แกร๊ก ~~
ทันทีที่ใบชาเดินออกมาจากห้องทำงานของประธานหนุ่ม พลันให้สองเท้าหยุดชะงัก เมื่อเลขาสาวยืนเท้าสะเอวจ้องจิกตาเขม็ง พลางใช้นัยน์ตากลมโตลายหยดน้ำไล่มองเรือนร่างของเธอตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า ราวกับกำลังดูถูกเหยียดหยามทางสายตาอยู่ก็ไม่ปาน
“คุณมองดิฉันขนาดนี้มีอะไรจะพูดหรือเปล่าคะ? “ใบชาตัดสินใจเป็นฝ่ายเอ่ยถามก่อน โดยไม่แสดงสีหน้าใด ๆ ออกมาเพราะทราบดีว่าหญิงสาวตรงหน้าก็คงไม่ชอบเธอเอามาก ๆ
“เธอกล้าดียังไงใส่เสื้อบอสฉัน! “แพรวถามอย่างฉุนเฉียวด้วยความอิจฉา ครั้นสังเกตเห็นรอยที่คอและเสื้อสูทผู้เป็นนายสวมใส่อยู่บนตัวหญิงสาว ผู้มีใบหน้าน่ารักตากลมโตผิวขาวเรียบเนียน โดยไม่จำเป็นต้องตกแต่งมากมายเธอก็สวยใสแบบธรรมชาติ ซึ่งต่างจากตัวเองที่กว่าจะประดิดประดอยรูปลักษณ์จนดูดีเช่นนี้ ต้องหมดเงินหลายล้านบาท
“ก็เจ้านายคุณเอาให้เองนิคะ ฉันไม่ได้ขอเขาสักหน่อย”
“แกไม่ต้องมาตอแหล! แกยั่วบอสฉันก่อนใช่ไหม “แพรวกำหมัดแน่นด้วยความไม่พอใจ แววตาทั้งคู่เบิกกว้างเต็มไปด้วยไฟโทสะ เธอมีอะไรกับเขาอยู่บ่อยครั้ง ทำไมถึงไม่ได้เสื้อคลุมอย่างเธอคนนี้บ้าง หนำช้ำผู้เป็นนายยังไม่เคยสร้างรอยความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของบนลำคอเธอเองเลยสักครั้งเดียว
“แล้วแต่คุณจะคิดเถอะค่ะ ฉันขอตัว”
พรึบ !
“แก! “ในจังหวะที่ใบชากำลังก้าวเท้าผ่าน เธอดันถูกมือของเลขาสาวกระชากแขนให้หันกลับมาอย่างแรง พร้อมกับง้างฝ่ามือขึ้นหวังจะตบทว่า…
“ทำอะไร! “เสียงเปี่ยมอำนาจน่าเกรงขามดังขึ้นถามซะก่อน
“เปล่าค่ะบอส แพรวแค่ทำความรู้จักกับเธอเท่านั้นเองค่ะ “แพรวรีบลดมือลงทันที ก่อนจะแสร้งแสดงสีหน้ายิ้มแย้มอย่างนอบน้อม เมื่อบังเอิญสบเขากับนัยน์ตาสีฟ้าคมกริบดุดัน และต่อมาผู้เป็นนายกลับละสายตาจากเธอ จ้องมองไปยังใบหน้าของหญิงสาวอีกคนแทน
“งั้นชาขอตัวค่ะ “ใบชาปรายตามองประธานหนุ่มเพียงแวบ ก่อนจะเอ่ยลาและก้าวเท้าเดินทันที โดยไม่รอฟังคำตอบ ซึ่งแพททริคยังคงมองตามแผ่นหลังของคนตัวเล็กไป
“ฝากไว้ก่อนเถอะอีใบชา! “แพรวแค่นเสียงกล่าวด้วยแรงแค้น หลังจากผู้เป็นนายเดินผ่านไปโดยไม่ถามไถ่เธอแม้แต่คำเดียว
หลายชั่วโมงต่อมา ~~
บรื้นนนนนน บรื้นนนนนน
เสียงเร่งเครื่องยนต์ของรถสปอร์ตหรูทั้งสามคันภายในสนาม ที่กำลังแข่งกันอย่างเอาเป็นเอาตาย โดยไม่มีใครยอมใครแต่จะเห็นว่าคันสีดำแซงทิ้งห่าง ก่อนจะเข้าเส้นชัยในวินาทีต่อมา
“ฝีมือไม่ตกนะมึง “แพททริคเอ่ยชมเทวินที่เพิ่งเดินเข้ามาถึง หากแข่งกันเมื่อไหร่ไม่ไอ้เพื่อนคนนี้ชนะก็ไอ้พรีน
“นั่นดิกูสองคนจะไม่แข่งกับมึงละไอ้วิน ไอ้พรีนก็อีกคนแม่งจะเก่งไปไหนวะ “กรพูดขึ้นตามหลังแพททริค ส่วนคนโดนชมเพียงยักไหล่น้อมรับเท่านั้น ก่อนจะสาวเท้าเดินไปทันที ซึ่งแพท ทริคและกรก็เดินตามเทวินไปยังห้องรับรอง ซึ่งเป็นประจำของแก๊งมาเฟีย
“เมื่อไหร่จะครบแก๊งจริง ๆ สักทีวะ ไอ้พรีนก็ไปเกาหลีกับเมีย ไอ้ธันก็ไปอยู่กับเมียที่เมกา “กรบ่นพลางยกแก้วไวน์ขึ้นดื่มหลังจากหย่อนสะโพกนั่งโซฟาตัวยาวพร้อมกับขวดไวน์
“ก็คนมีเมียก็อยู่กับเมียดิวะไอ้สัส มึงจะบ่นทำไม ทำตัวเป็นคนขี้เหงาไปได้ “แพททริคว่าอย่างทีเล่นทีจริง
“กูไม่ได้เหงาแค่อยากให้อยู่ครบเหมือนเมื่อก่อน”
“มึงเป็นผู้หญิงไง? ทำตัวอ่อนไหวไปได้ “เทวินพูดจากระแนะกระแหนแต่แฝงด้วยน้ำเสียงติดตลก ทว่าใบหน้าอันหล่อเหลายังคงเรียบเฉยคล้ายคนไร้อารมณ์
“มึงไม่ต้องมากระแนะกระแหนกู”
“พอ ๆ น่ารำคาญจริง “แพททริคโพล่งขึ้นตัดบทสนทนาอันน่ารำคาญ ก่อนจะกระดกไวน์เข้าปากรวดเดียวหมด
“เออ! “กรกระแทกเสียงตอบอย่างหมั่นไส้ “ไอ้วินเด็กใหม่มึงลาออกแล้วยังวะ? ที่โดนไอ้เหี้ยแพทเนี่ย!เล่นงานจนเข้าโรงพยาบาล”
“เดี๋ยวเถอะมึงไอ้กร จะถามถึงยัยนั่นทำไมวะ? “แพท ทริคชี้หน้าอย่างคาดโทษ คิ้วหนาทั้งสองข้างพลางขมวดเข้าหากันเป็นปมบ่งบอกว่ากำลังหงุดหงิด
“ก็กูแค่อยากรู้ ไม่ได้? แล้วกูก็ไม่ได้ถามมึงอย่าร้อนตัวไอ้สัส! “กรเลิกคิ้วว่าด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน ทำเอาแพททริคถึงกลับขบกรามดัง กรอด ๆ อย่างมีโทสะ “สวยใสกว่าผู้หญิงในผับทุกคนซะขนาดนั้น รับรองผับมึงเสี่ยกระเป๋าหนัก ๆ เต็มผับชัว” กรจึงหันกลับมาพูดกับเทวินอีกครั้ง
“ไม่รู้..ยังมั้ง ถ้าออกคนก็มาแจ้งแต่นี่ไม่ก็แสดงว่ายังไม่ออก ส่วนเด็กนั้นก็คงสวยจริงอย่างที่มึงว่า เมื่อวานมีทั้งไอ้แก่ไอ้หนุ่มนักธุรกิจดัง ๆ ระดับประเทศ ถามหาเด็กใหม่จากกูจนกูรำคาญ”
“เหรอวะ? ทำแค่วันเดียวดังขนาดนี้เชียว ไม่ทันได้ทำงานด้วยซ้ำ โดนไอ้แพทลากไปกินซะก่อน ”
“อีเจ๊ใหญ่ดิ ทำสื่อโปรโมทไปทั่วร้าน”
“เจ๊ของมึงเนี่ย ฉลาดรับเด็กว่ะคนนี้สวยจริง”
“ไม่ใช่เจ๊ของกูอย่าพูดกำกวมดิ”
“เออ ๆ เจ๊ร้านมึงนั่นแหละ…แต่น้องใบชากูยังจำชื่อได้ ไม่ลืม ถ้าไอ้แพทไม่คาบไปแดกก่อนนะ กูคงได้ลิ้มลองหน้าอก ตูม ๆ แล้วก็….”
กรึก !
แพททริคกระแทกแก้วไวน์ลงกับโต๊ะอย่างแรง จนประโยคของกรหยุดชะงัก เมื่อได้ฟังบทสนทนาของสองเพื่อนแล้วรู้สึกหงุดหงิด คำพูดเหล่านั้นมีอานุภาพสั่นคลอนใจได้จริง ๆ จนไม่สามารถหยุดห้ามความคิดว้าวุ่นในหัวได้สักวินาที
“มึงจะกระแทกแก้วไรแรงหนักหนาวะ? กูยังพูดไม่จบเลยเนี่ย! “กรขมวดคิ้วถามอย่างเคลือบแคลงสงสัย
“เสือก! “แพททริคตะคอกเสียงห้าวใบหน้าอันหล่อเหลาสไตล์หนุ่มอังกฤษแลดูเกรี้ยวกราดชัดเจน ก่อนจะเทไวน์ใส่แก้วยกขึ้นดื่มอยู่หลายครั้ง
“ถ้ามึงจะยกดื่มยกดื่มมึงไม่ต้องเทใส่แก้วให้เสียเวลา ยกขวดเทใส่ปากเลยง่ายกว่า”
“เรื่องของกู!”
“ไม่พอใจที่พวกกูพูดถึงเด็กนั่น?”
ประโยคคำถามของเทวินทำเอาแพททริคหยุดชะงักมือที่กำลังจะยกแก้วไวน์ทันควัน พร้อมกับตวัดสายตาดุดันจ้องเขม็งราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ ขณะความประหม่าฉายเข้ามาในความรู้สึกให้ครุ่นคิดอย่างหนัก เขาเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันทำไมถึงต้องมีอารมณ์เช่นนี้ยามที่พูดถึงเรื่องเธอ หนำช้ำสมองยังสั่งการให้จินตนาการตามบทสนทนาก่อนหน้านี้ จนแทบอยากทำลายเธอให้กลายเป็นผุยผง ไม่ต้องการปล่อยให้หลุดรอดถึงมือชายอื่น
“กูไม่ได้ไม่พอใจ..แค่อยากดื่มผิดตรงไหน “มาเฟียหนุ่มเงียบอยู่นานกว่าจะตอบออกมา มือหนากระดกไวน์เข้าปากตามทันทีด้วยท่าทางเงียบขรึม เมื่อควบคุมความรู้สึกพวกนั้นได้สำเร็จ แต่มีหรือสองเพื่อนจะเชื่อ มองดูอารมณ์ปาดเดียวก็รู้ว่าเพื่อนกำลังรู้สึกอย่างไร
“ก็ไม่ผิด มึงไม่ได้รู้สึกอย่างที่ปากว่ากูก็ไม่ได้อะไร แต่ถ้ามึงโกหกก็จงรู้ไว้เลยว่ามึงกำลังจะพ่ายแพ้ให้ผู้หญิงคนนั้น”
“กูจะไม่ยอมพ่ายแพ้ให้ผู้หญิงคนไหน ยิ่งเป็นผู้หญิงขายตัวแลกเงินเสแสร้งเก่งกูยิ่งไม่! “แพททริคเค้นเสียงหนักแน่นเอ่ยด้วยสีหน้าเคร่งเครียดเฉียบขาด เพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกลึก ๆ ในใจตนเอง แต่เขาไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังปากหนักไม่ยอมรับความจริง
“แล้วแต่มึงจะคิดแต่ถ้าเกิดเรื่องอะไรอย่ามาโวยวายให้พวกกูรำคาญก็แล้วกัน”
เมื่อได้ฟังจึงพ่นลมหายใจออกมาหนัก ๆ ก่อนจะเบือนหน้าหนีไปทางอื่นอย่างไม่สบอารมณ์
วันต่อมา ~~
บริษัท Produce
“ชา! ชารอด้วย “ระหว่างก้าวขาเข้าลิฟต์ตัวใหญ่เสียงขานเรียกของเพื่อนสาวดังมาแต่ไกลจึงต้องเอี่ยวตัวกลับไป
“สวัสดีนุช”
“เช่นกัน..โอ๊ยเหนื่อย! “เธอทำท่าหอบเหนื่อยเนื่องจากรีบสปีดตัววิ่งมาตั้งแต่โรงจอดรถ
“รีบอะไรขนาดนั้นล่ะนุช?”
“พอดีมีคุยงานกับลูกค้าตอนเก้าโมง นี่ก็แปดโมงครึ่งแล้ว แต่ดันลืมเอกสารสำคัญอะดิกลัวไปไม่ทัน “ใบชาจึงพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ
“แล้ววันนี้ทำไมแกแต่งตัวมิดชิดขนาดเนี่ย เอาซะเสื้อคอเต่ายาวเลย ไม่เคยเห็นใส่สักครั้ง “
ใช่..เธอไม่เคยใส่ แต่เพียงใส่ไว้เพื่อใช้ปกปิดรอยดูดอันน่าเกลียดของคนสาระเลวที่ทำไว้เมื่อวานต่างหาก แม้ว่าจะมีรองพื้นปิดทับแล้วก็ตาม แต่ก็ยังไม่มั่นใจอยู่ดี
“เพิ่งซื้อใหม่น่ะ เลยอยากลองใส่ “
“อือ ๆ ฉันต้องรีบไปละชา “นุชรีบวิ่งไปที่โต๊ะทำงานของตัวเองทันที ก่อนจะวิ่งสวนอาร์ตออกไป
“นุชรีบไปไหนน่ะชา?”
“มีคุยงานค่ะ “อาร์ตพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ ขณะเดินตรงไปยังโต๊ะทำงานของตนเอง
“ชาวันนี้ตอนบ่าย ชามีคุยงานลูกค้าแทนพี่นะ “วีหัวหน้าฝ่ายเดินเข้ามาพร้อมกับแจ้งข่าวให้ใบชาทราบ ในมือทั้งสองข้างเต็มไปด้วยแฟ้มเอกสาร
“ค่ะพี่วี”
“จ๊ะขอบคุณมากนะพี่ฝากหน่อย”
“รับทราบค่ะ “หลังจากนั้นพวกเธอจึงก้มหน้าก้มตาทำงานของตนเองอย่างขะมักเขม้นรอเวลาทำธุระอื่นต่อไป
เวลาต่อมา ~~~
ปึก !
เมื่อเดินออกมาจากห้องน้ำหญิงข้างกับลิฟต์ตัวใหญ่ ไม่ทันระวังเพราะมัวแต่ก้มปัดเช็ดแป้งฝุ่นที่ตกเลอะเทอะบริเวณตัวเสื้อ จึงชนเข้ากับใครสักคนอย่างจัง พลันให้ใบหน้างามซุกซบอยู่กับแผงอกกำยำทันที