้แทนพี่ภัทร ฉัน ฉัน.”
“ใจเย็น ณิชา แกค่อยๆพูด มันเกิดอะไรขึ้น แกค่อยๆเล่า”
ณิชากลั้นก้อนสะอื้น มองเพื่อนรักผ่านม่านน้ำตา ที่มันเอ่อคลอจวนเจียนจะไหลเต็มทีแล้ว เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วเริ่มต้นเล่าให้กับเพื่อนรักฟังอีกครั้ง
“พี่ภัทรเป็นหนี้พนัน เขาเอาบ้านไปจำนอง ขาดส่ง ตอนนี้ธนาคารกำลังจะมายึด แล้วเขาก็หนีไป เจ้าของกาสิโนส่งคนมาจับฉันไปเพื่อถามหาที่อยู่พี่ภัทร แต่ฉันเพิ่งรู้เรื่องจริงทุกอย่างจากเจ้าหนี้เดี๋ยวนั้นเอง พี่ภัทรไม่ติดต่อมาเลย นายคนนั้นขู่ฉันว่าจะฆ่าพี่ภัทรทิ้ง เขาขังฉันไว้หลายวัน จนเขาสืบรู้ที่อยู่พี่ภัทรเอง พี่ภัทรไม่มีเงินใช้หนี้เขา ทางเดียวคือเขาจะฆ่าพี่ชายฉันทิ้ง ฉันขอร้องเขาจะหางานทำหาเงินมาใช้หนี้ เขาเลยยื่นข้อเสนอให้ฉันเป็นนางบำเรอของเขาหนึ่งปี แลกกับหนี้สินและชีวิตของพี่ภัทร ฉันไม่มีทางเลือกเหลือเลย ฉันเลยยอม”
น้ำตาจากความอัดอั้นและเสียใจไหลอาบแก้มนวล เพื่อนสาวคนสนิทจึงดึงเธอเข้าไปกอดปลอบแน่นๆ เนิ่นนานก่อนที่สองสาวจะผละออกจากกันเมื่อเธอรู้สึกดีขึ้นมาแล้ว
“เท่าไหร่ หนี้ก้อนนี้มันเท่าไหร่ ฉันจะเอาไปใช้คืนให้แกเอง แกจะได้เป็นอิสระ ไม่ต้องไปทนเป็นนางบำเรอให้ตาแก่ตัณหากลับนั่น”
ปวีนาที่เข้าใจว่าเจ้าของกาสิโนคือเสี่ยหรือมาเฟียแก่ๆ อ้วนๆพุงพลุ้ยที่น่าขยะแขยง รีบยื่นมือเข้าช่วยเหลือเพื่อนรักทันที
“สิบล้าน”
“ห๊า สิบล้าน”
“ใช่”
“ฉันไม่มีเงินมากขนาดนั้นหรอก แต่พี่ณัยมีแน่ ฉันจะขอให้พี่ณัยช่วย พี่ณัยต้องช่วยแกแน่ๆ”
“แกอย่าไปรบกวนพี่ณัยเลย เงินมันมากมายมหาศาลแบบนั้น ใครเขาจะช่วย”
“นี่แกไม่รู้อะไรเลยหรือไง ว่าพี่ณัยชอบแกขนาดไหน”
“ฉันรู้ แต่ตอนนี้ฉันไม่มีค่าคู่ควรกับพี่ณัยหรือใครอีกแล้ว”
“สมัยนี้มีคนเขาสนเรื่องจิ้นไม่จิ้นด้วยหรอ คุณค่าในตัวแกคือความดี เพราะฉะนั้น ไม่มีใครมาเอาไปจากเราได้ คุณค่าในตัวแกยังอยู่เหมือนเดิม และฉันเชื่อว่าพี่ณัยก็คิดแบบเดียวกับฉัน”
“แต่ฉันเซ็นสัญญากับเขาไปแล้ว ฉันต้องอยู่กับเขาหนึ่งปี และฉันไม่มีสิทธิ์บอกเลิกสัญญาแม้ว่าจะหาเงินมาใช้คืนเขาได้ก็ตาม ยกเว้นเขาแค่คนเดียวที่จะปล่อยฉันเป็นอิสระก่อนเวลาหนึ่งปีได้”
“นั่นเพราะมันคิดว่าแกไม่มีทางหาเงินมากมายขนาดนั้นได้ยังไงล่ะ ฉันจะให้พี่ณัยไปคุยดูก่อน มันอาจสนใจเงินมากกว่าแกก็ได้”
“แต่เขาเป็นมาเฟียนะ พี่ณัยจะไม่ปลอดภัย”
“บ้านฉันก็ไม่ได้กระจอกขนาดนั้นนะ แกไม่ต้องกังวล ฉันกับพี่ณัยจะช่วยแกเอง”
“แต่ฉัน..”
“เอาตามนี้ ให้พวกฉันลองช่วยดูก่อน ได้ไม่ได้ค่อยว่ากัน แล้วไอ้มาเฟียเฒ่าเจ้าหนี้แกคือใคร”
“ปราณนต์ อธิพัฒน์โภคิน”
“ปราณนต์ อธิพัฒน์โภคินหรือ ชื่อคุ้นๆ”
ปวีนาทำหน้าครุ่นคิด ก่อนเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
“ยัยณิชา แกหมายถึงคุณปราณต์ ลูกชายคนที่สามของบ้านอธิพัฒน์โภคินหรอ”
“อืม ใช่”
“คนที่เป็นเจ้าของกาสิโนที่ลาวและเจ้าของผับใหญ่ๆนั่นอ่ะนะ”
“อืม”
“โคตรหล่อ โคตรรวย โคตรแบด โคตรน่ากิน ไหนแกว่าเขาเป็นมาเฟียเฒ่าพุงพลุ้ยไง”
“ฉันยังไม่ได้บอกซักคำเลย แกต่างหากพี่พูดเป็นตุเป็นตะ”
“หึย แกนะแก นี่ถ้าไม่เห็นว่าเสียใจ หรือว่าพี่ชายฉันรักแก แล้วฉันก็อยากได้แกมาเป็นพี่สะใภ้นะ ฉันจะยุให้แกอยู่กับเขาไปนั่นแหละ ใช้ความสาวความสวยของแกจับเขาให้อยู่หมัด ผู้ชายเพอร์เฟคแบบนี้ ตายกี่ชาติเราก็หาไม่ได้”
“ยัยนา”
“เห้อ เออๆ รู้ว่าทุกข์ และรู้ว่าเกรงใจไม่อยากให้ฉันกับพี่เดือดร้อน แต่ยังไง ฉันก็ต้องช่วยแกให้ถึงที่สุดก่อน ให้ฉันทำหน้าที่ของฉันก่อนนะ อะไรจะเกิดขึ้นค่อยว่ากัน ห้ามเกรงใจ ห้ามคิดมากอีกแล้ว เพราะแกคือเพื่อนที่ฉันรักที่สุดนะ”
“ขอบใจแกมากจริงๆ ยัยนา”
“อืม แกอย่าเพิ่งคิดมากไปกว่านี้ แล้วเป็นไงบ้างอ่ะ คุณปราณต์ แซ่บไหม”
“ยัยนา”
ณิชาฟาดต้นแขนขาวเนียนของเพื่อนดังเพี๊ยะ โทษฐานที่มาทะลึ่งตึงตังไม่ดูเวล่ำเวลา ซึ่งจริงๆก็เป็นเรื่องปกติของปวีนาเพื่อนรักของเธออยู่แล้ว ทั้งก๋ากั่น ทั้งทะลึ่ง ถึงแม้จะยังโสดและซิงก็ตามที
“โอ๊ยยย เจ็บนะ ชิ แค่นี้ทำงกไปได้ เล่าประสบการณ์สุดสยิวกับผู้ชายงานดีที่สุดในโลกให้สาวซิงอย่างฉันขิตหน่อยก็ไม่ได้”
ปวีนายกมือลูบแขนตัวเองป้อยๆ ค้อนลมค้อนฟ้าให้กับเพื่อนรักที่แสนขี้งก
“ที่เล่าไม่ได้ เพราะไม่รู้ต่างหากเล่า เขายังไม่ได้ทำอะไรฉันถึงขั้นนั้นเลย เพิ่งเซ็นสัญญากันไปแค่สองสามวันเอง”
“อะไร ตั้งสองสามวัน แกสวยหยาดเยิ้มขนาดนี้ เขาปล่อยเอาไว้ได้ยังไงวะ เป็นฉันหน่อยไม่ได้ จะเล่นตั้งแต่จรดปลายปากกาเซ็นสัญญาเสร็จเลย”
“ไอ้ทะลึ่ง ไม่มีใครเขาเหมือนแกหรอก แล้วนี่ตกลงจะเชียร์ให้ฉันเป็นนางบำเรอเขา หรือจะหาทางช่วยฮะ”
“เออๆ ลืมตัวไป”
“เห็นคนหล่อหน่อยไม่ได้ เคลิ้มตลอด”
สองสาวยิ้มให้กันและต่างก็หัวเราะขำออกมา อย่างน้อย ในเรื่องร้ายๆ ก็ยังพอมีเรื่องตลกมาทำให้เธอได้หลุดขำและมีรอยยิ้มบ้าง ก็ไม่รู้หรอกนะ ว่าเพื่อนของเธอจะช่วยได้หรือเปล่า เธอไม่อยากคาดหวังอะไรมากไป เพราะเงินมากขนาดนั้น ใครจะกล้าเอามาช่วยเธอที่เป็นแค่เพื่อนของน้องสาว แม้ว่าเขาคนนั้นจะแอบชอบเธออยู่ก็ตามที