พี่ลีวายขมวดคิ้วกับคำพูดของฉันก่อนจะกระชากตัวฉันอย่างแรงจนเซมาจนกับอกแกร่ง
“พูดว่าไงนะ”
“ปล่อยค่ะ”
“ฉันถามว่าเมื่อกี้เธอพูดว่าอะไร!!” เสียงตวาดของพี่ลีวายดังลั่นไปทั่วสวน
“มิลินจะไปบอกคุณท่านว่าวันนั้นพี่ลีวายพยายามจะขืนใจ….โอ้ย!!” ฉันร้องออกมาเสียงหลงเพราะถูกพี่ลีวายบีบแขนแรงมากๆ รู้สึกเจ็บเหมือนกระดูกมันร้าวไปหมด
“พูดบ้าอะไรของเธอห๊ะ!!”
“ปล่อยนะมิลินเจ็บ”
“มานี่!!”
พี่ลีวายฉุดกระชากฉันให้ตามตัวเองมาที่รถ ก่อนจะเปิดประตูแล้วจับตัวของฉันยัดเข้าไปด้านใน
“อื้อปล่อย จะพามิลินไปไหนคะ”
“หุบปาก!!” เขาตะคอกบอกเสียงแข็งก่อนจะเดินอ้อมไปทางฝั่งคนขับ จากนั้นก็ขับรถออกไปจากบ้านด้วยความเร็ว
“ปะ ไปไหนคะ”
“พี่ลีวายจอดรถนะ”
“มิลินบอกให้จอดไง”
ต่อให้ฉันพูดอะไรพี่ลีวายก็ไม่ตอบกลับ ไม่มีแต่จะหันมามอง เขาขับรถด้วยความเร็วมากกว่าหนึ่งร้อยหกสิบและหักพวงมาลัยปาดซ้ายปาดขวาแซงขึ้นอย่างน่าหวาดเสียวจนฉันต้องหลับตาปี๋พร้อมหัวใจดวงน้อยที่เต้นรัวเพราะความกลัว
พี่ลีวายหักพวงมาลัยเลี้ยวเข้ามาในคอนโดของตัวเอง ยิ่งทำให้ไม่เข้าใจว่าเขาพาฉันมาที่นี่ทำไม หลังจากรถจอดสนิทเขาก็ลงจากรถแล้วเดินมาเปิดประตูทางฝั่งที่ฉันนั่ง
“จะลงมาเอง…หรือให้ฉันลากเธอลงมา”
ได้ยินคำขู่แบบนั้นฉันก็ยอมลงจากรถแต่โดยแต่ จากนั้นก็ถูกดึงลากไปที่ลิฟต์
ฉันไม่รู้เลยว่าพี่ลีวายคิดจะทำอะไร เป็นเพราะคำพูดของฉันอย่างนั้นหรอที่ทำให้เขาโมโหมากขนาดนี้ นึกกลัวขึ้นมาแล้วสิ
@ภายในห้อง
ตุบ!! ร่างของฉันถูกเหวี่ยงลงบนโซฟาอย่างแรง ทำเอาจุกท้องน้อยไปหมด
“อยากได้เท่าไร”
“พี่ลีวายพูดอะไร…มะ..มิลินไม่เข้าใจ”
“ออกไปจากชีวิตของฉันกับพ่อ เธอจะเอาเท่าไรว่ามา”
“………”
“แค่เธอหายไปจากชีวิตฉัน ไม่ว่าเท่าไรฉันก็จะจ่ายให้”
หน้ามันชาไปหมดเมื่อได้ยินคำถามนี้ ฉันรู้แล้วว่าทำไมถึงไม่คุยกันที่บ้าน เพราะกลัวคุณท่านจะได้ยินสินะ
“ต้องทำถึงขนาดนี้เลยหรอคะ” น้ำตามันเอ่อล้นเต็มสองตา ฉันผิดมากเลยหรือไงถึงได้ผลักไสกันขนาดนี้
“บอกมาสิวะ!!” พี่ลีวายตะคอกเสียงดังลั่นไม่สนใจถึงแม้ว่าฉันกำลังร้องไห้อยู่
การถูกคนที่ตัวเองชอบผลักไสขนาดนี้มันเป็นความรู้สึกที่เจ็บปวดทรมานมากจริงๆ
“มิลินจะไม่ไปไหนทั้งนั้นค่ะ”
“เธอนี่มัน!!” พี่ลีวายขบกามแน่นพร้อมพ่นหายใจออกมาหนักๆ อย่างไม่สบอารมณ์กับคำตอบของฉัน
“พี่ลีวายจะไม่ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ…มิลินจะบอกคุณท่านว่าเรามีอะไรกันแล้ว” ฉันพูดออกไปทั้งน้ำตา เพราะพี่ลีวายทำให้ฉันตัดสินใจแบบนี้เอง
“ถึงมันจะฝืนใจแต่ก็อดทนหน่อยนะคะ…ก็แค่หมั้นกันเอง”
“พูดไม่รู้เรื่องใช่ไหม!!”
“ก็พูดกันดีๆ สิคะ ไม่เห็นต้องด่าไม่เห็นต้องรุนแรงกับมิลินเลย”
พี่ลีวายเงียบเหมือนเขากำลังใช้ความคิดอยู่เพราะสายตาคู่นั้นยังคงจ้องมองฉันอย่างอำมหิต
“อยากให้มันเกิดขึ้นมากใช่ไหม?”
“พี่ลีวายหมายถึงอะไรคะ”
“อยากได้ฉันเป็นผัวมากใช่ไหม”
“………” ฉันกัดริมฝีปากแน่นมองพี่ลีวายที่กำลังปลดกระดุมเสื้อของตัวเองด้วยหัวใจที่เต้นรัว
“…ฉันจะสนองให้เธออย่างสาสมใจเลยมิลิน”