นลินรู้สึกดีขึ้น อย่างน้อยตอนนี้เธอก็มีเพื่อน ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไรบ้างเพราะยังไม่ได้เจอหน้าป้ากับลูกสาวของลุงอเนกเลย พวกเขาอาจจะไม่ชอบเธอก็เป็นไปได้ เพราะเธอจะต้องมาทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
วันนี้ผ่านไปอีกหนึ่งวัน นลินเดินกลับบ้านเนื่องจากอยู่ไม่ไกลนัก สามารถมองเห็นร้านดอกไม้ของลุงอเนกได้ในระยะของสายตา เด็กสาวเดินคิดอะไรเรื่อยเปื่อยจนกระทั่งมาถึงร้านลุง
“คุณลุงสวัสดีค่ะ” นลินยกมือไหว้ผู้เป็นลุงหลังกลับมาจากโรงเรียน
“เลิกเรียนแล้วเหรอลูก ลุงกะว่าจะเอามอเตอร์ไซค์ไปรับอยู่พอดี”
“หนูเดินไปเองได้ค่ะ ไม่ไกล ลุงไม่ต้องลำบากไปส่งหนูนะคะ เดี๋ยวหนูตื่นแต่เช้าเดินไป” นลินบอกด้วยความเกรงใจ เดินแค่นี้สำหรับเธอไม่ได้ลำบากอะไรอยู่แล้ว
“เอาอย่างนั้นเหรอลูก” อเนกถาม เด็กสาวพยักหน้า “ถ้าอย่างนั้นตามมา ลุงจะพาไปหาป้า”
นลินเดินตามหลังลุงอเนกมาจนพบกับหญิงวัยกลางคนคนหนึ่ง จากนั้นลุงจึงแนะนำเธอให้หล่อนรู้จัก
“นี่ป้าจอมนะลูก จอมนี่ลูกของน้องสาวผมที่เล่าให้ฟัง”
ป้าจอมมองนลินตั้งแต่หัวจรดเท้า จากนั้นพูดว่า
“มาอยู่นี่เลิกเรียนแล้วต้องมาช่วยงานในร้านด้วยเข้าใจไหม และก็ช่วยงานบ้านด้วย กวาดบ้าน ทำกับข้าวเป็นหรือเปล่า แล้วก็ช่วยซักเสื้อผ้าให้ยัยแจนด้วยละ”
“ค่ะป้า หนูไปเปลี่ยนชุดก่อนนะคะ เดี๋ยวหนูมาช่วยค่ะ” นลินตกลงอย่างว่าง่าย อย่างไรเสียเธอก็ไม่ได้คิดว่าจะมาอยู่เฉย ๆ อยู่แล้ว
“ดี เพราะครอบครัวเราก็ไม่ใช่คนรวย มาอยู่ด้วยกันก็ต้องช่วยงาน ขับรถมอเตอร์ไซค์เป็นไหมละ เพราะบางทีต้องเอาดอกไม้ไปส่งบ้านลูกค้าด้วย ถ้าไม่เป็นจะให้ลุงสอนให้” ป้าจอมพูด
“ไม่เป็นค่ะ” นลินตอบก่อนจะเดินเข้าไปเปลี่ยนชุดแล้วออกมาช่วยป้าทำดอกไม้ ป้าจอมสอนการจัดดอกไม้แบบต่าง ๆ พร้อมทั้งการร้อยมาลัยให้เธอ
ร้านของลุงอเนกนั้นอยู่ในทำเลที่ดี มีลูกค้าแวะเวียนเข้ามาตลอด โดยทางร้านจะปิดตอนหกโมงเย็นทุกวัน
หลังจากปิดร้านนลินก็รีบไปทำความสะอาดบ้านและทำอาหารเย็นง่าย ๆ หลังจากทำเสร็จจึงไปเรียกลุงกับป้ามาทาน เธอยังไม่เห็นหน้าลูกสาวของป้าเลยสักครั้ง รู้แต่ว่าหล่อนเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว ตอนนี้อยู่ปีสอง
หลังจากล้างจานทำความสะอาดครัวเสร็จ นลินก็รีบไปอาบน้ำเพื่อมาทำการบ้าน กว่าจะเสร็จก็ปาเข้าไปเกือบสี่ ทุ่มครึ่งแล้วถึงได้นอน
เช้าวันต่อมาเธอรีบอาบน้ำแต่งตัวไปโรงเรียน โดยไม่ลืมที่จะทำข้าวต้มง่าย ๆ ไว้ให้ลุงกับป้าด้วย เด็กสาวเดินถือกระเป๋านักเรียนไปตามทาง หลังจากเคารพธงชาติเสร็จ นักเรียนก็พากันแยกย้ายเข้าห้องเรียนของตัวเอง นลินเดินคุยกับม่านมุกเข้ามาในห้องเรียน ก่อนจะนั่งที่โต๊ะของตัวเอง ซึ่งม่านมุกนั่งโต๊ะถัดไปจากเธอสามที่
นลินนั่งอ่านวิชาที่ครูกำลังจะสอนโดยไม่สนใจคนอื่น ทว่าเสียงกรี๊ดกร๊าดของเพื่อนผู้หญิงทำให้เธอต้องเงยหน้าขึ้นจากหนังสือมองไปเห็นนักเรียนชายสามคนกำลังเดินตรงมาทางเธอ เธอรีบก้มหน้าดูหนังสือที่เปิดไว้ต่อทันที สงสัยว่าพวกเขาคงจะเป็นกลุ่มคนที่ม่านมุกเคยบอกไว้แน่
คิมหันต์และเพื่อนสนิทเดินไปนั่งยังโต๊ะหลังห้องซึ่งก็คือโต๊ะตัวติดกับนลินนั่นเอง เขามองไปที่โต๊ะหน้าตัวเองที่ปกติแล้วคุณครูจะเว้นไว้ไม่ให้ใครมานั่งใกล้เขา ยิ่งเป็นเด็กผู้หญิงเขายิ่งรำคาญ แต่แล้วทำไมวันนี้ถึงมีเด็กผู้หญิงมานั่งได้ เธอคงเป็นเด็กใหม่สินะ ไม่รู้ว่าย้ายมากลางเทอมแบบนี้เป็นเพราะมีปัญหาอะไรกับโรงเรียนเดิมหรือเปล่า
คิมหันต์มองเด็กใหม่อย่างสนใจ พออาจารย์ที่สอนคาบแรกเดินเข้ามาก็ทำให้นักเรียนหยุดคุยกัน เสียงจอแจเมื่อสักครู่พลันเงียบหายไป จากนั้นอาจารย์ก็เริ่มถามคำถามเพื่อให้นักเรียนยกมือขึ้นตอบ แต่ก็ไม่มีใครตอบได้ นลินเลยเป็นคนยกมือขึ้นตอบคำถามนั้น ผลปรากฏว่าเป็นคำตอบที่ถูกต้อง ทำให้เพื่อนนักเรียนคนอื่นได้แต่มองมาทางเธอ โดยที่เธอไม่ได้สนใจสายตาเหล่านั้นเพราะมัวแต่ก้มหน้าก้มตาทำงานที่อาจารย์สั่งอยู่
กระทั่งอาจารย์เดินออกไปจากห้องหลังจากหมดคาบ เขาสั่งให้ทำโครงงานเป็นกลุ่ม กลุ่มละห้าคน เนื่องจากจำนวนเด็กในห้องมีสี่สิบคนซึ่งลงตัวพอดี
ทันใดนั้นนิ่มนวลก็เดินมาหาคิมหันต์ เธอบอกกับเขาว่า
“คิมอยู่กลุ่มนิ่มนะ นิ่มจะไม่ให้คิมทำอะไรเลย”
“ทำไม” คิมหันต์เลิกคิ้ว
“คิมก็รู้ว่าทำไม” นิ่มนวลย้อน
“แต่ฉันบอกเธอไปรอบที่ล้านแปดแล้วว่าฉันไม่ได้คิดอะไรกับเธอ”
“แต่คิมยังไม่มีแฟนนี่ ยังไงนิ่มก็ไม่ยอมแพ้หรอก เราเหมาะสมกันจะตาย ครอบครัวเราก็รู้จักกันดี”
คิมหันต์อ้าปากหาวหวอด พลางโบกมือไล่อย่างไม่แยแส
“กลับไปนั่งที่เธอได้แล้ว อย่ามาเซ้าซี้ รำคาญ!”
“หยาบคาย เมื่อไหร่คิมจะพูดกับนิ่มดี ๆ บ้าง” เด็กสาวกัดฟันแน่น หากแต่เขายังคงยียวน
“ไม่มีวันนั้นแน่นอน” พูดจบคิมหันต์ก็ก้มหน้าเล่นเกมในโทรศัพท์ต่ออย่างไม่สนใจท่าทางตะบึงตะบอนที่นิ่มนวลทำประชดเขา
“เฮ้ย ไอ้คิม น้องใหม่ที่นั่งอยู่หน้ามึงอะ น่าสนใจดีนะ” ทัพไท เพื่อนในกลุ่มเอ่ยขึ้นพลางชี้นลิน
“หยุดเลยไอ้ทัพ เรื่องรายงานเราจะอยู่กลุ่มกับใครดีวะ” คิมหันต์รีบเปลี่ยนเรื่องทันควัน เขาไม่ได้คิดจะสนใจใครทั้งนั้นในตอนนี้
“ก็เด็กใหม่ไง ท่าทางจะเรียนเก่ง ขนาดอาจารย์ถามคำถามยากเธอยังตอบได้เลย”
จังหวะนั้นม่านมุกรีบเดินมาหานลินทันที
“ลิน เราอยู่กลุ่มโครงงานด้วยกันนะ เดี๋ยวเราไปหาข้อมูลที่ห้องสมุด”
นลินพยักหน้า
“จ้ะ แล้วอีกสามคนเราจะเอาใครมาอยู่กลุ่มด้วยดี” ม่านมุกเงียบ ก่อนที่นลินจะพูดต่อ “ถ้าอย่างนั้นเราทำกันสองคนไปก่อนแล้วกัน แล้วค่อยหาคนมาอยู่เพิ่ม”
ม่านมุกพยักหน้า
“คาบต่อไปฉันไม่อยากเรียน อาจารย์สอนโคตรน่าเบื่อ”
“ทนเอาอีกคาบก็ได้พักไปทานข้าวแล้วละ”