น่าละอายเหลือเกิน

1235 คำ
“อย่าลืมผ้าคลุมหน้าหงส์ และแต้มพรหมจรรย์” เติ้งจูว่าแล้วชำเลืองมองหยวนหยวน ดูเหมือนเขามีความสงสัยบางอย่าง นั่นเป็นเพราะก่อนหน้า ได้ข่าวว่าคุณหนูแปดเป็นโรคไข้หัวหมู ทว่าพอหายดี นางกลับดูผิดแผกไปกว่าเดิม กิริยาเรียบร้อยไม่ซุกซน ทว่ากลับไม่สดใส ทั้งคล้ายคนจมอยู่กับความคิด แต่นั่นคือสิ่งที่เขาสัมผัสได้จากภายใน ทว่าความโดดเด่นของนาง ชวนให้มหัศจรรย์ยิ่งกว่า จมูกนางโด่งสวยขึ้น ใบหน้ามีเลือดฝาด สิ่งที่โดดเด่นเหนืออื่นใดก็คือ... เสน่ห์ ใช่นางมีความเย้ายวนอย่างที่ผู้ใดจะเทียบได้ โดยเฉพาะนัยน์ตาหงส์อันหยาดเยิ้ม เพียงแค่มองผู้อื่น ก็คล้ายดูดกลืนวิญญาณไปแล้ว “แต้มพรหมจรรย์ยังไร้ราคีจริงใช่หรือไม่” พ่อบ้านเติ้งถาม และหลัวฟูหัวเราะด้วยน้ำเสียงที่ตำหนิอีกฝ่าย “คุณหนูของข้า ย่อมเป็นเสมือนดอกไม้แรกแย้ม ไร้แมลงมาดมดอม ท่านถามเช่นนี้ หมายความเยี่ยงไร!” “แม่นมหลัว ข้าแค่ปากไว อีกอย่างอนุคนอื่นๆ ขององค์ชายสาม ล้วนเหี่ยวเฉามาหลายปี นั่นเป็นเพราะพวกนาง งามแต่เปลือกนอก หาได้ทำให้องค์ชายปรารถนา เมื่อข้าเห็นคุณหนูสกุลสวี่ผู้นี้ ก็นึกนิยม หากได้เข้าหอกับองค์ชายสาม ไฉนจะไม่ประทานบุตรแสนน่ารัก ให้ฮ่องเต้และพระสนมจวงเทียนอุ้มชูเล่า” “พ่อบ้านเติ้ง ไม่ต้องกังวล สกุลสวี่ย่อมทำทุกอย่างเพื่อให้คุณหนูของข้าสืบทอดทายาทขององค์ชายได้อย่างรวดเร็ว” “เยี่ยม นับว่าเป็นเรื่องมงคลโดยแท้” พ่อบ้านเติ้งว่าแล้วยิ้มพึงพอใจ ก่อนล้วงเข้าไปในแขนเสื้อข้างหนึ่ง มันเป็นขวดยาเล็กๆ และท่าทางเขามีเลศนัย “นอกจากน้ำแกงที่ให้ดื่ม ยังมีสิ่งนี้ ที่จะช่วยทำให้ส่วนนั้นบีบรัดบุรุษจนแทบขาดใจ และน้ำมันหอม ทั้งตลับขี้ผึ้งพันปี จงให้คุณหนูของเจ้าทาก่อนเข้านอน เมื่อถึงคืนเข้าหอ ทุกอย่างย่อมเกิดผลลัพธ์ที่ดี” หยวนหยวนไม่อยากฟังพวกเขาคุยกัน แต่นางไม่รู้จะหลบไปทางไหน จึงทนฟังอยู่อย่างนั้น กระทั่งพวกเขาหายออกไป ทิ้งให้นางอยู่กับสาวใช้อีกคน ที่ยามนี้นางรู้แล้วว่าชื่อ เซียงอี่ เป็นญาติห่างๆ ของสาวใช้ที่ถูกทำให้ตาบอด “อย่าได้กังวล ทุกอย่างเป็นเพราะคุณหนูได้รับโอกาสนี้ ให้ท่านใช้ชีวิตที่สองอย่างคุ้มค่า” เซี่ยงอี่ผู้นี้เป็นใครกัน ถึงเอ่ยกับนางอย่างไม่อ้อมค้อม และท่าทางเหมือนรู้หลายสิ่งเกี่ยวกับหยวนหยวน “เจ้ารู้เรื่องของข้า” สาวใช้พยักหน้า และยกมือขึ้นทาบริมฝีปากตน “ซิ่วเอ๋อร์ นางตาบอดไปแล้ว บ่าวไม่อยากถูกตัดลิ้น หรือเลาะฟัน คุณหนูอย่าพยายามเป็นผู้อื่นอีกเลย สกุลสวี่เมื่อเลือกทำสิ่งใด หากใครขัดขืนย่อมมีแต่ความตายเท่านั้นที่พวกเขาจะมอบให้” หยวนหยวนตัวแข็งทื่อ ทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับนางย่อมเป็นเช่นนี้ คือต้องสวมรอยเป็นสวี่หยางซิ่น ตราบจนกว่าชีวิตจะหาไม่! “ขะ ข้าหิว...” จู่ๆ หยวนหยวนก็เอ่ยเช่นนั้น เซี่ยงอี่เลยหัวเราะน้อยๆ “ดี ท่านหิว ย่อมหมายถึงว่าอยากมีชีวิตอยู่ต่อไป” อาหารมื้อนั้น รสชาติจืดชืด แต่ดีต่อกระเพาะ และทำให้หยวนหยวนรู้ว่า นางมีครัวเล็กๆ ที่เรือนของตน สามารถทำอาหารง่ายๆ ได้ และมีเรือนเก็บวัตถุดิบแยกต่างหาก “เรือนอื่น ไม่ได้รับอนุญาต เช่นนี้หรอกเจ้าค่ะ แต่เป็นเพราะคุณหนูเลือกกินอาหาร ใต้เท้าสวี่จึงสั่งการเช่นนี้ไว้ ลดความยุ่งยากของครัวหลักด้วย” “ดี เวลาข้าหิวจะได้ไม่ต้องเดือดร้อนผู้ใด” หยวนหยวนเอ่ยแล้ว ก็นึกถึงช่วงเวลาที่นางหาอาหารกับเส้าเฟิง และมีความสุขในการกินสิ่งที่หาได้จากป่า ภาพในอดีตบางคราก็ชัดเจน บางคราพร่าเลือน ทว่าสิ่งที่ทำให้หยวนหยวนหวั่นใจเหลือเกินคือ นางจดจำใบหน้าเส้าเฟิงไม่ได้ ภาพที่เห็นนั้นเป็นเพียงเงาของเขา และน้ำเสียงอบอุ่นเต็มไปด้วยความห่วงใย “เซี่ยงอี่ เจ้าช่วยทำให้ข้าเป็นคุณหนูแปดของตระกูลสวี่ โดยที่ไม่มีผู้อื่นสงสัยได้หรือไม่” สาวใช้ยิ้มบางๆ ให้หยวนหยวน และตอบกลับว่า “นั่นคือหน้าที่สำคัญของบ่าว คุณหนูอย่ากังวลเลย” สองวันต่อมา หยวนหยวนตื่นขึ้น พบว่าบริเวณเนินหน้าอกมีรอยเขียวช้ำ ทั้งรู้สึกเจ็บแปลกๆ ที่ยอดถันทั้งสองข้าง เรื่องนี้นางไม่กล้าเอ่ยกับผู้ใด นอกจากนั้นนยังเสียวซ่านบริเวณเนื้อสาวก่อนที่จะสะดุ้งตื่น สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งน่าตกใจ และชวนให้คิดเป็นอื่นไม่ได้ นอกเสียจากนาง ถูกภูตผีลามก ย่องเข้ามาขโมยฉกชิมความสาว กระทั่งได้อาบน้ำ ชำระร่างกาย หยวนหยวนก็สำรวจร่างกายตน นางยังอ่อนเยาว์ก็จริง ทว่าเมื่อเผลอไผลลูบไล้เนื้อสาว นางต้องสั่นผวา หน้าอกนี้งดงามเป็นทรงหยดน้ำ ยอดถันสีชมพูระเรื่อ ส่วนที่เป็นเนื้อสาวอวบอูม น่าหลงใหล เมื่อนางเลื่อนมือลงไปสัมผัส แล้วแตะติ่งเนื้อนิ่ม นางรับรู้ได้ถึงความต้องการมากล้น มันช่างขายหน้าโดยแท้ นางเป็นสตรีไร้ยางอาย! หยวนหยวนอย่างหยุดความต้องการ ทว่านางกลับส่งแรงมือของตนหนักขึ้น แล้วหลุดเสียงครางหวานระยับ พร้อมกับมีความปรารถนาเร้นลับจากความแข็งขันของบุรุษเพศ นางใช้สองนิ้วแทงเข้าออกที่กลีบเนื้องามของตน อีกมือนางเลื่อนมาสัมผัสลำคอระหง และรู้สึกเจ็บแปลบ ก่อนพบว่าบริเวณนั้นถูกดูดดุนอย่างแรงจนเกิดรอยช้ำ ราวกับปานปื้นใหญ่ ทว่าความปรารถนาของนางยังไม่หยุดเพียงแค่นั้น หยวนหยวนหลับตาพริ้ม แล้วพบว่าตนเห็นภาพร่างกายสูงใหญ่ของบุรุษที่สวมหน้ากากเอาสีดำที่ทำจากโลหะซึ่งปิดครึ่งหน้าด้านบนเอาไว้ และความอุ่นจัดจากคนตัวโตแทรกเข้ามา เขาจับเรียวขาสวยแยกกว้าง จากนั้นสองขานางก็พันเอวสอบไว้ “อ๊ะ... พี่เส้าเฟิง” นางร้องหาเขา ทว่าไร้คำพูดสื่อสาร ริมฝีปากร้อนลวกสร้างความเสียวสยิวสุดใจ เขาจูบแรงๆ ตามจุดชีพจร พอนางหายใจไม่ทัน ริมฝีปากหยักสวยก็เติมลมหายใจร้อนๆ สู่ร่างกายนาง ในหัวหยวนหยวนขาวโพลนไปหมด นางสับสนต่อสิ่งที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องจริงหรือว่านางกำลังเคลิ้มหลับ แต่เหตุใดที่ลำคอระหงถึงรู้สึกเสียวสยิว มันเป็นจุดเดียวกันที่มีรอยแดงปื้นใหญ่ ยิ่งกว่านั้นกลีบเนื้องามของหยวนหยวน มีน้ำเกาะพราวหยาดเยิ้ม น่าละอาย น่าละอายเหลือเกิน นางรู้สึกราวกับเป็นสตรีที่ปรารถนาให้บุรุษข่มเหงร่างกายอย่างป่าเถื่อน! “คุณหนู...มีเวลาแต่งตัวอีกเพียงครึ่งชั่วยามนะเจ้าคะ” เซียงอี่ร้องบอกนาง และหยวนหยวน รีบดึงสติตนกลับ กระนั้นนางก็ไม่วายส่งเสียงครางหวานวับ “อ๊ะ... !” กระทั่งลุกขึ้นจากอ่างไม้ หญิงสาวรับรู้ได้ถึงความปลอดโล่ง และน้ำที่เกาะพราวอยู่ในเนื้อสาว ความรู้สึกเช่นนี้ชวนให้น่าละอาย กระนั้นนางยอมรับว่า ตนพบความสุขจนใบหน้างามแดงซ่าน!!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม