(เรื่องบังเอิญ)
ดงจำต้องเดินคอตกกลับกระท่อมนอน หลังจากไปนั่งซุ่มดักดูหน้าของสาวในดวงใจยังโคนต้นมะม่วงหน้าเรือนของนายบ้านทัพทอง
นับวันสาวน้อยฉกาของเขาจะมีผิวพรรณอิ่มเอิบ คงจะได้น้ำดีจากนายบ้าน เขาเห็นหรอกพอนายบ้านทัพทองกลับมาถึงเรือนปุ๊บก็มักลากตัวสาวน้อยฉกาขึ้นเรือนทันที
เห็นทีการรอคอยของเขาคงจะเลื่อนลอยไร้จุดหมาย ยิ่งนานนับวันดูเหมือนนายบ้านทัพทองจะยิ่งลุ่มหลงในตัวสาวน้อยของเขามากขึ้นทุกขณะ...
ดงเดินหน้ามุ่ยไปพร้อมกับการใช้ความคิดเรื่อยเปื่อยเลยไม่ทันมองทางข้างหน้า ตอนนี้มีสาวรูปร่างอ้วนเดินใบหน้าเปื้อนยิ้มตรงมาหาเขา
“พี่ดงจ๋า...” เสียงหวานลากยาวจนดงรู้สึกขนลุก
พอดงเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของหวานเพียงแต่เสียง ส่วนตรงอื่นขมจนกลืนไม่ลงคอ ชายหนุ่มถอนหายใจหนัก อีดำนี่อีกแล้วหรือ? น่าเบื่อชะมัด
ชายหนุ่มคิดจะเดินเลี่ยงมาอีกทาง มะเฟืองจึงรีบพุ่งตัวมาดักหน้าเขาไว้ พร้อมกับกางแขนกั้น
“ฉันกำลังจะเอาแกงหมูป่าไปให้พี่ที่กระท่อมอยู่พอดีเลยจ้ะ ดีจัง ได้เจอพี่ดงกลางทาง ฉันจะได้มีเพื่อนเดิน...” มะเฟืองกระแซะเข้าใกล้ ฉีกปากยิ้มหวานหยด
ส่วนดงนิ่วหน้ารำคาญ ขยับถอยห่างจากร่างทั้งอ้วนทั้งดำ
“เคยบอกว่าไม่ต้องทำอะไรมาให้ข้ากินแล้วไม่ใช่เหรอ? เอ็งจะทำมาให้ข้าอีกทำไมนักหนา ข้าไม่ใช่คนพิการมือตีนไม่มีสักหน่อย ข้าหิวเมื่อไรประเดี๋ยวข้าก็หาทำกินของข้าเอง...”
“ก็ฉันอยากทำให้พี่ดงกินนี่จ้ะ พี่จะต้องทำให้เหนื่อยอีกทำไมเล่า?”
มะเฟืองไม่ยอมแพ้ โต้กลับแล้วคว้าเอาแขนกำยำของดงมาควง
“กลับเรือนพี่ดงกันจ้ะ...”
“เฮ้ย! แล้วนี่เอ็งจะต้องมาจับแขนข้าไว้ทำไม จะเดินก็เดินไปเองสิ มาพันแขนพันขาข้าแบบนี้ ข้าไม่ชอบ”
ดงออกแรงสะบัดแขนจนหลุดจากพันธนาการของมะเฟือง ก่อนจะเดินจ้ำอ้าวหนีสาวเจ้าโดยไม่คิดเหลียวหลังกลับมามองให้เสียลูกตา
มะเฟืองทอดสายตาน้อยอกน้อยใจมองตามแผ่นหลังกว้าง กลีบปากอิ่มเม้มเข้าหากันจนกลายเป็นเส้นตรง ขอบตายังร้อนผ่าวจนน้ำตาปริ่มไหล เป็นเพราะว่าเธอไม่สวยใช่ไหม พี่ดงถึงได้รังเกียจ
-------------------------------------
มะเฟืองยังไม่คิดล่าถอยง่ายๆ ความมุ่งมั่นอยากจะได้ดงมาเป็นผัวจนตัวสั่น ยังคงมีเต็มเปี่ยมในหัวใจ วันต่อมาเธอจึงรีบลุกขึ้นหุงหาข้าวปลา จัดเตรียมไว้สองสำรับ คือสำรับของพ่อกับแม่ แล้วก็ทำมาให้ชายหนุ่มถึงกระท่อมเหมือนอย่างเคยอีกหนึ่งสำรับ
แต่วันนี้ประตูกระท่อมดันเปิดแง้มทิ้งเอาไว้ มะเฟืองตาโตตอนเดินมาถึงหน้ากระท่อมแล้วเห็น ปกติมันจะต้องปิดสนิท บางทีถ้าพี่ดงไม่อยู่เธอจะแขวนปิ่นโตทิ้งไว้ หรือถ้าเขาอยู่ เขาจะเปิดประตูออกมารับเพียงปิ่นโต โดยไม่เคยยอมให้เธอก้าวเข้าไปภายในกระท่อมสักครั้ง
วันนี้แปลกจัง ประตูกลับเปิดอ้าราวกับรอให้เธอเดินเข้าไปด้านใน มะเฟืองทำตาโต ยกมือเช็ดริมฝีปาก
“อา...หรือพี่ดงใจอ่อน ยอมให้เราเข้าไปในกระท่อมได้...”
หญิงสาวหันซ้ายหันขากวาดสายตาเจ้าเล่ห์มองให้แน่ใจว่าไม่มีชาวบ้านเดินอยู่บริเวณนี้ จึงค่อยๆดันประตูกระท่อมเปิดเข้าไปด้านใน ลำแสงจากดวงอาทิตย์สะท้อนเรือนร่างเปลือยเปล่าบนเตียงไม้กระทบเข้านัยน์ตาหื่นกระหายของมะเฟืองเข้าอย่างจัง
หญิงสาวตาโตเท่าไข่ห่าน น้ำลายชักจะสอตอนเหลือบไล่สายตามองตรงไปยังกึ่งกลางร่างชายชาตรี ลำอวบนอนนิ่งสงบอยู่ก็จริงทว่ายังแสดงให้เห็นว่าขนาดลำดุ้นถ้าหากออกรบจะทั้งยาวและใหญ่มากแค่ไหน
“อู้!พี่ดง...ทำไมเครื่องเพศถึงได้ใหญ่โตเยี่ยงนี้...”
ผิวแก้มสาวเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ ขนอ่อนมะเฟืองลุกซู่ เลือดลมในตัวแล่นพล่าน มะเฟืองเนื้อเต้นรีบหันหลังงับบานประตูกระท่อมจัดการใส่กลอนให้แน่นหนา ดูให้แน่ใจจะไม่มีใครเปิดเข้ามาขัดจังหวะในยามเข้าด้ายเข้าเข็มกับพี่ดง
สาวกระหายในรสกามจากชายในดวงใจ ย่องกริบเข้ามาใกล้เตียงไม้ มะเฟืองไม่รีรอรีบปลดชุดที่สวมใส่มาจนเหลือเพียงกายล่อนจ้อน เปิดเปลือยให้เห็นร่างอวบอัดภายในร่มผ้าที่ไม่ถึงกับขาวผ่องหากก็ไม่กระดำกระด่างเหมือนกับผิวพรรณภายนอก
หน้าอกสองคู่งามใหญ่ล้นตามรูปร่าง เอวหนาหากก็ยังพอมีส่วนเว้าให้เห็น มะเฟืองย่องกริบคลานขึ้นบนเตียง ตรงหน้าคือชายหนุ่มรูปร่างกำยำล่ำสัน เขาคือคนที่มะเฟืองหลงรักหัวปักหัวปำ รักทั้งที่รู้เขาไม่เคยชายตามาแล
อาวุธเขานอนนิ่ง มีเพียงส่วนหน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะหายใจ ดวงตาของเขายังหลับพริ้ม ใบหน้าของดงยามนี้ดูอ่อนโยนยิ่งนัก
มะเฟืองสะเทิ้นอายอย่างไม่รู้ตัว มือเล็กวางประคองโอบอุ้มพวงสวรรค์หว่างกลางท่อนขาแข็งแรง ลิ้นเล็กถูกแลบออกมาเลียไปรอบปากอิ่ม มองแค่ตาร่องเธอยังรู้สึกร้อนผ่าวจนขมิบขับน้ำคาวขุ่นออกมาเปียกชุ่มได้ขนาดนี้ ถ้าได้ลิ้มลองรสชาติไม่รู้ว่าจะซ่านทรวงถึงอกถึงใจเธอมากขนาดไหน
ต่อให้ครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกสำหรับการเสียตัวของมะเฟืองก็ตาม ทว่าประสบการณ์สั่งสมมาจากได้เห็นคนรอบตัวแอบเล่นรักกันก็ทำให้มะเฟืองไม่รู้สึกกลัวเจ็บ ร่องรักเธอพร้อมแล้วสำหรับให้พี่ดงตอกกระแทก วันนี้ล่ะ...จะต้องเป็นวันของอีมะเฟือง
มือน้อยแม้นจะดูสั่นเทาหน่อยๆคงเกิดจากการประหม่าบรรจงกอบกุมลำอวบไว้ในอุ้งมือแล้วออกแรงรูดเบาๆจนส่วนหัวบานขยับขยาย ร่างหนากระตุกเฮือก เปลือยตาเริ่มขยุกขยิก รู้สึกแปลกกับอาการเบื้องล่างตรงกึ่งกลางลำตัว ดงนิ่วหน้าทั้งที่ตายังลืมขึ้นไม่เต็มที่
ใครมาทำอะไรกับลูกรักของเขากันวะ!หรือจะเป็นนางผีพราย
ดงคิดในใจขณะเปลือกตาค่อยๆกระพือขึ้นทีละน้อย จนปะทะเข้ากับแสงสว่างภายในกระท่อมโดยดงใช้เวลาปรับสายตาให้เป็นปกติในช่วงสั้นๆ
ก็ยังสว่างอยู่เลยนี่หว่า แล้วอีผีตนไหนมันจะกล้ามาหลอกเขากลางวันแสกๆ หลอกหลอนยังพอว่ามันยังจะมารีดน้ำในตัวเขาออกซะด้วย
“อ๊า...ซีด...” ดงซูดปากเสียวสยิว เกร็งส่วนตรงสะโพกโยกดุ้นเนื้อขึ้นรับกับแรงรูดขึ้นลง
“ออกแรงบีบอีกนิดสิ...อ๊า...” ออกปากสั่งโดยไม่รู้ตัว ก่อนดงจะนึกขึ้นได้นี่ไม่ใช่เรื่องปกติ ดวงตางงงันจึงเหลือบลงมองที่มาของอาการเสียวสะท้าน ดงเห็นกลุ่มผมดำขลับของผีร้าย ยังไม่ทันจะเอ่ยปากซักถาม กลุ่มผมดำถูกแทนที่ด้วยใบหน้ามอมแมมติดมาทางขี้เหร่ ดวงตาคบกริบมีอันต้องเบิกกว้าง ขาที่เกร็งรับกับจังหวะเสียวยกขึ้นสูง
ก่อนจะยับโครมจนร่างมะเฟืองร่วงหล่นจากเตียงไม้กระแทกตกบนพื้น
“โอ๊ย!...” ใบหน้าเหยเกมาพร้อมกับเสียงครวญคราง
“เอ็งเข้ามาในกระท่อมข้าทำไมวะ!นังมะเฟือง...”
มะเฟืองน้ำตาคลอเบ้า ทั้งเจ็บก้นแล้วก็จุกจนพูดไม่ออก
ดงผุดลุกขึ้นนั่ง สีหน้าเขายังบึ้งตึง รีบคว้าเอาผ้าห่มขึ้นมาปกปิดเรือนกาย หากตรงส่วนขยับขยายขนาดได้ก็ยังประจานถึงความต้องการที่ยังไม่มอดดับ ดงจึงต้องข่มอารมณ์กระเจิดกระเจิงให้สงบ
“ข้าถามว่าเอ็งเข้ามาทำไม!...” ดงตวาดเสียวกร้าว จนมะเฟืองสะดุ้งตกใจรีบตอบคำถามเขาทันที เรือนกายสาวสีน้ำผึ้งปรากฏในสายตาของดง
ชายหนุ่มชักจะมีอาการหายใจติดขัด พอเลื่อนสายตาขึ้นมามองหน้าตาสาวเจ้า ลมหายใจจึงกลับมาเป็นปกติ
“ก็เข้ามาหาพี่น่ะสิ ถามได้...” มะเฟืองปรายตามองตรงจุดที่กำลังดุนดันเนื้อผ้าให้เห็นเป็นรูปร่างเหยียดขยาย ให้นึกเสียดายขึ้นมาครามครัน ยังไม่ทันได้ลองชิมรสชาติสักคำก็ถูกเขาถีบกระเด็นกลิ้งตกลงมาที่พื้นซะแล้ว ไยโชคชะตาจึงไม่เข้าข้างเธอเสียบ้าง
“ฉันเจ็บก้น พี่ดงช่วยดึงฉันขึ้นหน่อยสิจ๊ะ...”
“ข้าอุตส่าห์หักห้ามใจไม่ลุกขึ้นไปกระทืบเอ็งซ้ำก็บุญถมเถแล้วนังมะเฟือง...ยังจะมาร้องขอความช่วยเหลือ ฝันไปเถอะ...” ดงสะบัดหน้าหนีกับเรือนร่างอวบอิ่มเอียงมาทางมีเนื้อหนัง
“แต่ฉันกำลังทำให้พี่มีความสุขอยู่นะ...” ได้ยินเสียงร้องครางซะดังลั่น ไม่บอกก็รู้ว่ามีความสุขแค่ไหน
“ความสุขกับผีน่ะสิ เอ็งอย่ามัวมานั่งเถียงกับข้า ถ้าไม่อยากเจ็บตัวซ้ำ ก็ใส่เสื้อผ้า แล้วก็รีบไสหัวออกจากกระท่อมของข้าไปซะ”
ดงกระฟัดกระเฟียด ถูกพูดแทงใจดำเข้าอย่างจัง สุขมันก็สุขอยู่หรอกถ้าคนสร้างความสุขให้กับมันไม่ใช่นังมะเฟืองตัวอ้วนดำ แต่จะว่าไป...รูปร่างเปลือยเปล่าของมันก็ดูไม่เลวร้ายสักเท่าไร
ดูนมต้มของมันสิ...ขนาดใหญ่อะร้าอร่ามไม่เบา หัวจะงอยสีไม่ดำคล้ำเหมือนสีผิวภายนอกร่มผ้า โหนกก็แสนจะอูมใหญ่ สองกลีบปิดสนิทแน่นหนึบ
ดงเผลอปรายตามองแล้วกลืนน้ำลายลงคอ เกิดอารมณ์ขึ้นโดยธรรมชาติ ชายหนุ่มเริ่มผุดความคิด...ถ้าหลับหูหลับตาเอาคงจะไม่เป็นไรกระมัง...
“ไปก็ได้...แล้วพี่อย่ามาง้อฉันก็แล้วกัน...”
มะเฟืองรู้สึกน้อยอกน้อยใจที่ถูกขับไล่ไสส่ง ไม่รู้ถ้าเป็นอีพวกสาวๆคนอื่น พี่ดงจะขับไล่เช่นนี้หรือไม่...
ในขณะจะเอื้อมมือหยิบเสื้อผ้าบนพื้นมาสวมคืน ร่างอวบของมะเฟืองก็ลอยหวือขึ้นจากพื้นด้วยน้ำมือของเจ้าของกระท่อม เขาจับเธอหันตัวเผชิญหน้ากับเขา ดงเอ่ยถามในสิ่งที่ทำให้มะเฟืองต้องจิกเล็บลงบนฝ่ามือตัวเองแรงๆ ตรวจสอบให้แน่ใจ...นี่ใช่เรื่องจริงหรือว่าเธอกำลังฝันไป
“เอ็งอยากได้ข้าเป็นผัวมากนักหรือนังมะเฟือง...”
“อยากสิ...ถ้าไม่อยากฉันจะแก้ผ้า คลานขึ้นเตียงพี่ทำไมเล่า” มะเฟืองตอบตามตรงไม่มีจริตจะก้าน คิดอย่างไรก็ตอบไปตามตรง
“แต่ฉันทำกับพี่คนเดียวเท่านั้นนะ กับผู้ชายคนอื่นในหมู่บ้าน ขาอ่อนอีมะเฟืองก็ไม่เคยได้เห็น”
พวกนั้นมันก็คงไม่อยากเห็นด้วยกระมัง ดงคิดในใจ
“แต่จะให้ข้าเป็นผัวเอ็ง ข้าคงเป็นให้เอ็งไม่ได้หรอนะมะเฟือง”
“จ้ะ...ฉันรู้” ตอนนี้ยังเป็นไม่ได้แต่อนาคตพี่หนีฉันไม่รอดแน่
“ เราแค่มาสนุกชั่วครั้งชั่วคราว ข้าทำให้เอ็ง เอ็งทำให้ข้า ไม่มีการผูกมัดใดๆต่อกันทั้งนั้น” ดงอธิบายถึงหลักการ ตาจับจ้องมองสองก้อนกลมลักษณะคล้ายหยดน้ำ ดงต้องยอมรับนมของมะเฟืองมีรูปทรงสวย
มะเฟืองช้อนแววตายินยอมพร้อมใจ ต่อให้ต้องตกน้ำลุยไฟไปกับเขาเธอก็ยินยอมทั้งนั้น...
“จ้ะ...ฉันก็แล้วแต่พี่ดงเลย”
----------------------------------