“ท่าทางจะเข้มงวดน่าดู ถึงต้องตรวจบัตรละเอียดซะขนาดนั้น”
อาคิราพึมพำอยู่คนเดียว ขณะทอดสายตามองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหน้าผับ เห็นได้ชัดว่าคนที่เหมาผับแห่งนี้คงเป็นคนสำคัญ ถึงต้องมีการตรวจตรานักท่องเที่ยวทุกคนก่อนจะเข้ามาในผับ
แต่ก็ช่างเถอะ! ใครจะทำอะไร จะเป็นยังไงเธอไม่สนใจทั้งนั้น แค่ปัญหาอันหนักอึ้งอยู่ในหัวสมอง ซึ่งหาทางแก้ไขยังไม่ได้ จนต้องหนีมาภูเก็ตก็หนักหนาสำหรับเธอมากอยู่แล้ว ตอนนี้เธอไม่อยากคิดเรื่องของคนอื่นให้รกหัวสมอง
‘ตะวันต้องแต่งงานเพื่อใช้หนี้ให้พ่อ’
“ฮึ! แต่งงานเพื่อใช้หนี้ เป็นเมียขัดดอกให้กับคนอายุรุ่นราวคราวเดียวกับปู่ มันช่างตลกสิ้นดี”
หญิงสาวเค้นเสียงเยาะหยันโชคชะตาของตัวเอง เมื่อคำสั่งบางประโยคของบิดาแล่นเข้าสู่โสตประสาท แต่งงานเพื่อขัดดอก สิ่งเหล่านี้เธอเคยได้ยินแต่ในนิยาย ทว่าไม่นึกเลยว่าจะต้องมาเจอกับตัวเองในวันนี้
“ต่อให้ต้องตาย ตะวันก็ไม่มีทางทำตามคำสั่งของคุณพ่อ”
อาคิราต้องการให้คำพูดประโยคเหล่านี้ลอยไปถึงผู้เป็นบิดาเหลือเกิน แต่เพราะทุกอย่างไม่เป็นดั่งที่ใจต้องการ เธอทะเลาะกับบิดาจนบ้านแทบพัง สุดท้ายก็ต้องเผ่นหนีมาสงบสติอารมณ์ที่นี่ และมาหาเพื่อนรักเพื่อขอคำปรึกษาด้วย
อาคิรานั่งจิบเครื่องดื่ม ตกอยู่ในความคิดคนเดียวเงียบๆ พยายามนึกคิดว่าบิดาไปติดหนี้ติดสินคนแก่คราวปู่ ที่เธอรู้จักแค่เพียงชื่อว่า อลงกต ได้อย่างไร จึงต้องหาวิธีโละหนี้ด้วยการขายเธอ จนไม่รู้เลยว่าตอนนี้บรรยากาศภายในผับเริ่มครึกครื้น มีเสียงพูดคุยกันดังเซ็งแซ่ขึ้นทุกขณะ อีกทั้งยังไม่รู้เลยว่าตอนนี้บรรดาเสือราตรีหลายคน ต่างก็จ้องมองเธอด้วยความสนใจ สายตาเต็มไปด้วยความหิวกระหาย
แล้วจู่ๆ เสียงพูดคุยกัน เสียงหัวเราะที่ดังขึ้นแข่งกับเสียงเพลงเปิดดังกระหึ่ม ก็มีอันต้องเงียบลง ดวงไฟหลากสีหลายดวงที่เปิดส่องเป็นไฟหมุนอยู่ทั่วผับ ตอนนี้ได้สาดส่องไปยังตัวบุรุษหนุ่มหน้าตาคมเข้มหล่อเหลาระดับนายแบบแถวหน้า ซึ่งกำลังเดินเข้ามาภายในผับด้วยท่วงท่าองอาจ รัศมีของความน่าเกรงขามแผ่ซ่านอยู่รอบตัวบุรุษผู้นี้ จนอาคิราอดสงสัยไม่ได้ว่าเขาคือใครกัน
นอกจากดวงไฟที่จับจ้องไปยังบุรุษผู้นี้แล้ว บรรดาสาวๆ ที่ถูกเรียกมาให้บริการในคืนนี้ รวมทั้งแขกที่ได้รับเชิญ ต่างก็หันไปมอง ให้ความสำคัญกับบุรุษผู้หล่อเหลาเป็นจุดเดียวกัน
“เปิดตัวได้ยิ่งใหญ่ราวกับเจ้าพ่อก็ไม่ปาน”
แม้จะมองเห็นหน้าของบุรุษผู้นี้ไม่ชัดนัก กระนั้นอาคิราก็อดไม่ได้ที่จะเหน็บแนมเพราะความหมั่นไส้
“คนนี้หรือเปล่า ที่เหมาผับในคืนนี้ ใบเฟิร์นถึงต้องออกมาต้อนรับด้วยตัวเอง”
อาคิราเอ่ยถามอยู่คนเดียว ขณะทอดสายตามองเพื่อนสาวที่รีบเอาดอกไม้ไปบุรุษผู้นั้นด้วยท่าทีนอบน้อม หญิงสาวจ้องมองการต้อนรับขับสู้คนสำคัญอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็เลิกให้ความสนใจชายคนดั่งกล่าว นั่งจิบเครื่องดื่มและใช้ความคิดสำหรับการแก้ปัญหาของตนเองต่อไป โดยไม่รู้เลยว่าการที่เธอไม่ได้ออกไปต้อนรับเหมือนที่สาวๆ คนอื่นกำลังทำอยู่ ได้สร้างความสนใจให้กับเจ้าแห่งทะเลทรายเป็นยิ่งนัก
ชีคอัลมัสเต็มไปด้วยความพึงพอใจเมื่อได้เห็นสถานที่จัดงานเลี้ยงฉลองสละโสดของพระองค์ แม้ผับแห่งนี้จะไม่ได้หรูหราระดับห้าดาวเหมือนในรัฐคาลาห์ซึ่งเป็นผับประจำที่พระองค์มักจะไปผ่อนคลายความเคร่งเครียด ทว่าผับแห่งนี้ก็มองดูสะอาดสะอ้าน กว้างขวาง สมกับเป็นผับดังของหาดภูเก็ต
พันธิสา หรือ ใบเฟิร์น เจ้าของผับนำพวงมาลัยดอกมะลิมาถวายการต้อนรับชีคอัลมัส และขณะย่อตัวยื่นพวงมาลัยให้พระองค์ ก็เอ่ยต้อนรับเสียงสั่นเพราะความน่าเกรงขามของเจ้าแห่งทะเลทรายพระองค์นี้
“เดอะบีชผับยินดีต้อนรับท่านชีคเพคะ”
ชีคอัลมัสเอื้อมพระหัตถ์ไปหยิบพวงมาลัยดอกมะลิหอมชื่นใจมาถือไว้ ก่อนจะถามคนที่ยืนตัวสั่นอยู่ตรงหน้าพระองค์
“ไม่มีคนนอกเข้ามาในผับใช่ไหม”
สุรเสียงห้วนทรงอำนาจที่ตรัสถามออกมา กอปรกับดวงเนตรคมกริบซึ่งจ้องมองเขม็งมายังตัวเธอ ทำเอาพันธิสาหายใจไม่ทั่วท้อง เอ่ยตอบเสียงตะกุกตะกักฟังแทบไม่รู้เรื่อง
“เพ...เพคะ...ไม่มีใครเข้ามาแน่นอน...เพคะ”
ชีคอัลมัสพยักพระพักตร์รับรู้ จากนั้นก็โบกพระหัตถ์ไล่ผู้เป็นเจ้าของผับ พอหญิงสาวเดินออกไปแล้ว ก็กวาดดวงเนตรมองรอบๆ บริเวณผับ และก็สะดุดดวงเนตรกับผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งนั่งจิบเครื่องดื่มโดยไม่สนใจลุกมาให้การต้อนรับพระองค์เหมือนสาวบริการคนอื่นๆ สร้างความโกรธกริ้วให้กับพระองค์ยิ่งนัก
“ทำไมหญิงบริการคนนั้นไม่มาต้อนรับเรา”
ทรงตรัสถามสุรเสียงห้วนเต็มไปด้วยความไม่พอใจ ดวงเนตรยังจ้องมองไปยังหญิงสาวผู้นั้นเขม็ง ซึ่งพระองค์สามารถมองเห็นแค่เพียงแผ่นหลัง และเส้นผมยาวดำขลับมาเกือบถึงเอวคอดกิ่วของเธอเท่านั้น
องครักษ์มาริสส์รีบทอดสายตามองตามดวงเนตรของเจ้าเหนือหัวที่ยังคงจ้องมองเขม็งไปตรงหน้า พอรู้ว่าพระองค์กำลังจับสายตามองใครอยู่ ก็รีบเอ่ยบอกพร้อมกับทำท่าจะก้าวไปหาผู้หญิงคนนั้น
“เดี๋ยวกระหม่อมจะไปจัดการเธอเองพ่ะย่ะค่ะ”
“ไม่ต้อง มาริสส์” ชีคอัลมัสตรัสห้าม ก่อนจะเค้นสุรเสียงลอดไรฟัน ให้องครักษ์หนุ่มต้องรู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ แทนหญิงสาวผู้นั้น
“รับเงินค่าตัวไปแล้ว แต่ลักไก่ไม่ยอมทำหน้าที่บริการแขก เดี๋ยวเราจะเป็นคนสั่งสอนหญิงสาวคนนั้นด้วยตัวของเราเอง”
ตรัสคาดโทษทัณฑ์หญิงสาวที่พระองค์เห็นแค่เพียงแผ่นหลังไปแล้ว ชีคอัลมัสก็หันไปให้ความสนใจกับสหายของพระองค์ ซึ่งต่างก็เข้ามาแสดงความยินดีกับการสละโสดของพระองค์ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
ปาร์ตี้สละโสดของเจ้าแห่งทะเลทรายผู้ยิ่งใหญ่ ผ่านไปหลายชั่วโมงและเต็มไปด้วยความสนุกสนาน แต่ใช่ว่าขณะกำลังสำราญอยู่กับงานเลี้ยงและสาวๆ ที่รายล้อมอยู่รอบกาย แล้วชีคอัลมัสจะลืมหญิงสาวที่พระองค์คาดโทษไว้ ดวงเนตรดำขลับเป็นสีนิล คอยจับจ้องมองไปยังหญิงสาวเป็นระยะ รอเวลาอันเหมาะสมที่เจ้าแห่งทะเลทรายจะไปสั่งสอนเธอก็เท่านั้นเอง