ผมว่ามันเริ่มแปลกๆ แล้วยัยน้ำหวานนี่ต้องการผมตลอดเวลา 3-4 วันมานี่ผมแทบไม่ได้นอนและไม่เป็นอันเรียน ทำไมกันนะ ผมแอบหนีเธอมาที่ห้องน้ำชาย เฮ้ออ ขอพักสักหน่อยเถอะ
ผมทำกับเธอจนไอ้หนูผมมันระบมไปหมดแล้ว 3-4 วันมาเนี่ย
ตึก ตึก ตึก เสียงกระทบกันของหลังคนกับผนังห้องน้ำ
“อื้อ เสียวจังเลยค่ะพี่เอ็กซ์” เห้ยเสียงคุ้นมาก ผมพยายามเงี่ยหูฟัง
“จับแน่นๆ นะครับน้ำหวาน อ่าา ซี๊ดดส์∼”
ชัดเลย ชัดเลย ไอ้เหี้ย นั่นแฟนกูกำลังทำกิจกรรมกับผู้ชายคนอื่นอยู่ เอาไงดีว่ะ เปิดประตูไปโวยวาย ไม่เอาเหอะ ผมไม่ใช่คนแบบนั้น แล้วก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บใจอะไรมากเลย กลับรู้สึกดีซะอีกที่เธอไปให้คนอื่นแบ่งเบาภาระผมบ้าง ผมเหนื่อยชิบ
เฮ้ย คิดอย่างนี้จะไม่แปลกไปหน่อยหรอว่ะ เธอเป็นแฟนมึงนะ สมองผมเริ่มตีกัน แต่ผมก็เลือกเดินออกมาจากที่นั่นโดยไม่ได้โวยวายอะไร
“ไอ้เหม มึงโอเคมั้ย หน้าตาดูคิดมาก”
“เปล่า กูกำลังคิดว่าที่พวกเราพนันกันไว้คราวก่อนเราจะเริ่มเล่นกันได้ยัง”
“เฮ้ยไอ้เหม มึงเอาจริงหรอ กูอ่ะไม่เป็นไร แต่มึงมีแฟนแล้วนะทำแบบนั้นน้ำหวานจะเสียใจ” ผมยิ้มให้มันทีหนึ่งแล้วยื่นคลิปที่พึ่งถ่ายติดมือสดๆ ร้อนๆ ให้มันดู
“เชี่ย เมื่อไหร่ว่ะ” หน้าตาไอ้บาสคือเหวอหนักมาก เหวอไม่ไหว
“ตะกี้ ในห้องน้ำชาย” ผมกลอกตามองบนตอบมัน
“เชี่ย ทำไม…” เหมือนมันจะสงสัยเหมือนที่ผมสงสัย ผมก็แอบ งง มาตั้งแต่แรก แต่ชั่งเถอะผมก็ไม่ได้แคร์เธอขนาดนั้น
“แล้วเอาไงสรุปคืนนี้ จะไปมั้ยผับที่ไอ้รุ่นพี่บ้าพลังนั่นทำงานอยู่อ่ะ”
“เออ มารับกูที่บ้าน” ไอ้บาสตกปากรับคำ
.
.
จากที่ไอ้บาสเล่ามาเธอขึ้นตอนเที่ยงคืนแล้วลงตอนตี 1 กว่าจะกลับมาถึงคอนโดแล้วแถมไปเรียนหนังสืออีกแบ่งเวลายังไงวะนั่น แถมไม่พอเสือกเรียนเก่งอีก อะไรกันว่ะคนแบบนั้น แล้วผมก็ยัง งง ตัวเองว่าทำไมต้องมาทำอะไรแบบนี้กับคนที่ผมไม่ชอบขี้หน้าด้วย
00.30 น.
ผมเดินเข้าผับแล้วกวาดสายตามองเธอ นั่นไงเธออยู่บนเวทีกำลังเมามันกับการเปิดแผ่น เกาะอกสีดำโชว์เนินอกสะบึ้ม รอยสักที่เนินอกข้างซ้ายรูปผีเสื้อตัวขนาดสักครึ่งฝ่ามือ รอยสักที่แขนขวาก็รูปผีเสื้อ ยัยนี่เป็นอะไรกับผีเสื้อมากป่ะว่ะ
เสื้อเกาะอกไม่พอ ยังโชว์สะดืออีก เอวกิ่วนั่นถ้าได้จับแล้วกระแทกไอ้หนูลงไปมิดด้ามคงจะ.. เฮ้ยไอ้เหมจินตนาการอะไรวะมึง ไม่ใช่ละ ไม่ใช่ละ ผมสลัดความคิดของตัวเองแล้วเดินตามไอ้บาสไปหาโต๊ะนั่ง
“เดี๋ยวพี่เขาลงกูจะชวนมาดื่มโต๊ะพวกเรา มึงเตรียมทิปให้กูหน่อย”
“ไม่มีปัญหา” ผมยื่นเงินปึกใหญ่ให้มัน
แล้วก็ตามคาดยัยนี่หิวเงินจนต้องมานั่งกับพวกเราหลังจากลงเวที
.
.
(Talk เอิงเอย)
“เฮ้ย ไอ้สี่ตา มาได้ไงว่ะ”
ฉันเอ่ยอย่างตกใจเมื่อเห็นโต๊ะที่ลูกค้าทิปหนักให้ฉันบนเวที เป็นไอ้เจ้าสี่ตา กับเพื่อนปากมากของมัน แถมยังย้ำแล้วย้ำอีกว่าต้องมานั่งคุยกับพวกนี้ให้ได้ เอาไงดีว่ะ รับเงินเขามาแล้วด้วย
“เรียกแขกแบบนั้นไม่สุภาพเลยนะครับไอ้รุ่นพี่บ้าพลัง”
“ไอ้…” ฉันกำลังจะพ่นคำด่า แต่ไอ้หมอนี่หยิบแบงก์สีเทามาโบกไปมา
“เอาน่าพี่เอย นั่งคุยเป็นเพื่อนพวกเราหน่อยก็พอแล้วครับ” เพื่อนหมอนี่เริ่มห้ามสงบศึก
“แก้วละพัน” ไอ้สี่ตานี่วางเงินไว้แล้วเอาแก้วทับไว้ โอ้โห ล่อฉันขนาดนี้
“ถูกไปย่ะแก้วละพัน ปกติฉันกินแก้วละห้าพัน” ฉันแกล้งปั่นประสาทพวกเขา จริงๆ แล้วฉันไม่ดื่ม ไม่ใช่ว่าเป็นคนดีนะแค่กลัวขับกลับไม่ไหว โดนจับมาหลายทีแล้วด้วย
“ผมให้หกพัน” มันวางเงินแล้ววางแก้วเหล้าทับไว้ หน็อยไอ้สี่ตาไอ้พวกรวยตั้งแต่เกิด ฉันโคตรเกลียดขี้หน้า
“เออ แล้วอย่ามาร้องไห้โยเยตอนหลังว่าให้ค*****นให้ผมเถอะครับ แม่ผมจะจับตีก้น” ฉันค่อนขอดเขาด้วยท่าทียโส
“เหอะ ผมรวยพอจะเลี้ยงพี่ไปได้ตลอดชีวิตแล้วกันน่ะ” หมอนี่เริ่มเมาแล้วใช่มั้ย ทำไมเริ่มพูดมาก
“เหอะ ยังขอตังแม่ใช้อยู่อย่ามาทำปากดี” ฉันยกแก้วนั้นขึ้นกระดกแล้วหยิบเงินมายัดที่กระเป๋ากางเกงยีน
“ถึงจะขอแม่มาใช้ แต่ก็มีใช้มากพอแล้วกันน่ะ” เขาวางไว้อีกหกพันแล้วเอาแก้วทับไว้
“จ้า จ้า ไอ้เด็กเวร” ฉันยกแก้วที่สองขึ้นกระดก
แก้วแล้ว แก้วเล่า จนฉันคิดว่าไม่ไหวแล้ว ฉันเลยขอยอมแพ้ ไอ้เจ้าพวกนี้ก็เหมือนจะไม่ไหวแล้วเหมือนกัน
“พะ พี่ขอตัวไปสูบบุหรี่ข้างนอกหน่อยนะ” ฉันลุกจากโต๊ะด้วยอาการเซๆ แล้วเดินออกไปนอกร้านเพื่อจุดบุหรี่ยี่ห้อโปรดขึ้นสูบ
แค่ก แค่ก เสียงไอของไอ้เจ้า 4 ตา
“เหม็นบุหรี่ชิบ” เขาพูดแล้วทำท่าทางปัดควัน
“เหม็นแล้วตามมากทำไม” ฉันสูบแล้วพ่นใส่หน้าเขา ให้ตายเถอะสูบแล้วรู้สึกหายมึนหัวแฮะ
“พอแล้วหยุดสูบได้แล้ว” เขาพูดแล้วตรงดิ่งมาหาฉัน ปัดมือที่คีบบุหรี่ไว้จนบุหรี่หล่นแล้วใช้เท้าเหยียบ
“นี่จะทำ อื้ออ∼” ฉันกำลังจะอ้าปากถามแต่เขาประกบริมฝีปากลงมาก่อน
ริมฝีปากร้อนผ่าวกำลังบดขยี้ริมฝีปากบางของฉัน ดูดกลืนและลิ้นก็ชอนไชเข้ามาในโพรงปากไม่หยุด ไหนบอกว่าเหม็นบุหรี่ไง หายใจแทบไม่ทัน ไอ้เจ้าสี่ตา เป็นแค่ไอ้เจ้าสี่ตาแท้ๆ หน้าฉันร้อนผ่าว น่าจะเพราะเมา
“พี่เอย ไอ้รุ่นพี่บ้าพลัง คือนนี้เธอต้องเป็นของผม”
หึ ฉันแค่นขำในลำคอ
“เด็กน้อยเอ๊ย กลับไปชักว่าวที่บ้านไป๊ ทำเป็นหรือเปล่าไม่รู้ทำมาพูด” ฉันบ่ายเบี่ยงดวงตาคมกริบภายใต้แว่นตาของเขา เพราะมันมองฉันเหมือนกับจะกลืนกินเข้าไปให้ได้
“ไม่น้อยนะ ดูนี่สิ” เขาจับมือฉันไปกุมไอ้เจ้าแกนกายที่มันกำลังผงาดขึ้นมา จนฉันชักมือกลับแทบไม่ทัน หมอนี่เริ่มน่ากลัว ไม่เอาดีกว่าไม่ต่อปากต่อคำแล้ว ฉันกำลังจะเดินหนีไป แต่เขาคว้าแขนไว้
“จะไปไหน พี่ต้องกลับกับผม” เขาลากฉันมาที่รถของเขา
“ไม่เอา ทำไมฉัน ว้าย…” เขาเปิดประตูรถแล้วดันตัวฉันขึ้นรถแล้วมานั่งเบาะคนขับอย่างรวดเร็ว
“ไอ้สี่ตา จะทำอะไร”
หึ เขาแค่นขำในลำคอแล้วขับรถออกมาเลย
“เฮ้ยถามว่าจะทำอะไรไง รถพี่อยู่ที่ผับ ข้าวของพี่ด้วย”
“ไอ้พี่เอยคืนนี้มึงเสร็จกูนี่ ไอ้รุ่นพี่บ้าพลัง”
เขาหันมาพูดแค่นั้นแล้วยิ้มร้ายให้ฉัน