ลูกสาวคนเล็ก

1505 คำ
"แม่ขาปรายทำรายละเอียดค่าใช้จ่ายแล้วนะคะ วางไว้ที่โต๊ะทำงานของพ่อ ปรายขอเก็บของต่อก่อนนะคะแม่ " ปรายลดา วงษ์นรา หรือปราย วางรายละเอียดค่าใช้จ่ายหอพักไว้ที่โต๊ะทำงานของพ่อเธอ หญิงสาวเป็นบุตรสาวคนเล็กของ บ้านไร่วงษ์นรา พี่สาวของเธอ ปรานลดา วงษ์นรา เรียนจบทำงานเป็นครูโรงเรียนเอกชนที่กรุงเทพ ฯ และสอบบรรจุได้ที่ภาคใต้ ทำให้ปรายลดาที่กำลังเรียนปีสุดท้าย ต้องหาห้องพักใหม่ ให้ใกล้มหาวิทยาลัยที่สุด พ่อกับแม่เธอไม่อยากให้พักคนเดียว อยากให้ไปอยู่บ้านคนรู้จัก นี่คือปัญหาของเธอ กลางเทอมแบบนี้จะหาหอพักที่ไหน เพราะแถวมหาวิทยาลัย หอพักดีๆ และปลอดภัย หายากมาก เธอไม่อยากไปอยู่บ้านหลังนั้น ที่พ่อกับแม่แนะนำถึงแม้ว่าจะเป็นเพื่อนเก่าของพ่อกับแม่ก็ตาม เธอต้องหาหอพักใหม่ที่ใกล้มหาวิทยาลัย ที่ปลอดภัยที่สุด ทั้งๆที่เก่าก็ปลอดภัยมากเสียแต่ว่า อยู่ห่างจากมหาวิทยาลัย สมัยก่อนยังได้อาศัยรถของพี่สาวไปเรียน ปราณลดา แวะส่งเธอที่หน้ามหาวิทยาลัยก่อนไปสอนหนังสือทุกวัน เพราะยังไงก็ต้องผ่านมหาวิทยาลัยของเธออยู่แล้ว ปรายลดา เป็นเด็กสาวหน้าตาดีทีเดียวการันตีด้วยตำแหน่ง ดาวมหาวิทยาลัย ด้วยส่วนสูง 175 จมูกโด่ง ตาคม ตาดำมาก รูปร่างสมส่วน นิสัยของเธอนิ่งๆ ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร เธอกับพี่สาวหน้าตาคล้ายกันมาก ใครเห็นสองพี่น้องบ้านนี้ต่างก็ชื่นชม ด้วยความสูงที่ไร่เรี่ยกัน หน้าตาคล้ายกัน ทำให้ตอนเด็กๆ คนทักผิดอยู่เรื่อย ปรายลดา ห่างกับพี่สาวเธอ 4 ปี ถ้าหากว่าพี่สาวเธอทำงานที่กรุงเทพฯ เหมือนเดิม พ่อกับแม่ก็คงไม่มีปัญหาเรื่องที่พักของ ช่างเถอะถ้าเธอยืนยันว่าจะอยู่หอ พ่อกับแม่เธอก็ต้องยอมอยู่ดี อดทนเอา เดือนแรกตามใจท่านทั้งสองหน่อยก็แล้วกัน พ่อกับแม่เคยคิดที่จะซื้อคอนโดให้เธอกับพี่สาวอยู่ แต่ทั้งสองคนห้ามเอาไว้ ด้วยไม่คิดว่าจะอยู่ที่เมืองหลวงตลอดไป ปกติเธอกับพี่สาวก็กลับบ้านกันบ่อย เดือนละ 2 ครั้ง ขับรถกันไปเอง พี่สาวเธอมีรถเก๋งเล็กๆ อยู่ 1 คัน ช่วงปิดเทอมหญิงสาวก็มักกลับบ้านไปช่วยงานที่ไร่ และที่ร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้างในตัวจังหวัด บ้านเธอสอนให้ลูกทำงานตั้งแต่ยังเด็ก พ่อชอบให้เธอไปช่วยแม่ที่ร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้าง สมัยเด็กๆ เธอกับพี่สาวมักติดรถคนงานไปส่งของให้ลูกค้าบ่อย ๆ ทำให้ทั้งสองขับรถเป็นตั้งแต่อายุยังไม่ถึงวัยทำใบขับขี่ ทั้งสองสาวขับรถได้ทุกอย่าง ที่มีในไร่ พี่สาวเธอเลือกที่จะรับราชการ งานของที่บ้านคงต้องเป็นตัวเธอรับผิดชอบช่วยพ่อกับแม่ โชคดีที่บ้านเธออยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก จริงๆ ถ้าอนาคต รถไฟฟ้าไปถึง เธอเรียนจบ หากทำงานที่กรุงเทพฯ เธอสามารถไปกลับก็ยังไหว แต่คงต้องรออีกนาน อย่าเพิ่งคิดล่ะกัน เรียนให้จบก่อน ที่สำคัญ เธอกลัวการไปอยู่บ้านหลังที่พ่อฝากฝังไว้ ไม่อยากไปเลย ไม่รู้ว่าจะเจออะไรบ้าง เธอเคยเห็นหน้าคุณป้าดุจเดือนบ้าง แต่ก็ไม่สนิทนัก ปรายลดาไม่ค่อยชอบความวุ่นวาย วันหยุดเธอชอบนอนตื่นสาย ทำกับข้าวไม่เป็น กินข้าวไม่เป็นเวลา ชอบไปไหนมาไหนคนเดียว ขี้รำคาญ แต่รักความสะอาด ไม่ชอบใหใครมาวิจารณ์เรื่องของตัวเอง และไม่ชอบไปยุ่งเรื่องของใคร เกลียดคนยาก แต่ถ้าเกลียดคือคนๆ คือเกลีดคือเกลียดมาก คนๆนั้นจะไม่ได้อยู่ในโลกของเธอเลย เธอจะไม่สนใจ ไม่พูดด้วย ถอยห่างออกมา เธอรู้ตัวเองดีว่านิสัยไม่ดีนัก แต่จะให้ปรับเปลี่ยนเพื่อคนอื่นมันก็ทำไม่ได้ นี่เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เธอเลือกเรียน วนศาสตร์ เธอชอบป้าไม้ ชอบอ่านหนังสือ ปรายลดาเป็นหนอนหนังสือ อ่านทุกอย่าง ในห้องพักไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน หรือที่หอ จะต้องมีชั้นวางหนังสือ มีหนังสือหลากหลาย มากที่สุดคือหนังสือเกี่ยวกับพืชพันธุ์ไม้ จนป่านนี้เธอก็ไม่เข้าใจพ่อกับแม่ เธอก็อยู่ของเธอได้ หอพักก็อยู่มานานมาก ไม่เคยมีปํญหา ปลอดภัยมากถึงมากที่สุด และตัวเธอก็ไม่ใช่คนเกเรอะไร ไอ้จะให้เธอหาเพื่อนมาแชร์ค่าหอ มันก็ไม่ใช่ เธอชอบอยู่คนเดียว อีกอย่างก็ใกล้ฝึกงาน เหลือเวลาไม่มากก็จะจบแล้ว ไม่แน่เธออาจคุยพับพ่อและแม่อีกครั้ง ขออยู่หอพักเดิม เอาจริงๆ ถ้าฝึกงานก็ไม่ค่อยได้อยู่หอ อีกไม่นานเธอเรียนจบ หางานทำ ถ้าได้งานก็อยากหาใกล้หอเดิม จะได้ไม่ต้องหาที่ใหม่ หรือถ้าไม่ได้งาน เธอก็จะกลับบ้าน ช่วยพ่อกับแม่ทำงานที่บ้าน พ่อกับแม่เธอ บางทีก็ใจดีมาก อยากได้อะไรก็ตามใจ แต่บางทีก็เข้าใจอะไรยากมาก พี่สาวเธอรอดไปแล้ว เหลือแต่เธอนี่แหละ คนรุ่นเก่ากับคนรุ่นใหม่ บางทีมันก็มีเส้นบางๆ ยากที่ปรับตัวเข้าหากันได้ เธอเชื่อว่า พ่อกับแม่หวังดีกับเธอ แต่อย่าลืมว่า พ่อกับแม่ไม่ได้มาอยุ่ในสถานการณ์ปัจจุบันกับเธอสักหน่อย บางทีเธออาจให้พี่สาวเธอช่วยคุยให้ เพราะยังไงพี่ปราณก็เคยพักอยู่ที่หอนี้ด้วยกัน พี่ปราณพูดพ่อกับแม่ต้องฟังบ้างแหละ เอาเถอะอย่างน้อยก็ยังมีความหวังว่าจะได้พักที่หอเดิม แต่ตอนนี้หญิงสาวเกิดอาการเบื่อมาก เธอต้องกลับไปหอ ปัญหาคือเธอต้องนั่งรถตู้เข้ากรุงเทพฯด้วยตัวเอง นั่นคือปัญหาใหญ่ สมัยที่พี่สาวเธอยังอยู่ด้วยกัน เธอก็อาศัยไป กลับ แต่นี่เธอต้องใช้บริการรถตู้ มันก็ไม่ได้ลำบากอะไร แต่เธอไม่ชอบนั่งเบียดกับใคร ไม่ได้รังเกียจ ระยะทางไม่ได้ไกลมากมาย จากบ้านเข้าหอ เวลาที่นั่งรถตู้โดยสาร เธอรู้สึกว่ามันช่างเนิ่นนานเหลือเกิน กว่าจะถึงจุดหมายปลายทาง ช่วงนี้ยิ่งมีพวกโรคจิตเยอะมาก เธอได้ยินเพื่อนๆเล่ามา ส่วนตัวเธอยังไม่เคยเจอ เห็นแต่เพื่อนๆ เล่าให้ฟัง เพื่อนของเธอเคยเล่าให้ฟัง นั่งรถมาจากปราจีนบุรี ช่วงใกล้ถึงนครนายก มีผู้ชายหน้าตาดีมากขึ้นรถมาแล้วมานั่งใกล้ๆ แรกๆก็ไม่มีอะไร เพื่อนเธอหลับเห็นว่าคนนั่งข้างๆหน้าตาดี ก็คิดว่าไม่มีอะไร กำลังจะเผลอหลับก็มีมือมาวางที่ต้นขา นางก็หรี่ตาดูว่าจะยังไงต่อ เพื่อนเธอแต่งตัวมิดชิดมากกางเกงยีนต์ขายาว เสื้อเชื้ตยีนต์แขนยาว ไม่ได้แต่งตัวล่อแหลมอะไรเลย จากที่มันวางมือ แล้วมันก็ค่อยๆ เล่ื่อนมือมาใกล้ๆ เป้ากางเกง แต่มันทำได้แค่นั่น เพื่อนเธอก็ใช้มืออีกข้างตบหน้ามัน ผลักมันอย่างเร็วลงไปบนพื้นรถตู้ ตามด้วยทั้งเหยียบ ทั้งถีบ ทั้งด่า จนคนในรถร้องโวยวาย คนที่น่ั่งส่วนหน้าพูดกันประมาณว่าไอ้ผู้ชายคนนั้นไม่ได้เป็นคนทำ แต่ดีคนที่นั่งเบาะอีกฝั่งเขาเห็นและถ่ายคลิปไว้ ลุงคนขับรถรีบจอดบอกว่า จำได้คนนี้ขึ้นรถสองรอบ และทำแบบนี้ทุกครั้ง แต่วันนี้ที่จำไม่ได้เพราะเขาใส่เสื้อตัวใหญ่ ใส่แว่น ใส่หมวก แต่เชื่อไหมว่า หน้าดาดีมาก คนเราวัดนิสัยจากหน้าตาไ่ม่ได้เลย รู้หน้าไม่รู้ใจจริงๆ ได้ฟังเพื่อนเล่า แบบนี้ ยิ่งทำให้ปรายลดาหลอน เวลาที่นั่งรถตู้กลับเธอมักขอนั่งหน้าคู่กับคนขับทุกครั้ง เลี่ยงไม่อยากไปนั่งหลัง เผื่อโชคไ่ม่ดี กลัวเจอคนโรคจิตเหมือนเพื่อนของเธอ ในใจเธออยากขอรถที่บ้านมาใช้สักคัน ไม่ใช่ว่าเธอเคยขอๆแล้วแต่พ่อกับแม่อ้างว่า ยังเด็กรถในกรุงเทพฯ เยอะแยะ อันตราย เธอก็เถียงในใจ ขับรถก็เป็นใบขับขี่ก็มี บางทีพ่อกับแม่ก็ใช้เธอไปงานที่ต่างจังหวัด ทีแบบนี้ไม่ไว้ใจ คิดแล้วก็เหนื่อย ช่างเถอะ มีคนอีกมากมายที่ลำบากกว่าเธอมาก พ่อกับแม่สอนตลอดว่าให้มองคนที่ลำบากกว่าเรา อดทนเอาหน่อยนะปรายลดา เดี๋ยวก็เรียนจบแล้วล่ะ หญิงสาวปลอบใจตัวเอง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม