ต้นสน talk
สวัสดีค่ะ เราชื่อต้นสน บุญเลิศ อายุ 23 ปี เราสูง 165 ซ.น เป็นลูกคนเดียว เราอาศัยอยู่กับแม่สองคน ส่วนพ่อของเราท่านเสียชีวิตแล้ว เราทำงานที่บริษัทยักษ์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย บริษัทที่ทุกคนใฝ่ฝันอยากจะทำงานที่นี้ เพราะเงินเดือนเยอะและสวัสดิการดี เราทำงานที่ได้ปีครึ่งแล้วนะ เจ้านายคนเก่าใจดีๆมากเลย ย้ำคนเก่านะคะ
เราไม่รู้ว่าโลกมันกลมหรือว่าซวยกันแน่ ก็ผู้ชายที่เรามีอะไรด้วยในคืนนั้นเราดันมาเจอกับเขาในที่นี้ด้วย ซึ่งเขามีตำแหน่งสูงมากคือประธานบริษัท เหตุการณ์วันนั้นเรายังจำได้ดีเลยเพราะเราไปฉลองงานวันเกิดของหัวหน้าที่ผับดังแห่งหนึ่ง แต่พอเราของไปเข้าห้องน้ำก็มีไอ้ผู้ชายคนที่นั่งอยู่โต๊ะนั้นแหละมาคว้าข้อมือเราแล้วฉุดดึงไปยังห้องวีไอพีในผับ หลังจากนั้นมันก็ข่มขื่นเรา ย้ำนะคะข่มขื่นคะ พอตื่นมาตอนเช้าไอ้ผู้ชายคนนั้นได้หายตัวไปทิ้งไว้แค่โน้ตที่เขียนแป๊ะไว้กับเงินสด 40000 บาท
แล้ววันนี้ผู้ชายคนนั้นคือท่านประธาน ซึ่งเขาก็เอาแต่จับจ้องเราไม่วางตาเลย แถมดุเราในห้องประชุมด้วย น่าอายมากเลย คนอะไร ตัวโตแล้วยังชอบทำนิสัยเป็นเหมือนนักเลงหัวไม้อีก เบ่งอำนวจ เป็นประธานบริษัทแล้วทำไม เชอะ
หลังจากประชุมเสร็จแล้วทุกคนต่างแยกย้ายออกไปทำงาน ของตัวเองในแผนก ทุกคนต่างพูดถึงท่านประธานคนใหม่ว่าโหด แต่หล่อ สูงยาวเข่าดี ขาว สเปคของสาวๆในบริษัท
" สนจ๋า ท่านประธานคนใหม่หล่อมากจริงเหรอ?" ดอกแก้วเดินเข้ามาถามเธอ ต้นสนเงยหน้าขึ้นมจากเอกสารแล้วส่ายหน้า
" หน้าตาก็งั้นๆแหละ แต่ปากดีมากกว่า" ต้นสนบอกเพื่อนร่วมงาน ดอกแก้วอมยิ้ม
" เราเห็นรูปติดที่บอร์ด หล่อจะตาย แถมรูปร่างดี น่าจะแซบไม่เบา อยากลองบ้างจัง" ต้นสนมองหน้าเพื่อนแล้วส่ายหน้า แซบที่ไหน เธอโดนวันนั้นแทบเดินไม่ไหว เจ็บไปหมดทั้งล่างทั้งบน ตัวซ้ำไปหมด
" ทำงานเถอะดอก อย่าสนใจเขาเลย เขากับเราต่างกัน" ต้นสนบอกเพื่อน เพื่อนคนนี้ก็คบมาหลายคนแล้วแต่เธอไม่จริงจังกับใคร ต้นสนยอมรับว่าเพื่อนของเธอสวย จนผู้ชายทุกคนชอบ แต่คงไม่ใช่กับคนด้านบนหรอกมั้ง ดูแลท่าทางจะเลือกเอาคน สวย รวย มีชื่อเสียงละมั้ง
" ให้เพื่อนฝันหน่อยก็ไม่ได้ เผื่อท่านประธานอยากลองกินแบบเราบ้างไง " ดอกแก้วยังเพ้อให้เพื่อนฟังต่อ ต้นสนส่ายหน้าเบาๆ พร้อมก้มลงเคลียร์เอกสารส่งหัวหน้า
พักเที่ยงของทุกวันต้นสนเดินออกมาด้านหลังบริษัทมีสวนด้านหลังไว้สำหรับ นั่งเล่นบ้าง สูบบุหรี่บ้าง สำหรับต้นสน เธอมานั่งรอทานข้าวพร้อมกันกับแม่ที่นี้ แม่ของเธอเป็นแม่บ้านทำความสะอาดบริษัทนี้ เธอนั่งรอแม่เธอเหมือนทุกวันพร้อมหันหน้าไปมองหาแม่เธอ เธอส่ง.ยิ้มให้แม่ของเธอที่กำลังเดินตรงเข้ามาหาเธอ
" แม่เหนื่อยไหม" ต้นสนถามคำถามนี้กับแม่เธอทุกวันและทุกครั้งที่เจอท่าน แม่ของเธอส่ายหน้าเบาๆแล้วส่งยิ้มให้เธอ
" แม่ไม่เหนื่อยหรอกลูก มากินข้าวกันเถอะ" แม่ของเธอนั่งลงข้างๆ เธอแล้วเกาะปิ่นโตที่วางบนโต๊ะ ข้าวสองถาดปิ่นโตและกับข้าวคือ ไข่เจียวกับน้ำพริกผักลวก สองแม่ลูกนั่งกินแบบนี้ทุกวัน จนคนที่นี่เริ่มชินกับภาพนี้
" แม่สนอยากให้แม่หยุดทำงาน แล้วให้แม่อยู่บ้านแม่สนใจไหม" เธอแม่ของเธอที่กำลังตักข้าวเข้าปากก็หันมองหน้าลูกสาวนิ่ง
" เราต้องหาเงินใช้หนี้ ที่ยืมมานะลูก หนูหาคนเดียวคงไม่พอหรอก" แม่ของเธอบอก ต้นสนมองหน้าแม่แล้วส่ายหน้า
" สนถูกรางวัลแม่ พอดีกับใช้หนี้ที่เรากู้มาเลย" ต้นสนโกหกเเม่ แม่ของเธอมองหน้าลูกสาวแล้วส่ายหน้าเบาๆ อย่างไม่เชื่อ ก็อยู่ด้วยกันตลอดแล้วลูกสาวเอาเวลาไนไปซื้อ
" สนถูกจริง.ๆแม่ ตั้ง 40000 บาทแน" เธอพูออกมาอีกรอบ เธออยากให้แม่เธอหยุดทำงานที่นี้เพราะงานแม่บ้านมันเหนื่อย
" แม่อยากช่วยหนูหาตังค์ให้เยอะๆไง หนูหาคนเดียวมันได้น้อย เดี๋ยวจะจ่ายค่าบ้านเช่าอีก ไหนเราจะซื้อกินอีก ไหนจะซื้อของใช้อีก ค่าใช้จ่ายมันเยอะนะลูก หาสองคนนะดีแล้ว " แม่ของเธอบอกพลางยกมือมาลูบบนหัวลูกสาวด้วยความเอ็นดู
" แต่แม่ทำงานมาเยอะแล้วนะ สนอยากให้แม่พักผ่อนบ้าง " เธอเรียนจบปริญญาตรีของมหาลัยรัฐบาลเกรดนิยมอันดับหนึ่งก็จริง แต่ถ้าเพื่อนแม่ที่เป็นเจ้าของที่นี้ไม่ช่วยให้เธอเข้าทำงานที่นี้เธอคงไม่มีงานทำหรอก
" แม่ไม่เหนื่อยหรอกลูก เราหาตังค์ช่วยกันไปก่อน อย่าพึ่งคิดเรื่องที่ยังมาไม่ถึงเลยน่ะ กินข้าวลูกแล้วเราจะได้ไปทำงานต่อ" แม่ของเธอบอก ต้นสนมองหน้าแม่ด้วยความผิดหวัง เธอพูดเรื่องนี้กับแม่ตลอดแต่ท่านก็ยังไม่ยอมฟังเธอ
ต้นสนกลับเข้าทำงานที่โต๊ะตัวเอง ได้สักพักหัวหน้าเธอก็เดินออกมาหาเธอ
" สน ขึ้นเอาเอกสารพวกนี้ไปให้ท่านประธานหน่อย ท่านประธานอยากดูนะ" หัวหนัาของเธอถือเอกสารมาสามสี่เล่มใหญ่
" ให้เลขาท่านใช่ไหมคะพี่อร" ต้นสนถามออกมา
" เอาไปข้างในเลย เพราะเลขาท่านยังไม่มาทำงาน เอาไปเลยท่านอยากได้ตอนนี้เลย" หัวหน้าบอกเธอแล้วก็หมุนตัวกลับเข้าห้องทำงาน ต้นสนถอนหายใจออกมาอย่างแรง
ก๊อกๆๆๆๆ เสียงเคาะประตูหน้าห้องทำงานท่านประธานดังขึ้น ดนัยเงยหน้าขึ้นมองคนมาใหม่แล้วยกยิ้มที่มุมปากร้าย
" ท่านประธานค่ะ เอกสารได้แล้วค่ะ จะให้วางที่ไหนคะ?" ต้นสนถามเขาออกมาโดยก้มหน้ามองแฟ้มเอกสาร ดนัยจ้องมองการกระทำของเธอพลางนึกสนุก
" คุยกับผมก็มองหน้าผมซิ " ดนัยบอกคนที่กำลังยืนถือเอกสารด้านหน้า ต้นสนเงยหน้าขึ้นมองเขาเล็กน้อยแต่เธอต้องตกใจเพราะเขาจ้องเธออยู่ก่อนแล้ว
" เอ่อ..คือเอกสารได้แล้วค่ะ ท่านประธานจะให้วางที่ไหนคะ" ต้นสนถามเสร็จก็ก้มหน้าลงพลางกัดริมฝีปากล่างแน่น
" บนโต๊ะทำงานคิดว่า ตรงไหนว่างก็วางซิ" ตั้งแต่เจอเธอตอนเช้าแล้วเขาพูดเยอะที่สุดวันนี้ ดนัยเงยหน้ามองหน้าตรงหน้าทีตอนนี้เงยหน้าหาที่วางเอกสาร ' เอกสารเต็มโต๊ะแล้วจะให้วางไหนละ'
" ถ้าไม่มีที่วางก็ลาออกจากที่นี้ซ่ะ" ดนัยบอกเธอ ต้นสนหันหน้าไปมองเขาทันที ' ปากดีจัง' ต้นสนคิดในใจแล้วเดินเอาเอกสารไปวางไว้ที่โซฟารับแขก แล้วหมุนตัวจะเดินออกไป
" เดี๋ยว!" ต้นสนชะงักเท้าทันที ดนัยจ้อมมองคนตรงหน้าไม่วางตา
" มีอะไรหรือเปล่าคะท่านประธาน?" ต้นสนหันหน้าไปมองเขา ดนัยยกยิ้มร้ายที่มุมปาก
" เอากาแฟมาแก้วหนึ่ง ถ้าทำไม่ได้ก็ลาออกไปซ่ะ" ดนัยบอกเธอ ต้นสนอ้าปากค้าง ' คำก็ลาออก สองคำก็ลาออก '
" ค่ะท่านประธานแล้ว กาแฟกี่ซ้อนคะ น้ำตาลกี่ซ้อนคะ" ต้นสนถาม ดนัยเงียบไม่ตอบเขาก้มหน้าอ่านเอกสารต่อ ต้นสนหมุนตัวเดินออกไปที่ห้องครัวเล็กทันที
" กาแฟดำเลยแล้วกัน" ชงเสร็จเธอเดินเข้ามาด้านใน พร้อมวางกาแฟลงข้างๆเขา ดนัยปลายตามองเล็กน้อย
" ผมไม่ดื่มกาแฟดำ ไปเอามาใหม่" ต้นสนอ้าปากเหวอ ' ตอนถามไม่บอก แล้วเธอจะรู้ไหมว่าดื่มรสชาติไหม"
" ขอโทษนะคะท่านประธานดิฉันไม่ใช่เลขาท่านเลยไม่ทราบว่าท่านดื่มแบบไหนค่ะ" ต้นสนพูดออกมาอย่างหงุดหงิด ดนัยเงยหน้ามองเธอ
" งั้นก็.. "
" ดิฉันไม่ลาออกค่ะ ขอตัวนะคะ" พูดเสร็จเธอก็เดินตรงออกไปทันที
เฮียแกกำลังกวนตีนน้องนะตอนนี้ คริคริ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะคะ
ดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะช่วงนี้ ??