กระทั่งผ่านไปครึ่งชั่วโมงอาหารที่นลินทำก็เสร็จ วันนี้เธอทำก๋วยจั๊บเพราะเห็นในรีวิวแล้วเกิดหิวขึ้นมา
“ถั่วงอกรู้ว่าตัวเองไม่กินจะใส่มาทำไม หมูน้อยผู้หิวโซ ตักมาใส่ชามฉันเลย เร็ว ๆ” คิมหันต์ว่า พร้อมทั้งส่ายหน้า
“ลืม หยิบเพลิน เอาไปเลย นายกินเยอะ ๆ นะ ลินทำเยอะเลย”
คิมหันต์ตักเข้าปากคำหนึ่งแล้วก็ยกนิ้วโป้งให้
“อร่อย เธอไปเปิดร้านอาหารน่าจะขายดีนะ ทำอะไรก็อร่อย”
นลินทำตาโต
“จริงเหรอ เราทำอาหารดิลิเวอรีดีไหม สร้างแอปสั่งอาหาร”
“เธอจะทำไหวเหรอ ทั้งเรียนทั้งทำอาหาร”
“หมายถึงตอนไปอยู่กรุงเทพฯ ตอนนี้อะไรก็ออนไลน์หมด ลินว่าต้องมีคนสั่งแน่”
คิมหันต์พยักหน้า
“ถ้าเธออยากลองฉันจะช่วยทำแอปให้ “
“จริงนะ!” เด็กสาวฉีกยิ้มกว้าง ทำให้คิมหันต์อดเอ็นดูไม่ได้
“ยิ้มหน้าบานเชียวนะ กำลังคิดเรื่องเงินอยู่ละสิแม่หมูจอมงก”
“อือ… เราต้องเก็บเงินเยอะ ๆ เผื่อนายมีแฟน ลินจะได้มีอาชีพทำ เพราะค่าครองชีพที่กรุงเทพฯ แพงกว่าขอนแก่นตั้งเยอะ”
“ถึงฉันจะมีแฟน ฉันก็จะดูแลเธอ อย่าห่วงเลย” เขาว่า พลางตักก๋วยจั๊บเข้าปากอีกคำ
“แฟนนายได้มาตบลินคว่ำแน่ ถ้านายยังจะมาดูแลลินอีก”
คิมหันต์ยิ้ม
“ฉันไม่เคยคิดจะมีแฟนหรอกยัยหมู แค่ดูแลเธอคนเดียวฉันก็เหนื่อยแล้ว”
“ลินจะรีบเรียนจบภายในสามปีให้ได้ จะได้หางานมั่นคงทำ ไม่ต้องเป็นภาระให้นายดูแลอีก” นลินให้คำมั่น ทว่าประโยคนั้นสะกิดใจคนฟังแปลก ๆ
“เราเป็นเพื่อนสนิทกันไม่ใช่เหรอ”
“ถึงยังไงเราก็อยู่ด้วยกันไปตลอดไม่ได้หรอก อีกหน่อยพอพวกเราเรียนจบก็ต้องแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเอง”
“ฉันบอกว่าจะดูแลไง ฉันเป็นคนรักษาคำพูด กินเสร็จแล้วไปแพ็กของเลยจะได้เช็กสต็อกด้วย” คิมหันต์บอก น้ำเสียงคล้ายจริงจังขึ้นมาเล็กน้อย
“ค่า คุณชาย”
“เด็กดี พูดง่ายแบบนี้ค่อยน่ารักหน่อย” มือหนาขยี้ผมเธอ
“ผมลินยุ่งหมดแล้วนะคิม เอามือสกปรกออกไปเลย”
“สกปรกอะไรเพิ่งล้างมา ว่าแต่ขออีกชามได้หรือเปล่า ขอเนื้อเยอะ ๆ นะหมูน้อย”
“ได้สิ เดี๋ยวจะใส่ให้เต็มชามเลย แล้วคืนนี้นายไม่ออกไปไหนเหรอ ปกติคืนวันเสาร์เห็นไปตลอด” นลินถาม
“พักบ้างเหอะ ช่วยเธอประหยัดไม่ดีหรือไง”
“ดีสิ เพราะนายออกไปทีไรใช้เงินเกินพันทุกที กว่าจะหามาได้ต้องนั่งแพ็กของจนหลังแข็ง”
“บ่นอย่างกับเมีย” เด็กหนุ่มพึมพำ
“เมียบ้าอะไรพูดให้มันดี ๆ นะ ลินจะไม่ยอมตกเป็นของคิมแน่นอน”
“อย่าพูดอะไรที่ยังไม่เกิดเลย บางทีเธออาจจะตกหลุมรักฉันไปแล้วก็ได้ใครจะไปรู้”
“นายมีดีให้รักที่ไหนกัน” เด็กสาวขมวดคิ้ว
“ลูกชายคนเดียว หล่อมาก รวยมหาศาล ใช้เงินทั้งชาติก็ไม่หมด คุณสมบัติแค่นี้ก็พอแล้วมั้ง!”
“ยอม คนหลงตัวเอง ถ้านายหล่อได้ครึ่งพี่ดงฮุก ค่อยมาพูดเถอะ”
“อย่าพูดชื่อผู้ชายคนอื่นให้ฉันได้ยิน”
“บ้าหรือไง ลินปลื้มมาตั้งหลายปี คนอะไรก็ไม่รู้ล้อหล่อ ยิ้มแต่ละทีใจละลาย นี่นายรู้หรือเปล่าว่าพี่เขาจะได้เล่นหนังค่ายดังด้วยนะ”
พลันความคิดของคิมหันต์ก็บังเกิด
“ถ้าฉันเป็นดาราเธอจะปลื้มแบบนี้หรือเปล่า”
“นายจะไปเป็นดาราได้ยังไง นายไม่ชอบกล้องถ่ายรูป เกลียดคนเซ้าซี้และออกคำสั่ง ไม่ชอบเวลาที่ที่มีคนมาก ๆ มาสนใจ แถมยังปากไม่ดีเอาใจใครไม่เป็นอีก” นลินโบกมือไปมา “เพราะฉะนั้นนายคงไม่เหมาะกับอาชีพดาราหรอก”
“แต่เป็นดาราหาเงินได้เยอะนะ ยิ่งถ้าได้เป็นพรีเซ็นเตอร์ด้วย สินค้าบางตัวจ่ายเป็นยี่สิบล้านเลยนะ เธอจะได้มีเงินเยอะ ๆ ไม่ชอบหรือไง” คิมหันต์ถาม
“แต่นายจะไม่มีความสุขถ้ามีคนรุกล้ำความเป็นส่วนตัว อย่าฝืนในสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบเลย ขายของออนไลน์ไปอยู่กรุงเทพฯ เถอะ ลินจะรับเป็นตัวแทนขายเสื้อผ้าด้วย แล้วก็สร้างเพจขึ้นมาเพิ่ม ถึงจะได้เงินน้อยกว่าแต่นายไม่ต้องฝืนทำสิ่งที่ไม่ชอบ แถมถ้านายไปเป็นดาราเราคงอยู่ด้วยกันแบบนี้ไม่ได้ เพราะนายต้องรักษาชื่อเสียง เป็นดาราชายต้องระวังเรื่องผู้หญิง” นลินร่ายยาว คนฟังยกยิ้มให้เธออย่างกวน ๆ
“อ๋อ ที่แท้ก็กลัวจะไม่ได้อยู่กับฉันนี่เอง!”
“บ้าหรือไง ไม่ใช่เหตุผลเดียวเสียหน่อย ลินแค่กลัวคิมไปต่อยกับพวกปาปารัสซีน่ะสิ เดี๋ยวก็ได้ขึ้นโรงขึ้นศาลกันอีก” เธอเกาแก้มแก้เขินรีบพูดแก้ตัวออกมา
“ลินจะหวงคิมก็ไม่ผิดหรอก คิมยอมลินแค่คนเดียว”
“เพ้อเจ้อไปใหญ่แล้ว กินเสร็จแล้วล้างถ้วยเองเลย ปากดีนัก ลินจะไปล้างห้องน้ำ” พูดจบก็เดินจากไป คิมหันต์มองตามหลังเธอไปพร้อมกับยิ้มอยู่คนเดียว ใครจะไปคิดว่าเขาจะสามารถอยู่ร่วมห้องกับคนอื่นได้นานขนาดนี้ นลินคือสิ่งเดียวที่เป็นของเขาจริง ๆ