นั่งทำงานไปสักพัก ผอ.หนุ่มเห็นว่าเงียบผิดปกติสำหรับคนอย่างทับทิมจึงหันไปดู พบคนตัวเล็กนอนหลับบนโซฟาตัวยาวเรียบร้อย
มองดูนาฬิกาพบว่าตอนนี้เป็นเวลาหนึ่งทุ่ม อีกนิดเดียวก็เสร็จเขาจึงเก็บไว้ก่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยมาทำต่อ
เก็บของให้เรียบร้อยแล้วเดินไปปลุกทับทิม
"ทับทิม" มือหนาวางบนแขนเรียวแล้วเขย่าเบาๆ ให้คนตัวเล็กตื่น
ทับทิมมีท่าทางงัวเงีย เปิดเปลือกตาขึ้นมอง
"ผอ.ขา.."
"กลับบ้านกันครับ"
"ค่ะ" หญิงสาวพยักหน้า ทว่าสองแขนยกขึ้นหาคนตัวโต "อุ้มหน่อยได้ไหมคะ"
ธรรศภาคย์ส่ายหัว
"เดี๋ยวใครมาเห็นครับ"
"ดึกขนาดนี้มีแค่รปภ.หน้าวิทยาลัยเองค่ะ นะคะ อุ้มหนูหน่อยน้า.. อุ้มเด็กของผอ.หน่อยค่ะ"
ธรรศภาคย์ถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะเดินไปปิดแอร์แล้วเปิดประตูห้องค้างเอาไว้
เดินกลับมาช้อนคนตัวเล็กขึ้นในท่าเจ้าสาว ทำเอาทับทิมยิ้มกว้างซบหน้าไปกับอกแกร่ง
ผอ.ภาคย์น่ารักจังเลย ปฏิเสธเธอมาแล้วแต่กลับยอมตามใจ แบบนี้จะไม่ให้รักให้หลงเขาได้ยังไงกัน
วันหนึ่งมียี่สิบสี่ชั่วโมงแต่อีทับทิมหลงผอ.ภาคย์ไปแล้วสามสิบชั่วโมง
หลงเกิ๊น!
"ปิดไฟให้ด้วยครับ"
พยักพเยิดหน้าให้ทับทิมปิดไฟ หญิงสาวก็ทำตาม ก่อนที่เขาจะใช้ไหล่ดันประตูปิดกลับเดินไปยังลิฟต์ผู้บริหาร
ทับทิมวางใบหน้าซุกลงกับอกอุ่นอีกครั้ง เลขสี่แล้วแต่ยังแข็งแรงอยู่เลยนะเนี่ย อุ้มเธอได้หน้าตาเฉยแบบไม่แสดงอาการว่าเหนื่อยเลย
ไม่อยากคิดหากถึงเวลานั้น หากเขาอุ้มเตงเธอขึ้น อิอิ คงจะดุดันน่าดู
ผอ.หนุ่มพาเด็กเลี้ยงของตัวเองเดินออกจากลิฟต์ไปวางในรถเมื่อเรามาถึงชั้นล่างกันแล้ว ก่อนจะเดินอ้อมไปยังอีกฝั่ง ดึงเข็มขัดนิรภัยมาคาดให้ตัวเองแล้วออกรถ
แต่พอเห็นทับทิมนั่งนิ่งเหมือนจะหลับอีกรอบ จึงเทียบรถจอดข้างทางแล้วโน้มตัวไปดึงเข็มขัดนิรภัยมาคาดให้คนตัวเล็ก
ทับทิมยิ้มกว้าง สองแขนโอบรอบคอเขาแล้วโน้มใบหน้าขึ้นไปหอมแก้มคนตัวโต
"ขอบคุณนะคะที่ดูแลหนู"
"หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาผมกลัวผีครับ"
บอกกึ่งดุ จะอ่อยก็ช่วยดูสถานการณ์ด้วย เพราะแน่นอนหากมันเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาเขาคงรอด แต่ทับทิมคงกระเด็นออกนอกรถ
โอ้ว..ปากร้ายมาก แต่ไม่เป็นไรอีทับทิมชอบ อิอิ
ขับรถไปได้สักพักก็มาหยุดลงที่หน้าบ้านของทับทิม แต่คนตัวเล็กยังไม่อยากลงจากรถ ถอดรองเท้าแล้วปีนขึ้นไปนั่งคร่อมบนตักของผอ.ภาคย์อย่างทุลักทุเล
รถของเขามันนั่งสะดวกสบายก็จริง แต่เมื่ออยู่ในท่านี้มันดูคันเล็กมาก หัวเธอจะชนหลังคารถอยู่แล้ว
สองแขนกอดเอวสอบของเขา ใบหน้าวางซบลงที่อกแกร่ง จนเจ้าของรถต้องหรี่ไฟหน้ารถลงไม่ให้ไปแยงตาคนใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ
"ยังไม่อยากให้ผอ.กลับเลยค่ะ"
ธรรศภาคย์มองลงที่คนตัวเล็กพูดอู้อี้อยู่กับอกตัวเอง ก่อนจะมองเข้าไปในบ้านของทับทิม มืดอีกแล้ว ทุ่มนึงแล้วนะทำไมที่บ้านยังไม่เปิดไฟอีก
"ผมก็อยากกลับไปพักผ่อนเหมือนกันครับ"
"หนูเข้าใจค่ะ แต่หนูเหงานี่นา" กอดเอวสอบแน่นราวกับกลัวว่าเขาจะหายไป ทั้งที่เขาก็นั่งให้เธอกอดอยู่ตรงนี้ แต่เธอใจหายไว้รอแล้ว
"แล้วคนที่บ้านคุณล่ะครับ" สงสัยก็ถาม เขาอยากรู้ว่าที่บ้านของทับทิมมีใครอยู่บ้าง
"ไม่อยู่ค่ะ"
"ทั้งพ่อและแม่เลย?"
"แค่แม่ค่ะ พ่อหนูเสียแล้ว"
ธรรศภาคย์นิ่งไป มิน่าทับทิมถึงบอกเขาอบอุ่นเหมือนพ่อ
"แล้วแม่ของคุณจะกลับมาตอนไหนครับ"
"ไม่แน่ไม่นอนค่ะ บางครั้งก็เช้า บางครั้งก็ไม่กลับมา" ทับทิมเอ่ยแล้วเม้มปาก "ล่าสุดสามวันเพิ่งเห็นหน้าเมื่อวานค่ะ"
ประโยคของทับทิมทำเอาคนที่มาส่งมองลงที่คนตัวเล็กนิ่ง ทับทิมหมายความว่ายังไง หากเขาถามว่าแม่ของเธอไปไหนมันจะเสียมารยาทไหม
"ผอ.เข้าไปดื่มน้ำในบ้านหนูไหมคะ บ้านหนูมีน้ำเย็นๆ ให้ดื่มน้าาาา"
ผละออกมองสุดที่รักของเธอด้วยรอยยิ้ม ผู้ชายคนแรกเลยนะเนี่ยที่เธอชวนเข้าบ้าน
"ไม่ดีกว่าครับ บ้านผมก็มีน้ำเย็น"
"งั้นลงไปนั่งเล่นสักชั่วโมงสองชั่วโมงก่อนก็ได้ค่ะแล้วค่อยกลับ หนูคิดถึง อยากอยู่กับผอ."
"ผมเหนื่อยครับอยากนอนเอนหลัง"
"งั้นหนูนวดให้ไหมคะ ไปค่ะ เข้าไปนอนในบ้านกันหนูจะนวดให้"
"ไม่ต้องครับ แค่ได้นอนเฉยๆ ผมก็หายเหนื่อยแล้ว คุณเข้าบ้านเถอะ"
"งั้นหนูขอไปนอนด้วยได้ไหมคะ"
"ทับทิม ลงไปได้แล้วครับ"
คราวนี้เอ่ยเสียงดุ ต้องให้เขาขึ้นเสียงก่อนอยู่เรื่อยเลย
"งั้นขอจูบลาได้ไหมคะ"
เอ่ยพร้อมส่งสายตาปริบๆ ถ้าไม่ได้จูบตอนนี้อีทับทิมคงนอนไม่หลับแน่ และหวังว่าผอ.ภาคย์คงไม่ใจร้ายเกินไป
"ครับ"
ธรรศภาคย์พยักหน้าเบาๆ ทำเอาทับทิมยิ้มกว้าง
แล้วริมฝีปากหยักก็ถูกปากนุ่มนิ่มของคนตัวเล็กประกบลงมา ไม่แค่นั้นยังสอดลิ้นร้อนเข้ามาข้างในโพรงปากเขา เกี่ยวกระวัดรัดเอาลิ้นสากขณะที่เขาก็ปล่อยให้เธอทำ
ทับทิมส่งเสียงครางในลำคอออกมาเป็นระยะ กลิ่นกายของเธอปะปนมากับลมหายใจอุ่นๆ
ครั้งแรกเขาคิดว่าตัวเองต้องไม่โอเคหากเราต้องแลกน้ำลายกับคนอื่น แต่มันไม่ใช่ กับทับทิมเขาไม่ได้มีความรู้สึกนี้เลย
อยากจูบก็จูบ อยากให้กลืนก็จะกลืน
ในเมื่อเธออยู่ในสถานะเด็กเลี้ยงของเขาก็ย่อมพิเศษมากกว่าคนอื่นๆ ที่เดินผ่านกันไปมา
แต่เขาให้ได้แค่นี้
หากต้องมีอะไรกันจริงๆ คนคนนั้นต้องเป็นแฟนเขาเท่านั้น เขาจะไม่กินใครมั่วซั่ว
แม้แต่ทับทิมเองก็เถอะ ถึงจะเป็นเด็กเลี้ยง เธอยังไม่ใช่แฟน เขาก็จะไม่มีอะไรกับเธอ
ทับทิมผละออกเมื่อได้จูบเขาจนรู้สึกพึงพอใจแล้ว ถึงเขาจะยังไม่ได้ตอบโต้ แต่เขาก็ไม่ได้ห้ามเธอ
"ขอบคุณที่มาส่งหนูนะคะสุดหล่อ"
นิ้วโป้งลูบไล้แก้มของผอ.หนุ่มเบาๆ ถึงจะมืด แต่ก็พอมองเห็นใบหน้าหล่อเหลาได้บ้าง
น้ำลายของเธอยังติดอยู่บนริมฝีปากหยัก ทำให้เธอรู้สึกพอใจไม่น้อยที่เขาไม่เช็ดออก แต่เป็นฝ่ายโน้มเข้าไปเลียทำความสะอาดให้จนหมดเอง เจ้าของร่างกายก็ปล่อยให้ทำ
"หนูรักผอ.มากนะคะ"
บอกแล้วหอมแก้มทั้งสองข้างฟอดใหญ่ ก่อนจะปีนกลับไปฝั่งของตัวเอง สวมรองเท้ากลับแล้วเดินลงจากรถ โบกมือให้คนที่มาส่งก่อนที่เขาจะขับออกไป
ทั้งรู้สึกดีใจและใจหายแปลกๆ เดินเข้าบ้านด้วยความรู้สึกอ้างว้างโดดเดี่ยวไปเปิดไฟอีกวัน
'แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู'
'แฮปปี้เบิร์ดเดย์ แฮปปี้เบิร์ดเดย์ แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู'
'สุขสันต์วันเกิดเด้อลูก พ่อขอให้อีหล่ามีสุขภาพร่างกายแข็งแรง เรียนหนังสือเก่งๆ เป็นคนดีของพ่อของแม่เด้อลูก'
(สุขสันต์วันเกิดนะลูก พ่อขอให้ทับทิมมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง เรียนหนังสือเก่งๆ เป็นคนดีของพ่อแม่นะลูก)
'แม่กะขอให้ทิมมีความสุขคือกันเด้อลูก เป็นความภูมิใจของพ่อกับแม่แบบนี้ไปตลอดเด้อ'
(แม่ก็ขอให้ทิมมีความสุขเหมือนกันนะลูก เป็นความภูมิใจของพ่อกับแม่แบบนี้ไปตลอดนะ)
น้ำตาเม็ดเล็กร่วงเผาะลงบนเสื้อนักศึกษา และใช่ วันนี้เป็นวันเกิดของเธอ
ภาพจำของทุกปีตั้งแต่พ่อยังไม่เสีย กลับถึงบ้านมีพ่อกับแม่แอบถือเค้กจุดเทียนในบ้านเอามาเซอร์ไพรส์
แต่พอพ่อจากไป ไม่มีแล้วเหตุการณ์แบบนั้น วันเกิดเธอเงียบเหงาทุกปี และปีนี้ก็คงเป็นอีกปีที่ไม่มีเซอร์ไพรส์อะไร
ทว่าทับทิมกลับสะดุดสายตาไปกับอะไรบางอย่างบนโต๊ะกินข้าว เขยิบเข้าไปดูใกล้ๆ เป็นการ์ดสีชมพูใบหนึ่งกับเงินแบงก์สีเทาจำนวนหนึ่งวางอยู่ด้านบน ทับทิมหยิบการ์ดมาเปิดออกดู
'สุขสันต์วันเกิดเด้อลูก ปีนี้ลูกสาวแม่อายุ19ปีแล้ว แม่กะขอให้ทิมมีความสุขหลายๆ แม่ขอโทษที่บ่ได้อยู่ถ่าจนอีหล่ากลับมา แต่จังใด๋แม่กะฮักอีหล่าคือเก่า เพราะทิมคือลูกสาวของแม่'
(สุขสันต์วันเกิดนะลูก ปีนี้ลูกสาวแม่อายุ19ปีแล้ว แม่ก็ขอให้ทับทิมมีความสุขมากๆ แม่ขอโทษที่ไม่ได้อยู่รอจนทับทิมกลับมา แต่ยังไงแม่ก็รักทับทิมเหมือนเดิม เพราะทิมคือลูกสาวแม่)
#เค้กอยู่ในตู้เย็นเด้อลูก แม่ย่านมันบูด (#เค้กอยู่ในตู้เย็นนะลูก แม่กลัวมันเสีย)
ทับทิมรีบเดินไปเปิดตู้เย็นออกดู ก่อนจะร้องไห้โฮออกมา ดีใจที่แม่ไม่ได้ลืมวันเกิดของเธอ ปีนี้แม่คงกะเซอร์ไพรส์ แต่เป็นเธอเองที่ไม่รีบกลับบ้าน
"แม่..ทิมขอโทษ"
เอ่ยเสียงสั่นๆ พร้อมน้ำตาไหลพรากลงมา เธอเข้าใจแม่ตัวเองผิดไปหมดเลยว่าอีกฝ่ายคงลืมไปแล้ว