ขี้อ้อน

1317 คำ
"อัญชรวีร์ งานของอาจารย์ที่ให้ส่งวันนี้หวังว่าคงทันนะครับ เพราะถ้าไม่ส่งวันนี้ผมจะต้องหักคะแนนคุณ ถ้าเหลดจากวันนี้ผมไม่รับแล้วนะครับ ไม่ทราบจะส่งได้มั้ย" เจ้าหมอนี่มากวนโมโหฉันตั้งแต่เช้า “ค่ะอาจารย์ ฉันจะส่งให้ทันภายในวันนี้แน่นอนค่ะ” ฉันปรายตามองเขาแบบไม่สนใจไยดี แล้วก็กำลังจะเดินไปกับกลุ่มเพื่อนที่เดินมาด้วยกัน เขายกยิ้มขึ้นมานิดหน่อย อารมณ์และความมั่นใจในตัวเองมีมาเต็ม เหอะๆ “อ้อ แล้วถ้าไม่เข้าใจหรือติดตรงไหนช่วงพักสามารถไปหาอาจารย์เป็นการส่วนตัวได้ที่ห้องภาคนะครับ” เขายักคิ้วและยกยิ้มร้ายกาจกวนบาทาฉันไม่หยุด เกลียดขี้หน้าชิบ “ไม่รบกวนดีกว่าค่ะ” ฉันพูดแล้วสะบัดตูดเดินหนีมาเลย หมอนี่จะไม่เลิกตอแยฉันจริงๆ ใช่มั้ย เหมือนสนุกกับการมองปฏิกิริยาของฉันมากอ่ะ ฉันรีบเดินจ้ำอ้าวออกมาจากตรงนั้น “เห้ยมึง กูนึกว่ามึงจะดีใจที่ได้เจอเขาอีกครั้ง” น้ำเสียงสำนึกผิดของเพื่อนรักฉันชมพู่ “นั่นสิ พวกกูขอโทษที่คะยั้นคะยอมึงโดยไม่ได้คิดถึงความรู้สึกของมึงสินะ” เสียงมีนเพื่อนอีกคนพูดด้วยความรู้สึกผิดเช่นกัน “ไม่เป็นไรพวกมึงกูรู้ว่าพวกมึงหวังดี แต่กูโอเคขึ้นมากแล้ว เรื่องมันนานมากแล้วกูไม่อยากรื้อฟื้น” ฉันยิ้มเจื่อนบางๆ ให้เพื่อนรักหายกังวล “ไม่ใช่เพราะมึงไอ้เด็กแว่นนั่นหรอ” ชมพู่เริ่มถามจี้ใจดำฉันหลังจากเห็นเจ้าเด็กน้อยนั่นมาป้วนเปี้ยนใกล้ตัวฉันบ่อยๆ “ก็อาจจะมีส่วน รู้สึกเริ่มหวั่นไหว” ฉันตอบตามจริง “โอ้โห มาทำให้ไอ้เอยแสบหวั่นไหวได้ก็เก่งพอตัวเหมือนกันนะไอ้เด็กนั่น ไม่คิดจริงๆ เมื่อก่อนพวกมึงมองหน้ากันยังกับจะกินเลือดกินเนื้อ” “ฮ่าๆ กูก็ว่าอยู่ ก็ไม่คิดเหมือนกันว่า…” ฉันยังพูดไม่จบ “แล้วสรุปตกลงคบกันเป็นแฟนแล้วหรอ” ไอ้มีนถามขึ้นมาแบบไม่ประสีประสา “ก็ยังอ่ะ กูไม่อยากให้เด็กนั่นถูกเอาไปนินทาเป็นขี้ปากพวกมึงก็รู้ข่าวลือกูมันไม่ได้ดี แล้วพวกมึงดูสภาพกู” “อย่าด้อยค่าตัวเองอีเอย มึงอ่ะดีกว่าพวกกูสองคนเป็นร้อยเป็นพันเท่า เรียนก็เก่ง หาเงินก็เก่ง สวยก็สวย ถ้าไอ้เด็กแว่นนั่นมันรับไม่ได้ที่มึงเป็นแบบนี้แล้วมันแคร์สายตาคนอื่นมากกว่ามึง กูว่ามึงเลิกคบไปเลย” ชมพูพูดไม่หยุด “แต่กูว่าไม่ใช่แบบนั้นหรอก มึงดูนั่น” มีนชี้ให้ดูร่างใหญ่ที่กำลังเดินถือแก้วกาแฟตรงเข้ามาหาพวกเราด้วยท่าทีกระตือรือร้นและยิ้มแฉ่ง กร้าวใจชะมัด “พี่เอย เหมซื้อกาแฟมาฝากครับ บ่ายๆ พี่อาจจะง่วง” พระเจ้าหมอนี่รู้ด้วยสินะว่าฉันกินกาแฟช่วงบ่ายตลอด “ขะ ขอบใจมากเหม” ฉันรับมาแบบเขินอาย ฉันอายจริงๆ นะไม่เคยมีใครมาทำอะไรแบบนี้ให้สักครั้ง เขินจนเพื่อนแซว “เหอะก็แพ้ลูกอ้อนเด็กน้อยแบบนี้สินะอีเอิง” ชมพูเบะปากกลอกตามองบนฉันที่เขินตัวบิด “เด็กจริงยอมรับครับ แต่ไม่น้อยนะครับรับประกัน ไม่เชื่อถามพี่เอยดูได้” เขายิ้มร้ายให้เพื่อนฉันที่กำลังแซว “เหม!!!” ฉันดุเขาเบาๆ จนเขาทำหน้ามู่ทู่ “เหอะ เหม็นความรักว่ะ รำคาญแล้วมึงจะยืนอยู่นี่อีกนานมั้ยไอ้เหม ต้องเข้าเรียนแล้วนะ” เพื่อนหมอนี่ชื่อบาสใช่มั้ยนะ เขาพูดขึ้นมาขัดจังหวะพอดี “เออๆ” เขาพยักหน้าให้เพื่อนแล้วหันมามองหน้าฉันและพูด “งั้นเย็นนี้เจอกันนะครับ” พระเจ้าดาเมจรุนแรงอะไรอย่างนี้แค่น้ำเสียงกับท่าทางออดอ้อนนั่น ไม่ได้ๆ ต้องเก็บอาการก่อน “อืม แล้วเจอกัน” เพื่อนสองคนของฉันนัดกันมองบนแล้วก็ขำกันออกมา . . ฉันเดินเข้าไปส่งงานอาจารย์งี่เง่านั่นที่ห้องภาค เขานั่งอยู่คนเดียวในเสื้อเชิ้ตสีน้ำตาลอ่อน กับกางเกงสแลกสีดำผมถูกหวีให้เนี้ยบและเรียบร้อยสมเป็นอาจารย์ ถ้าเป็นฉันเมื่อก่อนคงใจเต้นตึกตัก แต่ตอนนี้ก็รู้สึกนะ รู้สึกเจ็บใจ ฉันเดินเข้าไปส่งงานเขาไม่มีการเอ่ยวาจาใดๆ ของเราทั้งคู่ ฉันไม่มองหน้าเขาด้วยซ้ำ และฉันต้องออกไปให้เร็วที่สุด เมื่อฉันหันหลังจะก้าวเท้าจากโต๊ะร่างใหญ่รีบรุดขึ้นมาจากโต๊ะแล้วจับมือน้อยๆ ของฉันไว้ "เอย พี่อยากคุยกับเอย" ฉันแหงนมองสีหน้าและน้ำเสียงรู้สึกผิดนั่น ตลอดมาฉันต้องการคำอธิบายจากเขามาตลอดว่าทำไมเขาถึงทิ้งฉัน ทำไมหายไป ทำไมถึงไม่มีแม้แต่คำว่าเลิกกันเถอะให้ฉัน ฉันอยากคุยกับเขามาตลอด แต่ตอนนี้ไม่แล้วแหละ ฉันไม่อยากรู้แล้ว “ถ้าพี่ซันคิดมากเรื่องที่ทำให้เอยเสียใจ พี่ทำให้เอยเสียใจจริงๆ ค่ะ เสียใจมาก เสียใจจนสติหลุดและเกือบประชดชีวิตสุดกู่ไปแล้ว” “เอย” เขาบีบมาที่มือฉันเบาๆ แล้วน้ำเสียงแสนเจ็บปวดนั่นอีก “แต่ตอนนี้พี่ซันไม่ต้องคิดมากแล้วนะคะ เอยผ่านมันมาได้แล้ว เอยไม่ได้รู้สึกอะไรกับพี่แล้วค่ะ” ฉันไม่ได้ฝืนนะแต่มันเป็นแบบนั้นจริงๆ “แต่พักยังรักเอยนะ รักมาตลอดไม่เคยลืมได้สักครั้ง ที่พี่ต้องหายไป…” “หยุดพูดนะ อย่ามาเห็นแก่ตัว ถ้าพี่ยังอยากมองหน้าเอยอยู่พี่หยุด อื้ออ อู้” ร่างใหญ่รั้งเอวและประกบริมฝีปากรุนแรงและดุเดือดค่อนไปทางดินเถื่อน เขาผลักฉันดันไปจนติดผนังแล้วจูบฉันอยู่แบบนั้น อีกมือหนึ่งรั้งเอาอีกมือก็บีบแรงๆ มาตรงหน้าอก ฉันพยายามดิ้นแต่ก็ไม่เป็นผลเขาแรงเยอะกว่าฉันมาก ฉันจึงใหช้วิธีกัดไปที่ริมฝีปากหนาของเขา “อึก โอ๊ยย” ริมฝีปากผละออกจากกันมือที่กอบกุมเต้าไว้ก็ยกขึ้นไปลูบปากตัวเองเบาๆ แต่มือที่รั้งเอวไว้ยังไม่ปล่อย “ทำไมว่ะ เพราะไอ้เด็กแว่นนั่นหรอ เอากันไปแล้วหรือไง ไม่เห็นมันจะให้สถานะเธอเลยเอิงเอย มันอายหรือเปล่าที่ต้องบอกใครว่าคบกับคนแบบเธอ” เพี๊ยะ ฝ่ามือเล็กๆ ปะทะกับใบหน้าขาวๆ ปากเสียๆ นั่นอย่างจัง “ไอ้เหี้ยพี่ซัน มึงใจร้ายกับกูมากไปมั้ย มึงเป็นคนทิ้งกูไปเอง แล้ววันนี้มึงยังจะมาเรียกร้องอะไรอีก” “เอย พี่ขอโทษ พี่น้อยใจ พี่ทนไม่ไหว พี่มันเห็นแก่ตัว แต่ได้โปรดให้โอกาสพี่สักครั้งได้มั้ย” “พี่ซัน เอยไม่ได้รักพี่แล้ว” “งั้นขอพี่จีบเอยใหม่ได้มั้ย ในเมื่อเอยก็ยังไม่ได้คบกับเจ้านั่นเป็นเรื่องเป็นราว” “พี่ซัน” ฉันเริ่มใจอ่อนกับท่าทีของเขาแล้ว แววตาเขามันดูน่าสงสาร “แค่โอกาสน้อยนิดพี่ก็อยากจะแก้ตัว เอิงเอยของพี่ไม่ใช่คนใจร้ายขนาดไม่เปิดโอกาสให้คนอื่นใช่มั้ย” อึก…ฉันกลืนก้อนเหนียวลงคอแล้วมองไปยังสีหน้าจริงจังของเขา เฮ้อออ ฉันถอนหายใจใส่หน้าเขาแล้วพูด “อยากทำอะไรก็ทำ” . . ไอ้ต้าวแว่นก็อ้อนเก่ง ไอ้พี่ซันก็เริ่มรุกแล้ว ทำยังไงต่อล่ะเอิงเอย ตามมาค่ะ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม