รสนิยมนิสาแปลกๆ เธอไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่น สาวๆ มักจะไม่พอใจถ้ามาร้านอาหารที่ไม่มีแอร์คอนดิชั่น ร้านเปิดโล่งอาหารก็ธรรมดาราคาไม่แพง รูปแบบไม่หรูหรา เหมือนนั่งทานตามร้านอาหารชื่อดังบนโรงแรมห้าดาว
แต่เจรามี่ชอบบรรยากาศแบบนี้ เพราะมันดูเป็นธรรมชาติและไม่มีกลิ่นอาหารติดเสื้อ อาหารก็อร่อยถูกปาก ตอนที่มาแข่งรถคนในทีมพามากินบ่อยๆ อาหารรสจัดจนเหงื่อไหล แต่ก็อร่อยมากๆ จนเขาติดใจ ชายหนุ่มทรุดนั่งใกล้ๆ นิสาจึงขยับเก้าอี้ออกห่างๆ ไปนิดหน่อย เธอย่นจมูกใส่เมื่อได้กลิ่นบุหรี่ที่โชยมาเตะจมูก
“เหม็นอ่ะ ออกไปนั่งไกลๆ เลย นั่งฝั่งโน้นก็ได้ค่ะ” เจรามี่ยกเสื้อพิสูจน์กลิ่น เขาได้กลิ่นน้ำหอมชื่อดังที่ติดอยู่ตามร่างกาย
“ไม่เห็นเหม็นเลย ไม่เชื่อลองดมดูสิครับ” ชายหนุ่มยื่นหน้าเขาไปใกล้ๆ พร้อมกับเอ่ยปากท้าทาย มีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์แต้มติดมุมปาก
ชายหนุ่มอมยิ้มหลุบเลือกตาลงมองแก้มใสๆ ที่ขึ้นสีแดงจัด นิสาอยากจะผละออกห่าง แต่ก็กลัวว่าจะเสียเชิง เธอจึงยังคงนั่งนิ่งๆ ทั้งที่หัวใจเต้นรัว มันไม่ได้เหม็นจนทนไม่ไหวเหมือนที่เธอแค่นว่าหรอก มีกลิ่นหอมอ่อนๆ รวยรินออกมาจากร่างกายเขา ซึ่งเจรามี่เองก็ได้กลิ่นหอมละมุนของนิสาเช่นกัน เขาตัดใจถอยหลัง หยัดกายลุกขึ้นยืนแล้วเดินอ้อมไปนั่งฝั่งตรงข้ามเงียบๆ
“เห้อ...” นิสาถอนหายใจแรงๆ เกือบไปแล้วไหมล่ะ!!
เจรามี่นั่งมองนิสาเงียบๆ วางแผนในใจคร่าวๆ เขา อยากจบเรื่องนี้เสียที ชายหนุ่มยิ้มเยาะ ผู้หญิงยังไงก็เป็นผู้หญิวันยังค่ำ แค่ล่อลวงผู้หญิงคนหนึ่งมันไม่ใช่เรื่องอยากสำหรับคาสโน่ว่าอย่างเขาเลย
เขากวาดตามองไปรอบๆ ตัว ยกมือเรียกเด็กชายตัวน้อยที่หิ้วตะกร้าดอกไม้เข้ามา เด็กคนนั้นยิ้มกว้างเดินเร็วๆ เข้ามาหาทันใด เจรามี่ทอดสายตามองดอกกุหลาบที่มีอยู่เต็มตะกร้า เขายิ้มให้เด็กน้อยตอนที่ยื่นมือไปหยิบดอกกุหลาบดอกใหญ่ดอกหนึ่งออกมาจากตระกร้าใบนั้น
“ผมเอาทั้งหมดแน่แหละ ช่วยบอกเด็กคนนี้แทนที”
ชายหนุ่มแน่ใจ เด็กน้อยตรงหน้าไม่เข้าใจคำพูดของเขาแน่ๆ เจรามี่จึงหันไปบอกนิสา
นิสาเบิกตาโตเธอแปลกใจนิดๆ ผู้ชายตรงหน้าจะขนซื้อดอกกุหลาบไปทำไมมากมาย แต่เมื่อมองแววตาเด็กชาย หญิงสาวจึงไม่รีรอที่จะบอกให้เขาดีใจ นั่นมันหมายถึง เขาจะขายดอกไม้ทั้งหมดได้ในครั้งเดียว
ชายหนุ่มส่งธนบัตรสีเทาให้เด็กชาย เขาไม่ได้นับจำนวน แต่คิดว่าน่าจะมากกว่ามูลค่าของดอกไม้ทั้งตระกร้า
“มันเยอะไปครับ ผมไม่กล้ารับไว้หรอก” เด็กน้อยมีสีหน้าลำบากใจ เมื่อจำนวนเงินที่ได้รับมากกว่าราคาของ
“พี่ชายใจดีเขาให้ รับไว้เถอะจ้ะ...” นิสาตอบพร้อมกับยิ้มๆ
“ขอบคุณครับ...” เด็กน้อยยกมือขึ้นพนมไหว้ด้วยความดีใจ
“แฟนพี่ใจดีจังครับ หล่อก็หล่อแถมยังยังใจดีอีก ขอให้พี่ทั้งสองคนรักกันนานๆ นะครับ” เด็กชายโบกมือลาแล้วจึงเดินจากไปพร้อมยิ้มเต็มหน้า
นิสาวางดอกไม้กองใหญตรงหน้าเจรามี่เธอยิ้มละไม แววตาสดใส ชายหนุ่มไม่คิดเสียดายสตางค์ เพราะการลงทุนครั้งนี้กลับซื้อรอยยิ้มจริงใจจากหญิงสาวตรงหน้าได้
พนักงานเริ่มทยอยยกอาหารมาเสิร์ฟ ชายหนุ่มมองอาหารบนโต๊ะยิ้มๆ เมนูที่เขาคุ้นเคยและเคยลิ้มลองมาก่อน
“ทานสิคุณ จะได้รีบกลับ เดี๋ยวกลับไม่ทันเวลาทำงานนะ” นิสากระตุกยิ้มมุมปาก ไม่ได้ตอบอะไร เธอเริ่มต้นรับประทานอาหารตรงหน้าเงียบๆ
คอยชำเลืองมองเจรามี่เป็นระยะ แล้วก็ต้องรีบกลั้นยิ้มไว้ เมื่อเห็นเม็ดเหงื่อที่ผุดซึมออกมาที่หน้าผากและไรผมของเจรามี่ ชายหนุ่มยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นซับเหงื่อบ่อยๆ เขามองอาหารที่วางตรงหน้าอย่างแปลกใจ รสชาติไม่เผ็ดร้อนแบบนี้ เขาไม่ไหวเหมือนกัน
เขาสังเกตเห็นนิสายิ้มแปลกๆ คงจะโดนหญิงสาวแกล้ง จึงฝืนรับประทาน แต่ระวังมากขึ้น แค่น้ำต้มยำสีจัดจ้าเข้าไปช้อนเดียวปากยังรู้สึกเหมือนถูกไฟไหม้ อาหารมื้อนี้คงไม่ปลอดภัยกับเขาแล้วล่ะ
“ขอไข่เจียวหมูสับกับผัดผักรวมมิตรนะครับ” ชายหนุ่มจึงเรียกพนักงานมาสั่งอาหารชุดใหม่ ที่น่าจะปลอดภัยกว่าการฝืนกินต่อ
เขาเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ ยกมือขึ้นกอดอกไว้ แล้วทอดสายตามองนิสานิ่งๆ เร่งคิดหาวิธีแก้ลำ เพื่อปรามความลำพองของผู้หญิงตรงหน้า
ไม่มีคำพูดระหว่างมื้ออาหาร นิสาพยายามเก็บปาก เก็บอาการ ยกแรกเธอชนะ และในยกต่อๆ ไป เจรามี่ก็คงไม่มีโอกาสชนะได้แน่ หากเธอยังคงคุมเกม และกำหนดทิศทางด้แบบวันนี้
เมื่อจัดการอาหารในจานจนหมด นิสาคำนวณราคาอาหารตรงหน้า เธอเปิดกระเป๋าส่งสตางค์ให้เขา ชายหนุ่มรับธนบัตรมาเงียบๆ เขาไม่ได้โวยวายหรือโต้แย้ง หลังเคลียร์ค่าอาหารจบ เขาและเธอก็เดินทางกลับ
นิสานั่งเงียบตลอดทาง และสารถีคนขับก็เงียบเช่นกัน ใกล้ถึงสถานที่ทำงาน ชายหนุ่มจอดรถข้างทาง ปลดสายรัดเซฟตี้เบลท์แล้วหันมาเผชิญหน้ากับนิสา
ปากหนาหยักเม้มแน่น ก่อนจะโน้มตัวเข้าไปใกล้ เขาจูบนิสาเร็วๆ แบบไม่ให้เธอตั้งตัวทัน เรียวปากสีเข้มปิดทับปากเรียวบาง ซอกซอนปลายลิ้นไปทั่วๆ
“อื้อ...”
หญิงสาวคางประท้วง เธอพยายามขืนตัวไว้ แต่ความหวานล้ำที่ได้รับทำเอาหลงเพลิดเพลิน จนไม่สามารถควบคุมความต้องการไว้ได้ หมดแรงไปดื้อ ร่างกายสั่นสะท้าน เสียวสยิวไปทั้งตัว
ปลายลิ้นสากๆ เลาะเล็ม พิสูจน์ความหวานหอมทั่วทั้งโพรงปาก พร้อมทั้งดูดดึงเหมือนกับจะกักเก็บความหวานในปากของนิสาไว้ทั้งหมด เขาดูดซับเสียงกระอึกกระอัก มือร้อนๆ เริ่มสำรวจร่างบางตรงหน้าจนหญิงสาวสะท้านไหวไปกับสัมผัสร้อนรุ่มที่ได้รับ อกใจเต้นไหวระรัว หอบหายใจดังๆ รู้สึกวูบวาบเหมือนโดนนาบด้วยเปลวไฟที่ร้อนจัด เธออยากจะผลักเขาออกห่าง แต่ก็อ่อนแรงเต็มทน ที่ทำได้ก็แค่ยกมือขึ้นกันไว้ ไม่ให้ร่างกายแนบชิดกันมากไปกว่านี้
เปลือกตาหลุบลง อาการดิ้นรนแรกเริ่มเหือดหาย เจรามี่บดปาก ปล้นจูบช้าๆ จนกระทั่ง...เมื่อเขาถอนปากพรมจุมพิตไปที่นวลแก้ม เขาสัมผัสได้ถึงความเปียกชื่นที่มีรสเค็มปะแหล่มๆ ชายหนุ่มดันตัวผละห่างเขาใช้ปลายนิ้วเกลี่ยรอยน้ำตาให้อย่างอ่อนโยน
นิสานั่งตัวแข็ง เธอปล่อยให้ชายตรงหน้าเช็ดน้ำตาที่ไหลปรี่ออกมาเงียบๆ เรียวปากสีระเรื่อขึ้นสีจัด เธอได้ยินเสียงถอนหายใจแรงๆ ก่อนที่เสียงสตาร์ทรถยนต์จะดังขึ้น
รถยนต์ชลอความเร็วลดลงเมื่อใกล้ถึงโรงแรม Grand Hotels.
“จะให้จอดที่เดิม หรือที่โถงหน้าโรงแรมดีครับ”
นิสาสะดุ้งสุดตัว!! เธอหลุดออกมาจากภวังค์ ก่อนจะตอบเสียงแผ่วๆ
“จอดที่เดิมก็ได้ค่ะ”
เจรามี่อมยิ้ม เขาพอใจนิสาตอนนี้มากกว่าเสียอีก เขาไม่ชอบผู้หญิงที่พยศหนัก หากคนตรงหน้านุ่มนิ่มแบบนี้ ตลอดไปคงดี
นิสาขยับตัวเตรียมลงจากรถยนต์เมื่อรถยนต์จอดสนิทดี เจรามี่เอื้อมมือมารั้ง เขาหยิบดอกกุหลาบที่ซื้อมาทั้งหมด ยัดใส่ในมือนิสา “เอานี่ไปด้วย”
เสียงพูดรัวเร็ว จนนิสาปฏิเสธไม่ทัน เมื่อถูกดันเบาๆ นิสาเลยจำใจรับของที่เขายัดเหยียดให้มาทั้งหมด เดินลงจากรถหรูแบบเซ็งๆ
เธอเดินถือช่อดกอกุหลาบเข้าไปในที่ทำงาน
“โอ้โห!! หนุ่มที่ไหนเหมาสวนกุหลาบให้เธอหน่ะนิสา?”
นิสารีบปฏิเสธ “เขาเหมาดอกไม้เพราะสงสารเด็กหน่ะ ไม่เกี่ยวกับนิสาเลย”
“เหรออออ...คงไม่หวงใช่ไหม หากอรจะขอมาปักแจกันบ้าง”
อรอุมาขอดอกไม้ของนิสา เพราะอยากจะลองใจ เธอยิ้มกริ่ม เมื่อคนไม่หวงของ จำใจยื่นดอกไม่ที่ไม่สำคัญให้เพื่อนร่วมงาน
“แบ่งเอาไปสิ...เก็บไว้ก็เหี่ยวเปล่าๆ” นิสายื่นดอกไม้ในมือให้กับอรอุมา ถ้าไม่ให้ก็คงไม่แคล้วถูกแซวไม่จบ จึงตัดใจตัดรำคาญยกให้อรอุมาไป
“สาวๆ จ๋า ใครอยากได้กุหลาบสวยๆ ไปเสียบแจกันบ้าง มาเอาไปได้เลย”
นิสากะพริบเปลือกตาปริบๆ มองเพื่อนร่วมงานคนอื่นที่เดินมาหยิบดอกไม้จากมืออรอุมาคนละดอกสองดอกด้วยความเสียดาย
ดอกกุหลาบช่อใหญ่ก็เหลือไม่ถึงครึ่ง ดอกโตๆ ถูกเพื่อนบางคนเลือกไป ที่เหลืออยู่ไม่ช้ำ ก็ดอกเล็กๆ เธอรีบเก็บอาการ ‘หวง’ อย่างรวดเร็วกลัวว่าจะโดนแซวจากเพื่อนๆ อีก นิสามองตามมือของเพื่อนพนักงานไปอย่างเสียดาย เธอสะบัดหน้าใส่อรอุมา เพราะเพื่อนตัวดีแท้ๆ ทำให้เธอสูญดอกไม้ไปเกือบครึ่ง อรอุมาหลิ่วตาให้พร้อมกับยิ้มยั่ว ประชาสัมพันธ์สาวสวยเลยเดินเข้าไปนั่งประจำที่ พยายามไม่มองช่อดอกไม้ที่วางไว้ข้างตัว