เป็นเมียมันยาก(๒)

1256 คำ
สุภานั่งดูโทรทัศน์อยู่ในโถงกับคนงานที่ทำงานตามหน้าที่เสร็จแล้ว คนงานหญิงสองคนที่มีห้องพักอยู่ด้านหลังที่ติดกับครัวและพื้นที่ซักล้าง แม้จะมีเครื่องรับโทรทัศน์ให้รับชมในเวลาทำงานตรงโถงซักล้าง แต่สุภามักชวนมาดูเสียด้วยกันยามที่ตนยังไม่ขึ้นนอนเพื่อการประหยัดค่าไฟฟ้า เมื่อต่างเห็นว่าเพียงออเดินลงบันไดมาจึงรีบถามขึ้น “มาเอาอะไรคะ” “ไปต้มมาม่าค่ะ บ้านเรามีมาม่าใช่มั้ยป้าแดง”เพียงออถามแม่ครัววัยห้าสิบกว่าๆ ซึ่งเป็นหม้ายผัวตายลูกชายคนเดียวก็ทำงานในโรงงานของวีระวัทน์โดยพักที่เรือนพักคนงานที่อยู่ใกล้สำนักงาน ลูกชายป้าแดงกำลังจะแต่งงานกับลูกสาวคนงานอีกคนในไม่ช้าป้าแดงจึงไม่อยากไปอยู่ที่บ้านพักคนงานหลังนั้น กอปรกับสุภาเห็นใจที่ต้องเดินทางมาทำงานที่บ้านนี้ทุกเช้าเย็นจึงอนุญาตให้พักที่นี่เป็นเพื่อนสำลีคนงานวัยรุ่นที่เพิ่งเข้ามาช่วยงานไม่นาน “มีค่ะ คุณเพี้ยงหิวหรือคะ ป้าไปต้มให้ หรือจะให้ป้าทำกับข้าวง่ายๆ ให้คะ” ว่าแล้วทำท่าจะลุกจากที่นั่งหน้าจอทีวีเพียงออรีบยกมือห้าม “ไม่ต้องค่ะ เพี้ยงทำเอง คุณพีหิวเพี้ยงไม่ได้หิว” คำว่าคุณพีหิวทำให้ป้าแดงนั่งลงติดพื้นตามเดิมทันที ลองว่าพีรวัสสั่งบะหมี่ก็คือต้องได้กินบะหมี่และการที่สั่งให้เพียงออลงมาทำก็คือเลือกคนทำแล้ว คนอื่นไม่จำเป็นก็อย่ายื่นมือไปยุ่ง จะกลายเป็นการแกว่งเท้าหาเสี้ยนไปโดยปริยาย “นายพีจะกินหรือ ทีเมื่อกี้บอกไม่หิว ไปๆ ไปทำให้พี่เขาหน่อย โมโหหิวแล้วเราจะหูชา” สุภาว่าแล้วยิ้มเพราะรู้นิสัยหลานชายคนเล็กดี เพราะการเป็นลูกคนเล็กหลานคนเล็กทำให้พีรวัสถูกเอาใจจนเคยตัวจะเรียกว่าเสียคนก็คงไม่ถึงขนาดนั้น เพราะอย่างน้อยก็เรียนจบมหาวิทยาลัยทั้งในและต่างประเทศแล้วกลับมารับช่วงกิจการ รวมถึงยอมแต่งงานกับเพียงออตามความต้องการของนาง หากพีรวัสเอาแต่ใจจนเสียคนจริงคงไม่ฟังใคร ไม่ยอมแต่งงานเพราะนางรู้คร่าวๆ มาว่าตอนไปเรียนต่อต่างประเทศพีรวัสมีแฟนเป็นตัวเป็นตนมีแพลนจะแต่งงานกันเสียด้วยซ้ำ สุภาเองก็แปลกใจเมื่อพีรวัสตกลงตามข้อเสนอให้แต่งงานกับเพียงออและรอให้อายุครบสามสิบปีเมื่อไหร่ตนจะยกมรดกทั้งหมดให้ดูแล จะว่าพีรวัสเห็นแก่ทรัพย์สินก็ไม่น่าใช่เสียทีเดียว การแต่งงานกับคนที่ไม่รักนั้นเหมือนตกนรกทั้งเป็นสุภารู้ดี เพราะเคยตกนรกจากเรื่องความรักมาแล้ว ไม่ใช่การแต่งงานกับคนที่ไม่รักแต่เป็นความรักต่างชนชั้น นางมีใจกับประคองคนงานของพ่อแน่นอนว่าผู้ใหญ่ย่อมไม่เห็นด้วยและสั่งห้ามคบหาติดต่อกัน สุภาตัดสินใจไปอยู่ที่อื่นแทนไม่อย่างนั้นพ่อจะไล่ประคองออก การเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงของครอบครัวซึ่งมีพ่อแม่ที่แก่ชรากับน้องสาวที่มีอาการทางสมองทำให้ประคองตกงานไม่ได้ สุภาในสมัยนั้นจึงขอเป็นฝ่ายจากไปแลกกับให้ประคองได้ทำงานต่อ โดยไปอยู่ในตัวเมืองเปิดร้านขายข้าวสารและผลผลิตจากไร่จากสวนของครอบครัวซึ่งร้านนั้นก็ยังดำเนินกิจการต่อจนถึงปัจจุบัน หลังจากสุภามารับหน้าที่ดูแลกิจการทั้งหมดจึงให้พีรดาดูแลซึ่งพีรดาจะเข้าไปดูแลร้านในช่วงเย็นถึงค่ำเพื่อทำบัญชีแต่เมื่อมีโอกาสเป็นใหญ่มีสิทธิ์ในชีวิตตนเองแล้วปรากฏว่าประคองแต่งงานไปกับหญิงอื่นไปแล้วและน้องสาวที่เป็นภาระก็จากไปก่อนวัยอันควร สุภาจึงยังครองตัวเป็นโสดตลอดมา เพียงออเดินเข้ามาในครัวเพื่อต้มบะหมี่ให้พีรวัสตามคำสั่ง หล่อนต้มน้ำบนเตาแก๊สแล้วไปหยิบบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในตู้เก็บของและเครื่องปรุง ซึ่งจะมีของกินของใช้ในครัวใส่ไว้อย่างเป็นระเบียบ ง่ายต่อการตรวจสอบว่าอะไรขาดอะไรเหลือเท่าไหร่ และหน้าที่ซื้อของอุปโภคบริโภคเข้าบ้านเป็นหน้าที่ของพีรดาตามคำสั่งป้าสุภา “ใครจะกิน” พีรดาถามทันทีเมื่อเดินเข้ามา “คุณพีค่ะ” “นายพีหรือ ฉันต้มเอง” พีรดารีบเดินเข้ามาแย่งซองบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไปจากมือเพียงออทันที ก่อนเดินไปที่ตู้เย็นเพื่อหยิบบางอย่างแต่เพียงออรีบบอก “คุณพีจะกินแต่เส้นค่ะ” “กินแต่เส้นมันจะอิ่มจะได้ประโยชน์ตรงไหน” พีรดาหยิบไข่ไก่กับหมูบดออกมา “แต่คุณพีสั่งมาแบบนั้นนะคะ เดี๋ยวได้อาละวาด”เพียงออแย้งอีกครั้ง “ใครจะอาละวาดยายหมาเน่า” คนถูกเอ่ยถึงถามมาจากช่องประตู พีรดาหันไปยิ้มให้น้องชายแล้วพูดประจบทันที “นายพี พี่จะต้มมาม่าใส่หมูใส่ไข่ไม่ใส่ผักให้แบบที่เรากินตอนเด็กๆ นะ ไปนั่งรอก่อน” “ทำไมไม่ให้ยายเพี้ยงทำ” เขาถามมองหน้าเพียงออตาขุ่น เหมือนที่เรียกว่ามองหน้าหาเรื่องก็คงไม่ผิด จนหล่อนอยากตะโกนใส่หน้าว่า ‘ฉันไม่ได้เป็นคนสั่งให้พี่สาวคุณทำเสียหน่อย อย่าปรักปรำด้วยสายตาแบบนี้’ “เพี้ยงทำไม่ถูกปากพีหรอก เส้นเปล่าๆ มันจะอิ่มจะอร่อยตรงไหนเชียว นั่งรอพี่แป๊บเดียว เดี๋ยวได้กินแล้ว เพี้ยงเพิ่มน้ำลงไปในหม้ออีกนิดสิ เราใส่เนื้อลงไปต้องเผื่อน้ำแห้งด้วย บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปพวกนี้ถ้าน้ำแห้งละเค็มไตพังแน่ๆ” พีรดาสั่งเพียงออ แล้วตนเองจัดการปรุงรสหมูสับ เพียงอออดหันไปมองชายหนุ่มไม่ได้อยากรู้ว่าเขาจะทำหน้าอย่างไรหรือพูดอะไรบ้าง แต่เมื่อเขาเฉยๆ แล้วเดินไปนั่งรอที่โต๊ะอาหารหล่อนจึงช่วยพีรดาอยู่ในครัว “เอาชามใบใหญ่สีขาวที่มีจานรองเข้าชุดกันมาหน่อย เอาช้อนกับส้อมนะนายพีไม่ชอบใช้ตะเกียบ ยกน้ำเย็นใส่แก้วสูงไปก่อนแล้วกลับมายกชามบะหมี่ ถามมาด้วยว่าวันนี้จะกินไข่สุกหรือไม่สุก เร็วๆ เข้าสิ” บอกไม่จบก็เร่งกันแล้ว แต่ละคนเอาใจยากชะมัด เพียงอออดคิดไม่ได้ พลางเดินเอาแก้วน้ำไปวางใกล้พีรวัส “ไหนมาม่า หิว” เขาบอก “รอสักครู่ค่ะ คุณรดาให้มาถามว่าเอาไข่สุกหรือไม่สุกคะ”หล่อนถามแต่เขากลับสวนคำถามกลับมา “เธอชอบแข็งๆ มั้ย” “คุณกินเองชอบเอง ก็ตอบมาสิคะว่าชอบแบบไหน” “ก็ฉันถามไง ว่าชอบแข็งๆ มั้ย ตอนเห็นมันแข็งรู้สึกยังไง” คนทะลึ่ง! ถามออกมาได้ แน่นอนว่าหล่อนแค่คิดไม่กล้าพูดออกไป แถมเขายังจ้องตาแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ติดมุมปากอีก จะให้คิดอะไรถ้าไม่ได้เกี้ยวให้หล่อนเขิน ทีตอนมีโอกาสแต่ไม่ทำ แล้วจะมาถามทำไมในโต๊ะอาหารนะคุณพีเจ้าขา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม