บทที่ 3
ตราบาป
เรี่ยวแรงขัดขืนนั้นแทบไม่มีเหลือ ความอุ่นร้อนที่เกิดขึ้นเข้ามาพร้อมกับความรู้สึกที่เธอไม่เคยได้รับสัมผัสมาก่อนในชีวิต ราวกับมีสายน้ำมาวนอยู่ในท้องน้อย ก่อนที่คนชั่วจะทิ้งตัวลงนอนข้าง ๆ เธอโดยไม่ได้สติอีกเลย
...พราวฟ้าขยับเขยื้อนไม่ได้ เธอตกใจและยังคงหวาดกลัวว่าคนใจร้ายคนนี้จะลุกขึ้นมาทำมิดีมิร้ายอีก แต่อย่างไรเสียเธอก็ต้องหนีให้ได้ คิดได้อย่างนั้นร่างบางสั่นเทาก็รีบพยุงตัวเองลุกขึ้น เธอมองใบหน้าของคนใจร้าย ความลังเลใจที่จะไปแจ้งความก็เกิดขึ้น ไม่ใช่ว่ายินยอม แต่เธอกลัวว่าจะเป็นเรื่องใหญ่ พลอยทำให้คุณพ่อต้องหยุดงานและสองแม่ลูกใจร้ายจะต่อว่าเธอ
ร่างบางสั่นเทาใส่เสื้อผ้าอย่างยากลำบาก เธอต้องหนีไปจากที่นี่ ต้องไปซื้อยาคุมฉุกเฉินรวมถึงยาต้านไวรัสเอชไอวี ไม่มีเวลามาพร่ำเพ้อเสียใจ หญิงสาวรีบพาร่างกายที่บอบช้ำหนีออกจากโรงแรม
...หลังจากกลับจากร้านขายยาพราวฟ้าก็ตรงดิ่งกลับมาบ้านหลังใหญ่ หญิงสาวได้อยู่ในห้องเก็บของเล็ก ๆ ใกล้กับห้องแม่บ้าน เพราะเธอก็ไม่ต่างจากแม่บ้านสักเท่าไร ซึ่งพ่อของเธอก็ไม่ได้ขัดใจเมียหลวง เพราะท่านเองก็รู้สึกผิดที่นอกใจนอกกายแอบมีบ้านเล็กบ้านน้อย
พราวฟ้ากินยาคุมฉุกเฉินและยาต้านไวรัสหลังมีความเสี่ยงสัมผัสเชื้อเอชไอวี เธอไม่รู้หรอกว่าเขาเป็นใครมีเชื้อเอชไอวีหรือเปล่า แต่คนระยำก็ทำมันให้เกิดขึ้น หญิงสาวต้องเป็นฝ่ายกลับมาป้องกันตัวเอง
สายน้ำไหลอาบกาย ร่างบางเข้ามาอาบน้ำอีกครั้งเพื่อชำระสิ่งสกปรกจากชายแปลกหน้า เขาดูดีเกินกว่าจะเป็นคนบ้ากามข่มขืนผู้หญิง น้อยเนื้อต่ำใจที่แม้นจะแจ้งความจับเขาเธอก็ไม่กล้า
“ฮึก ฮืออ~” น้ำตาหลั่งรินอาบแก้มใส หากว่าไม่ตกอยู่ในสถานะนี้เธอจะไม่ยอมเด็ดขาด หากว่าคุณพิมกับพี่พิชรู้ ก็คงไม่เชื่อและคิดว่าเธอโกหกเรียกร้องความสนใจเหมือนที่ผ่านมาแน่ ๆ
“ฮึก ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย! ทำไม ฮึก ทำไมต้องเป็นฉันด้วย! ฮืออ~” หญิงสาวทิ้งตัวลงร้องไห้กับพื้นห้องน้ำ ยังคงเจ็บที่อวัยวะเพศไม่หาย เธอไม่รู้ว่าทำไมแต่ว่าเขาคนนั้นได้สร้างตราบาปไว้ในใจของเธอเสียแล้ว
เช้าวันต่อมา...
ความปวดหนึบที่ศีรษะเกิดขึ้นกับคนตัวโต กฤตยนัยขยับกายเล็กน้อยก่อนจะเบิกตาโพลงเมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อคืน
พรึ่บ!
“ฉิบหาย...เหี้.ย กูทำอะไรไปวะ” เขายกมือขึ้นทึ้งผมตัวเองจนผมสีดำหนานุ่มกระเซอะกระเซิง กฤตยนัยลุกขึ้นยืนที่ปลายเตียงมองคราบสีแดงบนที่นอนด้วยหัวใจแหลกสลาย รู้สึกผิดจับขั้วหัวใจ
ใบหน้าหล่อเหลาร้อนผ่าวด้วยความละอายต่อบาป ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนลอยเข้ามาในหัวของเขาไม่หยุด เสียงร้องไห้ เสียงกรีดร้องของเธอคนนั้นทำให้เขาทรุดเข่าลงบนพื้นพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมา ร้องไห้ให้กับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ร่างหนาสั่นเทา เขารู้...รู้ว่าสิ่งที่ทำไปมันเลวระยำเกินจะเรียกว่าคน มโนสำนึกของเขาในตอนนั้นมันถูกลดทอนลงเพราะความต้องการทางเพศต่อหญิงสาวที่เขาหมายปอง และขาดความยับยั้งชั่งใจจากความมึนเมา ต่อไปนี้เขาขอลาขาด...
กฤตยนัยกลับมาบ้านหลังใหญ่ของตัวเองในสภาพที่ดูไม่ได้ เสื้อเชิ้ตสีขาวยับยู่ยี่และผมเผ้าที่เรียกได้ว่าพันกันยุ่งเหยิงยิ่งกว่ารังนก พลอยทำให้คุณผู้หญิงของบ้านตกใจ
“ตากฤตย! เกิดอะไรขึ้น!” คุณหญิงแพรวพรรณปรี่เข้าหาบุตรชายเพียงคนเดียวของบ้านด้วยความตกใจ ร่างหนาของลูกชายโผเข้ากอดคนเป็นแม่เช่นกัน
“แม่ครับ อึก แม่...” เขาไม่อยากบอกกับมารดาว่าตนไปทำอะไรมา แม่ของเขาไม่เคยสอนให้ล่วงเกินผู้หญิง มารดาไม่เคยบอกให้เขาทำอะไรที่เป็นการไม่ให้เกียรติผู้หญิง แต่เขาก็ทำมันไปจนได้
“เกิดอะไรขึ้นเหรอลูก มองหน้าแม่ กฤตย! ทำไมไม่สบตาแม่” มารดาประคองใบหน้าของบุตรชายหัวแก้วหัวแหวนขึ้นมา กลิ่นเหล้ายังคงคละคลุ้งในตัวบุตรชาย
“คือผม แม่ครับ...คือผม อึก ผมทำเรื่องไม่ดี”
“เรื่องไม่ดี?”
“อึก ผมข่มขืนผู้หญิงคนหนึ่ง” เขาเอ่ยพูดน้ำเสียงสั่นเครือ เช่นเดียวกับมารดาที่เบิกตากว้างด้วยความตกใจไม่คิดว่าจะได้ยินถ้อยคำเลวร้ายจากบุตรชาย ฝ่ามือเหี่ยวย่นตามอายุยกขึ้นตบใบหน้าของคนเป็นลูกทันที
เพียะ!
“ทำไม อึก ทำไมทำแบบนี้ แล้ว แล้ว...ลูก โอ๊ย~” แพรวพรรณยกมือขึ้นกุมขมับเซถอยหลังคล้ายจะเป็นลม แต่ยังดีที่กฤตยนัยเข้าประคองมารดาไว้ได้ทัน
“ผมขอโทษที่ทำให้ผิดหวังครับ”
“ไม่ คนที่ลูกควรไปขอโทษที่สุดคือผู้หญิงคนนั้น แล้วยังไงต่อ...เธอไปแจ้งความหรือยัง แล้วได้ป้องกันหรือเปล่า” ชายหนุ่มเม้มริมฝีปากให้คำตอบมารดาไม่ได้ เพราะเขาไม่รู้เลยว่าเธอแจ้งตำรวจหรือยัง ตื่นมาก็ไม่เจอเธอแล้ว และเขาก็ละอายเกินกว่าจะบอกว่าไม่ได้สวมเครื่องป้องกัน แถมคราบเลือดบนที่นอนก็บอกกับเขาว่า...ตนได้คร่าความบริสุทธิ์ของผู้หญิงคนนั้นมา มันน่าละอายเกินกว่าจะทำใจรับได้ แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่อยากจะให้อภัยตัวเอง และคิดว่าจะไม่มีวันให้อภัยตัวเองเด็ดขาด