คิดถึง
ดวงตากลมโตกระพริบถี่ เมื่อยามที่ ลีลา หิรัญรัตน์ ลูกสาวเพียงคนเดียวของตระกูล หิรัญรัตน์ มองสบตากับ คุณโสมสุภางค์ หิรัญรัตน์ ผู้ที่เป็นมารดา หลังจากที่เมื่อครู่ เธอปรายตาไปยังจอไอแพดขนาดใหญ่ ที่มีใบหน้าของชายหนุ่ม ซึ่งเป็น ลูกชายของเพื่อน สุดที่รักของมารดาเธอ
"คุณแม่ขาาาา.. นี่มันปีสองพันห้าร้อยหกสิบสามแล้วนะคะ คลุมถุงชนไม่ได้หรอกค่ะ ลีไม่ยอม ลีไม่อยากแต่งงาน"
"ลีลา ปีนี้หนูอายุยี่สิบหกแล้วนะ แฟนสักคนก็ไม่มี หนูจะอยู่เป็นโสดแบบนี้เรื่อยๆไม่ได้ แม่อยากอุ้มหลาน แม่กำลังจะแก่มาก ถ้าแก่กว่านี้ แม่ไม่มีทางอุ้มหลานไหว แล้วผู้ชายที่อยู่ในจอไอแพดของแม่ ก็คือผู้ชายที่แม่บอกกับหนูตั้งแต่ตอนที่หนูจะไปเรียนอังกฤษแล้วว่า พี่เขาคือ คู่หมั้น สองครอบครัวเราและเขา คุยกันไว้อย่างเป็นมั่นเป็นเหมาะ หนูจะมาพูดกลับไปกลับมาไม่ได้ แล้วข้อตกลงระหว่างเรา คือถ้าหนูมีแฟน แม่จะคุยกับฝั่งนั้นให้ แล้วยังไง ผ่านไปสามปี หนูไม่มีใคร หนูก็ควรแต่งงานกับคู่หมายที่แม่เลือกให้"
"คุณแม่ขาาา.. แต่เรื่องแบบนี้ ลีควรเลือกเองค่ะ หมั้นกันแล้วยังไงคะ คือวันหนึ่ง ลีมาค้นพบว่า ลูกชายของเพื่อนคุณแม่ ไม่ใช่คนที่ใช่สำหรับลี ลีก็ควรมีสิทธิ์ได้เลือกสิคะ คุณแม่จะให้ลีไปมีลูกกับคนที่ลีไม่ได้รักแบบนี้ไม่ได้หรอกค่ะ ถ้าคุณแม่ยังจะบังคับลีอยู่แบบนี้ ลีจะกลับอังกฤษด้วยค่ะ"
"นี่เราขู่แม่หรอ เราจะมาขู่แม่แบบนี้ไม่ได้ ไม่รู้แหละ แม่คุยกับ คุณน้าพิมพ์พร เอาไว้แล้ว ถ้าเราอยากให้แม่เสียผู้ใหญ่ ให้คนที่อายุน้อยกว่ามาถอนหงอกเพราะแม่ผิดคำพูดนะ ก็แล้วแต่หนูเลย อ้อ.. แล้วอีกอย่างนะ พี่ภัทร ก็มารอหนูที่ด้านล่าง มารับไปทานข้าวเรียบร้อยแล้ว"
"ไม่ไปหรอกค่ะ ลีปวดหัว ลีพึ่งลงเครื่องมา ลีอยากพักผ่อนค่ะ"
ว่าไป ก่อนที่ร่างเล็กผิวขาวจะเอนกายลงบนเตียงกว้างที่อยู่ภายในห้องนอนของเธอ แต่ทว่า มารดากับดึงแขนของเธอให้ลุกจากเตียงอยู่ดี
"อย่างอแงแบบนี้นะลีลา แม่จะโกรธแล้วนะ ที่ผ่านมา แม่ให้เวลาลีแล้ว ให้ลีมีโอกาสได้เลือกแฟนด้วยตัวเองแล้ว แต่ลีไม่ยอมมีใคร งั้นลีก็ควรเลือกคนที่แม่เลือกให้ นั่นก็คือ พี่ภัทร ภัทรพงศ์ คู่หมั้นของหนู ที่แม่เป็นคนเลือกให้เอง"
.
.
.
ลีลาเดินลงมาจากชั้นสองของบ้านพร้อมกับมารดา ด้วยสีหน้าบูดบึ้ง แน่นอน ภัทรพงศ์ไม่ใช่สเปคของเธอ รู้อยู่ ว่าเป็นคู่หมั่น แต่เป็นคู่หมั้นที่เพียงแต่ทาบทามกันไว้เท่านั้น เธอไม่เคยคิดอยู่แล้ว ว่าจะอะไรกับเรื่องนี้ และเธอก็ประมาทเกินไป คิดว่า ถ้าเธอไม่เต็มใจที่จะแต่งงาน ก็คงจะไม่มีใครสามารถบังคับเธอได้ แต่ทว่า เธอกลับคิดผิดไป เพราะทันทีที่เธอเดินทางมาถึงเมืองไทย มารดาของเธอก็พูดเรื่องนี้ขึ้นมาอย่างจริงจัง
"ตาภัทร รอนานไหมลูก"
มารดาของเธอร้องถามเสียงหวาน ในขณะที่เธอไม่มองหน้าผู้ชายคนนั้นด้วยซ้ำ
"ไม่นานหรอกครับคุณป้า พอรู้ว่าน้องลีกลับมา ผมตื่นเต้นมากเลยนะครับ"
เธอหันกลับไปมองผู้ชายคนนั้น เมื่อได้ยินแบบนั้น ใบหน้าของเขา ก็ไม่ได้ผิดแผกไปจากภาพในไอแพดของมารดาหรอก แต่ถ้าถามว่า เขาเปลี่ยนจากเดิมที ที่เคยเห็นก่อนเธอไปอังกฤษไหม อันนั้นคงตอบไม่ได้ เพราะเธอไม่เคยเก็บเอาเรื่องนี้มาใส่ใจ
"ยัยลี.."
เสียงมารดาที่อยู่ข้างๆ ทำให้เธอหันมองมารดาของตัวเองอีกครั้ง เห็นท่านถลึงตาใส่ และเธอก็เข้าใจเลยทันที ว่าท่านกำลังจะสื่อสิ่งใด
เธอยกมือไหว้ผู้ชายคนนั้น แน่นอนเขามีอายุมากกว่า และเลือกที่จะไม่เอ่ยอะไรออกมาเลยสักคำ
"น้องลีเป็นไงบ้างครับ อยู่ที่โน่นสบายดีไหม"
"สบายดีค่ะ"
เธอปั้นยิ้มกลับไป และเลือกที่จะไม่มองหน้าอย่างเดิม
"พี่ขออนุญาตคุณป้าแล้ว ว่าวันนี้ เราจะไปทานข้าวกัน"
"ขอโทษนะคะ คือลีพึ่งเดินทางมาถึง ลีเหนื่อย ลีอยากพัก"
แน่นอนว่า ผู้ชายคนนั้นหันไปมองที่มารดาของเธอทันที
"งั้นเหรอครับ"
"เอาแบบนั้นก็ได้นะตาภัทร ถ้าวันนี้น้องอยากพัก เอาเป็นว่า ป้าจะนัดคุยกับแม่ของเราทีเดียวเลยก็แล้วกัน"
ทันทีที่ได้ยินแบบนั้น ลีลาก็หันไปหามารดาของเธอทันที จริงๆมารดาของเธอใจดี ใจดีมากๆ แต่พอถึงบทที่ท่านจะจริงจัง ท่านก็จริงจังมาก มากๆเช่นกัน
.
.
.
"คุณพ่อขาาา.."
ประตูกระจกห้องทำงาน ของ นายเลิศศักดิ์ หิรัญรัตน์ ถูกเปิดกว้าง ก่อนจะปรากฎร่างสมส่วนของหญิงสาวที่อยู่ในชุดเสื้อแขนตุ๊กตา ที่เดินหน้าบูดบึ้งเข้ามาหา
"ยัยลี พ่อคุยเรื่องงานอยู่นะลูก ออกไปก่อน ไว้มีอะไรค่อยคุยกัน"
"ไม่ได้หรอกค่ะ เราต้องคุยกัน คุณพ่อต้องช่วยลีนะคะ ลีไม่แต่งงานกับไอ้หน้าตี๋นั่น"
เสียงหวานๆที่ถูกเปล่งออกมาอย่างร้อนใจ ทำให้คนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ตรงข้ามกับเจ้าของบ้าน ปรายตาไปมองใบหน้าของเจ้าของเสียงอย่างอดไม่ได้
"พ่อมีแขก ไว้ค่อยคุยกัน"
แล้วทันทีที่คุณเลิศศักดิ์เอ่ยคำนั้น ดวงตาของหญิงสาวคู่นั้น ก็ตวัดมามองที่เขาทันที เฉกเช่นเขา ที่ดึงสายตาออกมาจากใบหน้าของเธอไม่ทัน
'คุณลี..'
บูรพา รู้ในทันที ว่าหญิงสาวเจ้าของใบหน้าหวานสะดุดตาคนนี้คือใคร ความงดงามของเธอไม่ได้ต่างไปจากตอนนั้น อาจจะสวยกว่าเดิมมากด้วยซ้ำ
"คุ้นๆค่ะ"
เธอเอียงหน้าพินิจมอง หลังจากที่เอ่ยคำนั้นออกมา ก่อนที่เขาจะเมินหน้าหนี เพื่อมองผู้มีพระคุณที่อยู่ตรงหน้าแทน
"คุณพ่อคะ คนนี้.."
ลีลาหันไปหาบิดา พร้อมกับตั้งคำถามออกมา ในขณะที่บิดา เพียงแค่คลี่ยิ้มจางๆ
"บูมไงลูก บูรพา.."
"บูรพา.."
"...อ้อ นึกว่าใคร ที่แท้ก็ เพื่อนเก่า ของลีนี่เอง"
คำว่า 'เพื่อนเก่า' ไม่ได้ทำให้เจ้าของใบหน้าคมคาย มองกลับมาที่เธอแต่อย่างใด บูรพา คนนี้ ยังเหมือนเดิมกับเมื่อสามปีก่อนหน้านั้น อาจจะดูดีกว่าเดิมมาก โตเป็นผู้ใหญ่กว่าเดิมมาก แต่เขาก็ยังเป็นเขา ใบหน้าหล่อเหลา สามารถเรียกสายตาจากใครต่อใครได้ แม้ใครที่ว่าจะรวมถึงเธอ แม้ที่ผ่านมาจะบอกตัวเองเสมอว่าเธอไม่เคยนึกถึง แต่เอาเข้าจริง เธอก็ไม่เคยลืมเขาเลย
"ว่าไง.. สามปีที่ผ่านมา ผ่านผู้หญิงมาแล้วกี่คน"
คำพูดตรงๆ เรียกดวงตาคมมาหยุดมองที่ใบหน้าของเธอทันที แต่ทว่า จากนั้นเขากลับเมินหน้าหนี และใช้วิธีโดยการหักหน้ากัน
"ไว้ถ้าคุณเลิศอยากให้ผมช่วยตรงจุดไหน ค่อยโทรตามผมอีกทีก็ได้นะครับ ตอนนี้คุณเลิศอาจจะกำลังมีธุระ ไว้ผมจะมาใหม่ก็แล้วกัน"
เอาเข้าจริง ชายหนุ่มเจ้าของเสียง ไม่เคยเสียมารยาทกับชายวัยกลางคนตรงหน้าเลยสักครั้ง แต่ทว่า ครั้งนี้เขาจำเป็นต้องทำ
บูรพายกมือไหว้ผู้ใหญ่ที่เขาเคารพมากๆ ก่อนจะหยัดกายลุกจากเก้าอี้ที่นั่ง พร้อมกับการหมุนกายออกจากห้องทำงานของเลิศศักดิ์ทันที
"เหอะ.. นายคนนี้นี่มัน"
"ลี ไม่เอาน่าลูก พี่เขาอายุมากกว่านะ แล้วตอนนี้ เขาก็ไม่ใช่คนของพ่ออีกต่อไป บูรพามีหน้าที่ มีการงานที่ดี ไม่ใช่บูรพาคนเดิมเมื่อสามปีก่อน"
"อ๋อ.. รวยแล้วหยิ่งว่างั้น"
"ยัยลี อย่าพูดแบบนั้นสิลูก บูมเป็นคนดี ทีีผ่านมา เขาก็ตอบแทนบุญคุณที่พ่อเคยช่วยเหลือครอบครัวเขาเสมอ บูมไม่ได้เย่อหยิ่งแบบที่ลูกเข้าใจ เขารู้คุณคน นี่คือสิ่งที่เขาทำกับพ่อมาเสมอ"
เหอะ เขาก็ดีแค่กับพ่อเธอนั่นแหละ แค่กับพ่อของเธอเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับเธอเลยสักนิด
"คุณพ่อคะ เรื่องหมั้น เรื่องแต่งงาน ลีอยากยกเลิกค่ะ"
เธอรีบเข้าประเด็นที่คาใจ ไม่รู้ล่ะ วินาทีนี้ เรื่องนี้สำคัญกับเธอมากๆ มารดาของเธอกำลังเอาจริง และเธอจำเป็นต้องหาตัวช่วย เพราะลำพังเธอแค่คนเดียว ต่อต้านคุณแม่ไม่ไหวแน่ๆ เธอบอกแล้ว ว่าท่านเป็นคนใจดี แต่บทจะจริงจัง ท่านก็จริงจังสุดๆไปเลย
"ภัทรพงศ์อย่างนั้นเหรอ ภัทรไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร ไปมาหาสู่บ้านเราประจำ"
"คุณพ่อคะ นั่นไม่ใช่เรื่องที่ลีอยากรู้นะคะ ที่ลีมาหาคุณพ่อตอนนี้ เพราะลีไม่อยากแต่งงาน คุณแม่ไม่มีทางยอมหยุด ลีหยุดคุณแม่ไม่ได้ คุณพ่อต้องช่วยลีหยุดท่านนะ"
"เรื่องนั้นพ่อยุ่งไม่ได้ หนูคุยกับแม่แล้ว พ่อกับแม่แก่แล้ว อยากเห็นลูกเป็นฝั่งเป็นฝา"
"แต่มันต้องไม่ใช่แบบนี้ค่ะ ลีไม่อยากถูกบังคับให้แต่งงาน"
"ก็ลีเองไม่ใช่เหรอที่ตกลงทุกอย่างกับแม่ของเราเอาไว้ ก็ในเมื่อสามปีที่ผ่านมา ลีไม่มีใคร ลีก็ควรเลือกคนที่แม่หาให้ เพราะลีได้ตกลงกับคุณแม่เอาไว้แล้ว"
"คุณพ่อคะ แต่นั่นมันเป็นเพียงแค่การตกลงแค่ลมปากนะคะ ลีแค่พูดไปอย่างนั้นเอง ลีพูดเพราะไม่อยากให้ผู้ชายคนนั้นมาวุ่นวายกับลีในตอนนั้น ลีไม่คิดว่าขนาดสามปีผ่านไป เขาจะยังคอยไม่ยอมมีใครได้ ลีแค่คิดว่าวันหนึ่งทุกอย่างอาจจะยกเลิกได้ง่ายๆ ลีก็เลยรับปากไปแค่อย่างนั้นเอง"
"แต่เราก็รู้ว่าแม่ของเราน่ะ จริงจังเรื่องคำพูดแค่ไหน เราจะพูดกลับมากลับไป แบบนั้นไม่ได้"
"ลีจะร้องไห้แล้วนะ ไม่แต่งไม่ได้เหรอคะ คุณพ่อช่วยให้ลีหลุดพ้นจากเรื่องนี้ไม่ได้เหรอคะ"
เลิศศักดิ์สบตากับบุตรสาว ที่ตั้งท่าจะร้องไห้อย่างเหนื่อยใจ ลีลาจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในทุกๆวัน สิ่งที่ท่านและภรรยาห่วงที่สุด คือการที่ลูกได้คู่ครองที่แย่มากๆ ท่านและภรรยาอายุก็เริ่มมากขึ้นทุกวัน เรื่องนี้เป็นเรื่องเดียวที่ท่านและภรรยาห่วงใยจริงๆ กลัวเหลือเกิน กลัวว่าลูกจะถูกหลอก กลัวว่าลูกจะเจอคนที่ไม่จริงใจ
"ถ้าไม่แต่ง หนูก็แค่ต้องมีแฟน แต่ในเมื่อหนูไม่มีแฟน หนูก็ต้องแต่ง เรื่องนี้พ่อยุ่งไม่ได้"
แน่นอนว่า สำหรับภัทรพงศ์ในสายตาของท่าน ชายหนุ่มคนนั้น เป็นคนที่มีนิสัยใช้ได้ เขาเกิดมาในครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ มีความรักมีความอบอุ่นครบถ้วน ผู้ชายคนนั้นเป็นเพียงคนเดียว ที่ภรรยาของท่านเห็นว่าดีและคู่ควรกับลูกสาวของท่านมากที่สุด เพราะนอกเหนือจากชายหนุ่มผู้นี้จะเข้าตา แต่บิดามารดาของภัทรพงศ์เองก็เป็นเพื่อนรักกับภรรยาของเขาเช่นกัน และในเมื่อรู้นิสัยใจคอกันขนาดนั้นก็ไม่แปลกเลย ที่บุตรชายของเพื่อนรักอย่างภัทรพงศ์ จะถูกคัดเลือกให้เป็นว่าที่ลูกเขย เพียงหนึ่งเดียว
"ต้องมีแฟน ถึงจะยกเลิกทุกอย่างได้ใช่ไหมคะ?"
"ยัยลี อย่าคิดที่จะทำอะไรบ้าๆนะลูก พ่อรู้ดีว่าลีเองไม่มีใคร ถ้าเกิดว่ามีแฟนขึ้นมากระทันหันมันเป็นไปไม่ได้ อย่าคิดที่จะใช้ใครมาตบตาพ่อแม่เพื่อไม่ให้ตัวเองได้แต่งงาน"
"นายบูรพาแต่งงานไปรึยังคะ?"
"ยัยลี!"
เลิศศักดิ์เอ่ยเรียกเตือนสติบุตรสาวตัวเองอย่างตกใจ
"ก็นายคนนั้นคือคนที่ลีเคยคบ คุณพ่อก็บอกเอง ว่านายคนนั้นเป็นคนดีมากๆ ถ้าจะต้องให้เลือก ระหว่างนายบูรพา กับนายภัทรพงศ์ ลีเลือกนายบูรพาค่ะ ลีจะเอาผู้ชายคนนั้น ลีจะไม่แต่งงานกับคนอื่น นอกจากนายบูรพาคนเดียวเท่านั้น"
"ยัยลี.."
เลิศศักดิ์ไม่สามารถรั้งบุตรสาวเอาไว้ได้ เมื่อทันทีที่สิ้นสุดประโยคนั้น ลีลาก็หมุนกายออกไปทันที
ขาเรียวที่ก้าวออกมาเบื้องหน้า หยุดค้างกลางอากาศ เมื่อดวงตาสวยปะทะแผ่นหลังของคนบางคน ซึ่งคนคนนั้น ยืนคุยโทรศัพท์อยู่ใกล้ๆรถหรูที่อยู่ไม่ไกล ในเมื่อวิธีที่จะทำให้เธอหลุดพ้นจากการแต่งงาน คือชีวิตของเธอต้องมีใครสักคนคนคนนั้นก็จะต้องเป็นคนที่เธอเลือกเอง
มือบางรั้งประตูรถหรูเอาไว้ เมืื่อคนที่ก้าวขาเข้าไปนั่งในรถ กำลังจะปิดประตูลงไป ตาคมเฉียบคู่นั้นตวัดมองที่เธอทันที แต่ทว่า เขากลับเพียงแต่มองเธอนิ่งๆ โดยไม่พูดอะไรออกมาสักคำ
"สามปีที่ไม่ได้เจอกัน นายเป็นไงบ้าง สบายดีใช่ไหม"
ตาคมทอประกายความรู้สึกบางอย่าง บ่งบอกชัดเจน ว่าเขาไม่ค่อยจะเข้าใจในคำถาม
"ครับ"
เขาตอบรับออกมาสั้นๆ แน่นอน ว่าใบหน้างดงามบูดบึ้งในทันทีเช่นกัน
"ไม่คิดจะถามอะไรเกี่ยวกับฉันหน่อยเหรอ ไหนๆก็คนเคยรักกัน"
"ผมมีธุระต้องไปต่อ ถ้าคุณไม่มีธุระอะไร ผมขอตัว"
"คิดถึง.."
คำพูดสั้นๆ แต่ทว่า หยุดผู้ชายอีกคนได้ในทันทีเช่นกัน
"คุณมีคู่หมั้นอยู่แล้ว และคุณกับเขา ก็เหมาะสมกัน"
"ไม่จริง ฉันไม่ได้เหมาะสมกับผู้ชายคนนั้น เราต่างหาก ที่่เหมาะสมกัน!"