“เฮ้! หวัดดีไอ้แว่นกิ๊กก๊อก ข่าวว่าแกยุ่งกับเด็กฉันเหรอ”
((...))
“ไม่ดีม้าง! แกก็รู้นี่ว่าฉันเป็นใคร... เด็กดีอย่างแกก็อยู่ส่วนเด็กไปเซ่! หรือถ้าอยากเดือดร้อนก็มาหาฉันกับปิยองตอนนี้ที่พัทยาเลยดีกว่า! มาวัดให้รู้กันไปเลย! กล้ามั้ยล่ะ!!”
((...))
“เฮ้ย! เป็นใบ้รึไงวะ!”
เพียวตวาดก้องแข่งกับเสียงเบิ้ลคันเร่งของรถเก๋งราคาแพงจนเพื่อนหลายคนเริ่มหันมาสนใจพวกเรา มือที่จับมือฉันบีบแน่นขึ้นอีกจนฉันเบ้หน้าด้วยความเจ็บ
((ไร้สาระ))
เสียงเรียบนิ่งที่ดังลอดโทรศัพท์มาทำให้ฉันอ้าปากน้อยๆ และทำให้เพียวคลายแรงบีบข้อมือฉันอย่างคาดไม่ถึงเหมือนกัน
((ไม่มีอะไรแล้วใช่มั้ย? แค่นี้นะ อ่านการ์ตูนค้างอยู่ -_-))
ตู๊ดๆๆ...
เพียวนิ่งไปนิด แล้วระเบิดเสียงหัวเราะลั่นหาดและยอมปล่อยมือฉันซะที ก่อนจะรู้สึกได้ถึงใบหน้าซึ่งโน้มลงมาใกล้ศีรษะฉัน ที่กำลังยืนก้มหน้านิ่งอยู่ตอนนี้...
“เห็นมั้ยปิยอง สุดท้ายมันก็ป๊อด”
“...”
“อย่าไปสนเลยน่า กลับมาหาฉันเถอะ นะ...”
“โทรศัพท์...”
“หา... ว่าไงนะ”
“เอาโทรศัพท์คืนมาเดี๋ยวนี้!”
คนตรงหน้าโยนเครื่องมือสื่อสารมาให้ฉันแบบออโตเมติก เมื่อฉัน เงยหน้าขึ้นมองเพียวด้วยดวงตาลุกวาวราวกับกระสือกำลังถอดหัวออกหากิน -_-* ตอนนี้ความรักบ้าบออะไรไม่หลงเหลืออยู่ในสมองซีกไหนของฉันอีกต่อไปแล้ว มีแค่ความโกรธที่แล่นลิ่วอยู่ในกระแสเลือด!
พอได้โทรศัพท์คืนฉันก็หันเดินดุ่มๆ ไปที่รถ Lotus Elise SC ที่เปิดประทุนทิ้งไว้แล้วกระโดดข้ามประตูขึ้นไปนั่งเบาะคนขับ เสียงสตาร์ทดังกระหึมก่อนที่ทั้งรถทั้งฉันจะหายวับจากที่ตรงนั้นมาสู่ถนนใหญ่ในพริบตา หน็อย... ไอ้หล่อลากไส้!
บังอาจเมินใส่ความเดือดร้อนของฉันเหรอ...
เตรียมตัวเตรียมใจรับความซวยไว้ให้ดีเถอะ เนิร์ดบอย!!!
จากพัทยามาถึงซอยบ้านอัสที่เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ชานเมืองไม่ห่างจากโรงเรียนเท่าไหร่ ก็ปาเข้าไปเกือบตีสอง พอหาที่จอดรถไว้ริมทางเท้าได้ก็คิดหนักว่าจู่ๆ จะไปกดกริ่งขอเข้าไปหาอัสตอนนี้เนี่ย จะดีเหรอ =O=; คุณแม่ของอัสได้ตกอกตกใจนึกว่ามีสาวสวยหน้าใสจะมาปล้นเวอร์จิ้นลูกชายท่านพอดี
เอาแบบนี้แล้วกัน!
พอลงจากรถและกดล็อกเรียบร้อยก็เดินดุ่มๆ ไปยืนกลางถนนว่างเปล่าตรงกับประตูรั้วอัลลอยด์สูงเหนือศีรษะ ก่อนสูดลมหายใจลึกๆ รวบรวมพลังลมปราณ +_+ แล้วออกวิ่งตรงไปยังรั้วบ้านทันที! กระโดดครั้งที่หนึ่งขึ้นไปบนขอบกระถางต้นไม้ข้างกริ่งติดเสารั้ว แล้วออกแรงเหวี่ยงตัวเองข้ามประตูรั้วมาได้แบบฉิวเฉียดจนได้ยินเสียง...
แคว่ก!
T0T เสื้อช้านนน!!
หลังจากลงพื้นมาได้อย่างสวยงาม ฉันก็แทบร้องไห้กับเสื้อทีเชิ้ต คอลเลคชันใหม่ล่าสุดของ Aeropostale ที่เพิ่งสอยมาสดๆ ซิงๆ ตอนไปเที่ยวช่วงปิดเทอมที่แคนาดา อันที่จริงฉันมีแจ็คเก็ตสีดำสกรีนรูปตัว G ด้านหลังเป็นสัญลักษณ์ของแก๊งสวมอยู่ข้างนอกนะ แต่ตอนกระโดดแจ๊คเก็ตมันเปิดอะ เสื้อตัวในฉันเลยไปเกี่ยวเข้ากับปลายแหลมของประตูรั้ว ขาดวิ่นลงไปเป็นทางยาวเลยเหอะ T^T
ฉันยืนไว้อาลัยให้เสื้อตัวโปรดอยู่หนึ่งนาที ก่อนเงยหน้ามองไปทางห้องนอนของอัสที่เปิดไฟสว่างอยู่ชั้นสอง แล้วพยายามปัดๆ ความเสียดายออกไป จากนั้นก็เดินอ้อมไปหลังบ้าน กะจะใช้วิชางัดแงะที่เคยเรียนรู้มาจากเพียวสมัยคบกัน -_-v แต่ประตูนี่กลับไม่ได้ล็อก? ทำไมไม่รอบคอบกันเลยนะบ้านนี้ เง้อ...
พอย่องขึ้นมาชั้นสองก็พบว่าประตูห้องนอนอัสแง้มไว้นิดๆ
และร่างสูงในชุดนอนขายาวที่สวมแว่นนั่งพิงหัวเตียงอ่านการ์ตูนอยู่อย่างเพลิดเพลินเจริญใจนั่น - -^ แลดูตกใจม๊ากมากที่เห็นฉัน (ประชด) อัสเหลือบตามองมาแค่แวบเดียวเท่านั้นตอนที่ฉันเปิดประตูเข้าไป จากนั้นก็ก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือในมือต่อด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง
ชิ! ขี้เก๊ก!
“นายทำแบบนี้ได้ไง ฮะ!”
ฉันยืนกอดอกอยู่ข้างเตียงที่หมอนั่นนั่งอยู่ ก่อนแผดเสียงสิบแปดหลอดกรอกหูมัน -_-*
“ทีเมื่อคืนก่อนนายโดนจับ ฉันยังเสี่ยงชีวิตไปช่วยนายเลย พอวันนี้ฉันโดนคุกคามนายกลับเฉยเหรอ เพื่อนภาษาอะไรเนี่ย >O< อ๊ะ! จะว่าไปนายใช้ฉันเป็น ‘เหยื่อ’ เพื่อหนีรอดมาคนเดียวด้วย ยังไม่ได้ชำระความกัน เลยนะ!”
คืนนั้นพออัสปิดประตูโรงเก็บฟางหนีไป ฉันก็สู้ยิบตาทั้งเตะทั้งถีบ จนหนีออกมาหน้าอาคารเก่าๆ มอซอนั่นได้เพราะอัสไม่ได้ล็อกประตูจาก ด้านนอก แบบว่าอดรีนารีนพุ่งปรี๊ดเลยเหอะ T_Tv แต่บอสของ MG ก็พาพรรคพวกตามฉันออกมาจนได้ แล้ววิ่งไล่จับกันบนคันนาท่ามกลางแสงจันทร์ TOT สุดท้ายฉันต้องไปซ่อนตัวในถังขยะข้างถนน ถึงหนีรอดปลอดภัย
อ๊ะ... แล้วก็นะ ตอนที่บอสของพวกนั้นตามมาจับฉันที่หน้าโรงฟาง ฉันปัดหมวกกับที่ปิดปากรูปทานุกิของยัยนั่นหล่นจนได้เห็นหน้าชัดเจนเลยละ! แต่แค่ไม่กี่วิเท่านั้นเพราะฉันรีบหนี เกือบลืมไปเลยนะเนี่ย... ผู้หญิงคนนั้นดูเหมือนจะอายุมากกว่าพวกเรา น่าจะเด็กมหา’ลัยมั้ง
แล้วก็...
รู้สึกคุ้นๆ หน้ายัยนั่นยังไงบอกไม่ถูก -_-a
“เฮ้! นายได้ยินที่ฉันพูดรึเปล่าเนี่ย!!”
ฉันยังคงไซโคหมอนี่ต่อไป (ถึงอัสไม่มีทีท่าจะสนใจเลยก็ตาม -_-)
“เห็นแก่ตัว! ขี้เก๊ก! ขี้เหร่! (โกหก) เวอร์จิ้น!”
“...”
“โอ๊ะโอ... จะว่าไปเป็นนายนี่ก็น่าเห็นใจเนอะ เป็นผู้ชายแท้ๆ อยู่ ม.ปลายปีสุดท้ายละ จูบแรกยังไม่เคยมีเลยใช่ปะ โอย น่าสงสารเป็นบ้า!”
เยส! การแสร้งทำเสียงอ่อนหวานแต่ข้อความปานน้ำผึ้งเคลือบยาพิษของฉันทำให้อัสลดหนังสือลงวางลงบนเตียงนอนแล้วดีดตัวขึ้นมายืนเผชิญหน้ากับฉันได้ซะที แต่... ดีจริงเหรอเนี่ย... เอ่อ... จะเดินมาใกล้ทำไมนักหนาฟะ ห้องนายไม่ได้แคบขนาดนั้นนะ!!
“นี่!”
ฉันแหวใส่อย่างไม่รู้จะด่ายังไงดีเพราะคนตัวสูงในชุดนอนที่หอม แป้งเด็ก (ทำไมได้กลิ่นแป้งแล้วฉันใจเต้นแรง T_T) กำลังเดินเข้ามาชิดจนฉันต้องถอยหนี และแค่ไม่กี่ก้าวเท่านั้นแผ่นหลังฉันก็ติดกำแพงเย็นเฉียบ ขณะที่อัสยื่นมือมาแตะกำแพงข้างตัว และโน้มหน้าลงมาหาช้าๆ...
“อ... อัส”
“...”
“จะทำอะไรของนายน่ะ!”
ยกมือขึ้นทุบไปที่อกกว้างแต่ถูกรวบมือทั้งสองไว้ที่อกเขาด้วยมือซ้ายของอัสเพียงมือเดียว T0T ฉันหลับตาปี๋ หันหน้าหนีเมื่อรู้สึกถึงลมหายใจที่เป่ารดหน้าผาก ก่อนยินเสียงทุ้มนุ่มกระซิบถามสั้นๆ
“แล้วไอ้จูบเนี่ย มันทำยังไงล่ะ”
O///O ถามบ้าอะไรแบบนี้เนี่ย แล้วฉันจะตอบยังไงล่ะ กรี๊ด!
“สอนฉันทีสิ ^-^”